[นิยายแปล]โซ่ผนึก "หัวใจ" สายใยผนึก "มังกร" - ตอนที่ 164 บทที่ 8 ตอนที่ 21
บทที่ 8 ตอนที่ 21
「นี่ โนโซมุคุง ในที่สุดก็มาแล้วเหรอคะ」
ไอริสที่สวมชุดเดรสสีขาวบริสุทธิ์พร้อมเครื่องประดับสีเงินทักทายโนโซมุ
「เอ่อ……….ผมทำให้ไอริสต้องรองั้นเหรอ?」
「อืม นั่นสินะคะ ฉันคิดว่าถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไปงานเลี้ยงคงจบลงโดยที่ฉันไม่มีคู่เต้นรำด้วยแน่เลย」
ไอริสพูดแบบนั้น แม้จะมีผู้ชายมากหน้าหลายตาพยายามเข้ามาชวนเธอ
ถึงกระนั้นไอริสก็กล่าวว่างานเลี้ยงจะจบโดยที่เธอไม่ได้เต้นรำกับใคร และตอนนี้เธอตัดสินใจเลือกชายเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะเต้นด้วยกัน
「เอ่อ ก็ แบบว่าไอริสดูเหมือนจะยุ่งๆกับการทักทายแขกกับคุณวิคเตอร์ดังนั้นผมก็เลยออกไปเดินเล่นจนกว่าเธอจะทักทายเหล่าแขกเสร็จ……」
ในทางกลับกันแล้ว โนโซมุก็สมองทึบเกินกว่าจะเข้าใจความหมายที่แฝงอยู่ในการชวนเต้นรำ
เมื่อเห็นท่าทางของโนโซมุแล้ว ไอริสก็เริ่มหึงเขา
「โม่ววววววววน่าหงุดหงิดจริงๆเลย เรื่องแค่นั้นดิฉันรับมือได้อยู่แล้วคะ แล้วที่สำคัญแอบไปสนุกกับซีน่ากันสองคนสินะคะ……」
「เอ๊ะ……?」
พูดอะไรแบบนั้นน่ะ
ด้วยความรู้สึกหึงหวงอย่างรุนแรงไอริสก็บอกราวกับว่าโนโซมุกับซีน่ากำลังจีบกัน
ต้องบอกว่าไอริสเห็นฉากที่โนโซมุคุยกับซีน่าอย่างสนุกสนาน
(ฉันอยากจะคุยกับโนโซมุคุงมากๆเลยนะ โถ่ว!)
เมื่อนึกถึงตอนที่เธอถูกทิ้งไว้ให้อยู่กับเหล่าแขก เธอก็มองเขาด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย
「แบบนั้นมันโกงกันไม่ใช่เหรอไงคะ? ปล่อยให้ฉันอยู่คนเดียวและไปคุยกันอย่างสนุกสนานกันสองคนแบบนี้ น่าอิจฉา……」
「ไม่นะ ไม่ใช่เลย……」
ไอริสยังคงไม่พอใจ และโนโซมุก็รู้สึกว่าจะกลายเป็นปัญหาใหญ่
เป็นความจริงที่เขาคุยกับซีน่าอย่างสนุกสนานแต่ก็เป็นความจริงเช่นกันที่ทิ้งไอริสไว้คนเดียว
นอกจากนี้ แม้ว่าเขาจะยังไม่คุ้นเคยกับงานเลี้ยง แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ที่ปล่อยให้ไอริสต้องอยู่คนเดียว
「ไอริส ผมผิดไปแล้ว……」
「เฮ้อ ดิฉันขอโทษค่ะ ก็แค่ล้อเล่นเล็กน้อยเท่านั้นเอง」
สีหน้าของไอริสซึ่งไม่พอใจเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง รอยยิ้มอันแสนสุขปรากฏขึ้นบนใบหน้าเธอ
“ทำได้แล้ว!”ด้วยสีหน้าแบบนั้นบนใบหน้าของเธอ ในที่สุดโนโซมุก็รู้ตัวว่ากำลังโดนแกล้ง
「ไอริส……」
เมื่อเธอจ้องมองมาที่โนโซมุเขาก็ยักไหล่พร้อมกับถอนหายใจ ไอริสพึงพอใจเล็กน้อยที่ทำให้คนที่เธอรักหันมาสนใจเธอได้
「โนโซมุเองก็ดูลำบากน่าดูเลยนี่เห็นโดนคนล้อมเยอะเหมือนกันนะคะ」
「อืม บอกตามตรงทำตัวไม่ถูกเลยล่ะ」
「เหมือนกับลูกเป็ดหัดว่ายน้ำเลยนะ ฮิฮิฮิ….」
แม้ว่าเธอจะยุ่งกับการทักทายผู้คนและมาคุยกับโนโซมุเป็นการส่วนตัว แต่ไอริสก็ยังคงสังเกตมาที่โนโซมุระหว่างพูดคุยกับแขกได้
ถ้าจะให้อธิบายสีหน้าของเขาตอนนั้นมันตลกมากเลยล่ะ
บางทีอาจนึกถึงสภาพที่โนโซมุโดนบุคคลสำคัญรายล้อมไอริสยิ้มอีกครั้งหนึ่ง
「อุฟุฟุ……」
ไอริสที่กำลังหัวเราะก็ทำให้โนโซมุได้แต่ยิ้มอย่างเขินอาย
ไอริสพยายามกลั้นขำเอาไว้อย่างสิ้นหวัง
ไม่ว่าจะมองยังไงเธอก็ยังคงทำตัวสมกับวัยของเธอ
เป็นเรื่องยากมากที่รูปลักษณ์ปกติของเธอที่ปรากฏให้เห็นในทุกวันถูกซ่อนเอาไว้
ในทางกลับกันโนโซมุที่โดนหัวเราะก็รู้สึกมีปัญหาเล็กน้อย
「เอ่อมันตลกขนาดนั้นเลยเหรอ?」
「แค่นี้จะเป็นอะไรไป นายกับซีน่ายังไปคุยกันแบบสนุกๆได้เลยนี่ ถ้าอย่างนั้นฉันเองก็อยากสนุกเท่าที่ทำได้เหมือนกัน」
「นั่นหมายถึงการทำให้ผมเป็นตัวตลกแบบนี้เหรอ?」
「ถูกต้องตามนั้น (ก็ทิ้งให้ฉันเหงานี่)」
「นี่เห็นผมเป็นอะไรเนี่ย……」
ขอโทษนะ
ด้วยสายตาที่ประท้วงเธอเงียบๆโนโซมุจ้องไปยังไอริส ที่แต่ก่อนทำตัวทรงเสน่ห์ แต่ตอนนี้กลับเป็นเด็กซุกซน และเธอก็พูดกับตัวเองว่า “ไม่สิ”
หากเป็นแบบนี้โนโซมุก็คิดว่าคงทำอะไรไม่ได้
เขาถอนหายใจออกด้วยความเหนื่อยและหวาดกลัวเล็กน้อย
ไอริสมองมาที่โนโซมุพร้อมกับเอานิ้วทาบปากและมองมาด้วยความซุกซน
「ชุดนั้นมันต่างจากก่อนหน้านี้นี่?」
「เอ่อ ฉันพยายามทำให้ชุดเข้ากับทรงผมในตอนนี้มากที่สุด มันก็เลยแตกต่างจากตอนที่เราใส่ชุดนั้นซ้อมกัน คิดเห็นว่ายังไงบ้างคะ?」
ราวกับแสดงให้โนโซมุเห็น ไอริส โชว์เรือนร่างของเธอ
ชุดเดรสสีขาวบริสุทธิ์ถักด้วยผ้าไหมพร้อมกับผิวขาวอันเรียบเนียน รอยยิ้มอันแสนอ่อนโยนที่ใครเห็นก็ต่างต้องหลงใหล ร่างกายของเธอเปล่งประกายราวกับดวงจันทร์ที่ส่องสว่างท้องฟ้ายามค่ำคืน
「ถึงจะพูดแบบนี้ไปก็เหมือนกับข้อแก้ตัว แต่ว่าไม่ว่าชุดไหนก็เข้ากับไอริสได้ดีทั้งนั้น แม้จะให้อารมณ์ต่างจากไอริสแบบเมื่อก่อน ตอนนี้เหมือนกับ……」
「เหมือนกับ?」
「อะ เอ่อ นั่น……」
เมื่อสังเกตเห็นประโยคที่จะพูดออกไปโดยไม่ตั้งใจโนโซมุก็หุบปากทันที
「อะไรล่ะ? อย่ามาเงียบในสถานการณ์แบบนี้จะได้ไหมคะ?」
ในทางกลับกันไอริสยังคาใจกับสิ่งที่โนโซมุพูด ดังนั้นเธอเลยเข้าหาเขาโดยไม่ลังเล
ใบหน้าเรียบเนียนงดงาม ดวงตาสีดำสนิทเข้ากับผมสีขาวบริสุทธิ์ โนโซมุหน้าแดงและสะดุ้ง
ในทางกลับกันไอริสนั้นที่เห็นปฏิกิริยาของโนโซมุก็ได้แต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
ความจริงที่ว่าเขากำลังใจเต้นกับไอริสในตอนนี้ ทำให้ไอริสรุกเข้าหาโนโซมุเรื่อยๆด้วยรอยยิ้มแสนซุกซน
「เอาล่ะ พูดออกมาซะ โนโซมุคิดยังไงกับฉันกันแน่?」
“อยากให้มองมาที่ฉันมากกว่านี้ ไม่อยากให้นายไปสนใจใครอื่นอีก ขอแค่มีฉันอยู่ตรงหน้านายได้ไหม”
ด้วยความคิดเช่นนั้นในใจไอริสจึงรุกเข้าใกล้โนโซมุเรื่อยๆ……。
「เหมือนกับเทพธิดาแห่งดวงจันทร์ งดงามมากจริงๆ บ้าเอ้ย……」
「…………」
จากนั้นไอริสที่โดนโนโซมุเคาน์เตอร์ด้วยการชมเธอแบบตรงไปตรงมา
คำพูดของโนโซมุที่พูดออกมาจากใจทำให้ไอริสเริ่มเขินอาย
「ทำไมจู่ๆถึงหันหลังล่ะ ก็ให้ผมเป็นคนพูดเองไม่ใช่เหรอไง?」
ผิวของเธอกำลังกลายเป็นสีแดงเข้มเธอรีบเอามือปิดหน้าและหันหลังให้กับโนโซมุ
เธอกำลังอายอย่างชัดเจน
แก้มของเธอที่โผล่ออกมาจากผมขาวบริสุทธิ์นั้นกำลังแดง
「ไอริส อายงั้นเหรอ?」
「……ไม่ได้อายสักหน่อย」
น่ารักจัง
เมื่อพูดถึงกับตอนที่พูดคุยกับซีน่า เขาเองก็มีปฏิกิริยาเช่นนี้เหมือนกัน
「ไม่อยากจะเชื่อเลยนะว่าเธอจะอายเธอบังคับให้ผมพูดเองนะ……」
อยากจะแกล้งสักหน่อย
ด้วยแรงบันดาลใจนั้น ราวกับไอริสที่พยายามแกล้งเขาก่อนหน้านี้ โนโซมุยังคงแกล้งเธอต่อ
「ก็บอกว่าไม่อายไงมองหน้าฉันสิ!」
「ว๊าาาาาาาาา!」
ไอริสโต้กลับอย่างดุเดือด
เธอคว้าแก้มโนโซมุด้วยมือขวาและหยิกอย่างจริงจัง
「อาาาา ไอริส เจ็บนะ」
「นี่แนะ อย่าทำแบบนี้อีกนะ……!」
ไอริสดึงแก้มของโนโซมุอย่างเชี่ยวชาญ
แม้ว่าจะมีท่วงท่าอันสง่างามแต่ใบหน้านั่นก็เป็นตัวบ่งบอกได้ชัด ภาพของละครที่มีฉากรุกรับของสามีภรรยากำลังเป็นที่จับจ้องของคนอื่นๆ
「ไอริส ไอริส」
「มีอะไรคะ!」
「คนมองพวกเราหมดแล้ว」
「……เอ๊ะ?」
หลังจากที่โนโซมุบอก ไอริสก็รู้ตัวแล้วว่าตัวเองเด่นขนาดไหน
เมื่อมองไปรอบๆก็เห็นเหล่าแขกทั้งหลายกำลังจับจ้องมาทางนี้ราวกับไม่อยากจะเชื่อสายตาตนเอง
ลูกสาวของขุนนางที่สนใจโนโซมุเองก็ช็อคไปตามๆกันและอ้าปากค้าง
「อ๊าาาาาาาาาาาาาาาา~~~!」
ด้วยความเขินอายจนถึงขีดสุดไอริสหยิกแก้มโนโซมุอย่างรุนแรง
จากนั้นก็สะบัดมือออกมาอย่างแรงที่สุดเท่าที่จะทำได้
ปึก ! นอกจากแก้มที่ยืดจะดังแบบนั้น เสียงกรีดร้องของโนโซมุยังดังก้องไปทั่ว
「อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกก!」
โนโซมุที่กำลังดิ้นรนด้วยความเจ็บปวด ไอริสก็หันหลังพร้อมกับไขว้แขน
นี่เธอจะเอาแต่ใจไปไหนเนี่ย
โนโวมุจับแก้มที่แดงช่ำของไอริสและขอโทษเธอ
「ขอโทษที ขอโทษนะ ไม่ได้คิดว่าจะแกล้งแรงไปหน่อย」
อย่างไรก็ตามเธอยังคงพองแก้มและทำหน้าไม่พอใจสุดๆ
แม้จะเสียใจที่แกล้งเธอเยอะเกินไปหน่อย แต่ท่าทางของไอริสในตอนนี้ไม่ต่างจากโซเมียเลย
「สุดท้ายแล้วก็เป็นเหมือนกันทั้งพี่ทั้งน้องเลย ทำตัวเหมือนโซเมียมากเลยนะวันนี้」
「……ฮื่ม」
「ไม่ใช่แค่น่ารักอย่างเดียว แต่ยังงดงามในเวลาเดียวกัน ดูเหมือนกับเทพธิดาจริงๆนะ」
「……จริงเหรอ?」
「ผมเคยโกหกเธอด้วยเหรอ……」
รูปร่างที่สง่างาม แม้ท่าทางจะดูเหมือนเด็กไปหน่อยแต่ก็น่ารักไปอีกแบบ
โนโซมุคิดอย่างนั้นจากใจจริง
นั่นคือทั้งหมดที่โนโซมุจะสามารถบอกเธอได้
เดิมทีโนโซมุเองก็พูดไม่เก่งและไม่เก่งเรื่องการชมใครสักเท่าไหร่
เขาไม่ค่อยได้คุยกับใครเลย
“ให้เวลากับพวกเธอบ้าง”
นั่นคือคำแนะนำที่ได้รับมาจากมาดามพัลรีนก่อนหน้านี้ เพื่อไม่ให้คนที่ห่วงใยต้องวิตกกังวล
จากคำแนะนำนั้นโนโซมุก็คิดว่ามันจะง่ายกว่าถ้าเขาพูดออกไปตรงๆไม่อ้อมค้อม
แต่สำหรับไอริสคำพูดที่ตรงไปตรงมาของโนโซมุ มันฟังดูอ่อนหวานและน่าตื่นเต้นยิ่งกว่าคำชมไหนๆที่เธอได้รับมาจากใคร
「……เข้าใจแล้วค่ะ เฮ้อ」
ภายในใจแม้จะมีความหงุดหงิดอยู่เล็กน้อยแต่ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขชั่วพริบตา
ก่อนที่จะรู้ตัว ก็ไม่ได้แคร์สายตาคนรอบข้างอีกแล้ว
ไอริสตกใจเล็กน้อยที่จิตใจเธอเปลี่ยนไปไวเช่นนี้ แต่เธอก็ดีใจกับความสุขที่เธอได้รับมา
ในขณะนั้นดนตรีอันยิ่งใหญ่ก็ดังขึ้น
หากมองใกล้ๆก็จะเห็นว่าเหล่าชายหญิงต่างไปยืนกันที่ห้องโถงเริ่มจับมือกันกลางห้องโถงใหญ่
การเต้นรำได้เริ่มขึ้นแล้ว
「ทุกอย่างเริ่มแล้วนะ」
「เอ่อ……」
ไอริสหันกลับมามองและยิ้มท้าทายโนโซมุ
「โนโซมุเตรียมพร้อมรึยังคะ?」
「เอ่อ นั่นสินะ……」
อืม ! กำลังใจพร้อมเตรียมพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับไอริส
เมื่อนึกถึงการฝึกฝนที่ซ้อมมาทั้งหมด เขาเอามือวางไว้บนอกแล้วค่อยๆยื่นออกไป
「คุณผู้หญิง ไม่ทราบว่าจะช่วยเต้นรำกับผมสักหนึ่งบทเพลงจะได้ไหมครับ?」
「แน่นอนค่ะด้วยความยินดี……」
ด้วยเสียงแห่งความดีใจและตื้นตันใจไอริสยื่นมือไปหามือของโนโซมุด้วยความยินดี ขณะที่โนโซมุกำลังประหม่าเล็กน้อย
และทั้งสองก็เริ่มเดินเข้าห้องเต้นรำ
ทั้งสองคนเริ่มเต้นรำท่ามกลางบนดนตรีอันแสนไพเราะ
เริ่มจากเท้าขวาพร้อมกับการเคลื่อนไหวอันเป็นธรรมชาติของไอริสและโนโซมุที่
ขณะที่พวกเขากำลังเต้นรำไปได้อย่างราบรื่นและจับมือกันและกันอย่างอบอุ่น
「ว้าว……」
「ห๊ะ สุดยอด……」
เสียงอุทานของเหล่าแขกที่มาร่วมงานต่างชื่นชมให้กับลีลาของโนโซมุและไอริส
นอกเหนือจากไอริสแล้วคนอื่นๆไม่คิดว่าโนโซมุจะทำได้ดีถึงขนาดนี้
เดิมทีโนโซมุนั้นเชี่ยวชาญด้านการต่อสู้ หลังของเขาตั้งตรงและท่าทางของเขาก็เหมือนกับถอดแบบจากการต่อสู้
เมื่อรวมเข้ากับจังหวะทั้งสองคนการเคลื่อนไหวนั้นก็เต็มไปด้วยความสามัคคี
ในขณะที่ข้างนอกกำลังตื่นเต้นกันโนโซมุกับไอริสกำลังจดจ่อกับฝ่ายตรงข้าม
ในสายตาของพวกเขามีกันและกัน
ด้วยความเร่าร้อนที่ส่งผ่านมือที่ซ้อนทับกันความเร่าร้อนที่พุ่งออกมาจากอกยังคงเป็นแรงผลักดันต่อไป
พวกเขาหมุนตัวสองสามครั้งก่อนจะกลับไปด้านหลัง และเมื่อหันหลังกลับมาโนโซมุก็ยกมือขึ้นในขณะที่ไอริสหมุนตัวกลับมา
จากนั้นโนโซมุและไอริสก็ปล่อยแรงไปตามจังหวะและสลับตำแหน่งกัน
โนโซมุที่ถอยห่างกันเล็กน้อยก็กลับมาจับมือกันอีกครั้งพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้าของทั้งสอง
「เมื่อพูดถึงเรื่องนี้เห็นบอกว่าอยากจะทดแทนบุญคุณสินะ」
ขณะเต้นรำไอริสพูดกับโนโซมุอย่างกะทันหัน
โนโซมุตกใจอยู่ครู่หนึ่ง และก็ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
「……อืม แล้วอยากจะให้ผมตอบแทนด้วยอะไรดีล่ะ?」
ไอริส ได้ยินมาว่าโนโซมุอยากจะตอบแทนไอริส แต่ไอริสก็ได้แต่คิดว่าจะให้เขาทำอะไร
สิ่งที่ผ่านมาในใจเธอนั่นคือเพื่อนร่วมรุ่นที่สนใจในตัวโนโซมุเช่นเดียวกัน ซีน่าซึ่งสวมเดรสสีฟ้า
ไอริสรู้ความหมายของพันธสัญญาโลหิตที่ซีน่าเข้าหาโนโซมุ เธอแทบจะจินตนาการถึงผลของการกระทำนั้นขึ้นมาว่าหนักหนาเพียงใด
และเมื่อเห็นซีน่าที่ต่อสู้ได้ไม่เต็มที่ในวันนี้ ลางสังหรณ์ของเธอก็ชัดเจนแล้ว
ในเวลาเดียวกันซีน่าได้ตัดสินใจละทิ้งความฝันเพื่อจะอยู่เคียงข้างโนโซมุ
ความมุ่งมั่นของซีน่าทำให้ไอริสอึดอัด
「……ไอริส?」
ไอริสที่ใบหน้ากำลังมืดหม่นก็ถูกโนโซมุเรียกด้วยความกังวล
ผู้ชายที่เธอรักกำลังจ้องมองเธออย่างใกล้ชิด เพียงแค่นี้ก็ทำให้ใจของเธอเต้นแรงและในขณะเดียวกันก็รู้สึกเศร้า
ความปรารถนาที่อยากจะ “ใกล้ชิดกันมากกว่านี้……”และความรู้สึกผิดที่ว่า “ฉันไม่สามารถทำเช่นนั้นได้…”ปะทะกันมันทำให้สีหน้าของไอริสแสดงออกมาด้วยความเจ็บปวด
ถึงกระนั้นเธอก็ไม่สามารถให้โนโซมุรับรู้ความรู้สึกที่แท้จริงของเธอได้
กลั้นน้ำตาที่กำลังจะเอ่อล้นออกมาและเปลี่ยนสีหน้าและถามออกไปด้วยความงุนงง
「ฉันอยากได้ของขวัญ ของขวัญทำมือของโนโซมุ……」
「ของขวัญงั้นเหรอ?」
「แบบเดียวที่มอบให้กับโซเมียไง? ฉันอยากจะได้บ้างไม่ได้เหรอ?」
สิ่งที่ไอริสต้องการคือของขวัญจากโนโซมุที่เคยมอบให้กับโซเมียเนื่องในวันเกิด
มันไม่ใช่ของหรูหราและงดงาม เป็นแค่ของขวัญทำมือ
แต่สำหรับไอริสแล้วมันมีคุณค่า
เมื่อเธอนึกถึงภาพของน้องสาวที่ได้รับของขวัญจากโนโซมุด้วยสีหน้ามีความสุข
และเธอก็อิจฉาน้องสาวตัวเองที่ได้รับของขวัญจากเขา
「ได้สิ ผมจะทำออกมาให้อย่างดีเลย」
「สัญญาแล้วนะคะ?」
「แน่นอน」
เธอยิ้มกลับให้กับโนโซมุ แต่ไอริสก็ยังคงแสดงสีหน้าเศร้าๆอยู่
ในขณะเดียวกันก็รู้สึกว่าโนโซมุทำตัวห่างเหินมากขึ้น
“ไม่เป็นไรหรอก ฉันไม่ได้มีความกล้ามากขนาดนั้น ฉันไม่ได้ใจถึงเท่าโซเมีย และฉันก็ไม่ได้จริงใจเท่ากับซีน่า ถึงกระนั้นฉันก็อยากที่จะ……”
บอกตัวเองว่าตัวเธอนั้นไม่สมควรที่จะอยู่เคียงข้างกับเขา ไอริสพยายามทำจิตใจของเธอให้เย็นดุจน้ำแข็ง
ถึงกระนั้น เธอก็ยังเป็นคนที่เก็บอาการเก่งโดยไม่ยอมแสดงออกมาทางสีหน้าได้ง่ายๆ
ไม่ว่าจะมองยังไงไอริสก็ดูเหมือนกับจะดีใจกับของขวัญที่โนโซมุจะมอบให้
「……ไอริส ทำไมถึงทำหน้าตาแบบนั้นล่ะ?」
「……เอ๊ะ?」
อย่างไรก็ตาม หน้ากากที่ถูกเติมแต่งนั้นแตกสลายอย่างง่ายดายด้วยคำพูดเพียงคำเดียวของโนโซมุ
「ทำสีหน้าราวกับจะร้องไห้ออกมาแบบนั้น……」
โนโซมุกำลังพูดอะไร? ฉันคนนี้เนี่ยนะจะร้องไห้
เธอที่ทำสีหน้าเช่นนั้นก็มองไปที่ดวงตาของโนโซมุก็เห็นว่าดวงตาของเขาดูเศร้าลงกว่าเดิม
「…………」
「เกิดอะไรขึ้น?」
ความประหลาดใจที่เขามองผ่านหน้ากากที่สร้างขึ้นมาตลอด และความร้อนที่ดีใจที่เขารับรู้ตัวตนที่แท้จริงของเธอในตอนนี้
ในทางกลับกัน ก็เกิดความกลัวที่ไม่อยากให้คนที่เธอรักรู้เจตนาที่แท้จริงปะปนอยู่ในส่วนลึกของอกเธอ
「ไม่เป็นไรหรอกค่ะ……」
「ไม่เป็นไรงั้นเหรอ เธอรู้สึกแบบนั้นจริงๆงั้นเหรอ……」
ดนตรีที่ก้องกังวานเป็นเวลานานเริ่มที่จะเบาลงเรื่อยๆ
ไอริสพยายามเคลื่อนไหวไปตามทำนองเอนตัวเข้าหาโนโซมุอย่างรวดเร็วและฝังใบหน้าของเธอไปที่อกของเขา
「ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรจริงๆ ขอร้องล่ะขอแค่ตอนนี้เท่านั้นอย่าได้ถามอะไรไปมากกว่านี้อีกเลยนะ…」
ด้วยความพ่ายแพ้และความรู้สึกผิดไอริสทำได้เพียงสะอื้นออกมาพยายามซ่อนตัวตนของตนเองต่อคนรอบข้าง
ในทางกลับกันโนโซมุไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นทำได้แต่โอบกอดไอริสที่เข้าหาเขา
ความเงียบเติมเต็มพวกเขาทั้งสองคน
โนโซมุไม่รู้เลยว่าไอริสคิดอะไรอยู่
ถึงกระนั้นก็ไม่สามารถปล่อยให้เธออยู่คนเดียวได้
ไม่อยากเห็นเธอต้องเศร้าใจ ด้วยเหตุนี้โนโซมุพยายามจะพูด
「ไอริส ผมน่ะ…….อึก!?」
ในขณะนั้นความหนาวเย็นก็แล่นผ่านกระดูกสันหลังของโนโซมุ
การปรากฏตัวออกมาที่เหนือยิ่งกว่ามังกรขาวอาเซลและยิ่งใหญ่กว่าตัวตนไหนๆที่เขารู้สึก
ความรู้สึกของอากาศหนาวเย็นที่ราวกับจะถูกโยนไปท่ามกลางทุ่งน้ำแข็งได้ทุกเมื่อ
สายตาของโนโซมุจ้องมองไปยังทางเข้าของงานเลี้ยง
「โนโซมุ?」
ไอริสที่สังเกตเห็นถึงความผิดปกติของโนโซมุและมองเขาด้วยความสงสัย
ก่อนที่จะรู้สึกตัวดนตรีก็หยุดลงและทุกคนต่างจับจ้องไปที่ทางเข้า
「อ่าาาา ขอโทษทีนะ ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ตกใจแต่อย่างใด」
สิ่งที่ปรากฏตรงนั้นคือหญิงสาวผมสีเงินสวมชุดเดรสสีแดงเข้ม
เธอนั้นมีจิตวิญญาณของราชวงศ์อันสูงส่งและความงามดุจน้ำแข็ง ผมสีเงินที่พริ้วไหวของเธอเปล่งประกายราวกับละอองเพชร
「ยินดีที่ได้รู้จัก นามของฉันคือ วิโทร่า รุตลักษณ์ ดาท วาจาร์ต เป็นหนึ่งในขุนนางของอาณาจักรดิซาร์ต」
ด้วยน้ำเสียงอันไพเราะที่อดไม่ได้จะดึงดูดทุกชีวิตและดวงตาสีแดงเข้มทำให้นึกถึงเจ้าหญิงแวมไพร์ เธอประกาศชื่อของเธอดังไปทั่วห้องโถง