ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง - บทที่ 497+498 การแก้แค้นและความอับอาย / สอนบทเรียนให้เขา
- Home
- ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง
- บทที่ 497+498 การแก้แค้นและความอับอาย / สอนบทเรียนให้เขา
บทที่ 497 การแก้แค้นและความอับอาย
“ย่อมได้ ถ้าเจ้าขายให้คนอื่นในราคาเดียวกัน ข้าจะขนถุงเงินมาที่นี่!”
มู่เชียนเชียนเกือบจะไม่พอใจกับราคาที่สูงเกินไปเช่นนี้
“ขอโทษนะ วันนี้ข้าอารมณ์ไม่ดี ข้าจะขายให้ท่านในราคานี้ จะซื้อก็ซื้อ ไม่เอาก็ออกไป!” อวิ๋นซิ่วชิงกล่าวอย่างจงใจ
“อวิ๋นซิ่วชิง อย่าจองหองมากนัก ความคิดนี้คุ้มค่ากับเงินจำนวนมากหรือไม่ เจ้าคิดไปไกลเกินไปแล้วสินะ?!!” จริง ๆ หลี่ฟู่หลานไม่ต้องการพูดอะไร แต่เพื่อที่จะประจบสอพลอมู่เชียนเชียนแล้ว นางจึงเปิดปากพูดออกมา
ทันใดนั้น พ่อเฒ่าอวิ๋นและเสี่ยวเฮยก็เข้ามาพร้อมอาหารในมือ
เมื่อเห็นหลี่ฟู่หลาน พ่อเฒ่าอวิ๋นก็ชักสีหน้าและพูดว่า “ชิงเหนียง มากินอาหารกันเถอะ”
อวิ๋นซิ่วชิงตอบรับแล้วหันไปมองมู่เชียนเชียนและหลี่ฟู่หลาน “ตอนนี้เราจะไปทานอาหารกันแล้ว ถ้าเจ้ามีอารมณ์จะนั่งดู ข้าก็ไม่ว่าอะไร ผูเว่ยชาง เจ้าวางมือจากสมุดบัญชีก่อน ไปกินข้าวกันเถอะ”
“ตกลง” ผูเว่ยชางตอบรับแล้วนั่งลงที่โต๊ะกับอวิ๋นซิ่วชิง
มู่เชียนเชียนโกรธมากจนกระทืบเท้า นางไม่เคยเห็นผู้หญิงที่ร้ายกาจเช่นนี้มาก่อน
“ไปกันเถอะ” มู่เชียนเชียนพูดอย่างโกรธเคือง
ก่อนที่มู่เชียนเชียนจะจากไป ผูเว่ยชางก็พูดอย่างใจเย็นว่า “เอาของของเจ้าออกไปด้วย ถ้าเจ้าไม่เอาไป ข้าจะเขียนจดหมายถึงตระกูลมู่ และส่งของกลับไปเอง!”
น้ำตาพลันเอ่อคลอในดวงตาของมู่เชียนเชียนเพราะความโกรธ นางจ้องไปที่อวิ๋นซิ่วชิงและขอให้คนรับใช้นำของขวัญกลับไป
หลังจากที่มู่เชียนเชียนจากไปพร้อมกับหลี่ฟู่หลาน พ่อเฒ่าอวิ๋นก็ถามว่า “ชิงเหนียง ผู้หญิงที่อยู่ข้างหลี่ฟู่หลานคือคุณหนูของตระกูลมู่ใช่ไหม”
“ใช่ นางเป็นลูกสาวของตระกูลมู่” อวิ๋นซิ่วชิงกล่าวอย่างเฉยเมย
เสี่ยวเฮยเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจและพูดว่า “นางเป็นคุณหนูของตระกูลมู่ มีคนบอกว่านางงามราวกับนางฟ้า แต่เมื่อเทียบกับพี่สาวของข้า นางดูน่าเกลียดมาก ทั้งยังหม่นหมองและเตี้ยม่อต้อ นางไม่มีความสง่างามเลย”
ผู้หญิงทุกคนชอบที่จะได้ยินคำชมจากคนอื่นว่างดงาม อวิ๋นซิ่วชิงเองก็เช่นกัน ดังนั้นเมื่อได้ยินคำพูดของเสี่ยวเฮย หญิงสาวก็ยิ้มออกมาและอาการซึมเศร้าของนางก็หายไป
“อย่ายกยอข้ามากไปนัก กินข้าวกันเถอะ” อวิ๋นซิ่วชิงยิ้มและลูบหัวเสี่ยวเฮย
หลังมื้ออาหารเสร็จสิ้น อวิ๋นซิ่วชิงก็ไปหาอีเหริน
เมื่อวานพวกนางตกลงกันว่าจะมาที่ร้านแต่อีเหรินก็ไม่มา อวิ๋นซิ่วชิงกลัวว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีกับอีกฝ่าย นางจึงอยากไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น
อวิ๋นซิ่วชิงมาที่สนามในบ้านจากทางประตูหลังของร้าน ในเวลานี้ประตูถูกเปิดออก นางเห็นหญิงสาวในชุดธรรมดากำลังทำความสะอาดสนามหญ้า
อวิ๋นซิ่วชิงมองเห็นอีเหรินที่เปี่ยมไปด้วยความหวังก็ยิ้มออกมา “อีเหริน เจ้ากินข้าวหรือยัง?”
เมื่อได้ยินเสียงของอวิ๋นซิ่วชิง ผู้หญิงคนนั้นวางไม้กวาดในมือลงเพื่อต้อนรับผู้ช่วยชีวิตของนาง “ข้ายังไม่อยากกินอะไร”
อวิ๋นซิ่วชิงพยักหน้า “เจ้าต้องกินสักเล็กน้อยนะ แม้ว่าเจ้าจะไม่ต้องการกิน แต่ในอนาคตมันจะดีต่อสุขภาพของเจ้า”
อีเหรินตอบรับอย่างเชื่อฟัง จากนั้นอวิ๋นซิ่วชิงได้พาเข้าไปในห้องเพื่อตรวจร่างกาย
ในเวลาเดียวกันที่ประตูร้านอวิ๋นผู
เหยียนเกอลงจากรถม้าด้วยท่าทางที่สง่างาม เขามาที่นี่เพื่อรับอวิ๋นซิ่วชิงไปโรงหมอ และเขาก็ต้องการจะมากวนประสาทผูเว่ยชางด้วย เขาต้องการล้างแค้นให้กับการคุกคามของผูเว่ยชางเรื่องเมื่อวานนี้
“ชิงเหนียงอยู่ไหน? ข้าจะพานางไปโรงหมอ”
สีหน้าของผูเว่ยชางมืดมนลง เขาอยากจะบีบคอไอ้สารเลวคนนี้จริง ๆ
“เจ้ามาทำอะไรที่นี่?”
“ตอนนี้ข้าสะสางตัวเองแล้ว ข้าจะพานางไปโรงหมอ แล้วก็ข้ามีอะไรจะบอกนางด้วย” จากนั้นจึงหันไปสั่งคนขับรถม้า “มารับข้าทีหลังก็ได้ ไม่ต้องรบกวนข้า และไม่ต้องเป็นห่วงด้วย ข้าจะตรงต่อเวลา”
เมื่อมองไปที่สีหน้าที่มืดมนของผูเว่ยชาง เหยียนเกอก็ยิ่งรู้สึกอารมณ์ดี
…
บทที่ 498 สอนบทเรียนให้เขา
“นายท่าน ต้องการให้ข้าไล่เขาออกไปไหม?” ต้าเหนียนชุ่ยยี่ได้ยินคำท้าทายนายท่านของเขาจากเหยียนเกอก็รีบถามขึ้น
ในฐานะผู้ใต้บังคับบัญชา เขาต้องยืนอยู่ข้างเจ้านาย
ผูเว่ยชางพยักหน้า และทันใดนั้นต้าเหนียนชุ่ยยี่ก็ยกคอเสื้อเหยียนเกอขึ้นมา
เหยียนเกอไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นรวดเร็วเช่นนี้ และในเวลานี้เขาพลันเห็นพ่อเฒ่าอวิ๋นอยู่ที่สวนหลังบ้าน จึงตะโกนออกมาว่า “ท่านลุง! ท่านลุง! ข้าเอง! เหยียนเกอ!!”
ขณะที่พ่อเฒ่าอวิ๋นกำลังจัดสวนหลังบ้านรก ๆ อยู่นั้น เขาก็ได้ยินเสียงคนตะโกน ครั้นเขาเงยหน้าขึ้นก็เห็นชุ่ยยี่เดินออกมาพร้อมยกคอเสื้อของเหยียนเกอ
เขาตกใจกลัวและตะโกนว่า “ชุ่ยยี่! ชุ่ยยี่! หยุด!!”
หลังจากได้ยินเสียงพ่อเฒ่าอวิ๋นที่อยู่ข้างหลัง ต้าเหนียนชุ่ยยี่ก็เงยหน้าขึ้นและจ้องมองเหยียนเกออย่างเย็นชา
จากนั้นเขาก็ลดมือลงและกลับไปยืนอยู่ข้าง ๆ อย่างเงียบ ๆ
ในเวลานี้ผูเว่ยชางยืนอยู่หลังโต๊ะด้วยสีหน้าเฉยเมยและดูบัญชีอย่างจริงจังราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“เหยียนเกอ เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?” พ่อเฒ่าอวิ๋นถามอย่างประหม่า ลูกสาวของเขาต้องเรียนวิชาแพทย์กับเหยียนเกอ เขาจะขัดใจเหยียนเกอไม่ได้
เหยียนเกอจัดเสื้อผ้าที่ยับยู่ยี่ของเขาให้เรียบร้อยและยิ้มออกมา “ไม่เป็นไรขอรับ”
“ดีแล้ว อย่าโกรธกันเลย ชุ่ยยี่ไม่รู้จักเจ้า ที่จริงชุ่ยยี่เป็นคนดีนะ” พ่อเฒ่าอวิ๋นคิดว่าชุ่ยยี่ไม่รู้จักเหยียนเกอ
“เหยียนเกอเป็นคนสอนทักษะทางการแพทย์ให้อวิ๋นซิ่วชิง เจ้าอย่าทำเช่นนี้อีกนะ”
ชุ่ยยี่ตอบว่า “เขาเป็นคนส่อเสียด” แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถโยนเหยียนเกอออกจากร้านได้ แต่เขาก็ต้องล้างแค้นให้เจ้านายของเขา
เมื่อได้ยินเช่นนี้ พ่อเฒ่าอวิ๋นก็ไม่รู้จะตอบอย่างไร เขายิ้มอย่างอับอายและดึงชุ่ยยี่ออกไปทันที “ผู้คนมักจะเป็นแบบนั้น อย่าทำให้ข้าอายด้วยการพูดแบบนั้นเลย”
แม้ว่าเสียงของเขาจะเบามาก แต่ก็ยังได้ยินชัดเจน
คนแบบนั้นคือหมายความว่าอย่างไร?
พ่อเฒ่าอวิ๋นนั้นคิดว่าเหยียนเกอหล่อมาก แต่เขาแต่งตัวไม่สุภาพ บางครั้งเขาจึงดูเหมือนผู้ชายส่อเสียด และในสายตาของเขา ชุ่ยยี่เป็นคนซื่อสัตย์ที่ไม่โกหก ดังนั้นเขาจึงเชื่อในสิ่งที่ชุ่ยยี่พูด
เหยียนเกอต้องทำอะไรให้ชุ่ยยี่ทนไม่ไหวจึงถูกขับไล่เป็นแน่
ถ้าเหยียนเกอรู้ว่าพ่อเฒ่าอวิ๋นคิดอะไรอยู่ เขาคงโกรธจนเป็นลมไปแล้ว
หลังจากส่งชุ่ยยี่ไปทำงาน พ่อเฒ่าอวิ๋นก็กลับมาหาเหยียนเกอและถามว่า “เหยียนเกอ แล้วเจ้ามาที่นี่ทำไม?”
“ข้ามารับอวิ๋นซิ่วชิงน่ะ นางอยู่ไหนหรือ?” เมื่อเหยียนเกอถามออกมา เขาก็เหลือบมองผูเว่ยชางอย่างย่ามใจ ซึ่งอีกฝ่ายไม่แม้แต่จะมองมาที่เขาด้วยซ้ำ
เมื่อได้ยินว่าเหยียนเกอมารับลูกสาว พ่อเฒ่าอวิ๋นก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยและพูดว่า “ชิงเหนียงอยู่บ้านที่เพิ่งซื้อใหม่น่ะ อยู่หลังร้าน”
“ขอบคุณท่านลุงข้าจะไปหาชิงเหนียง” จากนั้นเขาก็เดินอย่างรวดเร็วไปยังสถานที่ดังกล่าว
หลังจากเหยียนเกอเดินไปแล้ว ต้าเหนียนชุ่ยยี่ก็มาหาผูเว่ยชางและถามด้วยความเคารพว่า “นายท่าน เราควรสอนบทเรียนให้เขาอย่างไร?”
“ไม่ต้องรีบร้อน” ผูเว่ยชางตอบ
“นายท่าน เราพบข่าวบางอย่างแล้ว” ชุ่ยยี่รายงานผูเว่ยชางด้วยเสียงต่ำ
“พูดมา” ผูเว่ยชางเงยหน้าขึ้นมองที่ร้านก็พบว่าเวลานี้ไม่มีแขกในร้าน เสี่ยวเฮยและพ่อเฒ่าอวิ๋นก็อยู่ในสวนหลังบ้านแล้ว
“ผู้ลักพาตัวสองคนที่ลักพาตัวคุณหนูมู่มาจากหมู่บ้านอินทรียาว พวกเขาอาศัยอยู่ที่ภูเขาทางใต้ใกล้กับบ้านพักของตระกูลฉาง ที่นั่นอันตราย ง่ายต่อการป้องกัน แต่ยากต่อการถูกโจมตี ผู้ลักพาตัวเหล่านั้นมาจากหมู่บ้านโดยรอบ สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้นเป็นการสมรู้ร่วมคิด ผู้ลักพาตัวเหล่านั้นควรจะลักพาตัวคุณหนูมู่เพื่อเรียกค่าไถ่จากตระกูลมู่ แต่แผนของพวกเขาถูกทำลายเพราะนายท่านและแม่นางอวิ๋น” ต้าเหนียนชุ่ยยี่รายงานด้วยสีหน้าเรียบเฉย