ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง - บทที่ 491+492 เจ้าคิดว่าโรคดอกฝิ่นไม่ใช่เรื่องใหญ่หรือ / พาอีเหรินออกจากซ่อง
- Home
- ทะลุมิติไปเป็นแพทย์หญิงชาวสวนผู้มั่งคั่ง
- บทที่ 491+492 เจ้าคิดว่าโรคดอกฝิ่นไม่ใช่เรื่องใหญ่หรือ / พาอีเหรินออกจากซ่อง
บทที่ 491 เจ้าคิดว่าโรคดอกฝิ่นไม่ใช่เรื่องใหญ่หรือ?
“จะพูดเรื่องอะไรก็รีบพูดมา อย่ารบกวนเวลานอนของข้า!” แม่เล้าหรี่ตาและพูดอย่างไร้ความรู้สึกโดยไม่หันมามองอีเหรินและอวิ๋นซิ่วชิง
“พี่ฮัว ข้าจะไม่ทำงานแล้ว…”
“อะไรนะ?! เจ้ากำลังล้อเล่นหรือ?!!” แม่เล้าเบิกตากว้างพลางมองไปที่อีเหริน
แม่เล้าอยากจะถาม แต่สายตากลับเหลือบไปเห็นชายหนุ่มรูปงามที่อยู่ข้างหลังอีเหริน
อีเหรินอยู่ในซ่องชุนโหลวมามากกว่าสิบปี ดังนั้นนางจึงรู้ว่าแม่เล้าจะทำอะไรกับนางเวลาโกรธ
“พี่ฮัว ข้าไม่ได้รับอนุญาตให้รับแขกเพราะโรคของข้า”
แม่เล้าได้ยินแล้วก็เดินไปหาอวิ๋นซิ่วชิง กวาดสายตามองนายน้อยตรงหน้าขึ้น ๆ ลง ๆ และพูดว่า “อีเหริน เป็นเรื่องปกติที่คนอย่างเราจะทนทุกข์ทรมานจากโรคร้ายที่มาจากการรับแขก แต่เจ้าก็ไม่จำเป็นต้องหยุดทำงาน!”
อีเหรินมองแม่เล้าด้วยสายตาเหลือเชื่อ “พี่ฮัว โรคนี้มันติดต่อแขกได้นะ”
แม่เล้าตะคอกใส่ทันที “ไม่ต้องห่วง ข้าฝึกเจ้ามาสิบปี มีผู้ชายหลายคนที่เป็นโรคเดียวกับเจ้า เจ้ายังต้องทำงานอีกห้าปีอยู่ดี!!”
“ปิดตาทั้งสองข้างของเจ้าซะ” อวิ๋นซิ่วชิงพูดอย่างเย็นชา นางทนสายตาของแม่เล้าไม่ได้
“นายท่าน ท่านอย่าโกรธข้าเลย ข้ารักความงาม ได้โปรดอย่าโกรธ” แม่เล้ากล่าวอย่างร้อนรน นางกำลังจะวางมือบนไหล่ขอชายรูปงามตรงหน้า
ทว่าอวิ๋นซิ่วชิงกลับขมวดคิ้วและเบี่ยงตัวหลบมือของแม่เล้า จากนั้นนางก็จามออกมา กลิ่นของห้องแม่เล้าคนนี้ฉุนเกินไปจนน่าเวียนหัว นางทนไม่ได้แล้ว
ใบหน้าของแม่เล้ามืดลงเมื่อเห็นสิ่งที่อวิ๋นซิ่วชิงกำลังทำ
“บอกข้ามา ทำอย่างไรเจ้าถึงจะปล่อยนางไป?”
“เจ้าเป็นคนรักของนางหรือ? ข้าจะปล่อยตัวนางไปก็ได้ถ้านำเงินห้าพันสองร้อยตำลึงมาไถ่ตัวนาง” แม่เล้าฝึกการเป็นโสเภณีให้อีเหรินมาสิบปี นางจะปล่อยสาวงามคนนี้ไปง่าย ๆ ได้อย่างไร
เมื่อได้ยินแม่เล้าพูดเช่นนี้ อวิ๋นซิ่วชิงก็โกรธขึ้นมาทันที
“ข้าไม่ได้ต้องการอะไรมาก นางอยู่ที่นี่มาเป็นสิบปี นางกิน อยู่ และแต่งตัวให้ข้า ข้าจ้างคนมาสอนนางทำอาหารด้วยซ้ำ ทุกอย่างต้องใช้เงิน!” แม่เล้ากลับไปนั่งลงและพูดด้วยท่าทีสบาย ๆ
อวิ๋นซิ่วชิงพับแขนเสื้อขึ้นทันที นางเดินไปหาแม่เล้าแล้วพูดอย่างไร้ความรู้สึก “เจ้าแน่ใจหรือว่าจะไม่ปล่อยนางไป?!”
แม่เล้าไม่กลัวอวิ๋นซิ่วชิง นางมีแมงดาที่เป็นผู้คุมหลายคนอยู่ที่นี่ “อันที่จริงมีอีกวิธีหนึ่ง เจ้าอยู่และนางตาย!”
ในที่สุดความโกรธของอวิ๋นซิ่วชิงก็ถึงจุดสูงสุด และตอนนี้นางต้องการระบายความโกรธที่ติดค้างอยู่ในในนางด้วย และแม่เล้าคนนี้ก็เป็นที่ระบายชั้นเยี่ยม
แม่เล้าเริ่มรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ “เจ้าคิดจะทำอะไร?!”
“ข้าจะถามเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย เจ้าจะปล่อยนางไปหรือไม่?” อวิ๋นซิ่วชิงถามอย่างเย็นชา
แม่เล้าเริ่มรู้สึกกระวนกระวายเล็กน้อย แต่ตอนนี้นางอยู่ในอาณาเขตของนางเอง ทำไมนางต้องกลัวผู้ชายร่างผอมตรงหน้านี้ด้วย?
“ฮึ ฝันไปเถอะ”
ทันทีที่แม่เล้าพูดจบ อวิ๋นซิ่วชิงก็หยิบเข็มเงินจากที่ไหนก็ไม่รู้มาแทงเข้าที่ปลายนิ้วของอีเหริน อีเหรินรู้สึกเพียงแสบที่นิ้วและเลือดก็ไหลออกมา
แม่เล้าไม่รู้ว่าชายคนนั้นกำลังทำอะไร แต่นางรู้ว่าตัวเองกำลังตกอยู่ในอันตรายและกำลังจะตะโกนขอความช่วยเหลือ
แต่ทันทีที่นางเปิดปาก นางก็ถูกตบด้วยฝีมือของอวิ๋นซิ่วชิง
เมื่อแม่เล้าหมดสติไป อวิ๋นซิ่วชิงก็สอดปลายนิ้วที่มีเลือดเข้าไปในปากของแม่เล้าทันที
“เจ้าคิดว่าการเป็นโรคนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่? ถ้าอย่างนั้นข้าจะดูว่ามันง่ายสำหรับเจ้าที่จะเป็นโรคนี้หรือไม่?!”
อวิ๋นซิ่วชิงบีบคางของแม่เล้าขึ้นมาและบังคับให้นางดื่มเลือดจากปลายนิ้วของอีเหริน
…
บทที่ 492 พาอีเหรินออกจากซ่อง
อวิ๋นซิ่วชิงบีบมือของอีเหรินเพื่อเค้นเลือด นางไม่ยอมปล่อยจนกว่าจะเห็นแม่เล้ากลืนน้ำลายลงไปหลายคำ
ในจังหวะที่อวิ๋นซิ่วชิงปล่อยมือ แม่เล้าก็ปิดปากตัวเองและพยายามคายสิ่งที่นางเพิ่งโดนอีกฝ่ายบังคับกลืนเข้าไป
“อย่าดิ้นรนให้เปล่าประโยชน์เลย อีกเจ็ดวันเจ้าจะติดโรคดอกฝิ่นนี่แล้ว!” อวิ๋นซิ่วชิงปรบมืออย่างพึงพอใจ นางรู้สึกดีขึ้นมากหลังจากระบายความโกรธออกไป
“ข้าจะฆ่าเจ้า!!” ผมของแม่เล้ายุ่งเหยิงไปหมด นางต้องการฆ่าผู้ชายคนนี้ ไม่มีใครกล้าดูถูกนางแบบนี้ได้!
อวิ๋นซิ่วชิงนั่งลงบนเก้าอี้ไม้และพูดอย่างเฉยชา “ข้าเป็นคนเดียวที่สามารถรักษาโรคนี้ได้ เจ้าจะฆ่าข้าก็ได้ แต่เจ้าจะตายในอนาคตอันใกล้นี้นะ เจ้าช่างน่าสงสารกว่าข้ามาก…”
ดวงตาของแม่เล้าแดงก่ำเพราะความโกรธ และผู้คุมของแม่เล้าก็ได้วิ่งเข้ามาในห้องและล้อมอวิ๋นซิ่วชิงและอีเหรินไว้
อีเหรินกลัวมากจนเผลอหลบไปอยู่ข้างหลังอวิ๋นซิ่วชิง ตอนเด็ก ๆ นางเคยโดนแส้ของคนพวกนี้ทำให้ตอนนี้เมื่อนางเห็นเหล่าแมงดาผู้คุมซ่อง นางก็อดไม่ได้ที่จะตัวสั่นเพราะความกลัว
“ไม่ต้องกลัว” อวิ๋นซิ่วชิงตบหลังมือเพื่อปลอบโยนนาง
“แม่เล้า ท่านไม่ฆ่าข้าหรือ? เร็วเข้าสิ! ข้าจะดึงท่านไปด้วยเมื่อข้าตาย!!” ขณะที่อวิ๋นซิ่วชิงพูด นางก็แอบหยิบเอาสิ่งที่น่าพิศวงที่ซ่อนอยู่ในแขนเสื้อออกมาไว้ในมือ
นี่เป็นหยดยาที่น่าพิศวงแบบใหม่ที่นางทำไว้ในพื้นที่มิติส่วนตัวเมื่อสองสามวันก่อน
แค่มีสิ่งนี้ แม่เล้าหญิงคนนี้ก็คงจะหลับเหมือนหมูตาย ก่อนหน้านี้แล้วอวิ๋นซิ่วชิงมักจะสวมมันไว้เพื่อป้องกันตัว ไม่คิดว่าพวกมันจะมีประโยชน์เร็วขนาดนี้…
“ต่อให้ข้าตาย เจ้าก็ต้องตายก่อน ฆ่ามันซะ!! แล้วสับร่างของมันเอาไปเลี้ยงหมา” แม่เล้าเรียกพวกผู้คุมเข้ามาในทันใด
อวิ๋นซิ่วชิงไม่เกรงกลัวผู้คุมเลยแม้แต่น้อย เมื่อพวกเขากำลังจะแตะตัวนาง ทันใดนั้น อวิ๋นซิ่วชิงก็ยืนขึ้นและสะบัดหยดยาที่น่าพิศวงนั้นใส่ใบหน้าของพวกเขา
เมื่อชายเหล่านั้นโดนยาที่มีฤทธิ์รุนแรง พวกเขาทั้งหมดก็สลบไปทันที
แม่เล้าอึ้งไปกับภาพตรงหน้า
อวิ๋นซิ่วชิงเดินไปหาแม่เล้าด้วยรอยยิ้มจาง ๆ แล้วถามเสียงเย็น “ทีนี้ปล่อยนางไปได้หรือยัง?”
ทันใดนั้น ผูเว่ยชางก็มาถึงซ่องชุนโหลว
สีหน้าของชายหนุ่มโกรธจัดจนดูไม่เหมือนคนมาเที่ยวโสเภณีเลย เขาจึงถูกแมงดาผู้คุมซ่องรายล้อมและกำลังจะถามชายหนุ่มว่ามาทำอะไร แต่พวกเขาเหล่านั้นกลับถูกผูเว่ยชางชกออกไปให้พ้นทาง
เมื่ออวิ๋นซิ่วชิงได้ยินเสียงดังที่ชั้นล่าง นางก็เดินออกจากห้องไปด้วยความสับสน จากนั้นก็เห็นผูเว่ยชางที่ลงมือจัดการผู้คุมทั้งหมด
ทันใดนั้นผูเว่ยชางก็มองเห็นอวิ๋นซิ่วชิง เขาเร่งฝีเท้าไปหานางอย่างรวดเร็ว
“ชิงเหนียง เจ้ามาทำอะไรที่นี่?” ผูเว่ยชางแทบจะตบนางเพราะความโกรธ แต่เมื่อเขาเห็นหน้านางจริง ๆ น้ำเสียงของเขาก็อ่อนลง
“ไม่มีอะไร? ข้าแค่อยากช่วยคนคนหนึ่ง” อวิ๋นซิ่วชิงไม่ยอมรับว่านางหึงเขา ดังนั้นนางจึงมาที่นี่เพื่อระบายความโกรธของนางด้วยตัวเอง
ผูเว่ยชางถอนหายใจ เขาไม่อยากดุอวิ๋นซิ่วชิง ดังนั้นจึงพูดเสียงเบาว่า “ชิงเหนียง ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่เจ้าควรมา กลับไปกับข้าได้แล้ว…”
“เดี๋ยวก่อนสิ ข้ายังทำงานไม่เสร็จเลย” จากนั้นอวิ๋นซิ่วชิงก็กลับไปที่ห้องของแม่เล่า
แม่เล้าที่เวลานี้กลัวมากจึงทำยอมเขียนสัญญาให้อวิ๋นซิ่วชิง
“เก็บข้าวของ เราจะรอเจ้าที่ประตู” อวิ๋นซิ่วชิงกล่าวพร้อมยื่นใบสัญญานั้นให้อีเหริน
อีเหรินพยักหน้าขอบคุณ นางอยากจะพูดอะไรบางอย่างเพื่อแสดงความขอบคุณ แต่อวิ๋นซิ่วชิงไม่ชอบการขอบคุณซ้ำ ๆ นางจึงกลับไปที่ห้องของตัวเองเพื่อเก็บข้าวของออกจากซ่อง
“ชิงเหนียง เจ้ากลัวหรือ?” หลังจากที่ทั้งสองเดินออกจากซ่องชุนโหลว ผูเว่ยชางก็หันมาถามอวิ๋นซิ่วชิง
หญิงสาวรู้สึกสับสน “หมายความว่ายังไง? ข้ากลัวอะไร?”