ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ - ตอนที่ 567 วิชาดาบระดับเจตจำนงขั้นสมบูรณ์! จบการทดสอบ
จางฮั่วบนแท่นสูงตัวสั่นด้วยความโกรธ ที่เซี่ยงเฉาหมิงหยาบคาย ไม่สนใจตัวเขาที่เป็นผู้อาวุโส แต่เขาไม่ทำอะไรให้ตัวเองอับอาบ เขาสูดลมหายใจลึกๆข่มความโกรธ หันไปมองฟงอี้หยุน อีกฝ่ายพยักหน้าช้าๆ เป็นการยอมรับให้สามารถต่อสู้ได้
จางฮั่วส่งสัญญาณ แพทย์สนามรีบไปพาคนบาดเจ็บลงจากสนามประลอง
ฉินฟู่หานและเหมิงฉีฉีที่บาดเจ็บถูกพาลงไปทั้งๆที่ถูกมัดด้วยรากไม้
ซุนหยูและถังเตี่ยวหย่งหลุดออกจากรากไม้ด้วยตัวเอง พวกเขาลุกขึ้น ในขณะที่กำลังจะเดินออกไป ถังเตี่ยวหย่งเดินไปหาจิวโมไป๋และกระซิบเบาๆ
“วิชาดาบของเขาจะโจมตีเป็นเส้นตรงเสมอ ถ้านายจับจังหวะได้สามารถใช้โอกาสนี้หลบได้”พูดจบถังเตี่ยวหย่งก็เดินลงไปทันที
“ขอบคุณ”จิวโมไป๋กล่าวขอบคุณด้วยเสียวแผ่วเบา เขากำลังนึกถึงการโจมตีของปรมาจารย์ดาบ ที่เขาเคยเห็นในบันทึก เพื่อคาดเดาการโจมตีของเซี่ยงเฉาหมิง เมื่อได้ยินคำแนะนำของถังเตี่ยวหย่ง เขาก็พอจะคาดเดาบางอย่างได้
“นายคิดว่าเขาจะรับดาบนั้นได้เหรอจริงๆเหรอ?”ซุนหยูที่ยืนรออยู่ถามถังเตี่ยวหย่ง
ถังเตี่ยวหย่งนิ่งไปเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้าด้วยสีหน้าหนักแน่น
“เขาสามารถทำได้แน่ เพราะเขาสามารถเอาชนะฉันได้”
ซุนหยูได้ยินก็หัวเราะ
“ชนะพวกเราต่างหาก”
เมื่อเหลือเพียงจิวโมไป๋และเซี่ยงเฉาหมิงบนสนามประลอง จางฮั่วก็โบกมือส่งพลังกดดันออกไปสร้างม่านพลังป้องกันทันที กรรมการคนอื่นเข้ามาเสริมม่านพลัง ม่านพลังป้องกันนี้ปกคลุมพื้นที่อัฒจันทร์ดูการต่อสู้ทั้งสามอย่างแน่นหนา
เหล่าผู้ชมหลายคนหนีไปตั้งแต่เห็นเซี่ยงเฉาหมิง พวกเขารีบวิ่งออกไปไม่คิดชีวิต ทำให้คนดูบนอัฒจันทร์บางตาลงอย่างมาก
“การท้าทายระหว่างผู้ทดสอบ จิวโมไป๋ และเซี่ยงเฉาหมิง ศิษย์หลักอันดับ 2 เริ่มการต่อสู้ได้!”จางฮั่วประการประลองเสียงดัง
เซี่ยงเฉาหมิงมองจิวโมไป๋อีกด้านของสนามประลอง ก่อนที่ดวงตาของเขาจะส่องประกายเจิดจ้า รัศมีพลังอันน่าเกรงขามก็ระเบิดออกมาอย่างรุนแรง
เปรี้ยง! คลื่นพลังสีขาวรวมตัวกันจนสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ทะยานขึ้นไปบนฟากฟ้า เมฆสีดำค่อยๆก่อตัวอย่างรวดเร็ว
ชิ้ง! เซี่ยงเฉาหมิงชักดาบยาวออกมาจากฝักดาบอย่างช้าๆ ในตอนนั้นเอง บรรยากาศทั้งสนามประลองพลันเย็นยะเยือก ราวกับกำลังถูกมีดแหลมคมจอที่คอ
ทุกคนต่างกลั่นหายใจ ด้วยความกลัว
ร่างของจิวโมไป๋สั่นระริกอย่างไม่อาจควบคุม เขามีประสาทสัมผัสที่เฉียบคมกว่าคนทั่วไปหลายเท่า ร่างกายของเขา จึงตอบสนองต่อการคุกคาม และความรู้สึกหวาดกลัวมากกว่าคนทั่วไป
สัญชาตญาณในร่างของเขา กำลังกรีดร้องให้รีบหนีไป
“ย๊าาาาาก”จิวโมไป๋กำพลองสีทองแน่น อ้าปากตะโกนสุดเสียง ระเบิดพลังกดดันออกมาอย่างรุนแรง เข้าปะทะกับพลังกดดันของเซี่ยงเฉาหมิง แต่เหมือนกับโยนหินลงน้ำ พลังกดดันของเซี่ยงเฉาหมิงทำลายอย่างง่ายดาย
สีหน้าของจิวโมไป๋พลันเปลี่ยนไป แต่เพราะเขาฝืนใช้พลังเข้าต้าน ความกลัวจึงลดลง ร่างกายไม่สั่นอีกต่อไป
“เตรียมตัวรับการโจมตีของฉัน!”เซี่ยงเฉาหมิงพูดอย่างช้าๆ ดาบยาวก็ยกขึ้นชี้ไปบนท้องฟ้า
เปรี้ยง! แสงสีขาวพุ่งไปยังท้องฟ้า ทะลวงก้อนเมฆเป็นรูขนาดใหญ่ รัศมีอันทรงพลังไม่มีใครเทียบ ขยายออกมาอย่างน่าสะพรึงกลัว
เช้ง เช้ง เช้ง อาวุธต่างๆส่งเสียงดังตอบสนองต่อรัศมีพลังอันน่าเกรงขาม ราวกับข้ารับใช้ที่ตอบรับราชา
จิวโมไป๋ยกมือขึ้นบังคลื่นพลัง มองไปยังลำแสงที่ทะลวงเมฆด้วยใบหน้าตกตะลึง
วิชาดาบระดับเจตจำนงขั้นสมบูรณ์!
อีกเพียงก้าวเดียวก็สามารถเลื่อนไประดับต่อไป!
จิวโมไป๋สูดลมหายใจข่มความหวาดหวั่น ไม่น่าแปลกใจเลยที่ร่างกายของเขาจะตอบสนองอย่างนั้น
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับวิชาระดับเจตจำนงขั้นสมบูรณ์ ทุกอย่างก็ไร้ประโยชน์
เซี่ยงเฉาหมิงก้าวเท้าเดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าว พลังก็ทวีความรุนแรงขึ้นหนึ่งเท่า เมื่อก้าวที่สอง คลื่นพลังอันทรงพลังก็ถล่มลงมาอย่างรุนแรง
ม่านพลังป้องกันสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง สายลมหมุนวนอย่างบ้าคลั่ง
เหล่าผู้ชมต่างจับที่จับข้างตัวแน่น
จิวโมไป๋กดเท้าลงไปในพื้นครึ่งข้อเท้า ต้านกระแสลมอันรุนแรง เหงื่ออันเย็นเฉียบไหลท่วมร่างกาย
จิวโมไป๋สูดลมหายใจอย่างหนัก ดวงตาฉายความเด็ดเดียว ตำหนักยุทธ์เตาหลอม 9 สุริยันและกระบี่เลื่อนเร้นหมุนวนอย่างบ้าคลั่ง ปล่อยพลังกดดันออกมาอย่างบ้าคลั่ง กฎแห่งธาตุไม้สีเขียวเข้มไหลออกมาจากร่างผสานกับพลังกดดัน ไปรวมกันที่พลองสีทอง เงาพลองสีเขียวเข้มขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนยาว 15 เมตรจึงหยุดลง แต่รัศมีพลังสีเขียวเข้มอันเจิดจ้ายังส่องสว่างขึ้นเรื่อยๆ
แต่เมื่อเทียบกับแสงสีขาวที่ทะลวงท้องฟ้าแล้ว มันเหมือนหิ่งห้อยกำลังเผชิญหน้ากับดวงอาทิตย์
“ดีที่ไม่กลัวจนหมดสติไปก่อน แต่ยังไม่พอ ถ้ามีพลังแค่นี้ มันไม่เพียงพอที่จะรับดาบของฉันได้”เซี่ยงเฉาหมิงมองจิวโมไป๋ด้วยสีหน้าเรียบเฉย ลำแสงสีขาวค่อยๆก่อตัวเป็นดาบยักษ์!
ฉัวะ! เมฆบนท้องฟ้าถูกรัศมีดาบพัดกระจายออกไปทันที
เซี่ยงเฉาหมิงกำลังจะฟันดาบลงมา
แต่ในตอนนั้นเอง
ตูม! จิวโมไป๋ระเบิดพลังกดดันและกฎแห่งธาตุไม้ทั้งหมดออกมา เสื้อคลุมของเขาถูกทำลายเป็นชิ้นๆ
“ตาย!”จิวโมไป๋แทงพลองยักษ์ออกไป ก่อนที่เซี่ยงเฉาหมิงจะโจมตี
ดวงตาของเซี่ยงเฉาหมิงฉายแววชื่นชมเล็กน้อย
“รับไป!”เซี่ยงเฉาหมิงฟันดาบลงมา ดาบยักษ์สีขาวแผ่รัศมีอันไร้เทียมทานออกมา ท้องฟ้าถูกแบ่งเป็นสองส่วนอย่างหมดจด
ดาบยักษ์สีขาวแม้จะมีขนาดใหญ่ แต่มันไม่ช้าเลย ความเร็วของมันกลับน่าสะพรึงกลัว!
“ย๊าาาาากกกก”จิวโมไป๋ร้องตะโกนสุดเสียง แสงสีเขียวเข้มบนเงาพลองส่องแสงเจิดจ้า และถักทอเป็นลวดลายลึกลับ ในตอนนั้นขนาดของเงาพลองพลันหดลงครึ่งหนึ่ง แต่ในเวลาเดียวกันความยาวของเงาพลองพลันเพิ่มขึ้น จาก 15 เมตร เป็น 25 เมตรในอึดใจ!
เงาพลองทะยานออกไปด้วยพลังทั้งหมด โจมตีเข้าไปในจุดเดียว!
คลื่นพลังดาบเหมือนคลื่นทะเลบ้าคลั่ง บดขยี้ร่างของจิวโมไป๋ เหมือนเรือลำเล็ก ที่ดิ้นรนในคลื่นทะเล
จิวโมไป๋ยืนอย่างมั่นคงราวกับเสาเหล็ก
เงาพลองที่ยืดออกไปชนเข้ากับใบดาบยักษ์สีขาว
ตูม! คลื่นพลังระเบิดออกมาอย่างรุนแรง
เปรี้ยง! ดาบยักษ์ฟันลงพื้นและส่งคลื่นพลังยาวไปถึงขอบหุบเหว
ฝุ่นควันฟุ้งกระจายปกคลุมโดยรอบ
ทุกคนต่างลุ้นระทึก
ฟงอี้เฟยจับดาบยาวของตัวเองโดยไม่รู้ตัว
ฝุ่นควันค่อยๆหายไปอย่างช้าๆ ก่อนที่จะเห็นร่างของจิวโมไป๋ ที่ยืนอาบเลือดยืนอยู่ข้างรอยแยกลึกหลายเมตร
เซี่ยงเฉาหมิงที่ขึ้นอยู่อีกด้านพยักหน้าช้าๆ สายตาที่มองจิวโมไป๋ฉายแววพอใจแฝงไปด้วยความชื่นชม
ในช่วงเวลาที่กำลังจะปะทะกัน จิวโมไป๋ไม่ได้ตั้งใจจะเข้ารับการโจมตีตรงๆตั้งแต่แรก
แต่เขาใช้เงาพลองกระแทกไปที่ช่วงต้นใบดาบยักษ์ ตรงนั้นเป็นบริเวณที่มีพลังน้อยที่สุด เขาเลือกจุดโจมตีอย่างแม่นยำ ทำให้สามารถเบี่ยงการโจมตีไปด้านข้าง ไม่ถูกคลื่นพลังดาบโจมตีโดยตรง ความเสียหายที่ได้รับจึงลดลงอย่างมาก
กระบวนการเหล่านี้ ถ้าขาดการตัดสินใจที่เด็ดขาด และความกล้าหาญ ไม่มีทางเลยที่จะทำได้สำเร็จ!
เซี่ยงเฉาหมิงพยักหน้าช้าๆ
“อัก!”จิวโมไป๋กระอักเลือดออกมาคำใหญ่ ก่อนที่สติจะกลับมา เขาเรียกกฎแห่งธาตุไม้รักษาร่างกายทันที แต่เขาไม่สามารถเรียกกฎแห่งธาตุไม้ได้ เพราะเขาใช้พลังธาตุไม้ไปจนหมดสิ้น และดูเหมือน ความสามารถพิเศษสุดยอดการฟื้นฟูจะอ่อนกำลังลงมาก อาจเป็นเพราะเขาใช้พลังร่างกายไปเป็นจำนวนมาก
“ฉันแพ้การเดิมพัน ฉันจะเป็นผู้ติดตามของนายในอนาคต”เซี่ยงเฉาหมิงพูดก่อนจะหันหลังเดินออกไปทันที
ทุกคนต่างก็เงียบไม่กล้าพูดอะไร จนเซี่ยงเฉาหมิงเดินออกมาไปทุกคนก็ระเบิดเสียงออกมาด้วยความตกใจ
“ชนะจริงๆ เขาสามารถรับดาบของปีศาจตัวนั้นได้จริงๆ”
“เท่าที่จำได้ มีเพียง ศิษย์หลักอันดับ 1 เท่านั้น ที่สามารถรับดาบที่ 1 ของเซี่ยงเฉาหมิงได้”
“สมแล้วที่เป็นผู้ที่นายน้อยเลือก!”
เหล่าผู้ชมร้องตะโกนด้วยความตื่นเต้น ความชื่นชมที่พวกเขามีให้กับจิวโมไป๋พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว
“จบการท้าทาย จิวโมไป๋เป็น ฝ่ายชนะ”จางฮั่วรีบจบการประลอง ก่อนจะให้แพทย์สนามรีบไปตรวจสอบจิวโมไป๋
เมื่อได้ยินว่าจบการทดสอบ จิวโมไป๋ก็ทรุดลงนั่งหอบหายใจอย่างหนัก เลือดไหลทะลักออกจากปากและจมูก เขาขยับมือขึ้น แต่ร่างกายของเขาไม่มีแรง
ฟงอี้เฟยก็กระโดดขึ้นไปบนสนามประลอง แต่เสี่ยวไป๋และเสี่ยวเหมยเร็วกว่า พวกมันไปถึงก็แตะขาที่แหวนมิติเก็บของบนนิ้วของจิวโมไป๋ และหยิบขวดโอสถออกมา โดยที่ไม่มีใครมองเห็น มันโยนโอสถฟื้นฟูเข้าปากจิวโมไป๋อย่างรวดเร็ว
จิวโมไป๋กลืนมันอย่างรวดเร็วคลื่นความร้อนไหลไปทั่วร่างกาย ก่อนที่ความสามารถสุดยอดการฟื่นฟูจะค่อยๆกลับมาทำงาน
เขาก็ถอนหายใจออกมา
“นายท่านเป็นยังไงบ้าง ผมมีโอสถรักษาระดับ 4 ดาว นายท่านรีบกินก่อน”ฟงอี้เฟยเข้ามาถามพร้อมกับหยิบขวดโอสถออกมา
จิวโมไป๋ยกมือขึ้นห้าม
“ไม่เป็นไร แค่เข้าห้องฟื้นฟูก็พอ”
“แต่…”ฟงอี้เฟยมองจิวโมไป๋ด้วยความกังวล
จิวโมไป๋ยังคงส่ายหน้า ก่อนที่แพทย์สนามจะมาถึง ใบหน้าของพวกเขาฉายแววแปลกใจ เพราะสะภาพร่างกายของจิวโมไป๋ไม่มีทางเลยที่คนปรกติจะสามารถมีสติอยู่ได้
พวกเขารีบพาจิวโมไป๋ไปรักษาทันที
“การทดสอบรอบที่ 2 จะจบลงเพียงแค่นี้ ผู้ได้รับบาดเจ็บไปรักษาร่างกายของตัวเอง ในอีก 2 วัน จึงจะเข้าพิธีสาบานตน”จางฮั่วกล่าวจบการประลอง
เหล่าผู้ชมแยกกันไปอย่างสงบ
แต่บนพื้นที่ชมการประลองของผู้อาวุโสตระกูล ยังไม่มีใครจากไป
“ฉันให้เวลา 1 วัน ไปตรวจ ค้นหาสายลับทั้งหมด ที่แฝงเข้ามาในตระกูล”ฟงอี้หยุนกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย แต่พลังกดดันที่แผ่ออกมาเหมือนค้อนที่ทุบเข้าใส่ร่างของพวกเขา
ทุกคนต่างก้มหัวเหงื่อไหลอาบทั่วร่าง
ฟงอี้หยุนกวาดสายตามองทุกคนก่อนจะโบกมือ
“ไปได้! อย่าทำให้ตระกูลของเราต้องอับอาย!”
“ครับ”ผู้อาวุโสทุกคนประสานมือ ก่อนจะแยกย้ายกันไป
ขณะที่ฟงอี้เฟยเดินตามแพทย์สนามไปถึงห้องพยาบาล
จิวโมไป๋ยืนรายชื่อสองรายชื่อให้กับฟงอี้เฟย
ฟงอี้เฟยรับมาด้วยความงุนงง เขาก้มลงอ่านมันเป็นรายชื่อของผู้อาวุโสชิงและและจุนโม่เหยียน ศิษย์หลักอันดับ 12
“นายท่านนี้มัน…”ฟงอี้เฟยถาม
จิวโมไป๋สูดลมหายใจระงับความเจ็บปวดก่อนจะตอบ
“ฉันรู้สึกว่าพวกเขามีบางอย่างแปลกๆ ไปตรวจสอบพวกเขาดูอาจพบอะไรบางอย่างก็เป็นได้”
ทั้งสองคนมีกลิ่นอายมรณะของหญิงสาวสีดำอยู่บนร่าง ทั้งสองจะต้องเป็นคนของเธอ
ถ้าฟงอี้เฟยสงคนไปตรวจสอบ เขาจะต้องได้รับเบาะแสสำคัญอย่างแน่นอน
ฟงอี้เฟยพยักหน้ารับ
จิวโมไป๋ถูกพาเข้าห้องฟื้นฟู เสี่ยวไป๋และเสี่ยวเหมย ตามเข้าไปด้วย
ฟงอี้เฟยกำรายชื่อที่จิวโมไป๋ส่งให้ ก่อนจะเดินไปที่ตำหนักหลัก เพื่อรายงานพ่อของเขา