ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 711 เข้าสังเกตการณ์(2)
ตอนที่ 711 เข้าสังเกตการณ์(2)
……….
ตอนที่ 711 เข้าสังเกตการณ์(2)
หลังจากแยกทางกันที่หัวมุม ฉินมู่หลานก็ตรงไปที่แผนกผู้ป่วยในทันที
“คุณหมอหลี่ คุณก็มาด้วยเหรอคะ?”
ฉินมู่หลานมาถึงก็เห็นหลี่ปิ่งฉวน นอกจากเขาแล้วหมอคนอื่น ๆ ในแผนกศัลยกรรมทรวงอกก็มาด้วย
หลี่ปิ่งฉวนเห็นฉินมู่หลานแล้วก็รีบกล่าวกับเธอว่า “คุณหมอฉิน หยางอี๋เข้ารับการรักษาเป็นผู้ป่วยในเรียบร้อยแล้ว แต่การตรวจบางรายการอาจต้องรอพรุ่งนี้เช้าถึงจะทำได้”
“ไม่เป็นไรค่ะ ตรวจที่เท่าที่ได้ไปก่อน ส่วนที่ยังทำไม่ได้ค่อยทำพรุ่งนี้เช้าก็ไม่สายเกินไป”
หลี่ปิ่งฉวนพาคนมาที่นี่ก็เพื่อมาดูอาการของคนป่วยรายนี้ เมื่อฉินมู่หลานมาถึงพอดีก็ได้เข้าไปดูผู้ป่วยพร้อมกัน “คุณหมอฉิน งั้นเราไปดูคนไข้กันเดี๋ยวนี้เลยดีไหมครับ”
“ได้ค่ะ ฉันมาที่นี่ก็เพื่อจะมาดูคนไข้เหมือนกัน”
หลี่ปิ่งฉวนและฉินมู่หลานเดินนำหน้าไปที่ห้องพักผู้ป่วยของหยางอี๋ ส่วนหลิวซิ่นและคนอื่น ๆ ที่ตามมาก็เดินตามมาด้านหลัง คนที่อยู่ท้ายสุดคือเก๋อฮั่นเตี่ยนและฉินเค่อเยวียน
เก๋อฮั่นเตี่ยนอาศัยจังหวะที่อยู่ท้ายสุดแอบพูดคุยกับฉินเค่อเยวียน
“มีคนไข้เข้ามารับการผ่าตัดแล้ว คราวนี้ก็น่าจะเป็นหมอฉินผ่าตัดอีกนั่นแหละ ก็ไม่รู้ว่าเราจะมีโอกาสได้เห็นฝีมือหมอฉินหรือเปล่า”
ฉินเค่อเยวียนไม่ได้ตอบกลับ แต่กลับมองฉินมู่หลานอยู่ไกล ๆ
เก๋อฮั่นเตี่ยนไม่เห็นว่าเขาตอบรับก็เลยไม่พูดอะไรอีก แล้วก็เดินตามกลุ่มคนไป
เมื่อฉินมู่หลานและคณะมาถึงห้องพักผู้ป่วย ก็เห็นหยางอี๋นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย โดยมีหยางเหวินก็เฝ้าอยู่ข้าง ๆ
“คุณหมอฉิน มาแล้วเหรอคะ”
เมื่อหยางเหวินเห็นฉินมู่หลานเดินเข้ามา หล่อนก็มีท่าทางปีติยินดี “พี่สาวฉันตรวจร่างกายไปบ้างแล้วค่ะ แต่บางอย่างต้องรอตรวจพรุ่งนี้เช้า”
ฉินมู่หลานพยักหน้ารับทราบ แล้วพูดกับหยางอี๋อย่างอ่อนโยนถึงอาการของหล่อน
อย่างไรก็ตามหยางอี๋กลับมีสีหน้าตึงเครียด “คุณหมอ ไม่มีอะไรจริงๆ ใช่ไหมคะ ฉันเป็นอะไรร้ายแรงเหรอ?”
“ไม่ต้องกังวลนะคะ ไม่มีปัญหาอะไรหรอกค่ะ ฉันรับรองได้ หลังจากผ่าตัดแล้วพักฟื้นไม่กี่วันก็กลับบ้านได้แล้ว ไม่เชื่อถามน้องสาวคุณก็ได้”
หยางเหวินพูดเสริมทันที “ใช่แล้วพี่ หมอฉินพูดเองเลยต้องไม่เป็นอะไรแน่ ๆ ก่อนหน้านี้คุณหมอฉินเพิ่งช่วยเหล่าเซียวผ่าตัด อาอาการหนักกว่าพี่อีกนะ คุณหมอดูแลดีมากจนตอนนี้เขาแข็งแรงแล้ว”
หลังจากได้ยินเรื่องนี้ก็ช่วยให้หยางอี๋อุ่นใจขึ้นเล็กน้อย
ฉินมู่หลานเห็นหยางอี๋สงบลง จึงหันไปทางหลี่ปิ่งฉวนแล้วพูดว่า “คุณหมอหลี่ พอคุณหยางอี๋ตรวจเสร็จแล้วรบกวนแจ้งฉันด้วยนะคะ เราจะได้รีบจัดคิวผ่าตัดให้หล่อนเลย”
“วางใจได้เลยหมอฉิน ผมจะติดตามอาการของคนไข้เองครับ”
หลังจากได้ยินเช่นนั้น ฉินมู่หลานจึงพยักหน้า
ในขณะเดียวกัน หลี่ปิ่งฉวนก็หันไปทางหลิวซิ่นแล้วพูดว่า “คุณหมอหลิว สองวันนี้คุณอยู่ประจำแผนกผู้ป่วยในใช่ไหม ช่วยจัดการเรื่องก่อนผ่าตัดของคนไข้ให้เรียบร้อย แล้วเข้าห้องผ่าตัดกับผมด้วย”
หลิวซิ่นได้ยินดังนั้นดวงตาเป็นประกายและรีบพยักหน้าตอบ “ได้เลยคุณหมอหลี่ ผมเข้าใจแล้ว”
เหล่ยเซิ่งเฉาที่ยืนอยู่ข้าง ๆ พูดอย่างร้อนใจ “คุณหมอหลี่ ให้ผมอยู่ที่นี่ด้วยดีไหม เผื่อคุณหมอหลิวยุ่งคนเดียว ผมจะได้ช่วยแบ่งเบา”
หลี่ปิ่งฉวนไม่ได้ปฏิเสธก่อนจะพยักหน้า “ก็ได้ครับ คุณอยู่ช่วยคุณหมอหลิวก็แล้วกัน”
เมื่อเห็นว่าหลิวซิ่นและเหล่ยเซิ่งเฉาต่างก็อยู่ที่นี่ เก๋อฮั่นเตี่ยนและฉินเค่อเยวียนก็อยากจะอยู่ด้วย แต่ยังไม่ทันได้เอ่ยปาก หลี่ปิ่งฉวนก็พูดต่อว่า “เอาล่ะ พวกเราขอตัวก่อนนะ”
เก๋อฮั่นเตี่ยนและฉินเค่อเยวียนได้แต่กลืนคำพูดลงคอ แล้วตามหลี่ปิ่งฉวนและฉินมู่หลานออกไปก่อน
พอช่วงบ่าย ฉินมู่หลานก็ยังคงนั่งรอรับคนไข้อยู่ แต่ก็ยังไม่มีคนไข้เข้ามา มีเพียงคนไข้เก่าที่เข้ามารับยาตามที่เคยสั่งไว้ก่อน ฉินมู่หลานจึงจ่ายยาไปให้
ในขณะที่ฉินมู่หลานนั้นดูสบายใจ แต่เซี่ยปิงหรุ่ยกลับวุ่นอยู่ไม่เว้นแต่ละวินาที
“เสี่ยวเซี่ย ช่วยจัดแฟ้มประวัติคนไข้ให้หน่อย”
“เสี่ยวเซี่ย ขึ้นไปหยิบของที่ชั้นสองให้หน่อย”
“เสี่ยวเซี่ย เอาอันนี้ไปส่งชั้นสาม”
ในที่สุดงานที่เซี่ยปิงหรุ่ยได้รับก็ไม่ใช่แค่คอยเสิร์ฟชาแล้ว แต่ยังเป็นงานจิปาถะอยู่ดี กระนั้นหล่อนก็ไม่ได้พูดอะไรมากนัก เพราะงานเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นงานเล็ก ๆ น้อย ๆ ของแผนกแพทย์แผนจีนอยู่แล้ว อีกไม่นานจะเลิกงานแล้ว หล่อนก็จะได้พักผ่อนสักที
“ปิงหรุ่ย ยังไม่เลิกงานเหรอ?”
ฉินมู่หลานเดินมาหาเซี่ยปิงหรุ่ย แล้วก็เห็นว่าหล่อนยังคงกำลังจัดเก็บของอยู่
เซี่ยปิงหรุ่ยได้ยินเสียงก็เงยหน้าขึ้นมาแล้วรีบพูด “มู่หลาน ฉันเสร็จแล้วล่ะ”
“ได้เลย เดี๋ยวฉันรอ”
พอเซี่ยปิงหรุ่ยจัดการทุกอย่างเสร็จแล้ว ทั้งคู่ก็เดินกลับไปพร้อมกัน ระหว่างทางทั้งสองก็เล่าเรื่องที่เจอมาวันนี้ให้กันฟัง
“มู่หลาน งานของเธอดูจะดีกว่านะ ทำอะไรก็ได้ตามใจ” พูดมาถึงตรงนี้ หล่อนก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงงานที่ตัวเองทำวันนี้ขึ้นมา จากนั้นความคิดใหม่ ๆ ก็ผุดขึ้นมาในหัว
“ไม่ได้แล้วล่ะ พรุ่งนี้ฉันต้องหาเวลาคุยกับหัวหน้าแผนกสักหน่อยแล้ว”
ฉินมู่หลานได้ยินก็หัวเราะ “อื้ม ด้วยฝีมือเธอแล้ว การทำแต่งานจิปาถะแบบนี้มันเสียของสิ้นดี เธอต้องบอกหัวหน้าแผนกให้รู้ว่าฝีมือหมอของเธอเยี่ยมขนาดไหน”
“อืม ฉันก็คิดอย่างนั้นแหละ”
ทั้งคู่พูดคุยกันตลอดทาง จนกระทั่งแยกจากกันที่หัวมุม
พอถึงวันรุ่งขึ้น ฉินมู่หลานก็ไปที่แผนกผู้ป่วยนอกก่อนและไปเยี่ยมหยางอี๋ในตอนเที่ยง พอทราบว่าการตรวจเสร็จสิ้นแล้ว ก็รอเพียงรับผลตรวจ
“หมอฉิน ขอบคุณมาก ๆ เลยนะคะ”
เมื่อได้ยินหยางเหวินพูดเช่นนี้ ฉินมู่หลานก็โบกมือไปมาพร้อมรอยยิ้ม “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ช่วงนี้ญาติ ๆ เหนื่อยหน่อยนะคะ ดูแลคนไข้ให้ดีนะคะ”
“ไว้ใจได้เลยค่ะหมอฉิน พวกเราจะดูแลพี่สาวให้ดีค่ะ”
นอกจากหยางเหวินแล้ว ในวันนี้ยังมีชายวัยกลางคนคอยเฝ้าดูแลหยางอี๋อยู่ด้วย ขณะนี้ชายคนนั้นมองมาที่ฉินมู่หลานแล้วสอบถามหลาย ๆ อย่าง สุดท้ายก็ถามว่า “หมอ ผ่าตัดได้เมื่อไหร่เหรอครับ?”
“รอผลจากการตรวจก่อนหน้านี้ให้ออกมาก่อน หากไม่มีปัญหาอะไร ก็สามารถทำการผ่าตัดได้แล้วล่ะค่ะ”
พอตกบ่าย ผลการตรวจของหยางอี๋ก็ออกมา และเพราะว่าไม่มีความผิดปกติใด ๆ จึงสามารถนัดผ่าตัดได้ทันที ฉินมู่หลานจึงนัดไว้ในเช้าของอีกสองวันถัดไป
ในวันผ่าตัด หลิวซิ่นกับเหล่ยเซิ่งเฉาต่างก็เตรียมตัวเข้าห้องผ่าตัดไปพร้อมกัน
ส่วนเก๋อฮั่นเตี่ยนกับฉินเค่อเยวียนก็แสดงความประสงค์ที่จะเข้าไปสังเกตการณ์การผ่าตัด หลี่ปิ่งฉวนไม่ได้ตัดสินใจเอง แต่กลับถามฉินมู่หลาน
ฉินมู่หลานไม่ได้คัดค้านก่อนจะพยักหน้าพร้อมกล่าวว่า “ได้ค่ะ แต่เมื่อเข้ามาในห้องผ่าตัดแล้ว ต้องฟังฉันนะคะ”
……………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เข้ามาแล้วต้องรักษาความสะอาด อย่ากีดขวางการทำงานของแพทย์ผู้ผ่าตัดนะ
ไหหม่า(海馬)
……….