ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2148 เข้าไปในต้นไม้วิญญาณบรรพบุรุษ
อากุ่ยกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “น้อมรับคำสั่ง! พี่เยี่ยน แล้วค่ายกลเหล่านั้นล่ะ!”
“รอให้ข้าจัดการเรื่องทั้งหมดแล้วค่อยคิดหาทางให้เจ้า อย่างมากที่สุดก็แค่ไปปล้นมาเท่านั้นเอง” ว่านซือเยี่ยนกล่าว
“อื้ม! พี่เยี่ยนดีที่สุด ข้าในตอนแรกนี่ช่างฉลาดจริง ๆ ที่เลือกตามพี่เยี่ยนมา” อากุ่ยกล่าวอย่างดีอกดีใจ
และในคืนนี้ ว่านซือเยี่ยนก็นอนห้องเดียวกันกับอากุ่ย
มู่เฉียนซีเม้มริมฝีปากแล้วกล่าวว่า “เจ้าคนขี้เหนียวนี่สำหรับน้องชายตนเองแล้ว มีความรักและเป็นห่วงเป็นใยอย่างสุดหัวใจจริง ๆ”
วันรุ่งขึ้น เหล่าผู้คนก็มารวมตัวกันจนเกือบจะครบหมดแล้ว
หลังจากนั้นก็มีชายร่างสูงใหญ่ที่สวมชุดสีขาวปรากฏตัวขึ้นที่นี่ เขากล่าวว่า “สวัสดีแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน ข้าคือเจ้าสำนักของสำนักภูตวิญญาณ ชื่อกุ่ยเต้าเหริน”
“ข้ารู้ว่าที่ทุกท่านมาที่นี่ก็เพื่อไม้เทพแห่งชีวิต ไม้เทพแห่งชีวิตนั้นได้หลับไหลอยู่ในอาณาเขตของสำนักภูตวิญญาณมาเป็นเวลานานหลายปีมากแล้ว ซึ่งมันก็ไม่เคยตื่นขึ้นมาเลย! แต่ทว่าวันนี้มันกลับตื่นขึ้นมาแล้ว และนอกจากนี้มันได้บอกกับข้า ให้ข้าหาคนมาช่วยเหลือ เพื่อให้มันฟื้นตัวกลับคืนมาอีกครั้งด้วย”
“เหตุใดไม้เทพแห่งชีวิตถึงต้องการให้ฟื้นฟูด้วยล่ะ?”
“เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับไม้เทพแห่งชีวิตกันแน่?” ผู้คนต่างกล่าวขึ้นมาอย่างสงสัย
“เมื่อทุกท่านตามข้ามา พวกท่านก็จะได้รู้เรื่องทุกอย่างเอง!”
เจ้าสำนักภูตวิญญาณนำทางพวกเขา และมุ่งตรงเข้าไปในภูเขาลึกมากขึ้นเรื่อย ๆ
ไอเย็นที่อยู่ภายในสถานที่แห่งนี้แข็งแกร่งขึ้นหลายส่วน นอกจากนี้ก็ยังรู้สึกได้ถึงการป้องกันหลายชั้นอีกด้วย
ความจริงแล้วทุกคนต่างก็ระวังตัวกันอยู่แล้ว เพราะสำนักภูตวิญญาณนี้แปลกประหลาดเกินไป หากพวกเขามีเจตนาร้ายอะไรขึ้นมา ตอนนั้นจะต้องเกิดปัญหาใหญ่ขึ้นเป็นแน่
เบื้องหน้าของพวกเขา มีต้นไม้ขนาดมหึมาที่ดูเหมือนกับสัตว์ประหลาดอย่างไรอย่างนั้นอยู่ต้นหนึ่ง
ต้นไม้ที่เอาแต่แยกเขี้ยวยิงฟันเช่นนี้ ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังจะถูกกินเข้าไปตลอดเวลาเลยก็ว่าได้
กุ่ยเต้าเหรินกล่าวว่า “ทุกท่านอย่าได้กลัวไปเลย นี่คือต้นไม้วิญญาณบรรพบุรุษของตระกูลพวกข้า และต้นไม้วิญญาณบรรพบุรุษของพวกข้านี้ก็ได้ทำการพิทักษ์ไม้เทพแห่งชีวิตมาโดยตลอด ส่วนไม้เทพแห่งชีวิตนั้นก็อยู่ที่ใจกลางของมัน ฉะนั้นเชิญทุกท่านตามข้าเข้าไปเถิด”
พวกเขาเดินเข้าไปอย่างอกสั่นขวัญแขวน และทำได้เพียงแค่ปลอบใจตนเองว่าต้นไม้ต้นนี้ไม่ได้มีความก้าวร้าวใด ๆ เลย ฉะนั้นพวกเขาไม่จำเป็นต้องกลัวไป!
และเมื่อเดินเข้าไปในโพรงต้นไม้นั้นแล้ว มันก็เป็นเหมือนกับทางวงกตขนาดใหญ่เลยทีเดียว
กุ่ยเต้าเหรินได้นำทางพวกเขาอยู่ข้างหน้าอย่างไม่รีบร้อน และในตอนที่เดินลึกเข้าไปเรื่อย ๆ พวกเขาก็ได้พบกับร่องรอยของลำแสงสีเขียวอ่อนที่กำลังสว่างไสวอยู่ในนั้น
จากนั้นความรู้สึกอึดอัดใจที่มีก่อนหน้านี้ก็ได้สลายหายไปจนหมดสิ้น และพวกเขาก็รู้สึกว่าพลังชีวิตในร่างกายของตนเองกำลังเปลี่ยนเป็นแข็งแกร่งขึ้นมากเลยทีเดียว
ทุกคนต่างพากันกล่าวอย่างประหลาดใจว่า “เป็นไม้เทพแห่งชีวิตจริง ๆ ด้วย มันคือไม้เทพแห่งชีวิตจริง ๆ!”
“พลังชีวิตที่แข็งแกร่งเช่นนี้ ไม่ผิดแน่นอน!”
“เจ้าสำนักภูตวิญญาณไม่ได้โกหกพวกเราจริง ๆ ด้วย!”
มู่เฉียนซีจ้องมองไปที่ลำแสงสีเขียวนั่น จากนั้นก็ต้องผงะไปครู่หนึ่ง นี่คือพลังชีวิตอย่างนั้นหรือ? ไม่ใช่นี่!
บางทีคนที่ไม่เคยสัมผัสกับพลังชีวิตอันบริสุทธิ์อาจจะถูกพลังนี้หลอกลวงเอาได้ แต่ว่าไม่ใช่สำหรับนาง ของปลอมอย่างไรเสียมันก็คือของปลอมอยู่วันยังค่ำ
ดูเหมือนว่านี่จะเป็นแผนการร้ายอีกแล้ว เพราะไม้เทพแห่งชีวิตนั้นไม่มีทางจะที่ถูกค้นพบได้ง่ายดายเช่นนี้แน่
หลังจากที่พวกเขาเข้าไปใกล้ ทุกคนต่างก็ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
เพียงแต่ว่าไม้เทพแห่งชีวิตที่อยู่ภายในต้นไม้วิญญาณบรรพบุรุษนี้ ดูเหมือนว่าจะมีขนาดเล็กไปเสียหน่อย
มันมีเพียงกิ่งก้านเล็ก ๆ ราวกับเส้นผมเท่านั้น นอกจากนี้ยังไม่มีใบเลยสักใบเดียวอีกด้วย
“เหตุใดไม้เทพแห่งชีวิตต้นนี้ ถึงได้มีขนาดเล็กนักเล่า?” มีใครบางคนกล่าวถาม
ว่ากันว่าไม้เทพแห่งชีวิตนั้น เป็นแหล่งที่มาของพลังชีวิตของทุกสรรพสิ่ง มันควรจะเป็นพี่ใหญ่ที่สามารถประคับประคองโลกและพื้นที่จำนวนนับไม่ถ้วนได้สิ แล้วมันจะมีขนาดเล็กเพียงเท่านี้ได้อย่างไรกัน?
กุ่ยเต้าเหรินกล่าวว่า “ก่อนหน้านี้เมื่อนานมาแล้วไม้เทพแห่งชีวิตนี้ได้รับความเสียหาย ซึ่งมันก็ได้หายสาบสูญไปนานหลายล้านปีแล้ว และเพิ่งจะมีโอกาสได้ฟื้นตัวขึ้นมาตอนนี้”
“ทุกท่านมีความสามารถในการฟื้นฟูไม้เทพแห่งชีวิตนี้ได้ ขอเพียงให้ทุกท่านอุทิศพลังชีวิตของตนเองเท่านั้น เมื่อถึงตอนนั้นไม้เทพแห่งชีวิตก็จะเติบโตขึ้นมาอย่างแน่นอน นอกจากนี้ข้าก็จะอนุญาตให้ทุกท่านเด็ดเอาใบไม้ของไม้เทพแห่งชีวิตนี้ไป และนำไปใช้ประโยชน์เพื่อตนเองได้อีกด้วย”
นี่เป็นถึงไม้เทพแห่งชีวิตเชียวนะ! แม้จะเป็นใบเพียงแค่ใบเดียว แต่ก็มีมูลค่านับไม่ถ้วนแล้ว หากนำไปกลั่นยา มันก็สามารถกลั่นยาคืนชีพได้อีกด้วย
ว่านซือเยี่ยนถูกคำพูดของเขาทำให้หวั่นไหวเล็กน้อย แต่เขาค้นพบว่ามู่เฉินซีที่อยากได้ไม้เทพแห่งชีวิตนี้มากที่สุด กลับมีสีหน้าที่เรียบเฉยเป็นอย่างมาก
สิ่งของสิ่งนี้ต้องมีปัญหาแน่!
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!
และในเวลานี้ รากของต้นไม้วิญญาณบรรพบุรุษก็เริ่มเคลื่อนไหวขึ้นมาแล้ว
เจ้าสำนักภูตวิญญาณกล่าวว่า “ทุกท่านต้องจับรากของต้นไม้วิญญาณบรรพบุรุษเอาไว้ หลากจากนั้นก็ใส่พลังชีวิตของตนเองเข้าไปข้างใน เมื่อถึงเวลานั้นต้นไม้วิญญาณบรรพบุรุษก็จะชำระล้างพลังชีวิตของพวกท่าน และส่งมอบมันให้กับไม้เทพแห่งชีวิตอีกทีหนึ่ง”
“ทุกครั้งที่เจ้าสำนักอย่างข้าเข้ามาที่นี่ ข้าก็มักจะมอบพลังชีวิตให้แก่ไม้เทพแห่งชีวิตอยู่เสมอ หากทุกท่านไม่เชื่อข้าแล้วละก็ ข้าสามารถเป็นผู้นำในการใส่พลังเข้าไปก่อนได้!”
เมื่อพูดจบ กุ่ยเต้าเหรินก็จับรากเอาไว้รากหนึ่ง หลังจากนั้นก็ใส่พลังชีวิตเข้าไป และผู้คนต่างก็สัมผัสได้ว่าไม้เทพแห่งชีวิตต้นเล็ก ๆ นี้แผ่กระจายพลังชีวิตออกมามากขึ้นแล้ว
“ข้าเอาด้วย!”
“ข้าก็จะเอาด้วย!”
“……”
สิ่งนี้ทำให้ผู้คนมากมายเห็นด้วย และพากันจับรากของต้นไม้วิญญาณบรรพบุรุษเอาไว้
แต่ทว่า มู่เฉียนซีกลับไม่ได้ดำเนินการใด ๆ เลย
ในเมื่อมู่เฉียนซีไม่มีความเคลื่อนไหว แน่นอนว่าว่านซือเยี่ยนก็ไม่ก้าวเข้าไปอยู่แล้ว กุ่ยเต้าเหรินผู้นั้นจึงกล่าวว่า “นายน้อยของสมาคมการค้าเฉินซีท่านนี้ ใช่คุณชายว่านซื่อหรือไม่? หรือว่าคุณชายว่านซื่อไม่เชื่อข้าอย่างนั้นหรือ?”
“ข้าคือนายน้อยของสมาคมการค้าที่ร่ำรวยมากที่สุดในโลกนี้ ชีวิตของข้านั้นล้ำค่ามาก แน่นอนว่าพลังชีวิตของข้าก็ต้องล้ำค่ามากเช่นกัน ซึ่งไม่อาจนำไปเปรียบเทียบกับคนเหล่านั้นได้อยู่แล้ว” ว่านซือเยี่ยนกล่าวขึ้นมาอย่างเย่อหยิ่ง
“ความหมายของคุณชายว่านซื่อคือ ท่านต้องการส่วนแบ่งที่มากกว่าอย่างนั้นหรือ?” กุ่ยเต้าเหรินกล่าว
“มีความหมายเช่นนั้นแหละ เจ้าสำนักภูตวิญญาณช่างฉลาดหลักแหลมเสียจริง ๆ!” ว่านซือเยี่ยนกล่าวด้วยรอยยิ้ม
ภายในใจของคนอื่นโกรธเคืองเป็นอย่างมาก เขามีสิทธิ์อะไรกัน ทุกคนล้วนคือมนุษย์ทั้งนั้น คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะอาศัยเพียงแค่มีเงินแล้วคิดว่าตนเองสูงส่งกว่าคนอื่น นอกจากนี้ยังคิดว่าพลังชีวิตเหนือกว่าคนอื่นอีกด้วยหรือ
“เช่นนั้นนายน้อยว่านซื่อต้องการมากเท่าไรกันเล่า!”
ด้วยเหตุนี้ว่านซือเยี่ยนจึงได้เริ่มต่อรองราคากับเขา และมันก็ยิ่งมีความโลภเพิ่มมากขึ้นไปเรื่อย ๆ
ชายชราที่อาศัยอยู่กลางป่าเขาลึกมาทั้งชีวิตอย่างกุ่ยเต้าเหริน จะมาเป็นคู่ต่อสู้ของว่านซือเยี่ยนได้อย่างไรกัน ฉะนั้นมันจึงทำให้เขาต้องล่าถอยครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยความพ่ายแพ้
ในใจของผู้คนต่างก็รู้สึกโกรธเคืองเป็นอย่างมาก ช่างสมกับที่เป็นพ่อค้าหน้าเลือดเสียจริง ๆ!
มิแปลกใจเลยที่สมาคมการค้าเฉินซีจะหยิ่งผยองถึงเพียงนี้ ขนาดนายน้อยยังชั่วร้ายถึงเพียงนี้เลย ฉะนั้นเจ้าสมาคมของพวกเขาจะต้องเก่งกาจมากกว่านี้เป็นแน่
เนื่องจากว่าไม่สามารถต่อรองราคาได้ ดังนั้นจึงทำให้เกิดความล่าช้าอยู่เป็นเวลานาน
ในเวลานี้มีหญิงสาวคนหนึ่งก็กล่าวขึ้นมาว่า “ขะ…ข้าทนไม่ไหวแล้ว ขะ…ข้ารู้สึกเหมือนว่ากำลังจะตายเลย พลังชีวิตของข้าเหลืออีกไม่มากแล้ว! ท่านไม้เทพแห่งชีวิต ท่านรีบตอบสนองกลับมาโดยเร็วด้วยเถิด!”
“ข้าก็ด้วย…”
แต่หลังจากนั้นเพียงครู่เดียว ผู้คนมากมายต่างก็ทนไม่ไหวอีกต่อไป
ไม้เทพแห่งชีวิตมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นแล้ว และดูเหมือนว่าจะโตพอจนมีใบงอกออกมาแล้ว พวกเขาต้องการมากกว่านี้ แต่ทว่าความสามารถของร่างกายกลับทนไม่ไหวอีกแล้ว
“ไม่ได้! ไม่สามารถหยุดตอนนี้ได้ ต้องทำต่อไป!”
“มันให้ผลมากถึงขนาดนี้แล้ว พวกท่านจำเป็นต้องยืนหยัดต่อไป!” กุ่ยเต้าเหรินกล่าว
ในเวลานี้ ก็มีเสียงกรีดร้องออกมา “กรี๊ดดด! ผะ…ผม ผมของข้าเปลี่ยนเป็นสีขาวแล้ว มันขาวแล้ว…”
คนผู้นั้นคือหญิงสาวคนหนึ่ง ฉะนั้นจะรับสภาพที่ตนเองดูแก่มากขึ้นหลายปีได้อย่างไร
“ข้ายอมแพ้! ข้ายอมแพ้แล้ว!
แต่ในตอนที่นางต้องการจะยอมแพ้ รากของต้นไม้วิญญาณบรรพบุรุษนั้นกลับละลายเข้าไปในเส้นเลือดของนาง และไม่ว่านางจะใช้วิธีการใด ก็ไม่สามารถตัดมันออกได้
แต่ละคนหวาดกลัวจนสีหน้าซีดเผือด และกล่าวอย่างโกรธเคืองว่า “กุ่ยเต้าเหริน นี่เจ้ากำลังทำอะไรกันแน่? รีบปล่อยข้าเดี๋ยวนี้ เร็วเข้าสิ! จะ…เจ้าต้องการจะทำร้ายพวกเราอย่างนั้นหรือ?”