ทาสรักทาสหัวใจ - ตอนที่ 1ความเจ็บปวดที่ฝังใจ
ณ บริษัทพีพีเคสตูดิโอจำกัดตึกสูงระฟ้ากว่ายี่สิบชั้น ภพ นัฐภพ วัฒนาศิริ วัยยี่สิบแปดปี กำลังนั่งหลับตาเอนหลังพิงเก้าอี้ทำงานด้วยอารมณ์ขุ่นมัวหลังจากวางสายจากอนันต์บิดาไปไม่ถึงนาที บิดาของชายหนุ่มพยายามตามตื้อให้เขาไปทานข้าวที่บ้านร่วมกับแม่เลี้ยง ที่อดีตเคยแอบเป็นชู้จนทำให้จันทรามารดาของชายหนุ่มเสียใจล้มป่วยจนจากไปอย่างไม่มีวันกลับ
ตั้งแต่มารดาเสียไปชายหนุ่มต้องรับผิดชอบกิจการหลายอย่างแทนท่าน และกิจการของตนเองจนงานรัดตัวแทบจะไม่มีเวลาส่วนตัวเป็นของตนเอง ชายหนุ่มชอบถ่ายภาพมาตั้งแต่สมัยเรียนหลังเรียนจบจึงเปิดบริษัท พีพีเคสตูดิโอจำกัดแห่งนี้ รับงานถ่ายโฆษณาและถ่ายแบบต่างๆ จนมีชื่อเสียงและรายได้เพิ่มขึ้นถึงจะเป็นรองจากบริษัทผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์หลายเท่าแต่ก็ถือว่าประสบความสำเร็จ อีกทั้งยังมีแบรนด์ผ้าไหมไทยของมารดาอีกหลายสาขาทั่วประเทศ
เมื่อไรที่มีเวลาชายหนุ่มมักจะชอบขับรถไปต่างจังหวัดเพียงลำพัง เพื่อถ่ายภาพธรรมชาติที่ชื่นชอบเป็นชีวิตจิตใจและผ่อนคลายอารมณ์ตึงเครียดจากงานไปในตัว และมักจะชอบไปปาร์ตี้กับเพื่อนๆ ในผับชื่อดังต่างๆ เมื่อพอใจที่จะไป ส่วนในเรื่องของหัวใจนั้นหญิงสาวรุ่นน้องนั้นยังคงอยู่ในหัวใจ ถึงแม้เธอจะปฏิเสธเขาครั้งแล้วครั้งเล่าแต่เขาก็ยังคงจะรอและไม่คิดที่จะเปิดใจให้ใครเข้ามา
ครืด ครืด โทรศัพท์มือถือเครื่องบางยี่ห้อดังรุ่นใหม่ล่าสุดสั่นอยู่บนโต๊ะทำงานอย่างต่อเนื่อง เปลือกตาหนาจึงลืมขึ้นหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู พอเห็นว่าเป็นซินดี้นางแบบสาวเพื่อนสนิทที่คิดไม่ชื่อก็วางมือถือลงด้วยความหงุดหงิดรำคาญ พร้อมกับถอนหายใจแรงๆ เมื่อชายหนุ่มไม่ยอมกดรับสายไม่นานปลายสายที่โทรเข้ามาก็วางไป
ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นพร้อมกับพิศเลขาสาวเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าโต๊ะทำงานของชายหนุ่ม
"รบกวนเซ็นเอกสารหน่อยนะคะ คุณภพ"
"ห้องประชุมเตรียมเรียบร้อยแล้วใช่ไหม" เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นพร้อมกับตวัดปลายปากกาเซ็นชื่ออย่างรวดเร็ว
"เรียบร้อยแล้วค่ะ มาครบกันทุกคนแล้ว"
"อืม ว่าแต่สองสามวันนี้ผมมีนัดหรืองานอะไรที่ไหนอีกไหม"
"พิศเพิ่งจะเช็คเมื่อกี้ไม่มีค่ะ"
"ดีเลย งั้นสองสามวันนี้ผมไม่เข้าบริษัทนะ มีอะไรด่วนก็โทรหาผมก็แล้วกันนะ"
"ค่ะ"
ภพเข้าร่วมประชุมสรุปยอดขายของบริษัทไม่นานก็พาตนเองออกมาจากห้องประชุมตรงไปยังลานจอดรถ กำลังจะยื่นมือไปเปิดประตูรถคันหรูเสียงอันคุ้นหูที่ไม่อยากจะได้ยินก็ดังอยู่ทางด้านหลังชายหนุ่ม
"ภพ"
"ผมว่าเราคุยรู้เรื่องแล้วนะ" ภพเอ่ยขึ้นไม่ยอมหันไปเผชิญหน้าคนด้านหลังตรงๆ
"เรื่องมันก็ผ่านมาเป็นปีแล้ว ให้อภัยพ่อเถอะนะ" อนันต์เอ่ยขึ้นด้วยความเสียใจ
"ไม่! แม่ตายไปทั้งคน ผมไม่มีวันให้อภัยอย่างเด็ดขาด! " ภพหันไปตวาดใส่บิดาดวงตาแดงก่ำ
"พ่อรู้ว่าพ่อผิด ที่เป็นต้นเหตุให้แม่เราเสียใจจนล้มป่วยเสียไป และพ่อก็รู้สึกผิดมาก เวลาหนึ่งปีมันไม่พอจะให้ภพให้อภัยให้พ่อคนนี้บ้างเลยเหรอ" อนันต์เอ่ยตัดพ้อน้ำตาคลอเบ้า
"หึ อย่ามาขอซะให้ยากเลย ที่ผมยอมนับถือเรียกว่าพ่อมันก็มากเกินพอแล้ว ภาพคุณแม่นอนป่วยอยู่บนเตียงพร่ำหาแต่คุณพ่อให้มาหาจนขาดใจตายไปต่อหน้าผมไม่เคยลืม" เอ่ยพลางน้ำตาไหลอาบแก้มด้วยความเจ็บปวดใจ
"พ่อขอโทษ" อนันต์ร้องไห้น้ำตาไหลอาบแก้มมองลูกชายผ่านม่านตาด้วยความรู้สึกผิดที่กัดกินใจ
"วันนั้นคุณพ่อคงจะมีความสุขมากสินะ อีกคนรออย่างทรมานแต่อีกคนกลับไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง"
"พ่อผิดเอง ภพจะให้พ่อทำยังไงถึงจะหายโกรธพ่อสักที"
"กลับไปอยู่กับเมียรักของพ่อเถอะ ไม่ต้องพยายามลากผมเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตโสมม ต่างคนต่างมีชีวิตเป็นของตนเองไม่จำเป็นก็ไม่ต้องโทรมา ส่วนเรื่องเงินผมจะส่งให้เหมือนเดิมทุกเดือน" พูดจบภพก็รีบเปิดประตูรถเข้าไปนั่งทันที
"ภพลูก!" อนันต์ตะโกนเรียกลูกชายที่อยู่ในรถ
ชายหนุ่มไม่สนใจเสียงเรียกของบิดารีบแล่นรถออกไปด้วยความรวดเร็วทั้งน้ำตาลูกชายไหลอาบแก้ม อนันต์ได้แต่เพียงยืนมองรถคันหรูแล่นออกไปจนลับสายตาด้วยความเสียใจเท่านั้น เพราะเขาไม่สามารถทำอะไรที่มากไปกว่านี้ได้อีกแล้วเพราะความผิดที่เคยทำไว้ในอดีตมันเลวร้ายเกินกว่าจะให้อภัยได้จริงๆ ได้แต่ทำใจยอมรับผลของมันเท่านั้น
ภพแล่นรถเข้าไปจอดในบ้านศริวัฒนาพร้อมกับรีบตรงดิ่งเข้าไปในบ้านเพื่อจะเก็บข้าวของไปต่างจังหวัดอย่างที่ตั้งใจเอาไว้ ระหว่างที่ชายหนุ่มกำลังง่วนอยู่กับการเก็บข้าวของเครื่องใช้ลงไปในกระเป๋าเป้ หญิงสูงวัยแม่บ้านเก่าแก่ของบ้านก็เดินเข้ามาในห้องด้วยความเป็นห่วง
"คุณภพเก็บของจะไปต่างจังหวัดอีกแล้วเหรอคะ" ป้าสายเอ่ยถามขึ้น
"ครับ ผมจะไปสักสองสามวัน"
"ไปก็ดูแลตัวเองดีๆ นะคะ อย่าขับรถเร็วป้าเป็นห่วง"
"ป้าไม่ต้องห่วงผมหรอกครับ ดูแลตัวเองเถอะ อย่าทำงานหนักมาก ให้คนอื่นทำบ้างอยู่กันตั้งหลายคน"
"ค่ะ" ป้าสายส่งยิ้มให้ชายหนุ่ม
ภพแล่นรถไปเรื่อยๆ เพื่อหาโฮมสเตย์ที่เปิดให้บริการท่ามกลางป่าเขา ระหว่างทางชายหนุ่มก็นึกถึงมารดาขึ้นมาภาพต่างๆ ในอดีตที่เคยมีความสุขร่วมกันยังคงชัดเจนไม่เคยลืมเลือนเหมือนเพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อไม่นาน ถ้าบิดาของเขาไม่แอบมีเมียน้อยมารดาของเขาก็คงจะไม่ล้มป่วยแล้วจากไปแบบนี้ ยิ่งคิดชายหนุ่มก็ยิ่งเสียใจโกรธเกลียดผู้เป็นบิดา
ไม่นานชายหนุ่มก็ได้ที่พักท่ามกลางหุบเขาสูงล้อมรอบ บรรยากาศที่ดีทำให้เขาผ่อนคลายอย่างไม่น่าเชื่ออารมณ์ขุ่นมัวที่เคยมีก็ค่อยๆ หายไปอย่างปลิดทิ้ง มือหนายกกล้องถ่ายภาพราคาแพงขึ้นมาพร้อมกับสายตาคมกริบมองผ่านเลนส์กดรัวชัตเตอร์จับภาพเบื้องหน้าอย่างอารมณ์ดี ภาพธรรมชาติต่างๆ ถูกส่งผ่านมายังแล็ปท็อปเครื่องบางชายหนุ่มค่อยๆ เลื่อนดูไปทีละภาพอีกมือหนึ่งก็ยกแก้วกาแฟร้อนๆ ขึ้นจิบไปด้วย
หลายวันต่อมา
ในเวลาพลบค่ำยามค่ำคืน ณ ผับชื่อดังใจกลางเมืองภพกำลังนั่งดื่มกับเพื่อนๆ และปรางหญิงสาวสวยเจ้าของผับแห่งนี้โดยมีแม็กซ์แฟนหนุ่มนั่งอยู่ข้างๆ ซึ่งทั้งสามคนเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยมัธยมแล้ว แต่พอเข้ามหาวิทยาลัยก็แยกตัวกันไปเรียนคนละที่
"ว่าแต่เมื่อไหร่แกสองคนจะแต่งงานกันวะ คบกันมาตั้งนานแล้ว" ภพเอ่ยถามเพื่อนทั้งสองคนขึ้น
"ยังไม่รู้เลย อีกอย่างเราสองคนยังไม่รีบน่ะ"ปรางเอ่ยพลางหันไปมองหน้าแม็กซ์
"แกห่วงตัวเองเถอะ ไม่ต้องมาห่วงเรื่องฉันกับปรางหรอก "
"ฉันมีอะไรน่าเป็นห่วงวะ" ภพพูดพลางกระดกเครื่องดื่มลงคอ
"ก็เรื่องหัวใจตัวเองไงล่ะ แกมีคนดูแลหรือยัง ถ้าไม่มีฉันจะหาให้" แม็กซ์เสนอตัว
"ไม่ต้อง" ภพสีหน้าตึงเครียดขึ้นมาทันที
"ภพขา! ซินดี้ขอนั่งด้วยคนสิคะ" เสียงนางแบบสาวเพื่อนสนิทดังขึ้น
"หึ ปรางเรากลับไปนอนกันเถอะ ฉันกลับก่อนนะ พรุ่งนี้ต้องบินไปดูงานที่ต่างประเทศหน่อยว่ะ" แม็กซ์ลุกขึ้นโอบเอวแฟนสาวแล้วรีบเดินออกไปทันที
"อะไรวะ นึกจะกลับก็กลับ" ภพบ่นในใจพร้อมกับขยับออกจากร่างบางอวบอิ่มที่นั่งเบียดอยู่ข้างๆ
"ซินดี้โทรหาทำไมไม่ยอมรับสายกันบ้างคะ"
"ผมยุ่งน่ะ"
"คืนนี้ให้ซินดี้ดูแลนะคะ" นางแบบสาวเอ่ยเสียงออดอ้อน
"เราเป็นเพื่อนกันนะซินดี้ อย่าพูดอะไรเหลวไหลได้ไหม" ภพส่ายหน้า
"เป็นเพื่อน ก็เปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่นได้ ลองเปิดใจให้ซินดี้หน่อยเถอะนะคะภพ"
"ไม่ ผมขอตัวกลับก่อนนะ พรุ่งนี้มีงาน" พูดพลางลุกขึ้นยืน
"งั้นซินดี้ไปส่งค่ะ"
ภพเดินตรงยังไปรถคันหรูโดยมีนางแบบสาวเดินเคียงข้างไม่ยอมห่างแสดงความเป็นเจ้าของให้ผู้คนที่เดินผ่านไปมาเข้าใจว่าทั้งสองคนเป็นคู่รักกัน
"ขับรถดีๆ นะคะ ไว้เจอที่บริษัทค่ะ" ซินดี้ส่งจูบให้ชายหนุ่มด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
"อืม คุณก็รีบกลับล่ะ"
"ค่ะ"
ซินดี้มองรถคันหรูแล่นออกไปจนลับสายตาจากนั้นก็กลับเข้าไปสนุกกับเพื่อนข้างในต่อ ทางด้านภพพอกลับถึงคอนโดหรูใจกลางเมืองก็รีบอาบน้ำแต่งตัวล้มตัวลงบนเตียงนุ่มด้วยความอ่อนล้า พอนึกถึงใครบางคนก็รีบต่อสายหาเธอทันที แต่ปลายสายไม่มีการตอบกลับ ชายหนุ่มจึงตัดสินใจส่งข้อความแทนแล้วหลับตาลง