นครแห่งบาป City of Sin - ตอนที่ 170 เนโครแมนเซอร์ตอนที่ 1
นิยายนครแห่งบาป – City of Sin เล่ม 2 ตอนที่ 170 เนโครแมนเซอร์ตอนที่ 1
“เกิดอะไรขึ้นรีมาสเตอร์ ?” แกงดอร์ถามออกมา
ริชาร์ดลืมตาขึ้นก่อนตอบ “เตรียมตัว ! พวกเรากําลังจะเข้าสู่การต่อสู้และมันก็อาจรุนแรงมากด้วย”
แกงดอร์นิ่งไปครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะ โพล่งขึ้น “เยี่ยม !”
วอเตอร์ฟลาวเวอร์เม้มริมฝีปากบนและ ล่างเข้าหากันและดวงตาของนางในเวลานี้ก็กําลังเปล่งประกายอย่างชัดเจนคนอื่นๆที่เหลือเองก็เช่นกันหลังจากได้ยินสิ่งที่ริชาร์ดบอกพวกเขาต่างก็รู้สึกว่าเลือดในกายสูบฉีดอย่างรุนแรงขึ้นมาอีกครั้งนั่นอาจเป็นเพราะการเดินทางในป่าที่น่าเบื่อหน่ายตลอดทั้งวันจึงทําให้พวกเขารู้สึกกระปรี้กระเปร่าเป็นพิเศษเมื่อรู้ว่าจะได้ลงมือสู้ศึกอีกครั้ง
ทันที่ที่ริชาร์ดรู้ตําแหน่งของบรู้ดมาเธอร์เขาก็รีบพุ่งตัวไปยังจุดที่มีการต่อสู้ทันทีและหลังจากผ่านไปเพียงไม่กี่กิโลเมตรสภาพพื้นที่ก็เปลี่ยนเป็นทางลาดชั้นหมอกสีเทาเข้ามาปกคลุมไปทั่วบริเวณจนบดบังการมองเห็นแทบจะทั้งหมด
ความเลือนรางที่เกิดขึ้นทําให้แม้แต่ร่างกายที่ใหญ่โตของบรู้ดมาเธอร์ก็ยังยาก ที่จะมองให้เห็นได้อย่างชัดเจนจากภาย ในพื้นที่นี้ ทว่าร่างที่ดูเลือนรางของสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าของพวกเขาท่ามกลางหมอกสีเทาที่บดบังอยู่นั้นก็ทําให้ทุกคนเกิดอาการผงะขี้ นมาชั่วขณะแม้แต่โอเกอร์ทั้งสองเองก็หยุดชะงักไปเช่นกันเมื่อเห็นสิ่งมีชีวิตที่มีความสูง 2 เมตรและความยาวกว่า 6 เม ตรนั้น มีเดียมแรร์เกาหัวของมันด้วยความประหลาดใจมันแทบจะไม่อยากเชื่อสายตาของตนเอง
บรู้ดมาเธอร์กําลังอยู่ท่ามกลางการต่อสู้ซึ่งบริเวณนั้นมีร้องเสียงกรีดร้องดังขึ้นอย่างต่อเนื่องในขณะที่มันขยับร่างใหญ่โตของมันไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ ปากของมันก็พ่นของเหลวที่เป็นพิษจํานว นมากออกมาด้วยท้องใหญ่ของมันขยายออกและหุบเข้าหากันเป็นจังหวะ ก่อนที่ของเหลวที่เป็นกรดสีเหลืองปนเขียวจะพุ่งออกมาจากปากใหญ่นั้นพิษนั้นมีฤทธิ์กัดกร่อนคล้ายกรดร้ายแรงและ มันถูกพ่นออกไปทั่วบริเวณของสนามรบกรดนั้นมีกลิ่นฉุนที่รุนแรงและตอนนี้กลิ่นของมันก็ลอยคละคลุ้งไกลออกไปเป็นกิโลและกรดพิษนี้เองที่เป็นที่มาของหมอกหนาสีเทาที่เกิดขึ้นในเวลานี้แม้แต่โอเกอร์ที่สามารถทนทานต่อความเสียหายจากการกัดกร่อนได้ก็ยัง ไม่กล้าที่จะพุ่งตัวเข้าไปในกลุ่มหมอกตรงหน้าเพราะดูเหมือนว่า เพียงแค่หมอกสีเทานี้ก็มีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับคาถาระดับ 6 แล้ว
ริชาร์ดเพ่งสายตามองไปด้านหน้าแม้ว่าในเวลานี้หมอกและพิษที่ถูกพ่นออกมาจะบดบังการมองเห็นของเขาทว่าเขาก็ยังสามารถมองเห็นได้ว่าในตอนนี้บรู้ดมาเธอร์กําลังต่อสู้อยู่กับสิ่งมีชีวิตบางอย่างที่มีจํานวนมากกว่าร้อยตัวอยู่และยิ่งไปกว่านั้นสิ่งมีชีวิตพวกนั้นก็ ยังคงเดินยั้วเยี้ยอยู่เต็มไปหมดในกลุ่มหมอกสีเทาเสมือนพวกมันกําเนิดออกมาอย่างไม่สิ้นสุด
ในเวลาเดียวกันรอบตัวของบรู้ดมาเธอร์ก็มีเหล่าแร็พเตอร์ที่กําลังต่อสู้อยู่กับอันเดดซึ่งถึงแม้จะเห็นได้ชัดว่าพวกมันมีระดับต่ําแต่ริชาร์ดกลับพบว่า ไม่ว่าแร็พเตอร์จะพยายามกัดและซัดพวกมันออกไปเร็วแค่ไหนก็ไม่สามารถทําให้กองทัพศัตรูที่อยู่ตรงหน้าล่าถอย ออกไปได้เลยแขนและขาของพวกมันที่หลุดออกจากร่างไปไม่ได้ส่งผลอะไรกับพวกมันทั้งสิ้นวิธีเดียวที่จะสามารถเอาชนะพวกมันได้คือการบดขยี้พวกมันเป็นชิ้น ๆ
ที่แย่ยิ่งกว่านั้นคือหมอกกรดที่เกิดจากบรู้ดมาเธอร์มีผลกระทบต่อพวกมันอย่างจํากัดเพราะมันเพียงแค่ทําให้กระดูกของอันเดดเกิดรอยแตกร้าวขึ้นเท่านั้นซึ่งต้องใช้เวลาอยู่ครู่หนึ่งกว่ารอยร้าวนั้นจะแตกออกและหยุดการเคลื่อนไหวของพวกมันลงได้ดูเหมือนว่ามันจะเป็นการง่ายกว่าถ้าให้เหล่าแร็พเตอร์ฉีกร่างของอันเดดพวกนั้นออกเป็นชิ้นๆด้วยใบมีดที่อยู่บนหัวของพวกมัน
การต่อสู้เกิดขึ้นบริเวณริมบึงน้ําซึ่งทั่ว พื้นที่บริเวณนั้นเต็มไปด้วยโคลนและเป็นเพราะสภาพของพื้นที่ที่ทําให้ข้อได้เปรียบด้านความคล่องแคล่วที่เหล่าแร็พเตอร์ใช้ในการต่อกรกับศัตรูลดประสิทธิภาพลงและตอนนี้ดูเหมือนว่าเหล่าแร็พเตอร์ก็เริ่มที่จะหมดกําลังลงแล้วทว่าคลื่นของโครงกระดูกและซอมบี้จํานวนหลายสิบตัวยังคงหลั่งไหลเข้าหาพวกมันอย่างไม่สิ้นสุด
มีโครงกระดูกและซอมบี้จํานวนมากที่คลานและปีนขึ้นไปบนตัวของบรู้ดมาเธอร์พวกมันมีจํานวนกว่า 100 ตัวโดยประมาณพลังที่มีอยู่อย่างจํากัดของพวกมันนั้นทําให้สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ทิ้งความเสียหายลงบนตัวของบรู้ดมาเธอร์ได้ไม่มากเท่าไหร่นักและดูเหมือนว่ามัน จะไม่ได้มีพลังมากพอที่จะทําลายได้แม้แต่เปลือกนอกของมันเลยด้วย ทว่าจํา นวนศัตรูที่มากเกินไปก็ส่งผลเสียเช่นกันความเหนื่อยล้าจะเริ่มมาเยือนและการเอาชนะก็จะเป็นไปได้ยากมากขึ้น
อันเดดเหล่านี้มาจากไหนกัน ?
“บรู้ดมาเธอร์หยุดใช้หมอกกรดของเจ้า !”หลังจากที่ริชาร์ดมองภาพเหตุการณ์ตรงหน้าอยู่ครู่หนึ่งเขาก็รู้ได้อย่างรวดเร็วว่าหมอกกรดของบรู้ดมาเธอร์ไม่สามารถทําลายศัตรูได้อีกทั้งยังเป็นการ ทําให้กองกําลังฝั่งของพวกเขากลัวที่จะเข้าไปจัดการกับศัตรูที่อยู่ตรงหน้าด้วย
ทันใดนั้นมานาที่ทรงพลังก็พุ่งขึ้นมาจากบึงแล้วตรงเข้าจู่โจมบรู้ดมาเธอร์อย่างรุนแรงการพ่นกรดพิษของมันหยุดลงไปพร้อม ๆ กับเสียงร้องโหยหวนดังขึ้นแทนที่ในวินาทีเดียวกันนั้นริชาร์ดที่เชื่อมจิตเข้ากับบรูดมาเธอร์ก็รับรู้ได้ถึงความรู้สึกของการถูกเข็มแหลมคมตรงเข้าที่มแทงจิตใต้สํานึกอย่างแรงเช่นกันเขารู้สึกราวกับว่ามีแสงบางอย่างผ่านเข้ามาในสมองอย่างรวดเร็วก่อนที่มันจะ หายไปแม้จะเกิดขึ้นเพียงชั่วขณะเท่านั้นแต่มันก็ส่งผลกระทบต่อตัวเขาได้ไม่น้อยและหลังจากที่สติคืนกลับมาริชาร์ดก็ยังคงรับรู้ได้ถึงความเจ็บปวดที่หลงเหลืออยู่ซึ่งนั่นทําให้เขารู้ว่ามันไม่ใช่ เรื่องที่เขาจินตนาการไปเองอีกต่อไป
นี่คือคาถาโจมตีจิตวิญญาณ — มายด์เฟย์ !
แม้ว่าในเวลานี้สติของบริดมาเธอร์จะกลายเป็นความว่างเปล่าไปแล้วแต่คลี่ นมานาอีกลูกหนึ่งก็ยังถูกส่งออกมาโจมตีมันซ้ําอีกครั้ง การโจมตีในครั้งนี้ทําให้บริดมาเธอร์สูญเสียการทรงตัวและมันก็ ส่งผลกระทบกับริชาร์ดที่เพิ่งจะรู้สึกตัวอีกครั้งเช่นกัน
“การควบคุมจิตใจ !” — เมจที่มีฝีมือหลายคนเชื่อว่าคาถานี้เป็นขั้นตอนแรกในการควบคุมสิ่งมีชีวิตที่มีพลังเวทย์และขั้นตอนต่อไปหลังจากนี้คาถาที่พวกเขาจะใช้คือเอนสเลฟ
ริชาร์ดและบรู้ดมาเธอร์มีการเชื่อมต่อกันทางจิตวิญญาณซึ่งคล้ายกับการทําสัญญาทางจิตวิญญาณของเขากับวอเตอร์ฟลาวเวอร์ที่ทําให้เขาและนางมีจิตวิญญาณที่เชื่อมถึงกันนอกจากนี้ก็ยังมี สมาชิกในกลุ่มอีก 4 คนที่มีการทําสัญญากับริชาร์ดในรูปแบบเดียวกันซึ่งนั่นก็หมายความว่าหากศัตรูต้องการควบคุมบรู้ดมาเธอร์เขาก็จะสามารถควบคุมคนอื่น ๆ ไปได้พร้อมกันด้วยพวกเขาทุก คนรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี ซึ่งเรื่องอันตรายมากขนาดนี้จะปล่อยให้มันเกิดขึ้นไม่ได้อย่างเด็ดขาด ! ทันใดนั้นเองแววตาของริชาร์ดแกงดอร์ โอเกอร์ทั้งสองตนและโอล่าก็เปลี่ยนไปรังสีสังหารที่น่ากลัวฉายชัดขึ้นมาในดวงตาของพวกเขา
ทว่าคนที่เหนือความคาดหมายในเวลานี้คือวอเตอร์ฟลาวเวอร์ โดยปกติแล้วความคิดของนางจะชัดเจนและเรียบง่ายเสมอรวมทั้งจิตวิญญาณของนางก็บริสุทธิ์และใสราวกับแก้วน้ําทว่าเมื่อนาง ตระหนักถึงความพยายามในการ เข้าครอบงํา” ที่ถูกส่งมาจากศัตรู วอเตอร์ฟลาวเวอร์ก็ระเบิดพลังออกมาในทันที
ผมที่ถูกตัดสั้นของนางชี้ขึ้นนางอ้าปากส่งเสียงหวีดร้องขณะปล่อยสัญชาตญาณของแอสซาซินเพื่อตอบโต้แหล่งที่มาของการโจมตี แม้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้จะทําให้ริชาร์ดประหลาดใจอยู่ไม่น้อย ทว่าเขาก็ไม่ลังเลที่จะเพ่งสมาธิเพื่อให้พลังจิตของเขามั่นคงเขาพยายามควบคุมความรู้สึกกระหายการเข่นฆ่าของตัวเอง
เอาไว้
เสียงคํารามที่ไม่ชัดนักดังขึ้นจากกลางบึงน้ํา ก่อนที่อันเดดที่แน่นิ่งไปก่อนหน้านี้จะขยับตัวอีกครั้ง ในตอนนี้พวกมันเชื่องช้และดูเหมือนไม่สามารถสั่งการได้อีกทั้งยังเต็มไปด้วยความวุ่นวายไม่ เหมือนกับก่อนหน้านี้ สถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เป็นข้อพิสูจน์ที่ชี้ชัดแล้วว่าจะต้องมีผู้สั่งการอันเดดอยู่เบื้องหลังแน่
ริชาร์ดกัดฟันแน่นขณะจ้องมองไปที่อันเดดพวกนั้นด้วยสายตาเยือกเย็น “ที่นี่จะต้องมีเนโครแมนเซอร์อยู่ที่ไหนสัก แห่ง และข้าคิดว่าเขาต้องการที่จะควบคุมบรู้ดมาเธอร์ของข้าด้วย หี ช่างกล้า ซะจริง !”พูดจบเขาก็ยืดแขนขวาของเขาออกมาก่อนออกคําสั่งเสียงดัง “ดาบเขา
ทันทีที่ได้ยินคําสั่ง ไนท์ผู้หนึ่งก็ส่งดาบไร้ชื่อให้กับริชาร์ด และโฟลว์แซนด์ก็เดินออกมาอย่างเงียบๆก่อนเอื้อมมือไปแตะมันทําให้ปลายดาบสว่างขึ้นทันทีด้วยเพลิงศักดิ์สิทธิ์
แววตาของวอเตอร์ฟลาวเวอร์เปล่งประกายขึ้น นางยืนดาบเชฟเฟิร์ดออฟอีเทอร์นอลเรสท์ที่อยู่ในมือของตนเองออกไปตรงหน้าโฟลว์แซนด์เคลริคสาวมองวอเตอร์ฟลาวเวอร์ครู่หนึ่งก่อนจะยื่น มือของนางออกไปวางไว้บนดาบเล่มนั้น
“เยี่ยม !” แกงดอร์ร้องตะโกนอย่างดีใจก่อนยื่นขวานของเขาออกมาเช่นเดียวกันหลังจากนั้นไม่นานอาวุธทุกชิ้นก็ถูกฉาบย้อมไปด้วยแสงเรืองรองของเพลิงศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเพลิงศักดิ์สิทธิ์นี้จะ สามารถใช้ได้ 9 นาทีหลังจากที่โฟลว์แซนด์เริ่มร่ายคาถาออกมา
บรูดมาเธอร์คลานกลับขึ้นมาจากบึงตามที่ริชาร์ดสั่งก่อนจะคลานเข้ามาหากองกําลังของพวกเขาอย่างช้าๆม่านหมอกของกรดถูกทิ้งไว้ข้างหลังในขณะที่แร็พเตอร์ที่ยังมีชีวิตรอด 10 ตัวก็ปล่อยอันเดดที่พวกมันกําลังพัดอยู่แล้วกลับเข้ามาอยู่ข้างริชาร์ดอีกครั้ง ส่วน ร่างของแร็พเตอร์ที่ถูกฆ่าตายก่อนหน้านี้นั้นถูกดูดลงไปในบึงอย่างช้า ๆ
ริชาร์ดพุ่งตัวเข้าหาบึงอย่างรวดเร็ว และใช้ดาบในมือของเขาผ่าร่างของโครงกระดูกร่างหนึ่งออกเป็น 2 ส่วนแล้วแทงดาบเข้าไปที่ท้องของซอมบี้ตนหนึ่งอย่างรุนแรง
“ใครก็ตามที่อยู่ในนั้น ฟังข้าให้ดี ข้าจะโอกาสเจ้ายอมแพ้ให้กับพวกข้าซะ!”ด้วยแรงสนับสนุนจากมานาของตัว
19 ทําให้เสียงบางริชาร์ดังอีกจ้างไป