นักปราชญ์ผู้ถูกอัญเชิญไปต่างโลกพร้อมกับไอเทมที่ไม่ได้ใช้ - ตอนที่ 5 นักปราชญ์โลลิ
เมื่อผมมองดูรายการคำร้องที่ประกาศบนบอร์ดในแต่ละระดับ ผมก็สังเกตเห็นว่า คำร้องสำหรับแรงค์ F ส่วนใหญ่นั้นจะเกี่ยวข้องกับการทำธุระในเมืองและการเก็บรวบรวมวัตถุดิบส่วนคำร้องที่เกี่ยวกับการปราบจะอยู่ในแรงค์ E ขึ้นไป นอกจากนี้ยังมีคำร้องระดับต่ำที่ไม่ได้ถูกติดประกาศเอาไว้อีกด้วย
ก่อนที่ผมจะออกจากกิลด์ ผมได้พบกับกลุ่มของคราด้าอีกครั้งและได้สัญญาว่าจะไปดื่มกับพวกเขาครั้งหน้า
ผมเดินไปเรื่อย ๆ โดยไม่มีจุดหมาย มองดูร้านขายเนื้อ แผงขายผัก และแผงอื่น ๆ ก่อนที่จะทานมื้อกลางวันที่ร้านขายอาหารเล็ก ๆ จากนั้นก็เดินไปที่ร้านอาวุธ
ผมค่อนข้างมีความสนใจในเรื่องอาวุธเป็นอย่างมาก นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมเลือกเล่นเป็นเบอร์เซิร์กเกอร์
เมื่อผมเข้าไปในร้าน ผมก็รู้สึกทั้งยินดี และตื่นเต้นที่ได้เห็นบรรดา อาวุธ ทั้ง ดาบ หอก และชุดเกราะที่วางโชว์ไว้
แต่ทว่า ก็ไม่มีอะไรที่สะดุดตาผมเป็นพิเศษเลย
「ยินดีต้อนรับครับ ไม่เคยเห็นคุณมาก่อน คุณเพิ่งมาใหม่ในเมืองเหรอครับ?」
ผมที่รู้สึกผิดหวังที่ไม่ได้เจออาวุธอะไรที่อยากได้
ผมก็เลยเดินไปหาผู้ชายที่นั่งอยู่ที่เคาน์เตอร์คนที่พูดกับผม เขาดูเหมือนจะเป็นผู้ชายอายุประมาณยี่สิบปี
「ประมาณนั้นแหละครับ ผมเพิ่งลงทะเบียนเป็นนักผจญภัยเมื่อวานนี้เอง」
「ดูเหมือนคุณจะเป็นนักเวทนะครับ? ที่นี่ไม่มีอาวุธสำหรับนักเวทมากนัก… คุณน่าจะไปที่ร้านเวทมนตร์นะครับ อาวุธที่คุณน่าจะใช้ได้ที่นี่ก็คงเป็นมีดเล็ก ๆ นั่นแหละครับ」
ผมจึงนึกขึ้นได้ว่า คราด้าและเพื่อน ๆ ของเขาใช้มีดในการชำแหละวัตถุดิบ ผมจึงขอให้เจ้าของร้านเอามีดที่เหมาะสำหรับการชำแหละออกมา เขาก็ยินดีและนำมีดหลายแบบออกมาให้
「ถ้าคุณต้องการมีดที่ทนทาน ผมขอแนะนำอันนี้ที่อยู่สุดขวาครับ ถึงมันจะราคาแค่สองเหรียญเงิน แต่ก็ทนทานและใช้งานง่าย」
ผมรู้สึกโล่งใจที่มันไม่แพงเกินไปและตัดสินใจซื้อมีดที่เขาแนะนำ ผมถามหาที่ตั้งของร้านเวทมนตร์ ซึ่งเจ้าของร้านบอกว่าอยู่ในระแวกใกล้ ๆ นี้ ผมจึงกล่าวขอบคุณและมุ่งหน้าไปที่นั่น
…ผมไม่เคยใช้เวทมนตร์มาก่อนเลย แถมยังไม่เคยใช้เวทมนตร์ประเภทฟื้นฟูด้วย…
เมื่อคิดเช่นนั้น ผมก็เดินเข้าไปในร้านที่มีสัญลักษณ์ไม้เท้าอยู่ที่ประตูตามที่เขาบอกมา และพบสัญลักษณ์ไม้เท้า เสื้อคลุม พร้อมกับชั้นหนังสือที่มีหนังสือเวทมนตร์วางเรียงอยู่
「สวัสดี นายกำลังหาอะไรอยู่อย่างนั้นเหรอ?」
ผู้หญิงที่พูดกับผมดูเหมือนจะเป็นเอลฟ์นักเวท เธอสวมเสื้อคลุมสีดำ ผมสีเขียวอ่อนยาวถึงไหล่ และมีหูแหลม — มองดูที่แรกเธอดูเหมือนเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง
「…ชั้นขอบอกไว้ก่อนเลยนะว่าชั้นอายุมากกว่าที่นายคิดนะ มนุษย์! ชั้นแค่เติบโตช้าเท่านั้นเอง! ตอนนี้ชั้นเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวแล้ว!」
พนักงานเอลฟ์โลลิจ้องผมเขม็งในขณะที่พูด — หรือว่าสีหน้าของผมจะบอกอะไรไปรึเปล่านะ…
「ไม่ๆ ครับ เข้าใจผิดแล้ว…」
ผมขอโทษพลางหลั่งเหงื่อเย็นเหยียบไหลลงไปที่หลัง
「ช่างมันเถอะ งั้นจะเอาอะไรล่ะ?」
「ผมกำลังมองหาตำราเวทมนตร์ครับ… อาชีพของผมคือนักบวช แต่ยังไม่รู้เลยว่าใช้เวทอะไรได้บ้าง」
คำพูดของผมทำให้พนักงานเอลฟ์โลลิดูเหมือนจะเป็นกังวลเล็กน้อย แต่เธอก็วางหนังสือเวทสามเล่มลงบนเคาน์เตอร์
「นี่คือหนังสือเวทสำหรับสายฟื้นฟู: เบื้องต้น, ระดับกลาง, และขั้นสูง แต่มันราคาแพงมากนะ หนังสือเบื้องต้นราคา 10 เหรียญเงิน ระดับกลางราคา 50 เหรียญเงิน และขั้นสูง 2 เหรียญทอง」
จากการรวบรวมข้อมูลที่ผ่านมา ผมมีการประมาณการเงินที่ตัวเองมีอยู่แล้ว เหรียญทองแดงหนึ่งเหรียญมีค่าเท่ากับ 100 เยน เหรียญเงินหนึ่งเหรียญมีค่าเท่ากับ 10,000 เยน และเหรียญทองหนึ่งเหรียญมีค่าเท่ากับ 1,000,000 เยน ยังมีเหรียญสีขาวที่เรียกว่าเหรียญทองคำขาว แต่ก็ไม่ค่อยมีใครใช้มัน
…เอาเถอะ หนังสือเวทเบื้องต้นราคา 100,000 เยน และหนังสือขั้นสูงราคา 2,000,000 เยน… แพงมาก แต่ว่าผมยังเหลือเงินอีกประมาณ 20,000,000 เยน ถ้าคิดถึงอนาคตที่ไม่แน่นอน การซื้อมันตอนนี้อาจจะดีกว่าก็ได้
「เอาหมดเลยครับ」
เมื่อผมพูดออกไป ดวงตาของเอลฟ์โลลิโตขึ้นเป็นสองเท่า
「โอ้โห สำหรับหนุ่มน้อยคนนี้ มันช่างน่าทึ่งเสียจริง ๆ ชื่ออะไรล่ะ? พอบอกฉันได้ไหม」
ผมบอกชื่อของตัวเองว่า โทยะ ให้กับเอลฟ์โลลิที่ยื่นหน้าอกออกมาอย่างภูมิใจ
「โทยะเหรอ… ฉันชื่อ นาตาลี เป็นนักปราชญ์นะ นายสามารถบูชาฉันก็ได้นะ」
ผมหัวเราะเบา ๆ และเมื่อวางเงินที่เธอบอกบนเคาน์เตอร์ นาตาลีก็จ้องมาที่ผมอย่างระมัดระวัง
「นายมีคลังมิติด้วยเหรอ?」
ผมคิดว่าการหยิบเงินออกมาท่ามกลางการสนทนาจะช่วยปิดบังได้ แต่ผมก็ตกใจที่โดนจับได้ แต่นาตาลีก็ดูเหมือนไม่ใส่ใจอะไร
「อย่าตื่นเต้นไปเลยนะ ถึงมันเป็นทักษะที่หายาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันไม่มีอยู่ จริง ๆ แล้วฉันเองก็มีคลังมิติเหมือนกัน」
เธอหยิบขวดยาสีฟ้าออกมาจากอากาศ
「ฉันไม่เรียกตัวเองว่านักปราชญ์โดยไม่มีเหตุผลหลอกนะ ฉันเองมีคลังมิติที่สามารถเก็บของได้ถึง 5,000 กิโลกรัมเลยละ」
ผมรู้สึกประทับใจกับความมั่นใจของนาตาลีซะจริง
เมื่อผมมองไปที่วัสดุและอุปกรณ์ต่าง ๆ ในคลังมิติของผม ขนาดคลังมิติของนาตาลีมันไม่ใกล้เคียงกับของผมเลย มีอาวุธหลายประเภท, เกราะหลายแบบ, และในส่วนของอาหารก็มีอย่างละเก้าสิบเก้าชิ้นจากแต่ละประเภท อย่างที่คิดไว้ ผมคงต้องเงียบเอาไว้ เรื่องเกี่ยวกับคลังมิติของผม……
หลังจากที่ผมถูกเปิดเผยเรื่องคลังมิติแล้ว ผมก็ไม่ถือสาอะไรและใส่หนังสือทั้งสามเล่มที่ได้รับมาในคลังมิติ
ผมเห็นไม้เท้าและเสื้อคลุม แต่ไม่มีอะไรที่ดึงดูดใจผม จึงบอกนาตาลีว่า ผมจะไปแล้ว
「โอ้โห ฉันคิดว่านายน่าจะเก่งเรื่องนี้นะ ถ้ามีคำถามเกี่ยวกับเวทมนตร์ก็ถามมาเถอะ ฉันจะสอนนายทีละขั้นตอนเอง… แน่นอนว่า ฉันจะคิดเงินนะ」
เอลฟ์โลลิยิ้มกว้างและพูดออกมาอย่างนั้น ก่อนที่ผมจะหัวเราะเบา ๆ และตอบกลับไปว่า 「ถ้ามีตรงไหนไม่เข้าใจผมจะกลับมาถามก็แล้วกัน」
เมื่อพูดเสร็จ ผมก็ออกจากร้านไป
ผมอยากรีบอ่านหนังสือเวทมนตร์ทันทีเลย จึงเดินกลับไปที่โรงแรม
ระหว่างทางกลับโรงแรม ผมแวะที่แผงลอยใกล้ ๆ กับกิลด์นักผจญภัย 「ขอบคุณสำหรับเมื่อวานครับคุณลุง วันนี้ผมเป็นลูกค้าของคุณ ผมขอสามไม้ครับ」 「อ้อ นายเด็กเมื่อวานนี่เอง! สามไม้จะราคาแค่หกเหรียญทองแดงนะ ฉันจะลดให้นายหนึ่งเหรียญ ถ้าจะเอาก็ ห้าเหรียญทองแดงก็พอ ฉันจะย่างให้เลย」
ผมยื่นเหรียญทองแดงห้าเหรียญให้คุณลุง เขาก็จุ่มของเสียบไม้ลงในซอสก่อนจะเริ่มย่าง กลิ่นหอมของซอสเริ่มลอยมา
ผมกลืนน้ำลายและรอจนกว่าของเสียบไม้จะย่างเสร็จ 「เอาไปเลย」 「ขอบคุณครับคุณลุง!」
ผมรับของเสียบไม้ย่างทั้งสามไม้แล้วมุ่งหน้าไปที่โรงแรมทันที เมื่อไปถึงคอกสัตว์ข้างหลัง โคคุโยก็หันมามองด้วยสีหน้าบึ้งตึงเมื่อได้ยินเสียงผม
「นายดูไม่ค่อยดีเลย โคคุโย… ดูนี่สิ ฉันเอาของเสียบไม้ย่างมาให้」
ผมยื่นของเสียบไม้ย่างให้เขาหนึ่งไม้ เขาก็กัดเข้าไปเงียบ ๆ
ผมนั่งข้างเขาในคอกสัตว์ ผมก็หยิบของเสียบไม้ย่างอีกอันออกมากินจนกระทั่งโคคุโยกินเสร็จแล้ว เขาก็มองมาที่ผมด้วยสายตา 「บรูรู (กิฟมีแดทฟักกิ้งชิท)」
ผมถอนหายใจแล้วหยิบของเสียบไม้ย่างให้เขาอีกอัน เขาก็กัดมันเข้าไปเช่นเดิม 「นายก็เป็นพวกตะกละเหมือนกันนะ…」
ผมลูบหัวโคคุโยขณะกินและบอกเขาว่า「พรุ่งนี้เราจะไปผจญภัยกันนะ」 เขามองมาที่ผมและส่งเสียง 「บรูรู」
จากนั้นผมก็ไปที่ด้านหน้าโรงแรม เมื่อเข้ามาในโรงแรม ผมพบกับเรมี่ที่กำลังทำความสะอาดอยู่ ผมทักเธอเพื่อบอกว่าผมกลับมาแล้วจากนั้นก็มุ่งหน้าไปที่ห้องของตัวเอง ผมวางหนังสือทั้งสามเล่มลงบนโต๊ะและเริ่มอ่านจากเล่มระดับพื้นฐาน
หนังสือเวทอธิบายถึงวิธีการรับรู้ถึงเวทมนตร์ จากนั้นก็เป็นชื่อและผลของเวทมนตร์ พร้อมทั้งคำอธิบายและแผนภาพเวทมนตร์ ไม่เพียงแต่เป็นเวทมนตร์ฟื้นฟูแต่ยังรวมถึงเวทมนตร์โจมตีที่มีสี่ธาตุหลัก ซึ่งทำให้ผมสนใจมาก 「ถ้าเราจะทำคำร้องในวันพรุ่งนี้ ผมคงต้องเรียนเวทมนตร์ฟื้นฟูติดตัวเอาไว้ดีกว่า」
เมื่อผมพลิกหน้าหนังสือ ข้อมูลในนั้นกลับรู้สึกคุ้นเคยอย่างน่าปะหลาาด ผมดูดซับมันได้อย่างรวดเร็วเหมือนกับผมเคยเรียนรู้มันมาก่อนแล้ว 「นี่มันเกิดอะไรขึ้น…」
เมื่อผมอ่านหนังสือเล่มระดับพื้นฐานจบแล้ว ผมก็อ่านต่อไปที่เล่มระดับกลางและขั้นสูง 「นี่มันสุดยอดเลย… ดูท่าเราจะสามารถใช้เวทมนตร์ขั้นสูงได้แล้ว」
จากนั้นผมก็จินตนาการถึงมือที่เต็มไปด้วยเวทมนตร์ จากนั้นฝ่ามือของผมเริ่มเปล่งแสงสีขาวออกมา 『ไฮรีโคฟเวอรี่』
ผมร่ายเวทมนตร์ฟื้นฟูขั้นสูงออกมา มือขวาของผมเปล่งแสงขาวสว่างจ้า จากนั้นผมก็หมดสติไปในทันที
—————————————————————————————
ขอบคุณสำหรับการโดเนตค่ากาแฟครับ คือค่ากาแฟจริง ๆ ได้มาก็ได้กินลาเต้ ไปด้วยแปลไปด้วยเลยครับ ขอบคุณครับ
สำหรับใครที่ชื่นชอบอยากสนับสนุนค่าการแฟนายน้ำพริก สามารถสนับสนุนได้ที่ QR โค้ดได้เลยนะครับ