ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 669 หล่อนช่างน่าสงสัย(2)
ตอนที่ 669 หล่อนช่างน่าสงสัย(2)
…………….
ตอนที่ 669 หล่อนช่างน่าสงสัย(2)
“ผู้จัดการหลี่ สัญญามันมีปัญหานะคะ ดังนั้นเราทั้งสองฝ่ายจึงยังไม่สามารถเซ็นสัญญากันได้ค่ะ”
หลี่ฉีปิงรีบพูดว่า “ผู้อำนวยการฉิน สัญญานี้ไม่ใช่สัญญาที่เรายื่นให้กับโรงงานของคุณแน่ๆ ดังนั้นเรื่องนี้ต้องมีความเข้าใจผิด”
ทว่าฉินมู่หลานกลับยิ้มและพูดว่า “ ผู้จัดการหลี่ เรื่องนี้เป็นความเข้าใจผิดหรือไม่คงต้องให้พวกคุณเป็นผู้ตอบ เพราะสัญญาที่ยื่นมาแรกๆ ไม่ได้เป็นแบบนี้ แต่พอใกล้จะเซ็นสัญญา สัญญาที่อยู่ในมือเราก็กลายมาเป็นแบบนี้ หรือว่าพวกคุณต้องการวางกับดักโรงงานยาซิ่งหลินของเราคะ?”
พอได้ยินคำพูดนี้ หลี่ฉีปิงก็ไม่ค่อยพอใจแล้ว และสีหน้าของเขาก็หม่นลงทันที
“ผู้อำนวยการฉิน ผมได้บอกไปแล้วว่าสัญญาที่ผมยื่นให้ไม่ใช่ฉบับนี้ แต่สัญญานี้มีปัญหาตอนที่อยู่ในมือของพวกคุณแล้ว ดังนั้นควรจะเป็นความผิดของโรงงานยาซิ่งหลินของพวกคุณเอง คุณพูดแบบนี้ราวกับว่าโรงงานยาหุยชุนของเราเป็นฝ่ายผิดเสียอย่างนั้น”
“เรื่องนี้คงต้องสอบถามเจ้าหน้าที่ที่อยู่ข้างๆ คุณแล้วล่ะ เขาเหมือนจะเสียดายที่เราไม่ได้เซ็นสัญญานะ”
พอเห็นว่าฉินมู่หลานจ้องมองไปที่เสี่ยวหลิวอย่างจดจ่อ หลี่ฉีปิงก็หันไปมองตามด้วยและสีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ “เสี่ยวหลิว นายเป็นคนทำเหรอ?”
เสี่ยวหลิวเห็นท่าไม่ดีจึงรีบโบกมือปฏิเสธรัว “ผู้จัดการหลี่ อย่าไปฟังหล่อนพูดจาเหลวไหล ตอนที่พวกเราให้สัญญาไปมันไม่ใช่ฉบับนี้แน่นอน หลังจากนั้นผมก็อยู่กับคุณตลอด จะเป็นผมได้ยังไง”
พอได้ยินแบบนี้ หลี่ฉีปิงก็คิดได้
“ผู้อำนวยการฉิน ช่วงนี้เสี่ยวหลิวอยู่กับผมตลอดจริงๆ ดังนั้นจึงไม่น่าจะเป็นความผิดของเขา โรงงานยาซิ่งหลินของพวกคุณคิดจะปัดความรับผิดชอบแล้วใส่ร้ายโรงงานยาหุยชุนของเราเหรอ?”
ตอนนี้ฉินมู่หลานก็ไม่มีหลักฐานอะไรเหมือนกัน มีเพียงแค่ความรู้สึกที่บอกว่าเสี่ยวหลิวมีส่วนเกี่ยวข้อง ยิ่งไปกว่านั้นโรงงานยาของพวกเธอก็คงจะมีหนอนบ่อนไส้อยู่ด้วยเช่นกัน เธอจึงไม่ได้พูดอะไรมาก จึงได้แต่ยิ้มและพูดว่า “ผู้จัดการหลี่ คุณคงไม่เชื่อหรอกว่าคนในโรงงานยาของคุณจะมีส่วนเกี่ยวข้อง ตอนนี้เราทั้งสองฝ่ายก็ตรวจสอบกันไปก่อนเถอะค่ะ แล้วค่อยมาคุยเรื่องความร่วมมือกันอีกทีเมื่อได้ผลสรุปแล้ว”
เดิมทีหลี่ฉีปิงคิดว่าวันนี้จะเซ็นสัญญาเพื่อร่วมมือกันได้เลย แต่กลับเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
“ผู้อำนวยการฉิน โรงงานยาของเรามีความตั้งใจจริงมาโดยตลอด แต่พวกคุณกลับมีท่าทีแบบนี้ ถ้าปล่อยให้คนอื่นรู้ คงไม่มีใครอยากร่วมงานกับโรงงานยาซิ่งหลินอีกแน่”
กู้วั่งหลานที่เงียบมาโดยตลอด พอได้ยินหลี่ฉีปิงพูดแบบนี้ เขาก็ยิ้มแล้วพูดว่า “ผู้จัดการหลี่ โรงงานยาซิ่งหลินของเราก็มีความตั้งใจจริงไม่แพ้กัน แต่พวกคุณกลับคิดเล่นไม่ซื่อกับเราแบบนี้ ถ้าปล่อยให้คนอื่นรู้ว่าโรงงานยาหุยชุนทำอะไรแบบนี้ คงไม่รู้ว่าจะมีใครกล้าติดต่อค้าขายด้วยอีก”
นี่ก็เหมือนการเอาคำพูดของหลี่ฉีปิงมาตอกกลับเขา
เมื่อฉินมู่หลานบอกว่าเสี่ยวหลิวคนนั้นมีปัญหา กู้วั่งหลานจึงเชื่อว่าเขาคนนั้นมีปัญหาจริงๆ ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายต่างก็มีปัญหา แล้วจะให้โรงงานยาหุยชุนมาแสดงท่าทีเหนือกว่าได้อย่างไร
“คุณ…”
หลี่ฉีปิงโกรธจนตัวสั่น แต่ขนาดกู้วั่งหลานยังกล่าวโทษแบบนี้ หรือว่าเสี่ยวหลิวจะมีปัญหาจริงๆ?
พอคิดแบบนั้น หลี่ฉีปิงก็อดไม่ได้ที่จะหันไปมองเสี่ยวหลิว
คราวนี้เสี่ยวหลิวก็เริ่มตื่นตระหนก ช่วงนี้เขาอยู่แต่กับหลี่ฉีปิงและไม่เคยห่างกันเลย ทำไมจู่ๆ พวกนี้ถึงสงสัยเขาได้
ก่อนที่เสี่ยวหลิวจะอธิบาย ฉินมู่หลานก็ลุกขึ้นแล้วพูดว่า “ผู้จัดการหลี่ โรงงานยาซิ่งหลินของเราตั้งใจจะร่วมมือกับพวกคุณจริงๆ เพราะฉะนั้นเราควรตรวจสอบเรื่องนี้ให้ดี แล้วค่อยๆ คุยกันอย่างจริงจังอีกทีดีกว่าค่ะ”
พอได้ยินฉินมู่หลานพูดแบบนี้ซ้ำอีก หลี่ฉีปิงก็ไม่ขัดขืนแล้ว
“ตกลง งั้นเราค่อยคุยกันอีกที”
หลังจากพวกของหลี่ฉีปิงจากไปแล้ว กู้วั่งหลานก็หันไปถามฉินมู่หลานว่า “มู่หลาน คนข้างกายหลี่ฉีปิงมีปัญหาจริงเหรอ?”
“น่าจะมีปัญหา สายตาเมื่อของเขาแปลกๆ เราต้องให้คนไปคอยจับตามองเสี่ยวหลิวคนนั้นซะแล้ว”
เมื่อได้ยินคำนี้ กู้วั่งหลานก็พยักหน้าแล้วพูดว่า “ได้ ผมเข้าใจแล้ว ผมจะไปจัดการทันที”
แต่ฉินมู่หลานกลับให้คนไปตามเซี่ยฉางกู้มา
“มู่หลาน มีอะไรหรือเปล่า”
เซี่ยฉางกู้ที่กำลังยุ่งอยู่ ก็ถูกตามตัวมา
“อาฉางกู้ ฉันขอรายชื่อคนที่เข้าทำงานในช่วง 7 วันที่ผ่านมาหน่อยนะคะ”
“รวมหมดค่ะ”
“ได้ๆ อาเข้าใจแล้ว”
เซี่ยฉางกู้ไม่ได้ซักถามอะไรเพิ่มเติม และพยักหน้ารับปากทันที
เมื่อฉินมู่หลานได้รับรายชื่อมา เธอก็ตรวจสอบอย่างละเอียด เซี่ยปิงหรุ่ยก็อยู่ดูด้วยแล้วก็อดสงสัยไม่ได้ “แปลกจัง หวงลี่อิงก็เป็นนักศึกษาเหมือนพวกเราไม่ใช่เหรอ คนอื่นๆ ต่างก็มาทำงานที่นี่เฉพาะเสาร์อาทิตย์ แต่หล่อนคนนี้กลับมาทุกวันตั้งแต่จันทร์ถึงศุกร์”
ฉินมู่หลานก็สังเกตเห็นเช่นกัน อีกทั้งยังนึกถึงเรื่องที่หวงลี่อิงขยันขันแข็งมาทำความสะอาดในห้องทำงานของกู้วั่งหลานด้วย
“ใช่ หล่อนไม่เรียนหนังสือเลยหรือไง”
ฉินมู่หลานเริ่มสงสัยในตัวหวงลี่อิง แล้วก็หันไปหาเซี่ยปิงหรุ่ยว่า “ปิงหรุ่ย วันนี้เซียวหลินมาใช่ไหม ไปตามตัวหล่อนมาให้ฉันหน่อย ฉันมีเรื่องจะถาม”
“ได้ ฉันไปเดี๋ยวนี้เลย”
เซียวหลินเป็นเพื่อนร่วมชั้นกับพวกเธอ ดังนั้นเมื่อเซี่ยปิงหรุ่ยไปตามตัวเซียวหลิน คนอื่นๆ จึงไม่มีใครสงสัย
“มู่หลาน ตามหาฉันเหรอ ฉันก็มีเรื่องจะถามเธอพอดี”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ฉินมู่หลานจึงยิ้มแล้วกล่าวว่า “เรื่องอื่นเอาไว้ก่อน ฉันมีเรื่องด่วนจะถาม”
เซียวหลินได้ยินเช่นนั้น เธอจึงรีบพยักหน้าตอบว่า “ได้ ถามมาเลย”
ฉินมู่หลานไม่ได้ถามเรื่องหวงลี่อิงทันที แต่กลับเริ่มต้นจากเรื่องไม่สำคัญก่อนแล้วจึงค่อยๆ เจาะลึกลงไปทีละน้อย ไม่นานเธอก็ได้ข้อมูลที่ตนต้องการ เพียงแต่เซียวหลินก็ไม่ทราบอะไรมากไปกว่านี้ ฉินมู่หลานจึงไม่ได้ซักถามต่อ และกลับถามเรื่องที่เซียวหลินต้องการถามเมื่อครู่
“ฉันอยากถามว่า โรงงานยาของเรารับสมัครพ่อครัวไหม”
“เรื่องนี้ฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจ เดี๋ยวผู้จัดการกู้มาฉันจะถามให้นะ เพราะเรื่องโดยรวมของโรงงาน ผู้จัดการกู้เป็นคนดูแล”
เซียวหลินรู้เรื่องนี้ดีจึงไม่ได้กล่าวอะไรอีก “ได้เลย มู่หลาน งั้นฉันฝากเธอถามผู้จัดการกู้ด้วยนะ”
หลังจากเซียวหลินจากไป เซี่ยปิงหรุ่ยจึงหันไปทางฉินมู่หลานแล้วกล่าวว่า “หวงลี่อิงดูมีเงื่อนงำจริงๆ เซียวหลินไม่ได้บอกเหรอว่าปกติหล่อนมีเรียน แต่หล่อนกลับมาทำงานที่โรงงานทุกวัน ยิ่งไปกว่านั้นครอบครัวของหล่อนก็ไม่ได้ยากจนถึงขั้นต้องให้หวงลี่อิงหยุดเรียนออกมาทำงานหาเงิน”
ในเวลานี้ กู้วั่งหลานก็เดินกลับมาพอดี เมื่อเขาได้ยินเช่นนั้น จึงอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ
“นี่พวกคุณพบคนที่น่าสงสัยแล้วเหรอ?”
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
แผนตามจับนาตาชาเริ่มขึ้นแล้ว จะมีใครบ้างนะนอกจากยัยหวงลี่อิง
ไหหม่า(海馬)