[นิยายแปล]โซ่ผนึก "หัวใจ" สายใยผนึก "มังกร" - ตอนที่ 188 บทที่ 8 ตอนที่ 45
บทที่ 8 ตอนที่ 45
การต่อสู้ผลัดกันรุกรับกันอย่างรุนแรง ขณะที่มาร์มองดูภาพตรงข้ามที่บดขยี้ทุกอย่างอย่างไร้ความปราณี
พลังเวทย์ที่กระจัดกระจายหลุดมายังขอบเขตการสร้าง และเศษซากปรักหักพังก็บินเข้ามาช่องว่างในสิ่งกีดขวางที่บางลง พร้อมกับพลังเวทย์ที่ไม่สามารถป้องกันได้
「โอ้ย ชิบหาย!」
เหงื่อเย็นๆที่กำแพงกั้นการแยกตัวในเมืองดังเอี๊ยดอ๊าด มาร์ระเบิดพลังเวทย์และซัดเศษซากสิ่งกีดขวาง
เม็ดเหงื่อไหลบนหน้าผากของเขา
มีรูจำนวนมากในสิ่งกีดขวางและจำนวนมันก็ค่อยๆเพิ่มมากขึ้น แม้แต่ กำแพงกั้นเองก็ไม่พอจะดูดซับดาเมจระหว่างทั้งสองคน
แต่มันก็ยังดีกว่าไม่มี
แม้ว่ามันจะค่อยๆพังทลายลง แต่กำแพงที่ปกป้องพวกมาร์ยังคงอยู่
หากไม่ใช่เพราะสิ่งนี้เป็นเกราะป้องกันพวกไอริส『อาภรณ์ปีศาจเหมันต์』คงซัดพื้นที่โดยรอบ
อย่างไรก็ตาม ขีดจำกัดใกล้มาถึงแล้ว พลังในการทำลายล้างค่อยๆมากยิ่งขึ้นเกินขอบเขตการฟื้นฟู
「เกิดอะไรขึ้นกับยัยแวมไพร์นั่นฟะ เห็นได้ชัดว่าผิดแปลกเกินไปแล้ว!」
「ไม่เห็นขีดจำกัดของพลังเวทย์เลย สัตว์ประหลาดเดินได้รึไง……」
ขณะที่เธอจ้องมองโนโซมุขณะที่เขาต่อสู้กับวิโทร่า ไอริสกำหมัดแน่นด้วยความหงุดหงิด
ตอนนี้เธอไม่สามารถเข้าไปช่วยได้
นี่เป็นเพราะวิญญาณที่ถูกผนึกของเธอมันผูกพันกับพลังของโนโซมุของเขาเองด้วยพลังเวทย์ทั้งหมดของวิโทร่าที่กัดเซาะร่างกายเธอ
แม้ว่าจะสู้ได้แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลย
「น่าเสียดาย ที่ตอนนี้ช่วยอะไรไม่ได้ ในที่สุดก็ไม่สามารถเป็นที่พึ่งของเขาได้อีกแล้ว……」
เสียงอ่อนๆหายใจออกโดยไม่ลังเล คำพูดที่เธอรั่วไหลออกมาค่อยๆผูกมัดหัวใจของเธอ
ในขณะนั้นด้วยเสียงคำรามที่ดังเป็นพิเศษกำแพงกั้นแยกตัวเมืองเริ่มสั่นคลอน
อุปสรรคที่เดิมถูกทำลายก็ระเบิดออกมา และความแข็งแกร่งของเขตแดนก็เริ่มลดลงทันที
「อ๊าาาาาาาาาาาาา!」
「หวา มันถึงขีดจำกัดแล้ว!」
เสียงกรีดร้องเริ่มดังขึ้นในกลุ่ม
ในขณะนั้นค้างคาวนับไม่ถ้วนบินผ่านสิ่งกีดขวาง
「ขอโทษท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีทุกท่าน」
คนที่เข้ามาคือลูกาโต้ ซึ่งต่อสู้กับมาร์ก่อนหน้านี้
เมื่อเขาแปลงร่างเป็นค้างคาวเป็นมนุษย์ในทันทีเขาก็ลากนิ้วอย่างรวดเร็วและสร้างเวทย์เขตแดนขึ้นมาเพื่อเติมเต็มช่องว่างที่เกิดขึ้น
「หมายความว่ายังไง คิดว่าไม่รอดแล้วซะอีก……」
ลูกาโต้ที่มาช่วยปิดช่องว่างภายในเมือง หันหลังกลับและเผชิญหน้ากับไอริส
「ภารกิจของกระผมคือการรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นให้ถูกจำกัดขอบเขตมากที่สุด」
วิโทร่ากำลังสนุกกับการต่อสู้กับโนโซมุมาก จากรูปลักษณ์ดูเหมือนลูกาโต้จะมาช่วยกับมาร์
「เฮ้อ ช่างน่าเศร้า นายท่านของกระผมไม่สนใจคนอื่นเลยสักนิด」
「มันก็ยากที่จะพูด แต่ขอบคุณนะ……」
「ไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นหรอกครับ แต่ตอนนี้กระผมไม่สามารถบุกเข้าไปในการต่อสู้ครั้งนี้ได้……」
หากมีอะไรเกิดขึ้นกับพวกพ้องของโนโซมุ โนโซมุคงจะคุมตัวเองไม่อยู่แน่ แม้แต่วิโทร่าที่ถ้าเจอโนโซมุที่ไม่รู้จักความเจ็บปวดก็คงเป็นศัตรูที่ตึงมือ
คำพูดโดยนัยของลูกาโต้ทำให้ทุกคนต้องยอมรับ
「ลูกาโต้ซัง พอดีฉันมีคำถามค่ะ」
「มีอะไรให้กระผมรับใช้เหรอครับ เลดี้เอลฟ์」
ในขณะเดียวกัน ซีน่าถามคำถามกับลูกาโต้
「เอ่อ คือ นายท่านของคุณคือใครเหรอคะ?」
「คือใครงั้นเหรอ หมายความว่ายังไงเหรอคะ?」
「ไม่ว่าความสามารถของแวมไพร์ของแต่ละคนจะโดดเด่นแค่ไหน แต่พลังของเธอก็ไม่ธรรมดา แม้ว่าเธอจะยังหนุ่มยังแน่น แต่เธอก็มีพลังเทียบเท่ากับราชันย์มังกร」
โดยไม่คำนึงถึงพลังเวทย์และที่มาของพลัง แต่พลังของวิโทร่าเหนือยิ่งกว่ามังกรอาเซล ที่เคยต่อสู้มาก่อนหน้านี้เสียอีก มันไม่ใช่พลังที่สมควรจะมาอยู่ในรูปลักษณ์ที่เหมือนกับมนุษย์
ดังนั้น วิโทร่าจึงมีความลับอบางอย่างเช่นเดียวกับโนโซมุ ที่น่าจะคิดแบบนั้น
「ถ้าเป็นท่านโนโซมุก็คงจะรู้ได้ในทันทีเลยครับ」
「รู้ในทันที?」
「ก็แหมดูนี่สิครับ……」
เมื่อลูกาโต้ชี้ไปทางนั้นความสมดุลของการต่อสู้เริ่มพังทลายลง
★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★★
แขนของเธอยังคงกระหน่ำโจมตีไม่ยั้ง
แขนของวิโทร่าที่แปรสภาพซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่ใช่รูปลักษณ์ของมนุษย์อีกต่อไป
ปีกนับไม่ถ้วนชวนให้นึกถึงดาบที่เติบโตบนก้อนเนื้อสีดำขนาดใหญ่และแขนเสริมที่เคลื่อนไหวได้อย่างอิสระตามความคิดของวิโทร่า
「อั่ก!」
โนโซมุยังคงเฉือนแขนนับไม่ถ้วนด้วย『ปัดฝุ่น』
เลือดสดๆบดบังการมองเห็นของเขา แต่เขาสัมผัสได้ถึงร่องรอยของความพุ่งพล่านจากช่องว่างในพายุและปล่อยดาบของเขาในระยะพลังที่เหมาะสม
อย่างไรก็ตาม กระแสการต่อสู้เริ่มเอนเอียงไปทางวิโ?ร่า
ไม่ว่าดาบของโนโซมุจะยังคงเฉือนผ่ายภักคุกคามที่เข้าใกล้เขามากแค่ไหน พลังเวทย์ของเธอยังคงพุ่งสูงขึ้นเหมือนสึนามิและแขนที่ฟื้นฟูอันน่าทึ่งไม่มีโอกาสให้ตอบโต้
(แม้ว่าจะสามารถใช้พลังของเทียแมตได้ แต่ก็ยังไม่พอเหรอเนี่ย!)
ความรู้สึกที่ถูกผลักดันเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆทำให้โนโซมุกัดริมฝีปาก
ความแตกต่างระหว่างทั้งสองถูกกำหนดโดยความแตกต่างง่ายๆ ขอพลังและเผ่า
โนโซมุที่ผอมและตัวเล็ก นั้นมีพละกำลังอันเหมาะสมกับสภาพร่างกายของเขา แต่วิโทร่าที่ปลดปล่อยพลังออกมาโดยไม่สนใจอะไรเลย
โดยปกติคนที่เริ่มที่หลังและวิ่งหนักสุดจะเหนื่อยก่อน
แต่ว่าวิโทร่านั้นผิดปกติในบรรดาแวมไพร์และยิ่งเธอได้รับบาดเจ็บมากเท่าไหร่ วิโทร่าก็ยิ่งมีพลังเวทย์เพิ่มมากขึ้นเท่านั้น มากจนจะระเบิดตัวตายได้เลย
(มันไม่มีจุดสิ้นสุดเลยรึไง ความเจ็บปวดจะทำให้เธอแข็งแกร่งขึ้นงั้นเหรอ!)
เหนือสิ่งอื่นใดการโจมตีที่ควรจะถึงแก่ชีวิตก็ไม่ใช่บาดแผลร้ายแรง ข้อเท็จจริงนี้บังคับให้โนโซมุต่อสู้เป็นเวลานานอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
(อ่า……)
ขณะที่ใช้ทักษะเขาปรับลมหายใจและทำให้จิตใจเย็นลง
จะจัดการความเหลื่อมล้ำระหว่างพวกเราได้ยังไง? การโจมตีแบบไหนที่จะก้าวข้ามการฟื้นฟูของเธอได้?
กุญแจสำคัญคือพลังของมังกรเทียแมตที่เขาครอบครอง คำถามคือจะต้องใช้มันแบบไหนถึงจะมีประสิทธิภาพสูงสุด
เวทมนตร์ที่ถูกปลดปล่อยออกมามันมากมายมหาศาล และมันเริ่มยึดติดกับเขตแดนและสร้างพื้นที่ผิดแปลกมากยิ่งขึ้น ต้องทำอะไรสักอย่างกับวิโทร่าที่ยังคงปล่อยพลังเวทย์ แถมยังไม่สามารถเข้าใกล้เธอได้อีก
นอกจากนี้เป็นไปไม่ได้ที่จะหาตัวเธอเจอแม้จะใช้การโจมตีทะลวงเข้าไป มันยังทรงพลังไม่พอที่จะทำให้เธอน็อค
แล้วจะทำยังไงดี หนทางมีเพียงหนึ่งเดียว
(ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทำมันจริงๆ ลุยกันเลย!)
เมื่อตัดสินใจโนโซมุก็กระโดดเข้าไปและลงมือทำ
เขาหยิบไร้นามขึ้นมาและยกกำปั้นขึ้นแทนดาบเพื่อตอบสนองการโจมตีวิโทร่า
「อุมุ?」
「อั่ก!」
ในขณะที่ทนต่อกำปั้นที่รัวใส่เป็นปืนกลเขาก็สามารถจับการโจมตีของแขนที่ผิดรูปได้
ตามมาด้วยปีกอันแหลมคมของเธอ เขาถอดฝักดาบจากเข็ดขัดที่เอวแล้วใช้มันในมืออีกข้างเป็นเหมือนดาบสองมือ
「ย๊ากกกกกกกกกห์!」
เมื่อเขาก้าวเข้าไปและเตะแขนซ้ายของวิโทร่าที่ยื่นออกมา หมุนตัวด้วยแรงที่ถูกซัดเข้ามาก่อนหน้านี้ฟันเข้าไปยังแขนเสริมของวิโทร่าขณะที่กำลังเข้าใกล้แขนขวาที่เป็นปกติ
วิโทร่าได้แต่อึ้งกับการเต้นรำท่ามกลางการโจมตีของเขา มันมุ่งมั่นยิ่งกว่าครั้งก่อนๆ
「นั่นอะไรน่ะ ราวกับจะเชิญชวนฉันไปเต้นรำด้วยกันยังงั้น!?」
ราวกับตอบสนองความคิดของวิโทร่า『อาภรณ์ปีศาจน้ำแข็ง』ถูกปล่อยออกไป
เขาสร้างช่องว่างระหว่างพายุที่พัดผ่านเข้ามาและเขยิบเข้ามาใกล้
(ไอ้บ้าเอ้ย ยังไม่ดีพอหรอก อาจเป็นเพราะต้องแบกรับคมดาบไประหว่างทางด้วย!)
บางทีอาจเป็นเพราะเนื่องจากการประดิษฐ์ท่าขึ้นมาใหม่จากท่าทางดั้งเดิม จึงทำให้เกิดการเคลื่อนไหวที่ไม่จำเป็นมากขึ้น
การโจมตีของวิโทร่านั้นพยายามทำลายกระบวนท่าของเขา
(ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเคลื่อนไหวยังไง แต่ก็ไม่มีทางที่จะหยุดกระบวนท่านี้ได้หรอก เพราะการโจมตีของเธอมันอ่อนหัดเกินไป……)
ท่ามกลางพายุและการโจมตีด้วยหมัดและแขนของวิโทร่าอย่างต่อเนื่อง โนโซมุค่อยๆปรับท่าทางของดาบคาตานะ
ในขณะที่นึกถึงภาพในหัวที่ร่ายรำออกมาเป็นกระบวนท่า
(อะไรกัน ไม่ใช่แบบนี้งั้นเหรอ?)
「หะ?」
เพล้ง เพล้ง เพล้ง เพล้ง……。
การเคลื่อนไหวของโนโซมุและวิโทร่าเริ่มเป็นจังหวะเดียวกัน เขาเริ่มสามารถต่อต้านการโจมตีของวิโทร่าได้แล้ว
ดวงตาของโนโซมุเริ่มชินกับการเคลื่อนไหวของวิโทร่า
แน่นอนว่าความเร็วนั้นผิดมนุษย์ไปไกลโขและพลังโจมตีก็เช่นกัน แต่เนื่องจากแขนที่ขยายใหญ่ขึ้น การเคลื่อนไหวจึงถูกจำกัด ปัดออก ตบ และสะบัด มีเพียงสามทางให้เลือกเท่านั้น
เช่นเดียวกับการเคลื่อนไหวของแขนเสริม แม้ว่าจะมีแขนมากหมาย แต่การโจมตีก็กลับเรียบง่าย
นั่นเป็นเหตุผลที่ว่ามาตรการที่เขาคิดขึ้นมันกำลังได้ผล
ตึก ตัก ตึก ตัก วิ้งงงงงงงงงงงงงงงงง!
(……เยี่ยม)
และทันทีที่ทุกอย่างถูก『จดจำ』โนโซมุก็เริ่มเคลื่อนไหวทันที
เริ่มเคลื่อนที่ไปข้างหน้าอย่างมั่นคง
เขาปัดป้องการโจมตีทั้งหมดด้วยการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อย และหลบการโจมตีด้วยการพลิกส้นเท้า
เขาเบี่ยงเบนกระแสพลังเวทย์และเริ่มร่ายรำพร้อมกับเบี่ยงเบนแขนที่เข้ามาโจมตีด้วยดาบของเขา
「นี่มัน……คืออะไรกันแน่?」
การโจมตีทั้งหมดไม่สามารถเข้าถึงตัวโนโซมุได้อีกแล้ว
เธอส่งเสียงงุนงงราวกับว่าเป้าหมายของเธอเป็นจดจำทุกสิ่งอย่างได้
ความรู้สึกนั้นถูกต้องวิโทร่านั้นเดินไปตามเกมของโนโซมุเรียบร้อยแล้ว
「บ้าเอ้ย ไอ้ความรู้สึกน่าขยะแขยงนี่มันอะไรกัน!」
แม้ว่าเธอจะมีความแตกต่างของพลังที่ท่วมท้น แต่หัวใจของเธอก็สั่นกลัวที่การโจมตีของเธอถูกมองออก
ความร้อนใจของเธอทำให้เธอติดกับดักที่โนโซมุวางเอาไว้
ปรมาจารย์ด้านการต่อสู้สามารถมองวิชาของคู่ต่อสู้เพียงแค่แรกเห็น และมันจะยิ่งเห็นผลมากขึ้นหากศัตรูเป็นฝ่ายที่มีทักษะต่ำกว่า ทั้งในด้านประสบการณ์ และด้านกลยุทธ์การต่อสู้
และหากมีความแตกต่างกันมากขนาดนี้ ฝ่ายที่เชี่ยวชาญจะสามารถควบคุมกระแสการต่อสู้ได้
ทิศทางที่ขยับทำให้สอนคล้องกับอีกฝ่ายเขาสามารถมองเห็นทุกอย่าง หลังจากได้เห็นทักษะของคู่ต่อสู้ในระยะเวลาหนึ่งเขาเรียกสิ่งนี้ว่า『ต้นแบบ』ที่สามารถสร้างขึ้นเพื่อตอบโต้กับอีกฝั่งได้
และการปรับใช้『ต้นแบบ』การโจมตีของคู่ต่อสู้ให้สอดคล้องการโจมตีของโนโซมุ
「อั่ก!」
และเมื่อรู้ว่าตัวเองตกหลุมพรางมันก็สายเกินไปแล้ว
พลังเวทย์ของเธอเริ่มไหลเข้าหาโนโซมุ แม้แต่พลังเวทย์ทั้งหมดที่ถูกปลดปล่อยออกมาก็ถูกโนโซมุดูดซับไปเรื่อยๆ
「ไม่จริงงง!」
ในที่สุดวิโทร่าก็เริ่มสติหลุด
ในขณะที่มีคำถามมากมายผุดขึ้นมาภายในใจ โนโซมุบดขยี้การโจมตีของวิโทร่าและปิดระยะห่าง
「ฮะฮ่า นี่เจ้าใช้ลูกเล่นแบบไหนกัน โนโซมุ เบลาตี้!」
「ก็ไม่ได้ทำอะไรเป็นพิเศษ ก็แค่ก็อปปี้การโจมตีของเธอเป็นต้นแบบและผมก็ตอบโต้ในลักษณะเดียวกัน และทำให้เธอต้อง “ถวาย” พลังเวทย์ทั้งหมดให้กับผมเท่านั้นเอง」
เวทย์พิธีกรรม คลื่นแห่งชีวิต
เดิมทีปกติจะใช้เพียงแค่ร่างกายของเขาเท่านั้นในการใช้ทักษะนี้ เพื่อดูดพลังเวทย์โดยรอบและเสริมพลังกายให้กับตัวเอง
แต่ว่า มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเร็วกว่าวิโทร่าด้วยพลังทางกายภาพเพียงอย่างเดียว ดังนั้นเขาจึงใช้ดาบเป็นสื่อเวทย์เพื่อดูดซับพลังเวทย์ของอีกฝ่ายเข้ามาหาตัวเอง
โนโซมุนั้นใช้คลื่นแห่งชีวิตขั้นสมบูรณ์ได้แล้วเนื่องจากโซ่ตรวนในตัวเขามันไม่ใช่ผนึกอีกต่อไป
นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าเขาสามารถใช้ดาบคาตานะควบคู่ไปกับการใช้คลื่นแห่งชีวิตได้ สไตล์การต่อสู้ของวิโทร่านั้นเหมือนเด็กหัดเดิน เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้โนโซมุสามารถใช้มันได้
ด้วยเหตุนี้เขาเลยดัดแปลงมันแบบสดๆ
พลังเวทย์ไหลเข้าสู่ร่างของโนโซมุ เพื่มความสามารถทางร่างกายเขาอย่างมาก
นอกจากนี้เมื่อเวทย์พิธีกรรมเริ่มดูดพลังเวทย์ของวิโทร่าเข้ามา ทั้งพลังและความแม่นยำของวิโทร่าก็ลดลงมาก
เดิมทีพลังเวทย์ที่ปล่อยมาโดยไม่ผ่านึคำร่ายหรือวงเวทย์เป็นผลมาจากพลังเวทย์อันบริสุทธิ์ของเธอที่สามารถเปิดใช้งานได้โดยไม่ต้องผ่านสื่อกลาง
นอกจากนี้ รวมกับ『ต้นแบบของโนโซมุ』ตัวเธอเองก็ถูกหลอมรวมเข้าไปกับคลื่นพลังแห่งชีวิตด้วย
ด้วยเหตุนี้จึงลงเอยที่ว่าเธอเป็นถังพลังเวทย์ให้กับโนโซมุ
จากนั้นเมื่อรวบรวมพลังเวทย์เข้ากับพลังของเทียแมต โนโซมุก็เริ่มบุก
「อ๊ากกกกกกกก!」
เมื่อเขาระเบิดพลังเวทย์ออกมาเขากวาดล้างแขนของวิโทร่าทั้งหมดด้วย『ไร้นาม』และพลังของเทียแมตก็มารวมกัน
ก่อนหน้านี้ที่สู้กับจิฮัดโนโซมุไม่สามารถควบคุมพลังเวทย์ได้ในการใช้คลื่นแห่งชีวิต
แต่ตอนนี้ที่เขาสามารถควบคุมโซ่ตรวนผนึกวิญญาณได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้เขาสามารถควบคุมพลังเวทย์และสร้างคมดาบที่เขาต้องการได้
「ฮะ ฮะ ฮะ……ไอ้สัตว์ประหลาดเอ้ย……」
เสียงอุทานออกมาจากปากของวิโทร่า
คมดาบที่ถูกหลอมรวมด้วยพลังเวทย์ที่อยู่ในเขตแดนทั้งหมดและพลังของเทียแมตมันย้อมเป็นสีน้ำเงินอ่อนห่อหุ้มพลังแห่งต้นกำเนิดทั้งห้า
「เอาไปกินซะ ยัยแวมไพร์เฮงซวย!」
จากนั้นมันได้ถูกปลดปล่อยออกมา
วิโทร่าใช้แขนป้องกันแต่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างขาดวิ่นเป็นสองส่วนแม้กระทั่งตัวเธอเอง
พลังเวทย์จำนวนมากถูกปลดปล่อยออกมาและพลังงานต้นกำเนิดทำให้แขนของเธอแหลกเป็นผุยผงในทันทีตั้งแต่ส่วนอกของเธอไปถูกสะบั้นจนละเอียดยิบ
「บ้าน่า แบบนี้มัน อ๊าาาาาาาาาาาาา!?」
ความเจ็บปวดที่เธอสูญเสียร่างกายไปเจ็บสิบเปอร์เซ็นต์ของร่างทั้งหมดในคราวเดียวทำให้สติของวิโทร่าหลุดลอย
จากนั้นโนโซมุก็เข้าหาเธอในทันทีและใช้ “ปืนใหญ่”
「อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา!」
กำปั้นทะลวงหน้าอกของเธอที่กำลังฟื้นฟู
นอกจากนี้ยังปลดปล่อยพลังของเทียแมตเข้าไปในกำปั้นอย่างสุดกำลังทำให้วิโทร่าลอยอยู่ในสภาพที่มีร่างกายส่วนบนอยู่บนหมัดของโนโซมุ
ไม่ว่าจะเป็นคลื่นแห่งชีวิต ทะลวงแกนกลาง ทุกอย่างเป็นเพียงบันได
เป็นเพียงการเตรียมการเพื่อที่จะลบวิโทร่าให้หายไปอย่างสมบูรณ์ซึ่งไม่สามารถทำร้ายเธอจากภายนอก
「มันจบลงแล้วยัยแวมไพร์เฮงซวยผมจะบดขยี้จิตวิญญาณของเธอทิ้งซะ!」
จากนั้นเมื่อเขากระแทกร่างของเธอลงกับพื้นขณะที่ลอยอยู่ในอากาศ เขาก็ปล่อยพลังมังกรเข้าไปที่หัวใจของเธอ
『ระเบิดทำลายล้าง』
แหล่งพลังต้นกำเนิดทำลายล้างได้ถูกปลดปล่อยเผาผลาญร่างของวิโทร่าในทันที แม้แต่จิตวิญญาณของเธอถูกทำลายจนหมดสิ้น และเกิดเสาแห่งแสงขนาดใหญ่
ข้อมูลเสริม
วิโทร่า รุฒลักษณ์ ดาร์ต วาจาร์ต
เจ้าหญิงแวมไพร์ สัตว์ประหลาดที่เหนือกว่าโนโซมุในทุกๆด้าน เมื่อเธออยู่ในภาวะตื่นตัว(มีอารมณ์) การโจมตีของเธอจะเรียบง่าย
ทักษะการต่อสู้เข้าขั้นเด็กหัดเดิน แต่เธอเป็นเจ้าหญิงที่มีสูตรโกงติดตัวดังนั้นเลยไม่ต้องฝึกทักษะการต่อสู้ให้เสียแรง และเธอยังมีพลังที่สามารถต่อกรกับมังกรแห่งวิญญาณได้แบบตัวต่อตัว
จุดอ่อนอันใหญ่หลวงที่สุดของเธอ นั่นก็คือเธอพึ่งพลังที่ไร้ก้นบึ้งของเธอมากเกินไปและจัดการคู่ต่อสู้แบบ One Turn Kill ทำให้เธอไม่มีประสบการณ์ด้านการต่อสู้
หากสามารถหาวิธีรับมือกับพลังเวทย์ที่ไร้ก้นบึ้งและการฟื้นฟูร่างกายที่เหมือนกับพวก ปลาดาว และ พลานาเรีย ก็สามารถเอาชนะเธอได้
สิ่งเดียวที่เหลืออยู่คือบุคลิกของเธอที่เป็นแวมไพร์ที่เต็มไปด้วยความละโมบโลภมาก
โนโซมุเอ็งเก่งมากที่ตบตีผู้หญิง
สนับสนุนผู้แปลได้ที่ QR Code ข้างล่าง หรือเลขบัญชี108-0-77984-1 กรุงไทย ครับ
ลงให้อ่านแค่สองที่เท่านั้นคือ Goshujin.tk กับ Nekopost อ่านจากที่อื่นไม่มีภาพประกอบเพราะโดดดูดไปลงนั่นเอง