นักปราชญ์ผู้ถูกอัญเชิญไปต่างโลกพร้อมกับไอเทมที่ไม่ได้ใช้ - ตอนที่ 0.1 บทนำ
ตอนนี้ ผมกำลังยืนอยู่ท่ามกลางทุ่งหญ้าที่ดูเหมือนไร้ที่สิ้นสุด มองไปทางไหนก็เห็นแค่เพียงทุ่งหญ้าไกลออกไปจนสุดลูกหูลูกตา แถมยังใส่เสื้อผ้า กับเสื้อคลุมแบบเดิมเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่างหาก
――นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
เสียงของนาฬิกาดังขึ้นเพื่อเป็นสัญญาณบอกว่า เวลางานของวันนี้สิ้นสุดลงแล้ว เสียงของมันกังวานสะท้อนไปทั่วทั้งออฟฟิศ
「วันนี้จบงานแล้ว กลับบ้านไปเล่นเกมกันดีกว่า」
ผมชื่อ คิซารางิ โทยะ อายุ 35 ปี โสดสนิท ไม่มีแฟน ไม่มีภรรยา เป็นพนักงานออฟฟิศธรรมดา ๆ คนหนึ่ง
ปกติชีวิตของผมก็เป็นแบบนี้ ตรงดิ่งกลับบ้านหลังเลิกงานเพื่อไปเล่นเกมออนไลน์ MMO เกมหนึ่งที่ผมติดงอมแงมอย่างหนัก มันเป็นเกมที่ผมทุ่มเทแรงกายแรงใจและกำลังทรัพย์ลงไปอย่างมาก ผมรีบกลับบ้านก็เพื่อเตรียมตัวเข้าร่วมสงครามในเกมตอนเวลาสามทุ่ม มันเป็นสงครามระหว่างประเทศที่ต่อสู้เพื่อขยายอาณาเขตของพวกเขา
เกม MMO นี้ชื่อว่า Pandemic World เป็นเกมแนวต่อสู้ระหว่างประเทศสามประเทศที่มีสงครามทุกคืน ตลอด 7 วัน ซึ่งหมายความว่าผู้เล่นสามารถออกล่าหาวัตถุดิบในฟิลด์ได้ตลอดทั้งสัปดาห์เพื่อเก็บค่าประสบการณ์ให้ได้มากที่สุด นอกจากนี้ยังมีวัตถุดิบหายากให้เก็บเกี่ยว และเพื่อให้เลเวลอัปอย่างรวดเร็ว ผู้เล่นจะต้องเลือกเข้าร่วมกับประเทศใดประเทศหนึ่ง และใช้ชีวิตทุกคำคืนท่ามกลางการต่อสู้
ตัวของผมเข้าร่วมกับประเทศ Generate Kingdom ส่วนอีกอีกสองประเทศคือ Lunette Empire และ Ciffancy Empire
Generate Kingdom และ Lunette Empire จะทำสงครามกันทุกคืน ในขณะที่ Ciffancy Empire จำทำหน้าทีสนับสนุนหนึ่งในสองประเทศนั้นในฐานะทหารรับจ้าง ซึ่งการสนับสนุนนี้เกิดขึ้นเฉพาะวันธรรมดาเท่านั้น ส่วนในวันหยุดสุดสัปดาห์จะมีอีเวนต์ล่ามอนสเตอร์ขนาดใหญ่ โดยในกรณีนี้ทั้งสามประเทศจะยกเลิกพรมแดนและร่วมมือกันเพื่อจบอีเวนต์นั้น
อวตารของผมในเกมคือชายร่างยักษ์รูปร่างกำยำ และเป็นสายอาชีพนักรบระดับสูงสุด: Berserker
อวตาร Berserker ของผมจะสวมเกราะที่ทำจากมิสทริลและถือดาบสองมือที่ยาวกว่าความสูงของตัวเอง โดยเขามักอยู่แนวหน้าของสนามรบในทุก ๆ วัน
ในฐานะชายโสดที่ทำงานแล้ว ทำให้ผมมีเงินเก็บพอสมควร ต้องขอบคุณสิ่งนี้ที่ทำให้ผมสามารถใช้เงินตามใจต้องการ และจัดหาอุปกรณ์ชั้นเยี่ยมให้อวตารของผมได้ จึงทำให้เขาเป็นที่รู้จักในฐานะอวตารที่แข็งแกร่งที่สุดในเกม
ตอนนี้เลเวลสูงสุดในเกมนี้คือ 999 และมีผู้เล่นเพียง 700 คนจากหลายพันคนที่มีเลเวลเกิน 500 ซึ่งน้อยกว่า 1% ของผู้เล่นทั้งหมด
การทำสงครามนั้นกินเวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง ในที่สุดผมก็สามารถละมือจากคีย์บอร์ด แล้วบิดขี้เกียจได้สักที
『เก่งมากเลย ทัตสึยะ!』 『วันนี้เราชนะแล้ว!』
ช่องแชทเต็มไปด้วย ข้อความเฉลิมฉลองชัยชนะ ขึ้นมารัว ๆ
「จบสักที ชนะแล้ว! มีใครอยากไปล่าของกับฉันไหม? ลองเปลี่ยนบรรยากาศกันสักหน่อยดีกว่า Din เจอกันที่ Ciffancy กัน」
การสร้างบัญชีแยกในเกมนี้เพื่อทำภารกิจในประเทศอื่นนั้นไม่ถือว่าผิดกฎ แต่หากผู้เล่นใช้หลายบัญชีในการทำสงคราม ระบบเกมจะสามารถเปิดเผยข้อมูลของผู้เล่นคนนั้นได้
ผมออกจากบัญชี Berserker และล็อกอินเข้าสู่อีกบัญชีหนึ่ง
อวตารในบัญชีนี้อยู่ที่ประเทศ Ciffancy Empire
ผมเลือกที่จะไม่เพิ่มเลเวลของอวตารนี้ เพราะใช้เพียงเพื่อเก็บไอเทม และวัตถุดิบต่าง ๆ ให้กับ Berserker แล้วก็เอาไว้ตั้งห้องคุยกับเพื่อนๆ ในประเทศ Ciffancy Empire
หลังจากอีเวนต์จบ ผมได้รับไม้เท้าและชุดนักเวทชั้นสูง อาวุธและเครื่องมือที่ไม่เหมาะกับ Berserker จะถูกเก็บไว้ในคลังของอวตารนี้พร้อมกับเงินบางส่วน
บนหน้าจอแสดงใบหน้าชายที่มีผมสีเงิน ผมตัดสินใจสร้างให้อวตารนี้อายุ 16 ปี และมีอาชีพเป็นนักบวชผู้ฟื้นฟู การใช้ตัวละครที่มีลักษณะแตกต่างจาก Berserker โดยสิ้นเชิงนั้นมันทำให้ผมรู้สึกกระชุ่มกระชวย ฟื้นฟูพลังงานในการเล่นเกมไม่น้อย
หลังล็อกอิน อวตารของผมปรากฏในจัตุรัสหลักของเมือง Deliruta
เนื่องจากสงครามเพิ่งจบลง จัตุรัสจึงเต็มไปด้วยผู้เล่นที่ล็อกอินเข้ามา ผมเปิดแท็บเพื่อน ตรวจสอบว่าเพื่อน ๆ ออนไลน์หรือไม่
ผมมองหาเพื่อนคนหนึ่ง ที่อยู่ในรายชื่อเพื่อน
「เจอแล้ว ส่งข้อความหาเลย」
ผมคลิกชื่อ『Din』ในรายชื่อเพื่อน เพื่อเปิดแชท
『เยี่ยมไปเลยนะ วันนี้』
『เฮ้เพื่อน นายมาเที่ยวหรอ?』
『ชั้นกำลังจะไปล่าของเลย กำลังคิดว่าชวนนายไปด้วยกัน สนใจป่ะ?』
『เยี่ยมเลย ตอนนี้อยู่หน้าวิหารทางทิศเหนือของจัตุรัส』
『โอเค เดี๋ยวไปหา』
ผมปิดแชทแล้ววิ่งจากจัตุรัสไปยังวิหาร
ณ บริเวณนั่น Din และอีกสองคนกำลังรออยู่
「ยินดีด้วยที่ชนะวันนี้」
「วันนี้เจ๋งมาก ทัตสึยะ」「สุดยอดเลย」
พวกเรา 4 คนที่รวมตัวกันคือ ผม เพื่อน Din ซึ่งเป็นจอมเวทย์มนต์ดำขั้นสูง Russell เป็นนักลอบเร้นขั้นสูง และ Melilla เป็นนักบวชฟื้นฟูขั้นสูง
「เรากำลังขาดคนเล่นสาย Warrior เลย นายมาทันเวลาพอดี」
ปาร์ตี้ในเกม MMO นี้รองรับผู้เล่นสูงสุด 5 คน และการที่ผมเข้าร่วมนั้นทำให้ปาร์ตี้นี้มีความสมดุลขึ้นมา
「 เราจะล่าในถ้ำ Loralka ใช่ไหม? งั้นเดี๋ยวเปลี่ยนกลับไปเป็น Berserker แป๊บ พวกนายรอที่ทางเข้าได้เลย」
「โอเค」「ได้เลย」
ขณะที่ผมกำลังจะออกจากระบบ วงเวทย์ก็ปรากฏขึ้นรอบอวตารของผม
「นั่นมันอะไร?」「อะไรกัน?」「นี่มัน… โอ้」
ทุกคนต่างสับสนในสิ่งที่เกิดขึ้น รวมถึงตัวผมเองด้วย วงเวทย์หมุนและเรืองแสง รอบอวตารจนหน้าจอเริ่มเปลี่ยนเป็นสีขาว
「นี่มันอะไร?」
แสงสว่างจ้าออกจากหน้าจอแผ่กระจายไปทั่วห้อง ผมหลับตาลง และรู้สึกเหมือนจิตล่องลอยไปในความมืด ในขณะที่ผมนั่งอยู่หน้าคอมฯ
ภาพของพื้นสีขาวบริสุทธิ์ค่อย ๆ ปรากฏในสายตาของผม เมื่อผมลืมตาขึ้นก็พบกับเพดานที่แตกต่างไปจากห้องของตัวเองโดยสิ้นเชิง สิ่งแรกที่ผมสังเกตเห็นคือเพดานนี้สูงกว่า 10 เมตร และมีภาพวาดที่ดูคล้ายภาพในพิพิธภัณฑ์หรือโบสถ์ในอิตาลีที่ผมเคยเห็นจากอินเทอร์เน็ต
「สำเร็จ!」
「องค์หญิงพะยะค่ะ ! ดูเหมือนว่าจะเป็นไปตามที่เราคาดไว้! มันมหัศจรรย์มากที่มันสำเร็จตั้งแต่ครั้งแรก」
เสียงปรบมือดังกังวาลไปทั่วทั้งห้อง ในขณะที่ผมยังคงสับสนงุนงง และนั่งมองสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้า
「นี่มันอะไรเกิดบ้าอะไรขึ้นกันแน่…」
ขณะที่นั่งอยู่บนพื้น ผมเห็นสาวสวยคนหนึ่งยืนอยู่ข้างหน้าในชุดเดรสที่หรูหราหมาเห่าสุด ๆ เธอมีผมบลอนด์ที่ได้รับการดัดเกรียวอย่างสวยงามแผ่สยายยาวลงมาจนถึงเอว อีกทั้งเธอยังมีมงกุฎบนศีรษะ รอบๆ ตัวเธอมีชายที่สวมชุดหรูหรา และอัศวินในชุดเกราะที่ตั้งท่าจับดาบเตรียมพร้อมเอาไว้
「ดิฉันขออภัยในความไม่สะดวกที่เกิดขึ้นด้วยค่ะ ต้าข้าคือเจ้าหญิงอันดับหนึ่งแห่งราชอาณาจักร Generate ชารอน ฟอน เจอเนอเรต ราชอาณาจักรของเรากำลังทำสงครามกับศัตรูที่เป็นปฏิปักษ์กับเรา จักรวรรดิ Lunette ซึ่งได้ยึดดินแดนของเราไปแล้วกว่า 20% ดังนั้น เราจึงตัดสินใจอัญเชิญท่าน ผู้กล้า ด้วยสมบัติลับของประเทศของเรา สมบัติในการอัญเชิญผู้กล้า ค่ะ」
ผมไม่เข้าใจสิ่งที่เธอกำลังพูดเลย ให้ตายสิ
「จากที่องค์หญิงกล่าวมา ผมไม่รู้เลยว่าทำไมผมถึงมาอยู่ที่นี่ ผมเป็นแค่ชายวัย 35 ที่ทำงานเป็นพนักงานออฟฟิศธรรมดา ๆ คนหนึ่ง เท่านั้นอง」
「พนักงานออฟฟิศ? ข้าไม่คุ้นกับคำคำนี้เลย แต่จากที่ข้าสังเกตดู ท่านดูไม่เหมือนคนที่อายุ 35 เลยสักนิด ท่านเป็นเผ่าพันธุ์มีอายุยืนยาวหรือเปล่า? ถึงแม้ว่าดูจากรูปลักษณ์ของท่าน จะดูเหมือนมนุษย์ก็ตาม」
――ผู้หญิงคนนี้พูดอะไรออกมา? ผมรู้ตัวดีว่าตัวเองอายุ 35
ผมแหวกผมที่ปิดตาออกไป และสังเกตเห็นเส้นผมสีเงิน….. ห๊ะเดี๋ยวก่อน? สีเงิน? ทำไมมันถึงเป็นสีเงินล่ะ?
ผมรีบสำรวจร่างกายตัวเองและสังเกตว่า ตอนนี้ผมใส่เสื้อคลุมและชุดที่ไม่ใช่ชุดของผม พุงที่เคยเริ่มเห็นได้ชัดตอนนี้กลับกระชับเหมือนเพิ่งไปฟิตเนส
ผมม้วนเสื้อขึ้นมาดูหน้าท้องของตัวเอง ทำให้อัศวินเริ่มต่อว่าผมที่ทำตัวไม่เหมาะสม
「แกกำลังทำอะไรอยู่ต่อหน้าองค์หญิงฟะ?!」
อัศวินชักดาบออกมาเตรียมพร้อมจะฟันผม
「เดี๋ยว ๆ ชตโตะมาเตะ เดี๋ยวก่อน! ข่อยบะได้ตั้งใจ๋!」
ผมรีบดึงเสื้อของตัวเองลงเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา
「เนื่องจากท่านถูกอัญเชิญมาแบบกะทันหัน จึงไม่แปลกใจที่ท่านจะสับสน ท่านช่วยเปิดหน้าต่างสถานะของท่านขึ้นมา จะเห็นว่ามีข้อความคำว่า ผู้กล้า อยู่ ข้าคิดว่าท่านจะเห็นมันได้แน่ ๆ ท่านไม่จำเป็นต้องพูดมันออกมา แล้วก็ไม่มีปัญหาหากท่านเพียงแค่นึกมันขึ้นมาในหัว」
เธอหมายถึงหน้าต่างสถานะแบบในเกมใช่ไหม?
『สถานะ』
ผมนึกถึงมันในหัว
◇――――――――――――――――――――◇
[ชื่อ] คิซารางิ โทยะ
[เผ่าพันธุ์] มนุษย์
[เพศ] ชาย
[อายุ] 16
[อาชีพ] นักบวชผู้ฟื้นฟู
[ฉายา] ผู้ถูกอัญเชิญ
[เลเวล] 1
[ทักษะพิเศษ] ตาแห่งพระเจ้า, ความสามารถในการใช้เวทมนตร์ทุกธาตุ, และความสามารถในการเรียนรู้ทักษะทั้งหมด
[ทักษะ] ไม่มี
◇――――――――――――――――――――◇
แผงหน้าปัดโปร่งใสปรากฏขึ้นในหัวของผม และผมทำการตรวจสอบดูว่ามันเขียนอะไรไว้บ้าง
แต่ไม่มีคำว่า “ผู้กล้า” เขียนอยู่ที่ไหนเลยสักนิด
「บางทีอาจจะอยู่ในฉายา…เอ่อ….」
เจ้าหญิงที่มีท่าทางกังวลมองมาที่ผมอย่างหมดหวัง
「……ไม่ มันไม่ได้เขียนว่า “ผู้กล้า” มันเขียนว่า “ผู้ถูกอัญเชิญ” 」
「――นั้นคือทั้งหมด….」
หลังจากที่ผมพูดออกไป ทุกคนรวมทั้งเจ้าหญิงต่างก็ห่อไหล่ลงด้วยความผิดหวัง
「ข้าไม่คาดคิดว่ามันจะล้มเหลวเลย…」
เสียงถอนหายใจจากทุกคนรอบตัวทำให้ผมรู้สึกเสียดายบางอย่าง
――มันอาจจะเป็นความผิดของผมรึเปล่า? แล้วผมควรทำยังไงกับรูปลักษณ์ของผม? แล้วผมจะกลับไปโลกของตัวเองได้ไหม?
「ท่านสามารถส่งผมกลับไปยังโลกของผมได้หรือไม่…」
ผมเรียกเจ้าหญิงที่ตอนนี้ดูหดหู่อยู่
เจ้าหญิงมองมาที่ผมด้วยสายตาที่รู้สึกผิด
「แม้ว่าจะท่านไม่มีฉายา “ผู้กล้า” แต่เราทราบมาว่าผู้ถูกอัญเชิญทุกคนจะมีระดับสูง ท่านน่าจะเกินระดับ 100 ซึ่งเป็นระดับที่บ่งบอกถึงขีดจำกัดใช่ไหมคะ? 」
「ไม่ ระดับของผมคือ 1 」
คำพูดนี้ของผมทำให้ความหวังที่เหลืออยู่ของเจ้าหญิงกลายเป็นฝุ่นทันที
「ห๊ะ ระดับ 1 งั้นเหรอ? 」
「ใช่ ระดับ 1 แต่ว่าทักษะคือ–」
「ระดับ 1!? มันไม่เหมือนกับเด็กทารกใหม่เกิดเลยรึไง? แบบนี้อัศวินยังดีกว่าซะอีก! 」
ชายวัยกลางคนที่ดูเหมือนจะเป็นชนชั้นสูงเริ่มตะโกนใส่ผม แถมยังขัดขวางคำพูดของผมอีกด้วย
「น่าเสียดาย ข้าขออภัยที่อัญเชิญท่านมา อัญมณีนี้เป็นได้ทั้งอัญมณีอัญเชิญและอัญมณีหวนคืน เป็นไปได้ว่าที่จะส่งผู้คนกลับไปยังโลกที่เขาจากมาก ถึงอย่างนั้นข้าต้องทำการอัญเชิญอีกครั้งหนึ่งก่อน ข้าสามารถอัญเชิญได้เพียงแค่ในวันที่พระจันทร์เต็มดวงเท่านั้น ด้วยพลังเวทย์ทั้งหมดของข้า ข้าสามารถอัญเชิญได้อีกเพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น จากนั้นเราจะทำพิธีส่งท่านกลับในวันพรุ่งนี้」
เจ้าหญิงที่มีสีหน้ารู้สึกเสียใจ ในขณะแนะนำขั้นตอนการส่งกลับ
「เข้าใจแล้วครับ」
เมื่อผมรู้ว่าจะสามารถกลับบ้านได้ในวันพรุ่งนี้ และด้วยความอยากที่จะตรวจสอบสภาพร่างกายของตัวเอง ผมพยักหน้าตามคำแนะนำของเจ้าหญิง
อัศวินคนหนึ่งสั่งให้ผมออกห่างจากวงเวทที่ถูกวาดไว้บนพื้น ผมกำลังตั้งตารอชมพิธีอัญเชิญในขณะที่ยืนอยู่ที่ขอบห้อง
พิธีอัญเชิญเริ่มขึ้น
มีลูกบอลที่เรียกกันว่า “สมบัติในการอัญเชิญ” ถูกวางไว้ตรงกลางวงเวท และเจ้าหญิงเริ่มถ่ายเทเวทมนตร์ลงไปในนั้น
เจ้าหญิงเริ่มกล่าวคำร่ายเวทย์ที่เหมือนกับการสวดภาวนา จากนั้นวงเวทเริ่มส่องแสงรอบลูกบอลสมบัติ แสงนั้นเข้มขึ้นเมื่อคำร่ายเวทย์ยังคงดำเนินไป
「แสงสว่างแรงกล้ากว่าก่อนหน้านี้… นี่มัน…? 」
ห้องถูกแสงสีขาวสว่างจ้ากลืนหายไป แสงที่เหมือนกับที่ผมเห็นก่อนที่จะถูกอัญเชิญมาที่นี่ และลูกบอลสมบัติถูกทำลายเป็นชิ้นๆ ด้วยแสงที่ว่านั้นสว่างจ้าเกินไปจนผมต้องหลับตาป้องกันมัน
แสงค่อยๆ จางหายไป และห้องกลับมาเป็นปกติ
เมื่อผมลืมตาขึ้นมา พบกับชายหนุ่มผมบลอนด์นอนอยู่บนหลังตรงที่จุดที่สมบัติลับถูกวางไว้
ชายหนุ่มคนนี้สวมเกราะขาวและเงินที่หรูหรา เขาตื่นขึ้นมาและแสดงท่าทางงุนงง
อัศวินที่ล้อมรอบเขาอยู่ต่างตกตะลึงในเกราะหรูหราของชายหนุ่มคนนั้น
「เกิดอะไรขึ้น? ทำไมข้าถึงอยู่ที่นี่? ข้าจำได้ว่ากำลังต่อสู้กับมอนสเตอร์อยู่นี่… 」
ชายหนุ่มดูอายุประมาณ 20 ปี และเป็นชายหนุ่มที่หล่อเอาเรื่องเลยทีเดียว
เขาหล่อกว่าดาราญี่ปุ่นมากโข ใบหน้าของเขาเหมือนถูกสร้างขึ้นจาก CGI เลยล่ะ
ตรงข้ามกันกับท่าทางหดหู่และพ่ายแพ้ของเจ้าหญิงที่แสดงออกมาก่อนหน้านี้ เจ้าหญิงเดินเข้าไปหาชายหนุ่มด้วยแก้มที่แดงระเรื่อ
「ข้าขออภัยในความไม่สะดวกค่ะ ท่านผู้กล้า ข้าคือเจ้าหญิงอันดับหนึ่งแห่งราชอาณาจักร Generate ชารอน ฟอน เจอเนอเรต และ――」
เธอเล่าเรื่องเดียวกับที่เธอเคยบอกกับผม
ชายหนุ่มถูกขอให้ตรวจสอบสถานะของตัวเอง และเขาก็ทำตามคำแนะนำ
「ฉายที่ปรากฏมีทั้ง “ผู้กล้า” และ “อัศวินศักดิ์สิทธิ์” 」
เสียงคำชื่นชมดังก้องไปทั่วทั้งห้องเมื่อชายหนุ่มกล่าวถึงฉายาของเขาสองตำแหน่ง
*—————————————————————————————————-*
สวัสดีครับทุกท่านกระผมนายน้ำพริก เป็นนักอ่านเงามานานพอดีไปอ่านมังงะน่าสนใจ มาเรื่องนึง ไม่มีใครแปลต่อ นิยายก็ยังไม่มีใครแปล รอมานานปี เลยแปลเองม่างเลย โดยรวมก็ประมาณนี้ มีอะไรแนะนำสามารถคอมเมนต์แนะนำติเตียนได้นะครับ