[นิยายแปล] I'm Really Scared ชั้นกลัวแล้วจ้าคุณระบบจ๋า! - ตอนที่ 26 เพียงประโยคเดียวกวนซานก็เงียบปาก
- Home
- [นิยายแปล] I'm Really Scared ชั้นกลัวแล้วจ้าคุณระบบจ๋า!
- ตอนที่ 26 เพียงประโยคเดียวกวนซานก็เงียบปาก
หลินซูม่านรู้สึกว่าโลกทั้งใบได้เปลี่ยนไปเมื่อเธอตื่นนอนขึ้น
หลังจากรับฟังข้อมูลที่รองหัวหน้าทีมบอกกล่าวเธอก็มึนงงสับสน มันเหมือนกับเธอได้พลาดคลาสเรียนวิชาคณิตศาสตร์ระดับสูงไปยังไงยังงั้น
“ผึ้งเพชฌฆาตได้ส่งสมาชิกระดับ C และ D เพื่อซุ่มโจมตีกวนซาน ในระหว่างที่ผบ.เซี่ยกำลังนำลูกทีมเข้าปะทะการซุ่มโจมตี เขากลับถูกผู้ใช้พลังพิเศษสายมิติเคลื่อนย้ายแยกออกไป และสมาชิกในทีมก็ถูกขัดขวางโดยการดักขังในมิติตรงนั้น….”
“ราวๆสิบนาทีต่อมา ผู้ใช้พลังพิเศษสายมิติก็ได้ตายลง สมาชิกในทีมเร่งรุดออกจากกับดัก แต่เมื่อพวกเขาถึงที่เกิดเหตุ ‘ผึ้งเพชฌฆาต’ ทั้งสองและเฮ่อเจียงจากทีมสี่ก็ถูกพบเป็นศพในจุดเกิดเหตุ เหลือไว้เพียงแค่ซากศพไหม้เกรียมเท่านั้น….”
หลินซูม่านสับสนเล็กน้อยในตอนแรก แต่เมื่อเธอได้ยินชื่อเฮ่อเจียง แผ่นหลังของเธอก็พลันอาบไปด้วยเหงื่ออันเย็นเฉียบ
เพราะคนที่รับมอบเป้าหมายต่อจากเธอที่ป้ายรถเมล์ก็คือเฮ่อเจียง
เฮ่อเจียงผู้มีพลัง “ฟื้นฟูรวดเร็ว” ระดับ C ได้ถูกฆ่า ณ ที่เกิดเหตุตรงนั้นเลย ซึ่งบ่งบอกได้ว่าสิ่งที่เขาประสบพบเจอ เป็นบาดแผลร้ายแรงอย่างฉับพลันจนไม่อาจรักษาได้
ฆ่าในพริบตาเดียว!
ความเร็วในการโจมตีนั้นเป็นที่ประจักษ์ชัดแจ้ง
แต่ผลสุดท้ายผู้ซุ่มโจมตีทั้งหมดกลับตกตายแทน
และกลุ่มทีมของเซี่ยเหล่ยก็ไม่ได้มีบทบาทอะไรเลย กล่าวคือเป็นกวนซานคนเดียวที่ต้องเผชิญหน้า….
“เดี๋ยวนะ แล้วกวนซานล่ะ?”
หลินซูม่านรู้สึกอดเป็นห่วงไม่ได้
รองหัวหน้าไม่ได้พูดถึงกวนชานแลย และแม้แต่ผู้ใช้พลังระดับ C ก็ยังตาย หรือว่าเขาต่อสู้จนตัวตายกันแน่นะ? !
ในความคิดของหลินซูม่าน แม้ว่าบุคคลนี้จะฆ่าจ้าวหงและภรรยาของเขาอย่างไร้ความปราณี แต่เป็นตัวจ้าวหงและภรรยาเองที่ล่อให้เขาเข้ามาติดกับ และสิ่งที่กวนซานทำก็เป็นเพียงการป้องกันตัวเท่านั้น
…..ถึงแม้วิธีป้องกันตัวจะค่อนข้างน่ากลัวไปหน่อยก็เถอะ
อย่างไรก็ตาม จากการที่เธอได้ตามเฝ้าดูทั้งวัน สิ่งที่กวนซานแสดงให้เห็นก็เป็นเพียงแค่บทบาทนักข่าวธรรมดาๆ
อีกทั้งยังขยันทุ่มเทอย่างมากด้วย
ในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่ระดับล่างในหน่วยรักษาความปลอดภัยพิเศษ หลินซูม่านจึงรู้สึกเห็นอกเห็นใจกวนซานเมื่อเขาต้องเผชิญหน้ากับเจียงซีหยานในตอนนั้น เพราะงั้นเธอถึงได้แกล้งเป็นผีและสั่งสอนเจ้าคนแซ่เจียงซะ
ในความเห็นของเธอ ถึงแม้กวนชานจะดูน่ากลัว แต่เขาก็เป็นมนุษย์ที่มีเลือดเนื้อ
หลินซูม่านจึงไม่ต้องการเห็นการตายของผู้ถูกสังเกตการณ์ เพราะว่า….. เธอคงจะต้องเสียใจต่อเขาไปอีกหลายวันแน่
รองหัวหน้ากล่าวว่า “อ่ะ ชั้นกำลังจะบอกเธอเรื่องเขาพอดี….. เบื้องบนได้สั่งให้เธอเฝ้าสังเกตกวนซานต่อไป คราวนี้เป็นภารกิจระยะยาวนะ”
“หรือก็คืองานต่อไปของเธอ คือการเฝ้าติดตามเขาทุกวันและรายงานการกระทำทุกอย่างของเขาในแต่ละเวลา”
หลินซูม่านได้ตกใจ “เขา-เขายังไม่ตายเหรอคะ?”
“ตายอะไร?”
รองหัวหน้ากล่าวด้วยสีหน้าแปลกใจ “เขาไม่เป็นอะไรเลย ว่ากันว่าเขาได้รับบาดเจ็บแค่เล็กน้อยเอง และเขาน่าจะออกจากโรงพยาบาลวันนี้ด้วยนะ”
เขาถอนหายใจก่อนพูดว่า “ชั้นไม่รู้จริงๆว่าคนๆนี้มีหัวนอนปลายเท้ามาจากไหน ผบ.เซี่ยไม่ดึงตัวเขาเข้าร่วมทีมด้วย แต่เขากลับร้องขอ…โควต้าพิเศษสำหรับบุคลากรที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ให้”
“เอาล่ะเลิกถามเซ้าซี้ได้แล้ว รีบไปเร็วเดี๋ยวชั้นจะส่งตำแหน่งของกวนซานให้เธอเอง”
หลินซูม่านเอ่ยปากรับทราบและมองดูตำแหน่งที่ถูกส่งมาให้ เธอได้เกิดความรู้สึกว้าวุ่นใจอยู่บ้าง
ระดับ C ก็ถูกเขาฆ่าทิ้งด้วยเช่นเดียวกันเหรอ…..
แต่แล้วรองหัวหน้าทีมก็พูดขึ้นอย่างกะทันหัน “เออเดี๋ยวก่อน เธอใช้พลังตัวเองไปแกล้งเจียงซีหยานในระหว่างปฏิบัติภารกิจเมื่อวานนี้ จนทำให้เขาต้องเข้าในโรงพยาบาลใช่รึเปล่าล่ะ?”
หลินซูม่าน “……”
อ๊า—– ทำไมรองหัวหน้าถึงรู้ได้ล่ะ? !
ผบ.เซี่ยได้ติดต่อเธอผ่านช่องสัญญาณเดียวไม่ใช่เรอะ? !
รองหัวหน้าบ่นพึมพำต่อว่า “ถ้าไม่ใช่เพราะความใจกว้างไม่ถือสาหาความของผบ.เซี่ย เธอซวยแน่ๆนะรู้มั้ย เธอต้องจำเป็นบทเรียนและอย่าทำผิดซ้ำอีกในภายภาคหน้าล่ะ เข้าใจมั้ย?”
หลินซูม่านยกมือปิดหน้า “….ค่ะ เข้าใจแล้ว”
มีกี่คนกันที่รู้เรื่องนี้น้า!
โฮ โฮ ไม่มีหน้าไปเจอใครอีกแล้วสิ…..
หลินซูม่านเปิดใช้พลังของเธออย่างเงียบงัน และลดตัวตนของเธอที่มีอยู่ให้เหลือศูนย์สนิท
——
ทันทีที่เขาเดินเข้ามาในบ้าน หลังจากผ่านห้องโถงทางเดินมา
กวนซานก็เห็นสภาพห้องซึ่งน่าจะเป็นห้องนั่งเล่น ตัวโซฟาได้ถูกย้ายไปติดกำแพงด้านหนึ่ง และมี PS5 ที่ถูกเชื่อมต่อกับทีวี บริเวณบนโต๊ะกาแฟกลางห้องได้มีกล่องพิซซ่าเปิดอ้าทิ้งไว้อยู่พร้อมด้วยกระป๋องโค้ก
พิซซ่าบางส่วนได้ตกอยู่บนพื้นจนเลอะเทอะ
ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเสินติงฮัวกังวลแค่ไหนยามที่เธอได้ยินข่าวของเขา
กวนซานคุกเข่าลงและมองไปที่ตัวพิซซ่าที่เกือบจะแข็งจนทานไม่ได้ และเมื่อกวาดตามองผ่านๆเขาก็พบว่ามีประมาณถึงครึ่งหนึ่งที่หายไป
เขาแกล้งหยิบมันขึ้นมานับดูทีละชิ้น จากนั้นเขาก็ตีหน้าประหลาดใจและอุทานว่า “เอ๊ะ? ทำไมหายไปเยอะจัง? หรือว่ามันถูกหนูขโมยไปน้อ?”
กวนซานเช็ดนิ้ว เอามือแตะคางแล้วพูดอย่างสงสัยว่า “เสี่ยวเสิน เธอมีเงื่อนงำอื่นอีกมั้ย?”
เสินติงฮัวได้นั่งยองลงกอดเข่า เธอเอียงศีรษะด้วยความน่ารักไร้เดียงสา: “งืมไม่รู้สิ บางทีอาจเป็นหนูตัวใหญ่นอกบ้านก็ได้น้า”
กวนซานใช้ปลายนิ้วจิ้มหน้าผากเธอและกล่าวว่า “รู้แค่วิธีทำตัวน่ารัก ไม่ช้าก็เร็วหนูตัวใหญ่ที่นั่งกินนอนกินจะหมดสิ้นทรัพย์สินเอาน้า”
เสินติงฮัวได้รู้สึกผิดจึงเอ่ยเสียงแผ่วว่า “ก็เสี่ยวซานไม่มาสักที ดังนั้นฉันเลยได้แต่กินพิซซ่ารออย่างน่าสงสาร จนในที่สุดฉันก็ได้ยินข่าวอุบัติเหตุของนายอ่ะ”
กวนซานนึกขึ้นได้ว่าเมื่อคืนนี้เขาขึ้นรถเมล์จริงๆ และเสินติงฮัวก็เป็นคนเดียวที่รู้เห็น
ใครจะรู้ว่าคนพวกนั้นตอนเมื่อคืนอาจจะมาถามเสินติงฮัวก็เป็นได้นะ?
ไม่ได้การแล้ว เขาต้องปกปิดมัน
“เสี่ยวเสิน” กวนซานกดไหล่เสินติงฮัวด้วยสีหน้าจริงจังและกล่าวว่า “จำไว้ว่าเมื่อคืนชั้นได้เดินกลับบ้านคนเดียว และชั้นก็เจอรถเมล์คันนั้นระเบิดบนถนน”
แม้ว่าเสินติงฮัวจะไม่เข้าใจ แต่ตราบใดที่กวนซานขอร้องอย่างจริงจัง เธอก็จะสนับสนุนเขาโดยไม่เกี่ยงงอนเลยแม้แต่น้อย
เธอกระพริบตาปริบๆและพูดว่า “อืม, กวนซานเดินกลับบ้านคนเดียว…ฉันจะจดจำไว้แน่ แล้วมีรางวัลอะไรให้บ้างมั้ยล่ะ?”
กวนซานชี้ไปที่คราบบนพื้นและพูดว่า: “รางวัลของเธอคือไม่ต้องทำความสะอาดเอง”
เสินติงฮัวก้มหน้าลงอย่างผิดหวังด้วยท่าทางราวกับดอกทานตะวันที่เหี่ยวเฉาลง
เธอคาดหวังอะไรหว่า?
กวนซานเลยพูดติดตลกว่า: “ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะ ชั้นทำความสะอาดให้แล้วมันไม่ดีหรือไง?”
เสินติงฮัวบ่นเสียงค่อยว่า “ดีที่ไหนกันเล่า ฉันบอกให้ป้าเป่าเจี๋ยมาทำให้จะดีกว่าอีก พรมบริเวณนั้นสกปรกเยอะเกินฉันให้นายช่วยล้างให้มันไม่เหมาะหรอก”
“……”
กวนซานกระตุกมุมปากของเขา
เขาเกือบลืมไปเลยว่ามันมีช่องว่างที่เรียกว่าชนชั้นระหว่างสาวน้อยตรงหน้ากับตัวเขา……….พวกนายทุนชั่วร้ายเอ๊ย!
เมื่อเสินติงฮัวเห็นว่าสีหน้าของกวนซานได้ดำถมึงทึง เธอก็แลบลิ้นและรีบวิ่งปรี่จากไปทันควัน
เธอได้วิ่งตึงตึงตึงขึ้นไปอาบน้ำที่ชั้นบนของบ้าน
กวนซานส่ายหน้าและช่วยเสินติงฮัวทำความสะอาดโต๊ะกับพื้น เขาเก็บขยะและปล่อยคราบสกปรกที่เหลือให้คนอื่นทำความสะอาดต่อ
ในตอนนี้เองที่มือถือของกวนซานได้ดังขึ้น
เขาหยิบมันออกมาดูและปรากฏว่าเป็นหลี่จือหยิงที่โทรมา
“ครับท่านประธาน?”
กวนซานรู้สึกผิดเล็กน้อย
เพราะพอเขารับงานสำคัญมา วันรุ่งขึ้นก็บอกว่าออกไป “หาข่าว” ซึ่งออกจะไม่ค่อยน่าเชื่อถือเลย…..
อย่างไรก็ตาม ด้วยความช่วยเหลือจากผู้อำนวยการเผิง เขาก็น่าจะได้เนื้อหาข่าวสำหรับวันนี้ และไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
กวนซานรับสายและรอฟังเสียงของอีกฝ่าย “กวนซานใช่มั้ย? วันนี้คุณออกไปหาข่าวข้างนอกรึเปล่า?”
กวนซานกล่าวตอบรับว่า “ใช่ครับท่านประธาน ผมคิดว่าเนื้อหาที่ใช้ทำข่าวอัคคีภัยในคลังข่าวมันค่อนข้างเก่าเกินไป ดังนั้นผมเลยวางแผนไปสัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมาไม่นาน”
“ดีแล้วที่คุณให้ความสำคัญต่องานนี้มาก” หลี่จือหยิงได้พูดชื่นชมเขา จากนั้นหัวข้อการสนทนาก็เปลี่ยนไป: “แต่ไม่ต้องรีบเรื่องงานนี้ เพราะฉันมีงานอื่นมอบหมายให้คุณ”
“เออ…” ในตอนที่กวนซานกำลังจะเอ่ยปาก หลี่จือหยิงก็พูดต่อว่า “คำนวณค่าล่วงเวลาเพิ่มให้”
พอกวนซานได้ยินก็หุบปากทันที