นายฮ่อ คุณคือความลับที่ฉันบอกไม่ได้ - ตอนที่ 1 ได้ ฉันจะเเต่ง
ที่ทางเดินของโรงพยาบาล บรรยากาศราวกับถูกแช่แข็ง
"พ่อเธอเดินทางไปทำงานข้างนอกพอดี เลยให้ฉันมาบอกเธอว่าวันแต่งงานกำหนดไว้อีกสามวัน เตรียมตัวให้พร้อมล่ะ"
ใบหน้าบอบบางของสิงเหมี่ยวมีแต่ความขยะแขยงและไม่อยากจะมองเด็กผู้หญิงที่นิ่งเงียบอยู่ตรงหน้า
สำหรับลูกสาวที่เกิดกับอดีตภรรยาของสามี เธอก็ไม่ได้อยากคุยดีด้วย
ถ้าไม่ใช่เพราะครั้งนี้บ้านตระกูลฮ่อบอกว่าอยากได้เธอ บ้านตระกูลสือก็อยากจะได้ความสัมพันธ์นี้ เธอคงจะไม่มีวันปล่อยให้เมล็ดพันธุ์ราคาถูกนี่เข้ามาได้หรอก
"ถ้าไม่ใช่พ่อเธอล่ะก็ น้ำหน้าอย่างเธอจะไปมีปัญญาแต่งเข้าบ้านตระกูลฮ่อได้ยังไง โชคดีเเค่ไหนแล้ว…"
เมื่อเธอได้ยินน้ำเสียงแบบนั้น สือฮว่าแทบจะหัวเราะ
คนที่ไม่รู้ก็คงคิดว่ามันเป็นการต่อรองราคามหาศาล
โลกภายนอกบอกว่าลูกชายบ้านตระกูลฮ่อป่วยหนักและรักษาอยู่ต่างประเทศตลอด เลยยังไม่ได้แต่งงานและการแต่งเข้าของผู้หญิงนั้นก็เท่ากับการอยู่เป็นม่าย
สิ่งที่ออกจากปากของสิงเหมี่ยวที่ว่า "พ่อที่ดี" กลับไม่ลังเลที่จะรีบผลักไสเธอไป ราวกับสินค้าราคาถูกเพื่อประโยชน์สูงสุด
"คุณสิงก็ไม่ใช่แม่ของฉัน" สือฮว่าเงยหน้าขึ้นเผยให้เห็นใบหน้าขาวนวล "เรื่องดีๆแบบนี้ น่าจะให้ลูกสาวคุณรับไปถึงจะถูกสิ"
ใบหน้าของเธอสวยงาม แม้ว่าจะสวยหรู กลับสามารถแยกแยะข้อบกพร่องออกได้ คิ้วและดวงตาที่ซีดจางในสายตาสิงเหมี่ยวกลับช่างน่าขัน
"เพียะ!"
สิงเหมี่ยวยกมือขึ้นตบไปที่หน้าของเธอด้วยไฟในดวงตาของเธอ
"ถ้ามันไม่ใช่เพราะเธอยังมีประโยชน์ล่ะก็ น้ำเสียงที่เธอกำลังพูดกับฉันตอนนี้ เธอได้ตายแน่! บ้านตระกูลสือได้ตอบกลงที่จะแต่งงานครั้งนี้แล้ว ถึงตอนนั้นถ้าให้ต้องมัดไปก็ต้องทำ!"
สือฮว่าลูบใบหน้าที่รู้สึกชา
สิงเหมี่ยวเชิดหน้าขึ้นและมองไปทางของห้องคนไข้และเอ่ยปากเตือน "สือฮว่า ฉันแนะนำให้เธอตกลงดีๆ ถึงเธอจะเก่งหรือมีความสามารถแค่ไหนก็อย่าลืมยัยแก่ที่ยังอยู่ที่นี่ล่ะ ถ้าเธอกล้าหนี ฉันก็จะให้คนถอดท่อฟอกไตซะ แล้วก็ค่าใช้จ่ายมหาศาลนั่น…"
มือของสือฮว่ากำแน่น ความโกรธที่รู้สึกไร้เรี่ยวแรงแผ่ซ่านเข้ามาในใจของเธอ
สิงเหมี่ยวพูดถูก เธอไม่มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธ
เพราะถ้าเธอปฏิเสธคำแนะนำของแพทย์ ถึงจะออกไปทำงานทันที อาการของคุณยายก็รอไม่ได้นานขนาดนั้น
สือฮว่าสูดหายใจเข้าลึกๆ "ได้ ฉันจะแต่ง"
"ยอมตั้งแต่แรกก็จบ คุณยายที่อยู่ข้างในก็จะได้บาปน้อยลง เธอก็จะได้สบายหน่อย" สิงเหมี่ยวสวมแว่นกันแดดขนาดใหญ่อีกครั้ง รอยยิ้มดูถูกก็ปรากฏขึ้นที่มุมของเธอ "รอเธอแต่งเข้า แล้วค่าค่ารักษาพยาบาลที่เหลือตระกูลสือจะรับผิดชอบเอง"
พูดจบเธอก็หันหลังจากไป
จนกระทั่งแผ่นหลังเย่อหยิ่งได้หายไปจากทางเดิน สือฮว่าถึงกันกลับมา ขาของเธออ่อนแรงจนต้องพิงขอบประตู
"คุณยาย ขอโทษนะคะ"
ที่คุณยายบอกว่าไม่ว่ายังไงอย่าก้มหัวให้บ้านตระกูลสือ แต่หนูก็ให้คุณยายเป็นอะไรไปไม่ได้
——
สามวันต่อมา ตระกูลสือ
นี่อาจเป็นงานแต่งงานที่ร้างที่สุด บ้านตระกูลฮ่อเพียงส่งรถมาคันเดียวเท่านั้น
เพื่อหน้าตาตระกูลสือก็ยังคงแสดงสไตล์ที่ยอดเยี่ยม
ก่อนจากไป สิงเหมี่ยวได้เรียกให้สือฮว่าหยุด
"ไปแล้ว ทางที่ดีก็เชื่อฟังหน่อย ไม่งั้นฉันก็ไม่รับประกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นที่โรงพยาบาล!"
ขนตายาวของสือฮว่าขยับเล็กน้อย ดวงตาหลุบลงซ่อนความบึ้งตึงที่กำลังจะท่วมท้นในดวงตา
รถสปายเกอร์สีดำขับรถออกจากบ้านตระกูลสืออย่างช้าๆ ตรงไปข้างหน้าตลอดทาง ปริมาณการจราจรเพิ่มขึ้น สือฮว่ามองออกไปนอกหน้าต่างด้วยสายตาราบเรียบ ไม่ยินดียินร้ายอะไร
"ตอนนี้จะไปไหนเหรอคะ" เธอถามคนขับรถ
"คุณสือ คุณผู้หญิงได้เตรียมอาหารเย็นไว้แล้ว รอคุณและนายน้อยเข้าไป"
สือฮว่าขมวดคิ้วเล็กน้อยและถามว่า "นายน้อยของคุณไม่ได้รักษาอาการป่วยที่ต่างประเทศเหรอคะ?"
คนขับรถไม่ได้ตอบ สือฮว่าก็เข้าใจและไม่สามารถผ่อนคลายได้ ที่นั่นเธอทำได้แค่ทำตามที่เตรียมไว้
รถแล่นผ่านเมืองและไม่นานก็มาถึงบ้านของตระกูลฮ่อ
ประตูใหญ่เปิดออก คฤหาสน์หลังใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลาง ที่นี่คือกลุ่มคนที่มีอำนาจมากที่สุดในจิงตู มีความรุ่งเรือง น่าตื่นเต้นดึงดูดความสนใจ แต่กลับเป็นสถานที่ที่โหดเหี้ยมที่สุดด้วย
สำหรับเธอก็เหมือนการหนีเสือปะจรเข้
วนรอบทางสีเขียวก็มีเบนท์ลีย์สีดำจอดอยู่ไม่ไกล
คนบนรถเบนท์ลีย์ไม่ขยับ แต่คนขับรถกลับลงจากรถทันทีและเดินเข้าไปด้วยความเคารพ สือฮว่าอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองอย่างสงสัย เมื่อเห็นกระจกรถฝั่งตรงข้ามค่อยๆลดลงเผยให้เห็นเงาของชายคนหนึ่ง
ตัวเขาเปล่งประกายออร่าจับ ชุดสูทดูดีมีความเข้มงวดไร้รอยยับ ติดกระดุมอย่างพิถีพิถัน ใบหน้าด้านข้างที่หล่อเหลาและหยิ่งผยองนั้นคมชัด ดูเฉียบคมแต่แค่ไม่มีท่าทางบ่งบอกถึงอารมณ์อะไรเป็นพิเศษ
สังเกตเห็นที่เธอจ้องมอง บุคคลนั้นก็เงยหน้าขึ้น ดวงตาของเขาดูห่างเหินเหมือนดวงดาวที่หนาวเหน็บในคืนฤดูหนาว สือฮว่าที่ถูกเห็นโดยไม่คาดคิดก็สูดหายใจ
นอกจากนิสัยใจคอแล้ว ความเป็นผู้ชายดูสมบูรณ์แบบ ถึงอยู่ในแวดวงบันเทิงที่มีหนุ่มหล่อมารวมตัวกัน เขาก็น่าจะเป็นคนอันดับต้นๆ แต่เธอไม่เคยเห็นข่าวเกี่ยวกับเขาในนิตยสารฉบับไหนเลย
ภายในไม่กี่วินาที อีกฝ่ายก็ละสายตาออกไป ราวกับว่าเธอเป็นเพียงธาตุอากาศ
เหมือนกับว่าเปลืองสายตาถ้าจะมองต่อ
ไม่รู้ว่าเมื่อกี้ตัวเองไปสร้างความประหลาดใจในความคิดคนอื่นแบบไหน
"นายน้อย จะไม่อยู่ร่วมทานอาหารที่บ้านเหรอครับ วันนี้เป็น…"
ยังพูดไม่ทันจบก็ได้ยินเสียงราบเรียบ "อืม" ของฮ่อฉวนสือ น้ำเสียงเย็นชาพร้อมกับท่าทีไม่ใส่ใจ เห็นได้ชัดว่าเขาได้ตัดสินใจไปนานแล้ว
คนขับรถพยักหน้าอย่างเคารพและไม่ถามอะไรอีก
สายตามองดูเบนท์ลีย์จากไปอย่างช้าๆ เขายืนอยู่พักหนึ่ง จากนั้นก็นึกถึงสือฮว่าที่อยู่ในรถข้างหลังเขาได้ก็รีบมาเปิดประตูอย่างรวดเร็ว
"คุณสือ ลงรถเถอะครับ คุณผู้หญิงกำลังรอครับ"
คนที่เดินทางมาที่นี่มีทั้งร่ำรวยไม่ก็มีตำแหน่งที่สูง สือฮว่าไม่จำเป็นต้องไปสำรวจตัวตนของพวกเขา
เธอพยักหน้าและหยุดพยายามมองนู่นนี่ก่อนเดินตามเขาไป
เมื่อเดินไปจนถึงทางเข้าอาคารหลักที่ใหญ่ที่สุด คนรับใช้ก็พาเธอเข้าไปข้างใน
เด็กผู้หญิงอายุประมาณยี่สิบปีกำลังลงบันไดมาพร้อมจับราวจับแกะสลักและเมื่อเห็นเธอ ดวงตาก็เป็นฉายแววความรังเกียจ