[นิยายเเปล] WN เกิดใหม่เป็นผู้ชายสวะในมังงะ NTR แต่อนิจจานางเอกเขาจ้องจะเล่นคุณ - ตอนที่ 10 ถ้ารู้ความจริงเดี๋ยวจะขำกราก
- Home
- [นิยายเเปล] WN เกิดใหม่เป็นผู้ชายสวะในมังงะ NTR แต่อนิจจานางเอกเขาจ้องจะเล่นคุณ
- ตอนที่ 10 ถ้ารู้ความจริงเดี๋ยวจะขำกราก
“…ทำลงไปจนได้”
โซเฮย์ เพื่อนสมัยเด็กของชิซึนะเอามือกุมหัวด้วยความกังวลทันทีที่มาถึงโรงเรียน
เขาได้พบกับชิซึนะเเต่เช้า แม้ว่าจะได้คุยแล้วพบปะกันหลายครั้ง…แต่การแตะเนื้อต้องตัวกันมันน้อยกว่าเมื่อก่อน
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าโซเฮย์นั้นกำลังมองเธอในานะผู้หญิงคนนึงอยู่
“ชิซึนะ!”
เขาโอบเธอจากทางด้านหลังพร้อมกับเรียกชื่อ…มันเป็นสิ่งที่เขาเคยทำบ่อยๆ ในอดีต เขาคิดว่าถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนเขาคงจะไม่ถูกปฏิเสธ แต่มันตรงกันข้ามกันเลย เธอพูดออกมาตรงๆ ว่าไม่ชอบให้ทำแบบนั้น มันทำให้เขาตกใจมาก ต้องยอมรับไม่ว่าพวกเขาจะสนิทกันตั้งแต่เด็กแค่ไหนมันก็คงเป็นเรื่องปกติที่ต้องพูดแบบนั้น
“…ทำพลาดลงไปจนได้”
สายตาของชิซึนะตอนที่มองมาเเละน้ำเสียงที่มีความกดดัน มันทำให้โซเฮย์รีบออกจากตรงนั้นราวกับกำลังวิ่งหนีสายตาและน้ำเสียงที่เธอไม่เคยพูดแบบนั้นกับเขามาก่อน
‘…ชิชิโดะ ริวอิจิ’
เจ้านั่นมันก็เป็นแค่มะเร็งของห้อง เป็นไอ้ชั่วที่แม้แต่ครูก็ยังรับมือไม่ได้ เขาได้ยินข่าวลือมากมายเกี่ยวกับริวอิจิ มันทำให้เขาเชื่อว่าริวอิจิและตัวของเขาอยู่ในโลกที่แตกต่างกันเกินไป ไม่ใช่เพียงแค่เขาเท่านั้นแต่ยังรวมถึงชิซึนะด้วย
เเต่ช่วงนี้ชิซึนะชอบเข้าไปคุยกับริวอิจิบ่อยๆ เขาไม่เคยเห็นอะไรแบบนั้นมาก่อนพวกเขาดูใกล้ชิดกันมากขึ้น ถึงแม้ว่าริวอิจิจะมีท่าทีรำคาญ เเต่โซเฮย์ก็ไม่อยากจะเชื่อว่าชิซึนะจะเต็มใจคุยกับริวอิจิ
“…ทำไมกันล่ะ? “
เขาไม่สามารถหาเหตุผลได้ โซเฮย์ไม่ได้รู้จักริวอิจิและก็ไม่คิดจะเข้าไปคุยด้วย เขาต้องการใช้ชีวิตในโรงเรียนอย่างสงบสุขและไม่ยุ่งกับคนชั่วอย่างริวอิจิ
“โย่ มีอะไรหรือเปล่าโซเฮย์? “
“…โทชิกิหรอ”
ยามาโมโตะ โทชิกิ เขาเป็นเพื่อนร่วมชั้นและเพื่อนสนิทของโซเฮย์ เขาเฝ้าดูโซเฮย์ที่กำลังเอามือกุมหัวมาได้สักพักแล้วและเขาเองก็รู้สึกอดกังวลไม่ได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แน่นอนมันไม่มีทางที่โซเฮย์จะพูดเรื่องที่เขาเข้าไปโอบเพื่อนสนิทในวัยเด็กแล้วถูกปฏิเสธออกมาได้
“ไม่มีอะไรหรอก”
เมื่อเห็นโซเฮย์หลบสายตาขณะที่เขากำลังพูดนั้น โทชิกิก็เข้าใจว่าทำไมโซเฮย์ผมโกหกเขา ยังไม่ทันจะพูดอะไรต่อ ชิซึนะก็เดินมาในห้องเรียน
เธองดงามจนดึงดูดทุกสายตาในห้องเรียนมามองที่เธอ เธอได้เดินไปหากลุ่มเพื่อนสาวๆ ของเธอ และในขณะนั้นเธอไม่ได้ชายตามองมาที่โซเฮย์เลย มันทำให้เขารู้สึกเศร้าเล็กน้อย แต่เขาก็คิดได้ว่าทุกอย่างมันต่างไปจากเมื่อก่อนแล้ว
“นี่ๆๆ โซเฮย์ สงสัยจังเลยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับริวโด”
“นี่นายกำลังพูดถึงเรื่องของเธอกับชิชิโดะหรอ? “
“ใช่แล้ว เมื่อก่อนสองคนนั้นไม่เคยคุยกันเลยนี่ ฉันเชื่อว่าตอนนี้เจ้านั่นกำลังคุกคามเธออยู่สักทางแน่”
“…..”
เมื่อคิดว่าเธอกำลังถูกคุกคามอยู่ โซเฮย์เลยจะให้เตือนชิซึนะ แต่ชิซึนะกลับปฏิเสธเป็นไปได้ว่าเธอกำลังโกหกอยู่เพราะเธอกำลังถูกเจ้าหมอนั่นคุกคาม แต่คำพูดของเธอในตอนนั้นมันยังวนเวียนอยู่ในหัวของเขาซ้ำไปซ้ำมา
“ฉันไม่ได้ถูกข่มขู่อะไรหรอกจ้ะ ชิชิโดะเขาเป็นคนดีมากเลยรู้ไหม ก่อนหน้านี้เขาก็มาช่วยฉัน-“
เมื่อโซเฮย์ได้ยินเเบบนั้น เขาก็ตอบกลับในทันทีเพราะยังไงไอ้เรื่องพรรณ์นั้นไม่มีทางเกิดขึ้นได้อยู่แล้ว
หลังจากนั้นสายก็ถูกตัดไป ฟังจากน้ำเสียงของชิซึนะ ก็จะสามารถสัมผัสได้ถึงความไม่พอใจของเธอในตอนนั้นได้เลย
“…..”
ถ้า…ถ้าเกิดว่าชิซึนะเชื่อใจในตัวของริวอิจิจริงๆ ละก็
คำพูดที่โซเฮย์พูดในตอนนั้นคงจะไม่ถูกใจเธอเเน่
“…ฮา”
ในขณะที่เขากำลังคิดเรื่องนั้นอยู่ ริวอิจิก็เดินมาถึงห้องเรียนแล้วด้วย เขามีผมสีบรอนโดดเด่น ผิวสีแทน ตัวสูงใหญ่ ดวงตาเฉียบคมและติดต่างหู มันทำให้เขายิ่งดูมีความไม่น่าเข้าหามีเพียงไม่กี่คนในห้องเท่านั้นที่จะกล้าเข้าใกล้เขา อย่ามากสุดก็มีพวกที่มีนิสัยแบบเดียวกันเข้าหานี่แหละ
“ชิซึนะ…”
ในขณะที่ริวอิจิเข้ามาถึงห้อง ชิซึนะก็เข้าไปหาเหมือนกับทุกที ริวอิจิมีสีหน้าลำบากใจเล็กน้อยแต่ชิซึนะก็เข้าไปคุยด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม มันไร้วี่แววของการถูกข่มขู่หรือคุกคามเลย เห็นได้ชัดว่าเธอกำลังสนุกที่ได้คุยกับเขาจริงๆ
“….ไอ้เวรเอ้ย”
มีเสียงกระซิบอย่างแผ่วเบาออกมาโดยที่ไม่มีใครรู้ตัว
ชิซึนะไม่ใช่ผู้หญิงประเภทที่จะเข้าไปยุ่งกับคนไม่ดีแบบนั้นได้ ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เพื่อนสมัยนี้เด็กอย่างโซเฮย์นั้นรู้ดี จนโซเฮย์คิดว่าเขาคิดผิดหรือเปล่าที่ไปเชื่อข่าวลือนั้น
“มันไม่เคยมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นมาก่อนเลย เฮ้ นี่นายจะยืนดูเฉยๆ โดยไม่ทำอะไรจริงๆ เหรอตอนนี้เจ้าหมอนั่นจะแย่งรินโดไปจากนายแล้วนะ”
“….ถึงจะ…บอกแบบนั้นก็เถอะ”
สุดท้ายเขาก็ไม่สามารถพูดอะไรออกไปได้ สำหรับโซเฮย์นั้นมักจะว้าวุ่นและกังวลใจอยู่เสมอเวลาเป็นเรื่องของชิซึนะ เขารู้สึกเจ็บปวดที่เห็นเธอยิ้มแบบนั้นกับคนที่ไม่ใช่ตัวเอง
‘ใช่แล้วล่ะ…ฉันพึ่งพาเพื่อนสมัยเด็กอย่างเธอมากเกินไปจนตัวเองทำอะไรไม่ได้ ฉันจะต้องทำอะไรซักอย่างเพื่อจัดการกับชิชิโดะ’
เขาตัดสินใจอย่างแน่วแน่
ไม่ว่าจะต้องใช้วิธีแบบไหนเขาก็ไม่อยากจะเสียใจทีหลัง
เพราะฉะนั้นโปรดติดตามตอนต่อไป
“ฮะ…ฮัดเช้ย!”
ในช่วงพักกลางวันนั้นริวอิจิได้จามออกมาเสียงดัง อาจจะมีใครสักคนนินทาเขาอยู่ก็ได้หรือไม่ก็อาจจะเป็นแค่หวัดธรรมดา แต่การจามนั้นมันก็ดึงดูดสายตาของคนในห้องมากมายมามองที่เขา ริวอิจิหยิบทิชชู่ออกมาจากกระเป๋าแล้วสั่งน้ำมูกโดยไม่คิดอะไร
“…ไปฆ่าเวลาบนดาดฟ้าดีกว่า”
ริวอิจิลุกจากที่นั่งและมุ่งหน้าไปที่ดาดฟ้าเพราะเหลือเวลาอีกตั้งครึ่งชั่วโมงกว่าจะถึงคาบต่อไป ปกติแล้วดาดฟ้านั้นจะจะเปิดอยู่ตลอดเวลาให้ผู้คนได้เข้ามาใช้งานเสมอ แต่เนื่องจากไม่ค่อยมีใครขึ้นมา มันเลยเป็นสถานที่ที่เงียบสงบ
“…จะว่าไปก็ไม่ได้ไปที่นั่นมาสักพักแล้วนี่นา…เดี๋ยวคืนนี้ลองแวะไปหน่อยดีกว่า”
“ที่นั่น”หมายถึงบาร์สุดโปรดของเขานั่นเอง และช่วงนี้เขาก็ไม่ได้แวะไปที่นั่นเลย ไม่ได้มีแผนจะหม้อหญิงอะไรเป็นพิเศษ บางทีอาจจะทำให้คุณผู้จัดการร้านสบายใจก็ได้
“ชิชิโดะคุง? “
“…ขอให้ไม่ใช่รินโดด้วยเถอะสาธุ”
“น่าเสียดาย เเต่ฉันเองแหละ”
“…เฮ้อออ”
ริวอิจิถอนหายใจออกมาเมื่อรู้ว่าเสียงนั้นเป็นของใคร
ชิซึนะนั่งลงข้างๆ ริวอิจิและมองทิวทัศน์จากดาดฟ้า เขามองเห็นใบหน้าด้านข้างและผมของเธอปลิวไสวไปตามแรงลม ‘สวยจริงๆ นั้นเเหละ’ เขาคิดอยู่ในใจอีกครั้ง
“โอ้จริงด้วย แล้วเมื่อเช้านี้เกิดอะไรขึ้นเหรอ? “
“หืม? “
“…ฉันก็แค่อยากรู้เฉยๆ “
ดวงตาของชิซึนะเบิกกว้างไม่ได้ยินคำถามของริวอิจิ ไม่รู้ทำไมว่าเขาถึงถามแบบนั้น แม้แต่ตัวของริวอิจิก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม เขาแค่ไม่รู้ว่าจะพูดเรื่องอะไรดี ชิซึนะขยับปากต่อแบบช้าๆ
“…ไม่มีอะไรหรอก เเค่คิดว่าตัวเราเองก็แก่ขึ้นแล้วสินะ”
“ไม่ทันไรจะกลายเป็นคุณยายซะแล้วเหรอ”
“หยาบคายที่สุด!”
ชิซึนะใช้มือสะกิดไหล่ของริวอิจิด้วยความแรงเล็กน้อย
และทั้งสองก็ได้มองทิวทัศน์อยู่สักพักหนึ่งเเล้วซิซึนะก็เอ่ยปากพูดบางอย่างออกมา
“นี่ชิชิโดะคุง คือว่า…คืนนี้…อืม”
“คืนนี้วางแผนอะไรอยู่หรือไง”
“…เธอรู้ได้ยังไงกัน? “
“….อ่าว นี่แค่เดาเฉยๆนะเนี่ย ดันถูกซะงั้น”
การที่ริวอิจิเดาเรื่องของชิซึนะถูกมันทำให้เธอประหลาดใจ แต่เมื่อเขารู้ถึงเรื่องนั้นรสชาติของนิคุจากะก็แว๊บขึ้นมาในหัว ถึงแม้ว่าจะพึ่งกินข้าวเที่ยงเสร็จแต่ก็ยังรู้สึกเหมือนท้องจะร้องเลย
“ฉันว่าคืนนี้จะไปเดินเที่ยวในเมืองสักหน่อย โดยเฉพาะบาร์สุดโปรดของคุณผู้จัดการที่คอยดูแลฉันอะนะ”
“นี่เธอจะไปกินเหล้างั้นเหรอ? “
“บ้าหรอ ยังเด็กอยู่เขายังไม่ให้ดื่มหรอก”
“ถ้าดูจากภายนอก ฟังแล้วดูไม่ค่อยน่าเชื่อถือเลยนะชิชิโดะคุง”
“…ปากร้ายใช่ย่อยนะเธอ”
ถ้าเปรียบเทียบครั้งแรกที่ได้เจอกัน ถึงแม้มันจะไม่นานมากนัก แต่ตอนนี้ชิซึนะกลับสามารถเข้ามาคุยกับริวอิจิได้โดยไม่ลังเล น้ำเสียงที่นุ่มนวลนั้นทำให้เข้าหาคนอืนได้อย่างง่ายดาย
“เอาล่ะฉันตัดสินใจแล้ว ชิชิโดะคุง”
“ตัดสินใจอะไรอ่ะ? “
“เพื่อให้มั่นใจว่าชิชิโดะคุงจะไม่กินเหล้าอย่างแน่นอน ฉันจะตามไปด้วย”
“นี่เธอ อำกันเล่นใช่ไหม? “
“บอกเลยเรื่องนี้ฉันจริงจังมาก”
“……………”
ริวอิจิอ้าปากหวอ
เขาเคยคิดว่าชิซึนะนั้นเป็นคนที่ไม่คิดหน้าคิดหลัง เเต่ใครจะไปคิดว่าจะเป็นหนักขนาดนี้ ริวอิจิมีแต่จะต้องปฏิเสธเท่านั้น
“ไม่มีทาง เด็กผู้หญิงดีๆ ที่ไหนจะเข้าผับเข้าบาร์ล่ะเฮ้ย”
“ถ้าอย่างนั้น ฉันก็จะเป็นเด็กไม่ดีตอนอยู่กับเธอ ชิชิโดะคุงมีปัญหามะ? “
“นี่ก็เถียงเก่งจังนะคุณเธอ”
ชิซึนะเป็นคนที่จริงจังมากๆ เธอพยายามจะตามติดริวอิจิไปอย่างจริงจัง
“….เฮ้ออออออออ”
“ฮิๆ!♪”
‘ไม่ใช่หม่ำสักหน่อยขำอยู่ได้’ ริวอิจิถอนหายใจเฮือกใหญ่
“แม่คะ วันนี้หนูจะออกไปกินข้าวเย็นกับเพื่อนนะ”
“งั้น…บางทีแม่เองก็น่าจะออกไปกินข้าวเย็นข้างนอกด้วยดีกว่า”
“…แม่ฟังอยู่ไหมเนี่ย? “
“อะ ได้สิขอให้สนุกนะ”
“ค่า! ♪”
ซากิเอะยิ้มกับน้ำเสียงที่ร่าเริงของลูกสาวของเธอ
เเละเธอเองก็บอกลูกสาวว่าไปกินข้าวข้างนอกด้วย
“…ฉันเองก็อยู่บ้านมาสักพักแล้วเหมือนกัน บางทีคืนนี้ไปที่นั่นอีกสักครั้งก็ไม่เลวเหมือนกัน”
ซากิเอะยิ้มออกมาเมื่อนึกถึงการไปเที่ยวบาร์ครั้งนั้น เธอมีความทรงจำดีๆ เกี่ยวกับผู้ชายคนนึงที่อายุน้อยกว่าเธอมาก
โอ้พระสงฆ์ทำไมท่านถึงโหดร้ายขนาดนี้