ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร - ตอนที่ 835 องค์ชายสี่ (2) ตอนที่ 836 องค์ชายสี่ (3)
ตอนที่ 835 องค์ชายสี่ (2) / ตอนที่ 836 องค์ชายสี่ (3)
ตอนที่ 835 องค์ชายสี่ (2)
เหลยฝานมักจะอยู่แต่ในวังหลวงและแทบจะไม่ออกมาข้างนอกเลย และพอออกมาก็มักจะมาเป็นขบวนแห่ใหญ่โตเอิกเกริกเหมือนอย่างวันนี้
จวินอู๋เสียยืนกอดอกนิ่ง ไม่สนใจเสียงอึกทึกครึกโครมรอบตัว นางพินิจพิเคราะห์เหลยฝานที่จู่ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นที่ลานประลองอย่างละเอียด ตั้งแต่วันที่ศึกประลองภูติวิญญาณเริ่มต้นขึ้นจนถึงตอนนี้ องค์ชายสี่แห่งรัฐเหยียนผู้นี้ไม่เคยปรากฏตัวเลยสักครั้ง แม้แต่วันที่เหลยเชินจัดงานเลี้ยงและเชิญผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดมาร่วมงาน เหลยฝานก็ยังไม่มา การปรากฏตัวอย่างกะทันหันที่นี่วันนี้จึงทำให้ผู้คนมากมายรู้สึกประหลาดใจ
คนที่มีหน้าที่ดูแลการประลองในเขตที่หนึ่งรีบตรงเข้ามาต้อนรับบุคคลสำคัญนี้ ทุกคนรู้ดีว่าฮ่องเต้ทรงรักใคร่โปรดปรานองค์ชายสี่มากเพียงใด ความสนใจที่ทุ่มเทให้เขายังมากกว่าที่องค์รัชทายาทได้รับด้วยซ้ำ!
“กระหม่อมไม่ทราบว่าองค์ชายสี่จะเสด็จมา ขอประทานอภัยที่มาต้อนรับช้าด้วยพ่ะย่ะค่ะ!” บุรุษผู้นั้นพูดด้วยตัวสั่น
ดวงตาที่ยิ้มแย้มมาตั้งแต่เกิดของเหลยฝานหรี่ลงเล็กน้อย ดูเหมือนไม่ได้ติดใจอะไร แต่กลับเต็มไปด้วยความไร้เดียงสาราวเด็กน้อย “ท่านสุภาพเกินไปแล้ว ข้าก็แค่มาดูเท่านั้น เชิญท่านให้ทุกคนแข่งขันต่อกันเถอะ อย่ามัวกังวลถึงข้าเลย”
บุรุษผู้นั้นรีบพยักหน้าอย่างรวดเร็ว
ความรู้สึกที่เหลยฝานให้กับผู้คนนั้นแตกต่างจากเหลยเชินโดยสิ้นเชิง
ภาพลักษณ์ที่เหลยเชินพยายามสร้างขึ้น ก็คือผู้นำที่สุภาพอ่อนน้อมถ่อมตนซึ่งทำให้เขาเข้าถึงได้ง่าย แต่ผู้คนก็ยังจำได้ว่าเขาเป็นใคร มีสถานะและตำแหน่งอะไร ส่วนเหลยฝานนั้นกลับไม่มีอะไรแตกต่างไปจากเด็กคนอื่นๆ เลย ดูบริสุทธิ์ไร้เดียงสา ใบหน้าที่ยิ้มแย้มนั้นทำให้ผู้คนลืมไปอย่างง่ายดายว่าเขาเองก็เป็นถึงองค์ชายผู้สูงศักดิ์
ดูเหมือนว่าหลังจากที่เหลยฝานพูดจบ บรรยากาศตึงเครียดในลานประลองก็ผ่อนคลายลงอย่างรวดเร็ว คนมากมายพากันชื่นชอบเหลยฝานมากขึ้นทันทีจากท่าทางไร้เดียงสาของเขา
เหลยฝานหาที่นั่งให้ตัวเองในลานประลองซึ่งก็บังเอิญเหลือเกินที่เขาทิ้งตัวลงนั่งข้างๆ ชวีหลิงเย่ว์พอดี
ชวีหลิงเย่ว์คุ้นเคยกับเหลยฝานอยู่แล้ว เนื่องจากนางเป็นคุณหนูใหญ่แห่งเมืองพันอสูรจึงได้รับอนุญาตให้เข้าไปในวังหลวงอยู่บ่อยๆ และค่อนข้างรู้จักองค์ชายทั้งหลายเป็นการส่วนตัว เมื่อเหลยฝานมานั่งข้างๆ นาง ชวีหลิงเย่ว์จึงไม่ได้ประหลาดใจนัก
“วันนี้พี่หลิงเย่ว์จะขึ้นประลองด้วยใช่หรือไม่” เหลยฝานถาม พร้อมกับมองชวีหลิงเย่ว์ยิ้มๆ เขาถามคำถามออกมาอย่างเป็นธรรมชาติโดยไม่สงวนท่าที
ชวีหลิงเย่ว์พยักหน้า นางไม่ได้สนิทสนมกับเหลยฝานมากนัก แต่ท่าทางและการวางตัวของเหลยฝานทำให้ผู้คนไม่สามารถที่จะไม่พอใจเขาได้
“หม่อมฉันแข่งเป็นคนสุดท้ายเพคะ นี่ยังเพิ่งเริ่มต้นเอง”
เหลยฝานยกมือเท้าคางและกะพริบตามองดูพวกผู้เยาว์ต่อสู้กันบนเวที ถึงแม้สายตาของเขาจะดูเฉยเมยไม่สนใจ แต่ที่จริงเขาแอบสังเกตทุกคนในลานประลอง เขามองไปจนครบรอบก็ยังไม่เห็นเป้าหมายของเขา เขาอดสงสัยขึ้นมานิดหน่อยไม่ได้จึงหันไปถามชวีหลิงเย่ว์ว่า “เสด็จพ่อบอกข้าว่าศึกประลองภูติวิญญาณปีนี้มีผู้เข้าแข่งขันที่สุดยอดมาด้วย และสั่งให้ข้ามาดูและเรียนรู้จากพวกเขา เสด็จพ่อบอกข้าว่าข้ากำลังโตขึ้น จะทำตัวไร้แก่นสารไปตลอดไม่ได้ พี่หลิงเย่ว์ ข้าได้ยินมาว่ามีอัจฉริยะปรากฏตัวขึ้นที่เขตประลองที่หนึ่งนี่ ดูเหมือนว่าเขาจะชื่อ…จวินเสียใช่หรือไม่ นั่นเป็นความจริงหรือเปล่า”
ชวีหลิงเย่ว์มองเหลยฝาน เขาเด็กกว่านางเล็กน้อย และเมื่อรวมกับน้ำเสียงใสซื่อไร้เดียงสานั่นแล้ว นางก็ไม่ได้คิดอะไรมากและสันนิษฐานเอาว่าเขาแค่เบื่อที่ต้องอยู่แต่ในวัง
“เป็นความจริงเพคะ คนที่อยู่ตรงนั้นก็คือจวินเสีย” ชวีหลิงเย่ว์ยกมือขึ้นชี้ไปที่คนที่ยืนอยู่ด้านหลังกลุ่มคนทั้งหมด ร่างเล็กๆ นั่นแทบจะมองไม่เห็นเลย
เมื่อเหลยฝานมองเห็นจวินอู๋เสีย นัยน์ตาของเขาก็ทอแววแปลกๆ ขึ้นมาแวบหนึ่ง และเขาก็ยิ้มออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ
“จวินเสียดูอายุใกล้เคียงกับข้า ข้าควรจะไปเรียนรู้จากเขาสักหน่อย” พูดจบ เหลยฝานก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้และเดินตรงไปยังทิศทางที่จวินอู๋เสียยืนอยู่
ตอนที่ 836 องค์ชายสี่ (3)
พอเหลยฝานยืนขึ้น จวินอู๋เสียก็รู้ทันทีว่าองค์ชายสี่คิดจะทำอะไร รอยยิ้มเย็นๆ แวบผ่านริมฝีปากของนาง นางยืนนิ่งอยู่กับที่พร้อมกับสังเกตเหลยฝานที่เข้ามาใกล้เรื่อยๆ ด้วยหางตา
การประลองในเขตที่หนึ่งเริ่มขึ้นแล้ว แต่ผู้เยาว์ทุกคนในลานประลองก็ละความสนใจจากการต่อสู้อย่างกะทันหัน สายตามองตามร่างของเหลยฝานไปอย่างไม่ตั้งใจ
แม้ว่าเหลยเชินจะเป็นองค์รัชทายาทแห่งรัฐเหยียน แต่ก็เป็นที่รู้กันทั่วแผ่นดินว่าองค์ชายสี่เป็นที่รักใคร่โปรดปรานมากที่สุด ถ้าเหลยฝานชอบใคร ก็จะเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ของคนผู้นั้นอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
อย่างไรก็ตาม เมื่อทุกคนเห็นเหลยฝานเดินตรงเข้าไปหาจวินอู๋เสียที่ยืนอยู่ตรงมุมหนึ่ง หัวใจของทุกคนก็รู้สึกเหมือนถูกกระทืบอย่างแรง
แม้แต่องค์ชายสี่ก็ยังสนใจจวินเสีย!
พวกผู้เยาว์ที่มีความหวังผุดขึ้นมาในใจรู้สึกเหมือนถูกถีบตกลงมาจากสวรรค์
ถ้าเป็นคนอื่น พวกเขาอาจจะไม่รู้สึกสิ้นหวังขนาดนี้ แต่ในบรรดาคนทั้งหมดนี้ ทำไมคนคนนั้นต้องเป็นจวินอู๋เสียด้วย…
เจ้าสัตว์ประหลาดที่เอาชนะพวกเขาทุกคนได้อย่างขาดลอยเนื่องจากพลังวิญญาณที่เหนือกว่า และยังเป็นที่โปรดปรานขององค์รัชทายาท แล้วพวกเขาจะเอาอะไรไปแข่งกับจวินอู๋เสียได้ พวกเขาทุกคนรวมกันก็ยังไม่พอที่จะล้มจวินอู๋เสียได้เลย!
ผู้เยาว์ทุกคนต่างตกอยู่ในภาวะซึมเศร้ากันอย่างรวดเร็ว ทำได้เพียงมองเหลยฝานเดินเข้าไปหาจวินอู๋เสียพร้อมด้วยรอยยิ้มสดใสบนใบหน้า
“เจ้าคือจวินเสียใช่หรือไม่” เหลยฝานถามขึ้นขณะที่มายืนอยู่ตรงหน้าจวินอู๋เสีย เขาเอียงคอพร้อมกับกะพริบตาอย่างไร้เดียงสาราวกับกำลังมองดูบางอย่างที่น่าสนใจมากสำหรับเขา
“ใช่” จวินอู๋เสียตอบเสียงห้วน
“ข้าชื่อเหลยฝาน เสด็จพี่ของข้าบอกว่าเจ้าเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในเขตประลองที่หนึ่ง และอยากให้ข้ามาเรียนรู้จากเจ้าบ้าง เขาบอกว่าข้าโตแล้วแต่ยังเที่ยวเล่นไปทั่วเหมือนเด็กไม่รู้จักโต” เหลยฝานพูดพร้อมกับมองจวินอู๋เสียยิ้มๆ ขณะที่พูดเขายังมีท่าทางเหนียมอายเล็กน้อยต่อหน้าจวินอู๋เสีย เขายกมือขึ้นเกาศีรษะด้วยสีหน้าเขินอาย
จวินอู๋เสียมองดูการแสดงของเหลยฝานอย่างเย็นชา ต้องพูดว่าถึงเหลยฝานจะยังเด็กแต่ทักษะการแสดงของเขานั้นยิ่งกว่าเหลยเชินเสียอีก แค่ไม่กี่ประโยคเขาก็แสดงตัวเองเป็นเด็กไร้เดียงสาที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรได้แล้ว และถ้อยคำที่เขาพูดออกมาอย่างไม่ระวังนั่นก็ยิ่งน่าสนใจ…
ทุกคนรู้ว่าองค์รัชทายาทสนิทสนมกับสำนักศึกษาเฟิงหัว เขาให้ความใส่ใจเป็นพิเศษกับจวินอู๋เสียเหนือศิษย์ทุกคน เหลยฝานดึงเอาเหลยเชินมาอ้างในประโยคแรกเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์อย่างรวดเร็ว นับว่าเป็นวิธีการที่ฉลาดและทำได้อย่างงดงามมาก
ถึงจะเพิ่งพบกัน แต่จวินอู๋เสียก็รู้ว่าเหลยฝานไม่ใช่เด็กธรรมดา ที่ฮ่องเต้ทรงรักใคร่ในตัวเขามากขนาดนี้ เหตุผลหนึ่งก็คือ ‘เสด็จแม่’ ของเขาที่เป็นสตรีที่ฮ่องเต้ทรงรักมากที่สุด และเหตุผลที่สอง…ก็ต้องเป็นเพราะองค์ชายสี่ ‘ฉลาด’ มากนั่นเอง
“องค์ชายสี่ทรงสุภาพอ่อนน้อมยิ่งนัก จวินเสียไม่สมควรได้รับหรอกพ่ะย่ะค่ะ” จวินอู๋เสียตอบบ่ายเบี่ยงอย่างฉลาด นางอยากจะดูว่าองค์ชายสี่คิดจะทำอะไรถึงมาหานางในวันนี้
เหลยฝานไม่ได้แสดงท่าทางไม่พอใจต่อคำตอบอันเย็นชาเฉยเมยของจวินอู๋เสีย เขาพูดต่อยิ้มๆ ว่า “จวินเสีย เจ้าไม่ควรถ่อมตัวเช่นนั้น เสด็จพี่ของข้าเล่าให้ข้าฟังทุกอย่างแล้ว เจ้ามีพลังวิญญาณขั้นสีเขียวทั้งที่อายุน้อยขนาดนี้ ทั่วทั้งแผ่นดินจะหาคนที่เก่งกาจอย่างเจ้าได้จากที่ไหน พูดตามตรงนะ ถึงภูติวิญญาณของข้าจะตื่นขึ้นมาแล้ว แต่ในด้านพลังวิญญาณ การพัฒนาของข้าค่อนข้างน่าผิดหวังมาก เสด็จพ่อก็ดุว่าข้าในเรื่องนี้”
เหลยฝานหยุดนิดหนึ่งและพูดกับจวินอู๋เสียด้วยน้ำเสียงจริงจังมากว่า “จวินเสีย…ข้ามาที่นี่วันนี้ก็เพราะมีบางอย่างที่อยากจะปรึกษากับเจ้า”