ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร - ตอนที่ 1281 นี่คือการปฏิวัติ (1) ตอนที่ 1282 นี่คือการปฏิวัติ (2)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร
- ตอนที่ 1281 นี่คือการปฏิวัติ (1) ตอนที่ 1282 นี่คือการปฏิวัติ (2)
ตอนที่ 1281 นี่คือการปฏิวัติ (1) / ตอนที่ 1282 นี่คือการปฏิวัติ (2)
ตอนที่ 1281 นี่คือการปฏิวัติ (1)
เจ้าแมวดำที่เดินตามหลังจวินอู๋เสีย มองจวินอู๋เย่าอย่างเศร้าๆ
แต่ก็ไม่รู้ทำไม จู่ๆ มันก็รู้สึกว่า การที่ราชาปีศาจนั่นถูกเจ้านายของมันหยอกล้อนั้น
ความรู้สึกนี้มันช่าง…
ยอดเยี่ยมจริงๆ
จวินอู๋เสียเจอตัวจวินเสี่ยน และได้ส่งมอบสิ่งที่นางใช้เวลาหลายวันเขียนขึ้นมาให้กับจวินเสี่ยน
ช่วงหลายวันมานี้ จวินเสี่ยนไม่ได้อยู่ว่างๆ สบายๆ เลยสักวัน ค่าชดเชยจากรัฐจิ้วที่จวินอู๋เสียนำกลับมานั้นสร้างความฮือฮาไปทั่วรัฐชี มั่วเฉี่ยนยวนรีบเรียกประชุมขุนนางทั้งหมดที่ห้องทรงพระอักษรเพื่อปรึกษาหารือว่าจะจัดการกับทรัพย์สินของรัฐจิ้วให้มีประสิทธิภาพได้อย่างไร นี่เป็นปัญหาที่ใหญ่ที่สุดสำหรับรัฐชีในตอนนี้
เนื่องจากนี่เป็นเรื่องที่สำคัญมาก จวินเสี่ยนจึงไม่สามารถดึงตัวเองไปจัดการปัญหาอื่นๆ ได้เลย เรื่องของกองทัพรุ่ยหลินทั้งหมดจึงตกเป็นหน้าที่ของจวินชิงแทน
“นี่อะไร” จวินเสี่ยนมองของที่จวินอู๋เสียนำมาให้ แล้วถามด้วยรอยยิ้ม
ไม่ว่าเขาจะยุ่งแค่ไหน เมื่อกลับมาที่จวนหลินอ๋อง จวินเสี่ยนก็ไม่ใช่หลินอ๋องที่เข้มงวดอีกต่อไป แต่เป็นท่านปู่ที่ใจดีและเป็นมิตร
“ท่านปู่ การบรรลุถึงพลังวิญญาณขั้นสีม่วงในดินแดนนี้หายากแค่ไหนรึ” จู่ๆ จวินอู๋เสียก็ถามขึ้น
จวินเสี่ยนไม่คิดว่าจวินอู๋เสียจะพูดเรื่องนี้ แต่เขาก็ยังตอบด้วยรอยยิ้ม “พลังวิญญาณขั้นสีม่วงเป็นจุดสูงสุดและหายากที่สุด ตลอดศตวรรษที่ผ่านมา มีเพียงเวินซินหันคนเดียวที่บรรลุถึงพลังขั้นสีม่วง ทำไมอยู่ๆ เจ้าถึงถามข้าเรื่องนี้เล่า”
จวินอู๋เสียพูดว่า “แต่ถ้าโลกนี้มีวิธีการที่ทำให้คนทั่วไปได้รับพลังขั้นสีม่วงเล่า มันจะเป็นอย่างไร”
จวินเสี่ยนชะงัก เขามองจวินอู๋เสียด้วยความประหลาดใจ
ความแข็งแกร่งของพลังขั้นสีม่วงนั้น ไม่ว่าจะที่ไหนและเมื่อไหร่ เป็นเรื่องที่ดึงดูดความสนใจของผู้คนได้เสมอ เมื่อไรก็ตามที่มีผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงปรากฏขึ้น มันจะสร้างความปั่นป่วนไปทั่วดินแดน พวกผู้มีอำนาจต่างก็พยายามจะดึงเอาผู้ใช้พลังขั้นสีม่วงไปเป็นพวกของตัวเอง
พลังวิญญาณขั้นสีม่วงไม่ใช่ของธรรมดาทั่วไปที่มีอยู่ดาษดื่น
ต้องฝึกฝนกันเป็นศตวรรษ และยังต้องเป็นคนที่มีพรสวรรค์แต่กำเนิดอย่างมากอีกด้วย การจะเป็นผู้ใช้พลังขั้นสีม่วงได้นั้น ต้องใช้ทั้งพรสวรรค์แต่กำเนิดและการฝึกฝนอย่างหนักตลอดชีวิต จะขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไปไม่ได้ ยิ่งกว่านั้นยังต้องมีโชคเป็นองค์ประกอบอีกด้วยถึงจะสามารถบรรลุถึงขั้นพลังวิญญาณขั้นสีม่วงได้
ต้องถามว่า ในโลกนี้มีคนที่ถูกกล่าวขานว่าเป็นอัจฉริยะกี่คน โลกไม่เคยขาดแคลนผู้มีพรสวรรค์ และเส้นทางการฝึกฝนของพวกเขาก็เป็นไปอย่างราบรื่น แต่มีกี่คนกันที่สามารถบรรลุถึงขั้นพลังวิญญาณขั้นสีม่วง
ผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีครามกี่คนที่ตลอดชีวิตก็ไม่อาจข้ามสะพานที่แบ่งแยกระหว่างพลังทั้งสองขั้นได้
มีกี่คนที่ปีกหักเพื่อจะยังคงเป็นผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีคราม
มีกี่คนที่ยอมละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อจะปีนขึ้นไปยังจุดสูงสุดและได้รับพลังที่แข็งแกร่งไม่มีผู้ใดต้านทานได้ แล้วสุดท้าย ในจำนวนนั้นมีกี่คนกันที่ความปรารถนาได้เป็นจริง
ในศตวรรษที่ผ่านมา มีเพียงคนเดียวคือเวินซินหัน
ส่วนคนที่ล้มเหลวมีอยู่กี่คนนั้น เป็นเรื่องที่ไม่มีใครรู้เลย
“นั่นก็แค่จินตนาการ ถ้าหากมีวิธีการเช่นนั้นอยู่จริงๆ ละก็ คงตกตะลึงปั่นป่วนกันทั้งโลก” จวินเสี่ยนพูด เขาคิดว่าจวินอู๋เสียแค่ถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น และไม่ได้คิดอะไรมาก
จวินอู๋เสียกลับส่ายหน้าขณะที่พูดว่า “มันไม่ได้น่าตกตะลึงขนาดที่พูดหรอก ท่านปู่ลองดูของที่ข้าให้ไปให้ดีๆ สิ”
จวินเสี่ยนชะงักไป ไม่เข้าใจสิ่งที่จวินอู๋เสียพูดเลย เขาหยิบเอกสารที่จวินอู๋เสียเพิ่งให้มาอ่านอย่างจริงจังทุกตัวอักษรตั้งแต่ต้นจนจบ
และเมื่ออ่านจบ เขาก็พบว่าในหัวปั่นป่วนไปหมด มือที่ถือกระดาษเริ่มสั่นอย่างไม่อาจควบคุมได้
“เผาผลาญพลังวิญญาณเพื่อให้ได้พลังวิญญาณขั้นสีม่วง…นี่…เป็นไปได้อย่างไร” เสียงของจวินเสี่ยนแทบจะเป็นเสียงกระซิบ ตัวอักษรในเอกสารนี้บอกเขาว่า มีวิธีการบังคับให้ได้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงมาอย่างนั้นหรือ!
ตอนที่ 1282 นี่คือการปฏิวัติ (2)
แม้ว่ามันจะเขียนเอาไว้หมึกสีดำบนกระดาษสีขาวอย่างชัดเจนแล้ว แต่จวินเสี่ยนก็รู้สึกว่ามันยากที่จะเชื่ออยู่ดี
และในตอนนั้นเอง จวินอู๋เสียก็ปลดปล่อยพลังวิญญาณออกมา!
บนร่างของจวินอู๋เสียมีแสงสีม่วงส่องสว่างเจิดจ้า จวินเสี่ยนปากอ้าตาค้าง เขามองพลังวิญญาณขั้นสีม่วงที่เปล่งประกายอยู่รอบตัวจวินอู๋เสียอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา
ตอนที่รัฐชีเจอกับวิกฤต แล้วจวินอู๋เสียปลดปล่อยพลังวิญญาณขั้นสีน้ำเงินของนาง สองพ่อลูกสกุลจวินก็ประหลาดใจมากแล้ว แต่เมื่อเทียบกับพลังวิญญาณขั้นสีม่วงที่เขาเห็นตอนนี้ พลังขั้นสีครามจะเป็นอะไรได้
“นี่…นี่เป็นความจริง…” จวินเสี่ยนพูดเสียงสั่น
จวินอู๋เสียเก็บพลังวิญญาณกลับไปและมองจวินเสี่ยนอย่างจริงจัง “วิธีการนี้เรียนรู้ได้ไม่ยาก ข้ามอบเคล็ดทักษะให้ท่านปู่ไปแล้ว หวังว่าท่านปู่จะใช้มันได้อย่างดีและเผยแพร่ให้กับทหารของรัฐชีด้วย”
สามโลกชั้นกลางโจมตีสามโลกเบื้องล่างครั้งแล้วครั้งเล่า ก็อาศัยพลังอำนาจที่แข็งแกร่งนี้ แล้วจวินอู๋เสียจะยอมให้พวกนั้นทำตามอำเภอใจได้อย่างไร
ถ้าสามโลกเบื้องล่างเข้าใจวิธีการเพิ่มระดับขั้นพลังวิญญาณชั่วคราวนี้ได้ ตอนที่คนจากสามโลกชั้นกลางมาก่อปัญหาในสามโลกเบื้องล่างอีก มันก็จะไม่ง่ายสำหรับพวกเขาอีกต่อไปแล้ว!
“เจ้าไปเอาสิ่งนี้มาจากไหน แล้วจะเอาให้ทหารทั่วไปเรียนได้จริงๆ หรือ” เสียงของจวินเสี่ยนตื่นเต้นอย่างไม่อาจควบคุมได้
“ไม่สำคัญหรอกว่ามันจะมาจากที่ไหน ท่านปู่วางใจเถอะ สิ่งที่ข้าให้ท่านสามารถใช้กับคนทั่วไปได้ ข้าเขียนรายละเอียดเอาไว้ให้แล้ว ทั้งหมดอยู่ในนั้น อีกสักพักข้าก็ต้องจากไปอีก หวังว่าท่านปู่จะได้ประโยชน์จากมันอย่างเต็มที่” จวินอู๋เสียไม่อยากให้พวกจวินเสี่ยนเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องของสามโลกชั้นกลาง นางทิ้งสิ่งนี้เอาไว้ให้ เจตนาก็เพื่อให้สามโลกเบื้องล่างได้มีโอกาสปกป้องตัวเอง
ไม่ใช่เพื่อรัฐชีเท่านั้น นางได้เตรียมสำเนาอีกสองชุดเพื่อส่งไปยังรัฐเฉียวและรัฐเหยียน
แม้ว่านางจะเป็นคุณหนูใหญ่ของจวนหลินอ๋องแห่งรัฐชี แต่นางก็ยังเป็นฮ่องเต้ของรัฐเหยียน และตอนนี้รัฐเฉียวก็กลายเป็นพันธมิตรของรัฐเหยียนแล้ว
กองกำลังพันธมิตรทั้งสามนี้ จวินอู๋เสียจะไม่ยอมให้รัฐใดต้องเสียเปรียบแน่
“สิ่งที่เจ้าให้ข้ามันมีค่ามากเกินไป การจะเผยแพร่ให้คนของเราก็ต้องเตรียมการเป็นอย่างมาก แต่ไม่ต้องกังวล ข้าจะจัดการเรื่องนี้ให้ดี” จวินเสี่ยนพูดด้วยน้ำเสียงซาบซึ้งตื้นตัน
ด้วยทักษะนี้ พวกเขาก็ไม่ต้องกังวลว่าจะขาดแคลนผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงอีกแล้ว
ถึงแม้ว่าพลังสีม่วงแบบนี้จะเทียบกับพลังวิญญาณขั้นสีม่วงที่แท้จริงไม่ได้ แต่ลองคิดดูสิ ถ้าทหารหนึ่งล้านคนในกองทัพสามารถใช้ทักษะนี้ได้ทุกคนละก็ ต่อให้ได้แค่ไม่กี่นาที แต่มันจะเป็นภาพที่ยอดเยี่ยมมากแน่ๆ! ตอนนั้นเอง โลหิตในกายของจวินเสี่ยนก็พลุ่งพล่านด้วยความตื่นเต้น!
จวินเสี่ยนพูดคุยกับจวินอู๋เสียอีกสักครู่จนกระทั่งอดใจรอไม่ไหวอีกต่อไป เขารีบไปหาจวินชิงที่ค่ายใหญ่ของกองทัพรุ่ยหลิน
สมบัติล้ำค่าเช่นนี้ ต้องมีการวางแผนอย่างรอบคอบเพื่อให้นำมันไปใช้ได้อย่างชาญฉลาด
จวินอู๋เสียมองดูจวินเสี่ยนเดินจากไป ในใจก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมา การที่สามารถทำให้คนในครอบครัวมีความสุขได้ ไม่ว่านางจะต้องทำอะไร มันก็คุ้มค่าที่จะทำทั้งนั้น
หลังจากจัดการกับเรื่องนี้แล้ว จวินอู๋เสียก็เอาใบสั่งยาเม็ดยาขยายเส้นลมปราณให้กับมู่เฉิน การเดินทางไปยังผาสุดขอบฟ้าครั้งนี้ นางไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลานานเท่าไรถึงจะได้กลับมา นางอยากจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย จะได้ออกเดินทางไปได้อย่างสบายใจ
เม็ดยาขยายเส้นลมปราณนี้ หลังจากทำออกมาได้แล้ว จวินอู๋เสียอยากให้มู่เฉินแบ่งออกเป็นสามส่วน และจัดส่งให้รัฐชี รัฐเหยียน และรัฐเฉียวเป็นการถาวร นางอยากจะทำให้สามโลกเบื้องล่างไม่โดนสามโลกชั้นกลางกดขี่ข่มเหงอีก กุญแจสำคัญที่จะทำให้เรื่องนี้เป็นไปได้ก็มีอยู่ทางเดียว ทำให้คนของสามโลกเบื้องล่างแข็งแกร่งขึ้นอย่างแท้จริง!