บทที่ 407 สวรรค์ไม่ยุติธรรม!

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กับผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตกินโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าแล้วก็นั่งขัดสมาธิลง

พลังในกายพวกเขาหมุนวน ทรงพลังขึ้นเรื่อยๆ ผิวกายมีประกายเซียนกระเพื่อม กลายเป็นสายรุ้งเทพพุ่งเข้าสู่ขอบฟ้า

ทันใดนั้น ท้องนภาเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน

เมฆดำปกคลุมลงมาเหมือนคลื่นยักษ์ กดดันลงมาจะทำลายล้าง พลังน่าอึดอัดอย่างยิ่ง

นี่คือเคราะห์สวรรค์ที่กำเนิดขึ้นตอนที่ผู้อริยะทะลวงระดับพลังเล็ก น่าสะพรึงอย่างยิ่ง สังหารสิ่งมีชีวิตต่ำกว่าผู้อริยะได้อย่างง่ายดาย

แน่นอน ยกเว้นตัวประหลาดอย่างเสิ่นเทียน

ผลของโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าปรับแก้ดวงชะตาทำให้เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ที่ฝ่าด่านเคราะห์เป็นผู้อริยะแล้วเกิดการผลัดเปลี่ยนครั้งใหญ่ ทำให้ศักยภาพเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก

คุณสมบัติกายของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กำลังผลัดเปลี่ยน เปล่งแสงสว่างทั่วร่าง

อัสนีเทพกำเนิดฟ้าที่น่าสะพรึงถึงที่สุดพุ่งออกมาไม่ขาดสาย วนเวียนไม่หยุด เหมือนกับจักรพรรดิอัสนีมาเยือน

พรึ่บ!

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เหยียบอากาศพังทลาย พุ่งตรงไปยังขอบฟ้า

เมฆสายฟ้ามากมายรวมเข้ามา ปกคลุมเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ไว้ทั้งหมด กลิ่นอายพลังน่ากลัวลุกลามฟ้าดิน จะทำลายล้างทุกสิ่งมีชีวิตใต้ฟ้า!

ห้วงอากาศพังทลายลงภายใต้แรงกดดันของเมฆสายฟ้า เผยเป็นกระแสมิติปั่นป่วนน่าสะพรึง

ประกายสายฟ้าหนาทึบและกฎเกณฑ์สายฟ้าไม่มีสิ้นสุดบ้าคลั่ง จะทำลายคนที่ฝ่าด่านเคราะห์แหลกเป็นเสี่ยงๆ!

ดีที่เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ฝ่าด่านเคราะห์ในกระแสมิติปั่นป่วน จึงส่งผลกับโลกภายนอกไม่มาก ไม่เช่นนั้นด้วยอานุภาพสายฟ้านี้ ก็มากพอจะทำลายเขตทะเลในระยะโดยรอบพันลี้ได้

เมฆเคราะห์ภัยหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ แผ่กลิ่นอายพลังเขย่าขวัญจิตใจคนออกมา

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ไม่เกรงกลัวเลย สายฟ้าประกายเซียนรับตัวพุ่งออกมาถึงขีดสุด

เขาถือกระบี่เซียนอัสนี อีกมือถือคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ทองคำ ข้างหลังยังมีสัตว์อัสนีสิบทิศปกปัก ประกายสายฟ้ากลายเป็นคมดาบ บดบังฟ้าบังดวงตะวัน

อานุภาพสายฟ้าแผ่กระจาย แสงสว่างจ้าละลานตา ทำให้คนใจสั่นสะท้านเหมือนเผชิญหน้ากับอานุภาพสวรรค์

โอสถสวรรค์ทุกคนแหงนหน้ามองฟ้า มองร่างเงายิ่งใหญ่นั้นกลางนภา จิตใจเกิดคลื่นซัดสาด

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาแข็งแกร่งถึงเพียงนี้เชียว

…..

บึ้ม!

เสียงฟ้าผ่าดังสนั่นหู!

ประกายสายฟ้าระเบิดกลางเมฆเคราะห์ภัยดำมืดดั่งน้ำหมึก

ประกายสายฟ้าสว่างจ้าพลันระเบิดออก ยิงเคราะห์อัสนีหนาหลายพันจั้งผ่าลงมายังปฐพี ทำลายล้างทุกสรรพสัตว์!

เคราะห์อัสนีเหมือนกับมังกรอัสนี อาบประกายสายฟ้าสว่างจ้า คำรามน่ากลัว แยกเขี้ยวกางกรงเล็บ ปากสีโลหิตงับลงมา

เคราะห์อัสนีผ่านไปที่ใด ห้วงอากาศจะมอดดับลงโดยพลัน กระแสมิติปั่นป่วนไม่มีสิ้นสุดกระเพื่อมไม่แน่นอน ไม่อาจบดบังอำนาจเทพเจ้านี้ได้

ด้วยอานุภาพของเคราะห์อัสนีนี้ ผู้อริยะปกติต้านไม่ได้เลย กายเนื้อจะแหลกสลาย ต้องกล้ำกลืนความแค้นอยู่ใต้เคราะห์สวรรค์

แต่คนที่ฝ่าด่านเคราะห์คือเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ สองอัจฉริยะเทพสวรรค์ในอดีต ตอนนี้ไม่เป็นรองใครในห้าดินแดน

ต่อให้อยู่ในผู้อริยะ เขาก็ยังคงอยู่สูงสุด

ประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กระเพื่อมอย่างรุนแรง สัตว์อัสนีสิบทิศข้างหลังคำรามท้องนภา ประกายสายฟ้าไม่มีสิ้นสุดพุ่งขึ้นฟ้า

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์กวัดแกว่งกระบี่เซียนอัสนีในมือเบาๆ ประกายสายฟ้าไม่มีสิ้นสุดรวมเข้ามา ร่างขึ้นเป็นปราณกระบี่สายฟ้ามหึมายิ่งสายหนึ่ง ลากผ่านท้องนภา

กระบี่นี้ เหมือนจะแบ่งเมฆเคราะห์ภัยเป็นสองส่วน

บึ้ม!

ปราณกระบี่อัสนีกับเคราะห์อัสนีปะทะกันอย่างรุนแรง อานุภาพสั่นสะเทือนฟ้าดิน ทำให้กระแสมิติปั่นป่วนสั่นไหวไม่หยุด

แสงฟ้าผ่าไม่มีสิ้นสุดพุ่งออกไปเรื่อยๆ พลันระเบิดกระจายออก ประกายสายฟ้าแตกกระเซ็น

ถึงอย่างไรก็เป็นเคราะห์สวรรค์ผู้อริยะ มีอานุภาพไม่มีขีดจำกัด ผู้อริยะปกติต้านไม่ได้

ต่อให้ถูกปราณกระบี่อัสนีลบล้างพลังส่วนใหญ่ไป ทำให้มังกรยักษ์เคราะห์อัสนีเล็กเหลือหลายจั้ง แต่ก็ยังไม่แตกกระจาย ยังคงพุ่งใส่เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์

พริบตานั้น เกิดแสงสว่างหมื่นจั้งเหมือนดวงตะวันใหญ่ส่องแสงฟ้าดิน

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ถูกเคราะห์อัสนีไม่มีสิ้นสุดปกคลุม ประกายเซียนบนผิวกายกระเพื่อมถึงขีดสุด

ประกายฟ้าผ่าสองสายวนเวียนตัดสลับกันไปเรื่อยๆ และหลอมรวมเข้าด้วยกันลับๆ จากนั้นเคราะห์อัสนีมากมายถูกเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์หลอมรวม เปลี่ยนเป็นพลังงานบริสุทธิ์เข้าไปในกายทั้งหมด ทำให้พลังเขาพุ่งพรวดขึ้น

เห็นได้ชัดมากว่าเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ฝ่าเคราะห์สวรรค์นี้สำเร็จ ทั้งยังดูดซับพลังเคราะห์สวรรค์มาส่วนหนึ่ง

นี่มีประโยชน์กับการบำเพ็ญของเขาอย่างมาก

เล่าลือว่าผู้อริยะหนึ่งด่านเคราะห์เท่ากับหนึ่งชั้นฟ้า ไม่ใช่เรื่องโกหกเลย

เคราะห์สวรรค์ผู้อริยะไม่ใช่แค่การทดสอบศักยภาพของผู้อริยะ แต่ยังเพิ่มพลังบำเพ็ญให้มหาศาล ขอแค่ฝ่าเคราะห์สวรรค์สำเร็จ ก็จะได้ชะล้างด้วยเคราะห์อัสนี เกิดการผลัดเปลี่ยน

ไม่ว่าจะเป็นระดับความแกร่งของกายเนื้อหรือพลังฤทธิ์ผู้อริยะ ก็จะแกร่งขึ้นและบริสุทธิ์ขึ้น เกิดการเปลี่ยนแปลงในด้านคุณภาพจริงๆ!

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็เช่นกัน หลังฝ่าเคราะห์สวรรค์เสร็จ ประกายเซียนบนผิวกายเขาเปล่งแสงสว่างยิ่งกว่าเดิม ประกายเซียนแนบกาย เหมือนเซียนนอกฟ้าตกลงมายังโลกมนุษย์

แต่ทุกอย่างยังไม่สิ้นสุด!

เมฆสายฟ้ายังคงรวมกันกลางนภา เสียงฟ้าร้องดังสนั่น สายฟ้าขยับวูบวาบ สั่งสมเป็นพลังที่น่ากลัวยิ่งกว่าเดิม แสงเคราะห์ภัยที่สว่างถึงที่สุดกำลังตกตะกอน มีโอกาสจะระเบิดออกมาได้ทุกเมื่อ

พลังอานุภาพนั้นน่ากลัวกว่าก่อนหน้านี้ เปี่ยมล้นยากจะป้องกันได้!

หนึ่งเคราะห์หนึ่งชั้นฟ้า เคราะห์อัสนีที่กำเนิดขึ้นก็เป็นเช่นนี้ มีอานุภาพรุนแรงขึ้นในทุกๆ เคราะห์ภัย!

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ไม่สนใจ แต่เอาตัวเข้ารับก่อน พุ่งทะยานขึ้นฟ้าไป

เขาระเบิดประกายสายฟ้าไม่มีสิ้นสุดออกมารอบตัว ปรากฏการณ์สัตว์อัสนีสิบทิศสั่นสะเทือนฟ้าดิน สายฟ้าประกายเซียนไม่ขาดสายพุ่งมาแรง ปกคลุมเขาไว้ทั้งหมด เหมือนกับเปลี่ยนร่างเป็นเคราะห์อัสนี กุมการลงทัณฑ์อัสนีฟ้าดิน!

นี่ก็คือบทต้องห้ามของแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์…เปลี่ยนร่างแปลงทัณฑ์สวรรค์!

ด้วยมือเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ วิชาต้องห้ามนี้สำแดงอานุภาพออกมาน่ากลัวถึงที่สุด!

สายฟ้ามากมายผันผวนไม่แน่นอน เหมือนอยากจะกำราบร่างเงาสายฟ้ายิ่งใหญ่นั้น

แม้แต่เคราะห์สายฟ้ากลางนภายังได้รับผลกระทบ สั่นไหวอย่างรุนแรง อานุภาพกระจายออกไปรอบๆ

บึ้ม!

เคราะห์สายฟ้าระเบิดกระจายถาโถมออกไป รับการโจมตีประสานของสายฟ้าแปดทิศ

สายฟ้าสองสีวนเวียนกัน อานุภาพเทพกระจายออก ลบล้างพลังไปเรื่อยๆ

แต่เคราะห์อัสนีก็ยังเป็นสัญลักษณ์ของมหามรรคฟ้าดิน มีพลังแข็งแกร่งถึงที่สุด สายฟ้าธรรมดาไม่อาจต้านได้เลย ชั่วครู่เดียวประกายสายฟ้าแตกกระจาย เคราะห์สายฟ้าพุ่งออกไป

เคราะห์สายฟ้าถูกสายฟ้าเหลือคนานับแยกออก สลายพลังงานส่วนใหญ่ไป ต่อให้ถึงตัวเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ก็ไม่กลับมาเป็นดังเดิม

ชั่วครู่เดียว พลังงานเคราะห์อัสนีถูกเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ดูดซับไปทั้งหมด ศักยภาพเพิ่มขึ้นอย่างมากอีกครั้ง!

เมฆเคราะห์ภัยผันผวนไม่แน่นอนกลางนภา หมุนวนอยู่บนฟ้าสูงนานก็ยังไม่สลายไป เหมือนมีความไม่ยอม แต่ก็จนปัญญา

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ลอยลงมาอยู่ตรงหน้าทุกคน

ทุกคนพากันเข้ามาแสดงความยินดี “ยินดีด้วยที่อาจารย์/เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์พลังบำเพ็ญพัฒนาขึ้น!”

เสิ่นเทียนมองเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ที่เพิ่มศักยภาพขึ้นอย่างมากพลางอดถอนหายใจอยู่ข้างในมิได้

อาจารย์ซ่อนพลังไว้ลึกมากจริงๆ!

แม้แต่ฝ่าเคราะห์สวรรค์ยังสบายเหมือนกับทานอาหารปกติ

มีอาจารย์เป็นที่พึ่งพิงเช่นนี้ ได้ความรู้สึกปลอดมาเต็มๆ เลย!

คนอื่นดีใจเช่นกัน ยิ่งเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์แกร่งมากเท่าไรยิ่งเป็นเรื่องดีกับแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มากเท่านั้น

ถึงอย่างไรในห้าอัจฉริยะเทพสวรรค์ยุคนี้ สองคนเป็นบุตรชายและบุตรสาวของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์ อีกสามคนเป็นศิษย์สายตรง

เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์แข็งแกร่ง ทุกคนย่อมมีความสุข!

ประกายเซียนบนผิวกายเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์เปล่งแสงสว่าง ก่อนจะพูดนิ่งๆ “ดีที่ได้โอสถเสริมสวรรค์ของเทียนเอ๋อร์”

หากไม่มีโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าช่วย ทำให้คุณสมบัติกายของเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ผลัดเปลี่ยน พลังบำเพ็ญเพิ่มขึ้นอย่างมาก ก็คงฝ่าด่านเคราะห์ไม่ได้สบายขนาดนี้

เพราะอย่างไรก็เป็นเคราะห์สวรรค์ผู้อริยะ และยังลงมาต่อเนื่องกันสองครั้ง มากพอจะสังหารผู้อริยะส่วนใหญ่ได้เลย

แต่เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์อาศัยพลังของโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้า ก้าวข้ามตนเองผลัดเปลี่ยน ฝึกฝนอย่างต่อเนื่องแล้วถึงมั่นคงยิ่งกว่าเดิม

หากฝึกฝนต่อไปเช่นนี้ ถึงขั้นที่เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์มีโอกาสทะยานไปเส้นทางจักรพรรดิได้!

โอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้า สมกับปรับแก้ดวงชะตาได้จริงๆ!

ฮิๆๆๆ~

ประกายเซียนที่กระเพื่อมอย่างรุนแรงบนผิวกายมากพอจะพิสูจน์ถึงความไม่สงบนิ่งในใจเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์

…..

“อ๊าก ข้าก็จะทะลวงพลังแล้วเหมือนกัน!”

ทันใดนั้น ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตร้องเสียงดัง

เขากลายเป็นแสงสีทองสายหนึ่งพุ่งขึ้นฟ้า!

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตหลอมรวมฤทธิ์โอสถเสริมสวรรค์เช่นกัน พลังบำเพ็ญเพิ่มขึ้นอย่างมาก แม้แต่แสงทองบนผิวกายยังสว่างยิ่งกว่าเดิม กลิ่นอายพลังหนาแน่นอย่างยิ่ง

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตในตอนนี้ถึงคอขวดแล้วเช่นกัน จะฝ่าเคราะห์สวรรค์!

เวลานี้ ทุกคนเบนความสนใจมารวมกัน

แม้แต่เจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ยังเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย จ้องผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกต!

เขาก็อยากรู้ว่าหลังศิษย์พี่ของตนกินโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าแล้ว จะไปได้ถึงระดับใดกัน!

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตเปล่งแสงสีทองทั้งตัว สว่างจ้าเหมือนดวงตะวันใหญ่

กระบองใหญ่ทองคำพุ่งขึ้นท้องนภา ค้ำยันฟ้า สะท้อนร่างเขาให้ดูองอาจห้าวหาญยิ่ง

เหมือนกำลังพูดว่า ‘ข้ากำลังจะพลิกฟ้า!’

ภายในกายผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกต ฤทธิ์ยาของโอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าหลอมรวมไปเรื่อยๆ ทำให้ระดับความแกร่งของกลิ่นอายพลังเขาพุ่งพรวดขึ้น

เมื่อรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงของคุณสมบัติกายและพลังบำเพ็ญเพิ่มขึ้น นี่ทำให้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตมั่นใจในตัวเองขึ้นมา ถึงกับเงยหน้าคำรามเสียงดัง

“สวรรค์ไม่กำเนิดข้าฉู่หรงเหอ วิถีกระบองยาวนานดั่งยามราตรี!

วันนี้ ข้าจะใช้กระบี่พิสูจน์มรรค สั่นสะเทือนเคราะห์อริยะ!”

พลังองอาจพุ่งขึ้นฟ้า สร้างความหวาดหวั่นแก่สวรรค์เก้าชั้น

ศิษย์พี่ใหญ่เทพสวรรค์ที่เคยเผยประกายคมเร่าร้อนในอดีต!

กลับมาแล้ว!

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตรู้สึกฮึกเหิมในใจอย่างยิ่ง ยืดหลังตรง เชิดหน้ายืดอกใส่ท้องนภา!

กินโอสถระดับจักรพรรดิแล้ว ข้าคิดว่าตัวเองพร้อมแล้ว!

เคราะห์อริยะเล็กจ้อยจะขวางข้าได้รึ

แสงสีทองยิงออกมาจากกระบองเทพทองคำ กลายเป็นสายรุ้งยาวสีทองพุ่งขึ้นขอบฟ้า จะสลายเมฆลม

ทันใดนั้น เมฆเคราะห์ภัยกลางนภารวมเข้ามา กดลงมาและปรากฏเคราะห์อัสนีขึ้นอีกครั้ง!

ยังไม่ใช่แค่นั้น!

เหมือนถูกการโจมตีของผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตรบกวน เมฆเคราะห์ภัยที่ยังไม่สลายไปหลังเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ฝ่าด่านเคราะห์นั้นยังถูกเหนี่ยวนำเข้ามาด้วย

เวลานี้ เมฆเคราะห์ภัยหมื่นจั้ง

รวมพลังแห่งเคราะห์อัสนีทั้งสองแล้ว มีอานุภาพน่ากลัวยิ่งกว่าตอนเจ้าแดนศักดิ์สิทธิ์เทพสวรรค์ฝ่าด่านเคราะห์เสียอีก!

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตตัวแข็งทื่อ เบิกตาโตมาก “บัดซบ ไม่ใช่แล้วกระมัง!”

ใครจะไปคาดคิดว่าเคราะห์สวรรค์ทั้งสองจะมารวมกันได้ นี่ทำให้เคราะห์อริยะของผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตมีอานุภาพเพิ่มเป็นเท่าตัว!

“ต่อให้เป็นเคราะห์สวรรค์สองขั้นแล้วอย่างไร ข้าจะใช้กระบองกวาดล้างฟ้าดิน กระแทกเคราะห์สวรรค์ให้แตก ใครขวางข้าตาย!”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตกลืนน้ำลาย ก่อนจะทำหนังหน้าหนายิ้มองอาจ มีสีหน้าไม่หวั่นเกรง ก่อนจะพุ่งเข้าปะทะ!

ถึงเคราะห์สวรรค์จะน่ากลัว เขาก็ยังจะพิสูจน์ตัวเอง!

ถึงอย่างไรก็มีรุ่นเยาว์อยู่ด้วย เขาก็ต้องเอาหน้าไว้เช่นกัน!

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตเปล่งแสงสีทองสว่างจ้า กลายเป็นประกายเซียนหนาทึบเหลือคนานับ ปกคลุมท้องนภาไว้!

หมายจะใช้กายสู้กับเคราะห์สวรรค์ด้วยตัวคนเดียว!

เมื่อเห็นดังนั้น ศิษย์เทพสวรรค์รอบกายต่างฮึกเหิมไปด้วย ตื่นตกใจอย่างยิ่ง!

พวกฟางฉางกับจ้างเฮ่าตาเป็นประกายดาวสีทอง เต็มไปด้วยความเลื่อมใส อดถอนหายใจมิได้

“อาจารย์ลุงแกร่งมาก นี่คือศักยภาพที่แท้จริงของเขารึ”

“ศิษย์พี่ใหญ่เทพสวรรค์ในตอนนั้นรึ ไม่อยากเชื่อว่าจะมีความเด็ดเดี่ยวกล้าหาญพลิกฟ้าเช่นนี้!”

“จิตใจของแซ่ฟางห่างชั้น เทียบกับอาจารย์ลุงบัวมรกตไม่ได้เลย บางทีก่อนหน้านี้ข้าอาจจะเข้าใจอาจารย์ลุงผิดไปจริงๆ!”

“…”

มีเพียงเสิ่นเทียนที่ทำหน้าแปลกๆ

เป็นเช่นนี้จริงๆ รึ

เหตุใดถึงรู้สึกว่ามีอะไรแปลกๆ!

เสิ่นเทียนเปล่งประกายแสงในดวงตา กระตุ้นเนตรมรรคสวรรค์ประทานอย่างเต็มที่ ส่องความว่างเปล่าได้ ต่อให้มีประกายเซียนปกคลุม แต่เสิ่นเทียนก็ยังเห็นภาพกลางท้องนภา

ไม่นานนัก เสิ่นเทียนมุมปากกระตุก ก่อนถอนหายใจทีหนึ่ง “ไฉนถึงทำเช่นนี้ อาจารย์ลุงจะฝ่าด่านเคราะห์ก็ฝ่าไปดีๆ ไฉนจะต้องเสแสร้งด้วยล่ะ”

ในภาพจำเสิ่นเทียน คนที่เสแสร้งต่อหน้าเคราะห์สวรรค์เหมือนจะตัวเย็นกันหมดเลย!

อย่างเช่นเถาวัลย์บางต้น~

…….

เมฆเคราะห์ภัยน่ากลัวกดลงมาหนาทึบ แสงสีดำขยับวูบไหว และยังมาพร้อมกับเคราะห์อัสนีสีทอง พลังอำนาจน่าสะพรึง น่าหวาดกลัวอย่างยิ่ง

นี่คือมหาเคราะห์น่าสะพรึงของผู้อริยะฝ่าด่านเคราะห์ จะดูถูกไม่ได้เลย ผู้อริยะยังต้องรับมืออย่างเต็มที่ มิหนำซ้ำ นี่ยังเป็นเคราะห์สูงสุดที่รวมจากเคราะห์สวรรค์ทั้งสอง

ร้อยปีพันปีมานี้ บางทีอาจมีเพียงผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตที่เจอกับเคราะห์สวรรค์เช่นนี้

ถึงอย่างไรต่อให้เป็นผู้อริยะก็ไม่ใช่จะฝ่าด่านเคราะห์กันง่ายๆ

และการที่ผู้อริยะสองคนจะฝ่าด่านเคราะห์ในสถานที่เดียวกันเวลาใกล้กันก็มีน้อยยิ่งกว่าน้อย ต่อให้มี ผู้อริยะส่วนใหญ่จะรอจนเมฆเคราะห์ภัยของคนอื่นหายไปก่อนแล้วค่อยฝ่าด่านเคราะห์

ถึงอย่างไรเจ้านี่ก็ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น หากไม่ระวังมีตายได้!

น่าเสียดาย ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตคิดแค่อยากอวดเก่ง จึงลืมเรื่องนี้ไป ทำให้สองเคราะห์สวรรค์รวมเป็นหนึ่งเดียวกัน

ความเจ็บแสบนั้นยากจะบรรยายได้!

เรื่องราวกล้าหาญเช่นนี้ จิตใจที่ไม่หวาดหวั่นในการอุทิศตัวเพื่อภารกิจฝ่าด่านเคราะห์ จะต้องถูกจารึกในประวัติศาสตร์แน่นอน มีชื่อเสียงเลื่องลือไปเป็นพันๆ ปี!

กระทั่งอาจจะเกิดคลื่นลูกใหญ่ในห้าดินแดน ทำให้คนต้องอุทานว่า ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตเป็นแบบอย่างของรุ่นเรา ใช้ตัวเองเป็นกรณีศึกษา เตือนสหายใต้หล้าว่ายามที่ฝ่าด่านเคราะห์จะต้องอ่อนน้อมเคารพ อย่าอวดดีเด็ดขาด!

ต่อให้จะอวดดี ก็อย่าอวดดีต่อหน้าเคราะห์สวรรค์ของคนอื่น!

ไม่เช่นนั้นจะมีจุดจบน่าเวทนา!

……

เมฆเคราะห์ไหลมารวมกัน ถาโถมลงมาอย่างบ้าคลั่ง เหมือนจะรวมอานุภาพไม่มีสิ้นสุด พร้อมจะระเบิดได้ทุกเมื่อ

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนตะโกนเสียงดังใส่เคราะห์สวรรค์ “ปล่อยม้าเข้ามาเลย[1] ข้าไม่กลัวเจ้าหรอก!”

เรื่องมาจนถึงตอนนี้ ไม่มีโอกาสถอยแล้ว ก็สู้ไปซึ่งหน้าเลยดีกว่า!

เหมือนได้ยินคำยั่วยุของบัวมรกต แสงสีดำกลางเมฆเคราะห์ลึกล้ำขึ้นเรื่อยๆ พลังแผ่กระจายไปในฟ้าดิน!

บึ้ม!

อัสนีเทพสีทองสายหนึ่งพุ่งออกมา รวมเป็นม้าสวรรค์สีทองตัวหนึ่ง เหยียบดาวหางพุ่งลงมา!

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตเผยแววตาอึ้งงัน “ระยำ ปล่อยม้าเข้ามาจริงๆ รึ คอยดูเถอะข้าจะทุบตาม้าเจ้าให้เละ!”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตควงกระบองเทพทองคำ วาดผ่านเข้าไป อานุภาพเทพเจ้าหมุนม้วนฟ้าดิน!

พลังสั่นสะท้านภูผานทีพลันระเบิดกระจาย

กระบองเทพทองคำพลันขยายใหญ่ขึ้น กดลงมาเหมือนเสาสวรรค์ พลันกระแทกม้าสวรรค์สีทองแตกกระจาย สายฟ้าแตกกระเซ็น!

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตอึ้งไปเล็กน้อย ก่อนจะหัวเราะเสียงดัง

“แค่นี้รึ ฝ่าเคราะห์อริยะมีแค่นี้รึ มันก็ไม่เท่าไร! กระบองของข้าร้ายกาจกว่าตั้งเยอะ!”

เดิมทีผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตยังอกสั่นขวัญแขวนนิดๆ แต่ตอนนี้ผ่อนคลายลงทันทีแล้ว

ด้วยคุณสมบัติกายของเขา ฝึกหลอมปราณกับหลอมกายพร้อมกัน ได้โอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าช่วย พลังบำเพ็ญทั้งสองศาสตร์จึงเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล

นี่ทำให้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตทำลายเคราะห์อัสนีได้สบายๆ!

แต่เคราะห์อริยะไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ทั้งยังเป็นเคราะห์อัสนีสองชนิดรวมกัน

โครม!

เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นอีกครั้ง!

ประกายสายฟ้าระเบิดกลางเมฆเคราะห์ ยิงเคราะห์อัสนีสีทองออกมาอีกสามสาย รวมเป็นกระทิงหลายตัวพุ่งเข้ามา!

เคราะห์อัสนีสามสายพุ่งออกไปพร้อมกัน มีอานุภาพน่าตื่นตกใจ ทำให้ห้วงอากาศโดยรอบพังทลายลงทั้งหมด!

อานุภาพของกระทิงแข็งแกร่งไม่อาจต้านได้ มากพอจะทำลายล้างทุกอย่าง!

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตหรี่ตาลงเล็กน้อย พูดด้วยน้ำเสียงจริงจังนิดๆ “ยังมาอีกรึ คิดว่าปล่อยวัวสามตัวมาแล้วข้าจะต้านไว้ไม่ได้รึ ข้าก็มีสามคนเหมือนกัน เหล่าพี่น้องลุย!”

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตคำรามเสียงดัง ภายในใจกำเนิดกฎเกณฑ์ พลังยิ่งใหญ่ขึ้น กระตุ้นวิชาลับสูงสุด ‘หนึ่งปราณแปลงสามพิสุทธิ์’!

บัวมรกตหนุ่มกับบัวมรกตวัยกลางคนเดินออกมาจากข้างหลังผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตพร้อมกัน สามคนพุ่งขึ้นฟ้า เผชิญหน้ากับเคราะห์อัสนี

บัวมรกตสามคนล้วนมีศักยภาพระดับอริยะ การจะต้านเคราะห์อัสนีเคราะห์อริยะไม่ใช่เรื่องยาก

บึ้ม!

เกิดเสียงดังสนั่นขึ้นอีกครั้ง!

ต่อให้เคราะห์อัสนีสามสายจะมีพลังน่ากลัว ก็ยังถูกมรกตสามคนทำลายลงทั้งหมด!

ภายในใจผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตพองโตอย่างรวดเร็ว ตะโกนเสียงดังว่า “มีความสามารถอะไรก็เข้ามาได้เลย จะได้ให้ข้าคลายกระดูกพอดี!”

ข้าก็คิดว่าการฝ่าเคราะห์อริยะจะน่ากลัวมากเสียอีก

แค่นี้ มีระดับแค่นี้รึ

อ่อนหัด!

รู้อย่างนี้แต่แรกข้าไม่ต้องเตรียมตัวหรอก ให้ศิษย์หลานพวกนั้นได้เห็นความองอาจห้าวหาญของอาจารย์ลุงพวกเขาดีกว่า!

บึ้ม กึกๆๆๆ!

เคราะห์อัสนีเหมือนถูกยั่วโมโห เปล่งแสงเคราะห์ภัยออกมาทั้งหมด ทำให้ฟ้าดินมืดลง จะกลายเป็นซากปรักหักพัง!

ทันใดนั้นเอง ท้องนภาแตกตัว เคราะห์อัสนีสีทองสว่างจ้าพุ่งออกมา รวมเป็นสัตว์อัสนีสิบทิศถาโถมใส่ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกต

บางเคราะห์อัสนีสีทองกลายเป็นมังกรเทพร้องคำราม ตวัดหางมังกรยักษ์ ฟาดทำลายอากาศไม่มีสิ้นสุด ฟาดใส่บัวมรกต!

บ้างกลายเป็นพยัคฆ์ขาว พลังสั่นสะเทือนท้องนภา ตะปบกรงเล็บพยัคฆ์มหึมา ฉีกกฎเกณฑ์ฟ้าดิน ตบใส่บัวมรกต!

และยังมีวิหคชาด กิเลน เต่าดำ…

เคราะห์อัสนีน่ากลัวพุ่งออกไปพร้อมกันไม่ขาดสาย ทำให้ทั้งท้องนภาพลิกกลับ พุ่งเข้าใส่บัวมรกตทั้งหมด!

บัวมรกตสามคนพลันขนลุกซู่ ดวงตาเบิกโตทันที “บ้าจริง! สิบสู้สามรึ พวกเจ้าไม่มีคุณธรรมกันเลย!”

บึ้ม!

ชั่วพริบตาเดียว ประกายสายฟ้าพุ่งเข้ามา งูสายฟ้าเวียนว่าย ทำให้ท้องฟ้าเข้าสู่ทะเลสายฟ้าไร้พรมแดน!

บัวมรกตสามคนถูกเคราะห์อัสนีไม่มีสิ้นสุดปกคลุม พลังอานุภาพสั่นสะท้านฟ้าดิน!

“ระยำ กล้าผ่าข้า ข้าจะสู้ตายกับเจ้า!

อย่า มังกรอัสนีบ้านี่จะพุ่งไปที่ใดกัน!

เฮ้ย! ตรงนั้นจะผ่าไม่ได้นะ!

อ๊าก!

ศิษย์น้องช่วยข้าด้วย!

อ๊าก!

ข้าจะไม่อวดเก่งอีกแล้ว!

อ๊าก!”

เสียงร้องโอดครวญดังไปทั้งผืนฟ้า ดังอยู่นานก็ยังไม่หายไป

……

ผ่านไปพักใหญ่ เคราะห์สายฟ้ากลางนภาก็ถาโถมลงมาหมดแล้ว

ตอนที่เมฆเคราะห์หายไปดูมีชีวิตชีวาอย่างยิ่ง เหมือนกับผู้ชนะที่เดินลอยหน้าลอยตาออกไปอย่างยิ่ง กระทั่งมีความลำพองใจเล็กน้อย

ทางด้านผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกต ก็ลอยลงมาจากท้องนภาช้าๆ

เขาชักกระตุกไปทั้งตัว มีสายฟ้าสีทองไหลเวียนลับๆ ไหม้เกรียมทั้งตัว หนวดเคราและเส้นผมไหม้เกรียม และยังมีกลิ่นหอมของเนื้อ

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตเดินขาลากมาตรงหน้าทุกคน

ทุกคนมองด้วยความตกใจ ก่อนหน้านี้อาจารย์ลุงดูโหดมากเลยไม่ใช่รึ

เหตุใดตอนนี้ถึงกลายเป็นสภาพนี้แล้ว

เสิ่นเทียนทนดูไม่ได้ “อาจารย์ลุง ท่านไม่เป็นไรนะ”

เสิ่นเทียนเห็นกับตาว่าผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตถูกเคราะห์สวรรค์ทรมานน่าเวทนาเพียงใด

เคราะห์สวรรค์ที่โมโหแล้วนั้นโหดเหี้ยมไร้มนุษยธรรม เหยียบย่ำทุบตีต่างๆ นานา แทบจะทำให้ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตพิการ

ดีที่นักพรตชรามีร่างกายและกระดูกที่ถือว่าแข็งแรง มีฤทธิ์โอสถเสริมสวรรค์เบิกฟ้าช่วยจึงรอดมาได้

ไม่เช่นนั้น บุตรศักดิ์สิทธิ์บางคนคงไม่มีอาจารย์ลุงแล้ว

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตเคราดำกระดกขึ้น แสร้งทำเป็นปากแข็ง “แค่นี้รึ ข้าไม่เป็นอยู่แล้ว! ข้าแค่อยากให้เคราะห์อัสนีชะล้างกายเนื้อเฉยๆ ไม่เช่นนั้น การฝ่าเคราะห์อริยะเล็กจ้อยแค่นี้ข้าจะบาดเจ็บได้อย่างไร”

ปากแข็งก็จริง แต่ในใจอดแยกเขี้ยวมิได้

อะไรกัน เคราะห์อริยะนี่โหดเกินไปแล้ว!

ไม่ไว้หน้าข้าเลยสักนิด

หากไม่ใช่เพราะข้ามีพื้นฐานดี เกรงว่าคงต้านไว้ไม่ไหวหรอก!

……

ครืน!

ตอนนี้เองพลันมีเสียงฟ้าร้องดังขึ้นกลางฟ้า

เมฆเคราะห์ภัยไม่มีสิ้นสุดหมุนตลบ เหมือนจะรวมขึ้นอีกครั้ง

ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตหดตัว รีบหุบปาก ไม่กล้านินทาอีก

อืม ข้ายอมแล้ว~

แม้จะมีสภาพสะบักสะบอม แต่ผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตก็ได้อะไรมามากมายเช่นกัน

กายเนื้อเขาใสแวววาวยิ่งกว่าเดิม แสงสีทองไหลเวียน แฝงไว้ด้วยพละกำลังแข็งแกร่งอย่างยิ่ง

นี่เป็นการปลอบใจผู้สูงศักดิ์สวรรค์บัวมรกตได้เล็กน้อย ไม่ถือว่าถูกผ่าเปล่าๆ!

แต่เหตุใดศิษย์น้องฝ่าด่านเคราะห์ได้ง่าย แต่ข้ากลับยากเช่นนี้กัน

สวรรค์ สวรรค์ไม่ยุติธรรมเลย!

…………………….

[1] ปล่อยม้าเข้ามาเลย หมายถึง ลุยเข้ามาได้เลย