นางบำเรอเติมใจ - ตอนที่ 100
เมื่อแกริคลั่นวาจาแบบนั้น ทุกอย่างก็ถูกจัดการโดยเร็ว พิรุณรักฝากครรภ์เรียบร้อยโดยมีคนตัวโตนั่งอยู่ข้างๆ บนรถเข็น
“เด็กแข็งแรงดีครับ ช่วงนี้คุณแม่ก็ดูแลตัวเองแล้วก็ทานอาหารที่มีประโยชน์แค่นี้ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วครับ”
“แล้วเรื่องอื่นล่ะครับ” พิรุณรักหันขวับไปมองแกริคทันทีที่เขาถามขึ้น เรื่องอื่นอะไรของเขา
หมอมองหน้าคุณพ่อมือใหม่ ก็รู้ใจทันทีได้แต่ส่ายหัว ป่วยแล้วยังจะซ่า แต่หมอจะว่าอะไรได้ ก็ได้แต่แนะนำตามความเป็นจริง
“ก็ควรระวังครับ ถึงจะทำได้แต่ก็อย่ารุนแรง ทั้งคุณพ่อคุณแม่นั่นแหละครับ” พิรุณรักรู้ทันทีว่าทั้งคู่คุยอะไรกัน หน้านวลแดงระรื่นขึ้นทันที
“ครับ” แกริครับคำหน้านิ่ง
เธออยากจะหันไปทุบเขาแรงๆ จริงๆ ถามอะไรไม่ดูสังขารตัวเองสักนิด พอตรวจเสร็จก็กลับมาที่ห้องพักของคนป่วย
“เป็นอะไร” แกริคถามคนที่นั่งหน้ามุ่ย
“เปล่าค่ะ”
“เปล่าอะไร เห็นอยู่ว่าเป็น โกรธอะไรฉัน” ตั้งแต่ออกจากห้องตรวจเขาก็เห็นเธอเอาแต่เงียบ
“ก็…คุณเล่นไปถามหมอแบบนั้นไม่อายรึไงคะ”
“อายอะไร เรื่องธรรมดา”
“ธรรมดาอะไร คุณป่วยอยู่นะ”
ถ้าเขาปกติดีเธอจะไม่ว่าสักนิด นี่ยังไม่หายดีก็เล่นไปถามเรื่องอย่างว่ากับหมอ
แกริคยักไหล่ ยิ้มขำให้กับคนขี้อาย ความจริงเขาก็ถามไปงั้นแหละ เห็นเธอว่าเขาหื่นดีนัก ตอนนี้เขาจะไปทำอะไรได้ อีกอย่างเขาก็เป็นห่วงเธอด้วยท้องอ่อนๆ แบบนี้ยิ่งต้องระวัง ใครจะไปทำถึงจะอยากก็เถอะ แต่ก็รู้สังขารตัวเองดี
“หิวไหม”
“เริ่มหิวแล้วค่ะ” เมื่อได้ยินแบบนั้นแกริคก็เรียกแซคเข้ามาให้ไปหาอะไรมาให้หญิงสาวกิน
“แล้วหมอบอกรึเปล่าคะว่าคุณจะออกจากโรงพยาบาลได้ตอนไหน”
“อีกสักอาทิตย์ หมอให้ไปทำกายภาพที่บ้านได้” พิรุณรักพยักหน้าเข้าใจ
หลังจากนั้นไม่นานหมอเข้ามาตรวจอาการของแกริคและให้เขากินยาไม่นานคนตัวโตก็หลับ แซคก็กลับมาพร้อมกับอาหารให้ว่าที่นายหญิง พิรุณรักก็ลงมือจัดการทันที
“คุณสามารถนอนอีกห้องได้เลยนะครับ สำหรับญาติ”
“ค่ะ” แซคชี้ไปที่ประตูบานหนึ่งที่อยู่ในห้อง ห้องพักของแกริคมันเหมือนคอนโดมากกว่าโรงพยาบาลซะอีก มีครบทุกอย่าง
“กระเป๋าผมเอาเข้าไปไว้ในนั้นให้แล้ว”
“ขอบคุณค่ะ”
“คุณเข้าไปพักผ่อนเถอะครับผมจะอยู่ตรงนี้เอง”
“ค่ะ” พิรุณรักเองก็มีอาการเหนื่อยล้าเหมือนกัน เธอเดินเข้าไปห้องที่แซคบอกแล้วจัดการอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วล้มตัวลงนอน หลับไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ ตื่นขึ้นมาก็ได้ยินเสียงโวยวายดังมาจากข้างนอก
“แซค เมียฉันอยู่ไหน”
แกริคตะโกนถามลูกน้องทันทีที่ตื่นขึ้นมาไม่เจอหน้าพิรุณรัก เจอแต่คนที่ไม่อยากเห็นหน้า
“ตื่นมาก็โวยวายเลยนะไอ้เสือ” เจสันเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับเกรสัน
“แด๊ด”
“ว่าไงเป็นอะไร”
“แซค” แกริคยังไม่ตอบคำถามบิดาแต่หันไปเคล้นลูกน้องต่อ
เกิดเป็นไอ้แซคนี่มันซวยจริงๆ ไม่มีโอกาสได้พูด แซคบ่นพึมพำ
“คุณปลายอยู่ในห้องครับ ผมบอกให้เธอไปพักเอง” แซคพูดอย่างอ่อนอกอ่อนใจ
“ที่แท้ก็หาเมียไม่เจอ “เกรสันพูดแหย่
พิรุณรักเมื่อได้ยินแบบนั้นเธอก็รีบเดินออกมาข้างนอกกลัวว่าแกริคจะโวยวายมากไปกว่านี้ แต่พอเดินออกมาก็เจอกับสายตาสี่คู่มองมา และมีคนที่เธอไม่รู้จักเพิ่มเข้ามาอีกคน ถ้าได้ยินไม่ผิด แววๆ เธอได้ยินแกริคเรียกแด๊ด
“ตื่นแล้วเหรอ” แกริคถามเสียงเบา
“ค่ะ” พิรุณรักเดินเข้าไปหาเขา
“นี่แด๊ดฉัน แด๊ดนี่ปลายฝนเมียผม โอ๊ย ตีทำไม” พิรุณรักเผลอมือไวตีแขนเขาเบาๆ ก็ใครให้เขาแนะนำเธอว่าเมียล่ะยังไม่ได้แต่งงานกันซะก่อน
“ฮ่าๆ” เจสันหัวเราะให้ลูกชาย สงสัยจะเจอของจริง
“เอ่อ..สวัสดีค่ะ” พิรุณรักยกมือไหว้
“สวัสดีหนูปลาย ยินดีต้อนรับสู่ครอบครัวของเรา เห็นหนูแล้วฉันนึกถึงแม่ไอ้พวกนี้” พิรุณรักยิ้มรับ ดีใจที่ครอบครัวของเขาไม่รังเกียจเธอ
เกรสันเห็นด้วยกับคำพูดของบิดา เห็นผู้หญิงไทยแล้วทำให้พวกเขาคิดถึงแม่
“กินอะไรแล้วใช่ไหม” แกริคถามหญิงสาว
“ค่ะ”
“งั้นแด๊ดกลับก่อน แค่แวะมาดูหน้าลูกสะใภ้” พิรุณรักลาบิดาของชายหนุ่ม
“แกไม่กลับรึไง” แกริคไล่เกรสัน
“ไม่ต้องไล่โว้ย ไปก่อนนะครับคุณปลาย”
หลังจากนั้นหนึ่งอาทิตย์แกริคก็กลับมาพักฟื้นที่บ้าน การทำกายภาพบำบัดก็ทำวันล่ะหนึ่งถึงสองชั่วโมง โดยมีแซคและพิรุณรักเป็นคนช่วย บางวันก็จะมีหมอจากโรงพยาบาลมาให้คำแนะนำ จนทุกอย่างดีขึ้นเรื่อยๆ
“ขอบคุณที่เธอไม่ทิ้งฉัน” แกริคพูดขณะซบอยู่หน้าท้องที่เริ่มนูนขึ้นเรื่อยๆ จูบเบาๆ ให้กับสิ่งที่มีค่าที่สุด
“หนูไม่มีวันทิ้งคุณหรอกค่ะ นอกซะจากว่าคุณจะไม่ต้องการหนูกับลูกแล้ว” มือเรียวสางเส้นผมนุ่มของเขาเบาๆ
“ไม่มีทางมีวันนั้น” มือสากลูบไล้เรียวขาสวยขึ้นลงลากไล้ไปตามรอยแยก
“อือ อย่าซนสิคะ” พิรุณรักจับมือใหญ่ไว้
“เธอไม่รู้สึกต้องการบ้างเหรอ” ปากบางเม้มเข้าหากัน ใครบอกว่าเธอไม่ต้องการเธอต้องการเขา ยิ่งอารมณ์คนท้องยิ่งไม่คงที่
“แต่คุณป่วยอยู่” หน้านวลแดงระรื่นรู้สึกเขินอายที่ต้องมาพูดอะไรแบบนี้
“ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นไอ้งั่งตัวหนึ่งที่ให้ความสุขเธอไม่ได้” แกริคสบถเบาๆ พิรุณรักรีบตะครุบปากเขาไว้
“อย่าพูดแบบนั้นสิคะคุณเห็นหนูเป็นคนยังไง”
“ฉันอยากให้เธอมีความสุข” มือใหญ่เคลื่อนเข้าไปในร่มผ้า ลากผ่านจุดอ่อนไหว
“ไม่เอานะคะ” พิรุณรักพูดเสียงอ่อย ทำไมเธอรู้สึกว่าคำว่าไม่เอาของเธอมันเบานัก
“ฉันรู้ว่าเธอต้องการ ให้ฉันทำให้นะ”
“คนบ้า หนูไม่รู้จะพูดยังไงกับคุณดี” จริงอยู่ตอนนี้ความต้องการของเธอมันมีมาก เพราะฮอร์โมนในร่างกายบวกกับห่างเรื่องแบบนี้มานาน มีเขาคอยป่วนอยู่แบบนี้มันยิ่งติดง่าย แต่ตอนนี้เขาป่วยอยู่ มันใช่ไหมที่เขาจะมาทำแบบนี้
“ครางชื่อฉันหวานๆ ก็พอ ฉันอยากได้ยิน” นิ้วแกร่งปัดป่ายเข้าไปด้านในกางเกงตัวจิ๋ว สะกิดเบาๆ ที่ติ่งเล็กๆ พิรุณรักตัวเกร็ง ขย้ำผมคนที่นอนอยู่ข้างๆ ร่างกายบิดส่ายไปมาด้วยความเสียว