ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร - ตอนที่ 1203 ฮองเฮาแห่งรัฐเหยียน (2) ตอนที่ 1204 คำพูดของเวินอวี่ (1)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร
- ตอนที่ 1203 ฮองเฮาแห่งรัฐเหยียน (2) ตอนที่ 1204 คำพูดของเวินอวี่ (1)
ตอนที่ 1203 ฮองเฮาแห่งรัฐเหยียน (2) / ตอนที่ 1204 คำพูดของเวินอวี่ (1)
ตอนที่ 1203 ฮองเฮาแห่งรัฐเหยียน (2)
การตกลงอย่างรวดเร็วทันควันของจวินอู๋เสียนั้นทำให้ชวีหลิงเย่ว์ตกใจมาก นางเงยหน้าขึ้นมองจวินอู๋เสียที่องอาจกล้าหาญ
ถึงจะรู้ว่าจวินอู๋เสียเป็นสตรีเหมือนกับนาง แต่…นางก็ไม่อาจเปลี่ยนความรู้สึกในหัวใจของนางได้
“ท่านจะไม่ถามข้าหรือว่าทำไมข้าถึงเลือกรัฐเหยียน” ชวีหลิงเย่ว์ถามพร้อมกับมองจวินอู๋เสีย นางไม่ได้ถามอะไรเลยสักนิดและตอบตกลงทันที
“ท่านรู้หรือไม่ว่าการที่ท่านไม่อยู่ในรัฐเหยียนและข้ากลายเป็นฮองเฮาแห่งรัฐเหยียนแบบนี้…ข้าก็สามารถกุมอำนาจที่เปลี่ยนรัฐเหยียนทั้งรัฐเอาไว้ในมือได้ ท่านไม่กลัวหรือว่า…ข้าจะยึดรัฐของท่านน่ะ”
จวินอู๋เสียส่ายศีรษะช้าๆ
“เจ้าไม่ทำหรอก”
สายตาของชวีหลิงเย่ว์มีแววตกใจ แล้วทันใดนั้นบนใบหน้าสวยหวานของนางก็ปรากฏรอยยิ้มที่ออกมาจากใจเป็นครั้งแรกตั้งแต่ที่เกิดเหตุการณ์เลวร้ายขึ้นกับนาง
“หม่อมฉันถวายบังคมฝ่าบาทเพคะ!” นางคุกเข่าลงกับพื้นเพื่อถวายความเคารพจวินอู๋เสียตามพิธีการของราชสำนัก
ทั้งหมดที่จวินอู๋เสียทำก็เพื่อปกป้องนางมาโดยตลอด จวินอู๋เสียตั้งใจมอบเกียรติยศทั้งหมดนี้ให้แก่นาง นั่นเป็นวิธีปกป้องนางของจวินอู๋เสีย ชวีหลิงเย่ว์รู้ว่าเรื่องที่จวินอู๋เสียจะไปทำนั้นเป็นเรื่องที่นางไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้ และนางก็ไม่อยากจะเป็นภาระของจวินอู๋เสีย
ตัวเลือกที่จวินอู๋เสียให้นางคือเส้นทางที่ปูทางให้ชวีหลิงเย่ว์ก้าวต่อไป
ถึงแม้ในอนาคตจะไม่มีจวินอู๋เสียอยู่เคียงข้าง ก็จะไม่มีใครทำร้ายนางได้แม้แต่น้อย
ถ้า…นางเป็นบุรุษ…มันจะยอดเยี่ยมแค่ไหนกันนะ…
“ลุกขึ้นเถอะ” จวินอู๋เสียพูด ก่อนหน้านี้นางต้องการช่วยรัฐชีจึงขึ้นครองบัลลังก์ในทันทีและรีบนำกองทัพเข้าสู่สงครามโดยไม่ได้จัดการเรื่องของชวีหลิงเย่ว์ให้เรียบร้อย วันนี้นางกลับมาเพราะอยากถามคำถามบางอย่างกับเวินอวี่ และชวีหลิงเย่ว์ได้เลือกอยู่ในรัฐเหยียน อย่างนั้นนางก็จะให้ตำแหน่งที่สูงที่สุดและเป็นที่เคารพนับถือที่สุดในวังหลังแก่ชวีหลิงเย่ว์ จวินอู๋เสียจะปกป้องชวีหลิงเย่ว์ต่อไปจนกว่านางจะพบคนที่สามารถมอบหัวใจให้ได้อย่างแท้จริง
ชวีหลิงเย่ว์ลุกขึ้นช้าๆ
“อีกสามวันจะมีพิธีแต่งตั้งฮองเฮา ตอนนี้เจ้ากลับไปที่ห้องของเจ้าก่อนเถอะ” จวินอู๋เสียพูด
ชวีหลิงเย่ว์หันหลังจากไป และก่อนที่นางจะก้าวผ่านประตูท้องพระโรงออกไป นางหยุดเดินและหันกลับมามองจวินอู๋เสียที่ยืนอยู่ในท้องพระโรง
ร่างเล็กๆ นั้นสูงไม่เท่านางด้วยซ้ำ แต่กลับทำให้รู้สึกมั่นคงปลอดภัยได้อย่างมากมาย
ขอบคุณ…
ขอบคุณที่ยอมช่วยข้า…
ขอบคุณที่ดึงข้าออกมาจากขุมนรก
ข้าไม่มีความสามารถอะไร แต่ก่อนที่ท่านจะกลับมา ข้าจะปกป้องรัฐนี้แทนท่านเอง
ชวีหลิงเย่ว์หันกลับมาและก้าวออกจากท้องพระโรง ใบหน้านางมองไปทางดวงอาทิตย์ด้วยสีหน้ามุ่งมั่นเด็ดเดี่ยว
ไม่มีใครคิดว่าอีกหลายปีต่อมาฮองเฮาผู้ที่ทำให้บุรุษมากมายนับไม่ถ้วนก้มหัวให้นางด้วยความนับถือยำเกรง แม่ทัพใหญ่ของกองทัพทั้งสามได้เกิดขึ้นในวันนี้
ในวันข้างหน้าเมื่อนางนำทหารจำนวนนับไม่ถ้วนที่มีความแข็งแกร่งเกินต้านทานเข้าสู่สงครามที่รวมทั้งสามสามโลกเพื่อจวินอู๋เสีย ทำลายข้าศึกศัตรูไปหลายสิบล้านคนนั้น ไม่มีใครรู้ว่าฮองเฮาผู้กล้าแกร่งซึ่งชื่อของนางได้สั่นสะเทือนทั้งสามสามโลกนั้นได้เริ่มต้นด้วยการทำเพื่อคนเพียงคนเดียว เพื่อปกป้องสามโลกของนาง ปกป้องเกียรติยศของนาง
ไม่มีใครรู้ว่าเพียงก้าวเดียวของพวกเขานี้เองที่มีผลกระทบและเปลี่ยนแปลงชีวิตไปไม่รู้กี่ชีวิต หรือได้ปรับเปลี่ยนโครงสร้างของดินแดนในโลกนี้ไปมากมายแค่ไหน
เมื่อชวีหลิงเย่ว์ออกไป จวินอู๋เสียก็สั่งให้คนไปเชิญเวินอวี่มาพบที่วังหลวง นางนั่งอยู่เพียงลำพังในท้องพระโรง ความคิดในหัวแล่นไม่หยุด
ครึ่งวันผ่านไปเวินอวี่ในชุดสีขาวทั้งตัวก็เดินเข้ามาในวังหลวงช้าๆ มันเป็นหนึ่งในวันที่หนาวที่สุดของฤดูหนาว ขนจิ้งจอกสีขาวพันรอบคอเสื้อของเขา ท่าทางสง่างามเกินใครแต่ไม่ได้ทำให้รู้สึกอึดอัด มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม ผมสีขาวทิ้งลงมากลางแผ่นหลัง
เมื่อเห็นจวินเสียเขาก็ก้าวเข้ามาโค้งเล็กน้อยเป็นการทำความเคารพ สายตาของเขาอบอุ่นจนละลายความหนาวเย็นในฤดูหนาวได้
“เวินอวี่คารวะฮ่องเต้พ่ะย่ะค่ะ”
ตอนที่ 1204 คำพูดของเวินอวี่ (1)
“ท่านราชครูเป็นอย่างไรบ้าง” จวินอู๋เสียถามขณะที่มองตาเวินอวี่ ต้องพูดเลยว่าทักษะการวาดภาพของเหลยเชินยอดเยี่ยมจริงๆ คนในรูปนั้นดูเหมือนเวินอวี่มากจริงๆ
“ขอบพระทัยที่ฝ่าบาททรงห่วงใย กระหม่อมสบายดีพ่ะย่ะค่ะ” เวินอวี่ตอบด้วยรอยยิ้ม
“ท่านราชครู เชิญนั่ง” จวินอู๋เสียพูด
เวินอวี่นั่งลงที่ด้านหนึ่ง
“ฝ่าบาทเรียกกระหม่อมมาที่นี่ทำไมหรือพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาทเพิ่งกลับมาถึงวังหลวงจากสงคราม น่าจะพักผ่อนก่อนนะพ่ะย่ะค่ะ” เวินอวี่มีความประทับใจที่ดีต่อจวินอู๋เสีย เขาไม่เคยพบเด็กหนุ่ม ที่มีสติปัญญาสูงขนาดนี้แต่ใจเย็นและสงบนิ่งแบบนี้มาก่อน กระทั่งเหลยเชินที่เขายอมรับเป็นลูกศิษย์ของเขาและได้รับคำชมเชยเป็นอย่างมากจากทุกคน ก็ยังเทียบกับจวินเสียไม่ได้
จวินอู๋เสียมองผมสีขาวและใบหน้าอ่อนเยาว์หล่อเหลาของเวินอวี่ก่อนจะถามขึ้นเบาๆ ว่า “ท่านราชครูอยู่ที่รัฐเหยียนมานานแค่ไหนแล้ว”
เวินอวี่ชะงักไปเล็กน้อย แต่เขาก็เรียกรอยยิ้มกลับมาได้ในทันที
“กระหม่อมอยู่ที่นี่มาตั้งแต่ก่อตั้งรัฐเหยียนพ่ะย่ะค่ะ”
อายุขัยของคนในสามโลกเบื้องล่างอย่างมากที่สุดก็ร้อยกว่าปี ยิ่งทะลวงขั้นพลังวิญญาณไปได้สูงเท่าไรก็ยิ่งมีชีวิตยาวนานเท่านั้น แต่รัฐเหยียนก่อตั้งมาหลายร้อยปีแล้ว อย่างน้อยเขาก็ต้องเป็นผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วง ไม่อย่างนั้นก็คงไม่สามารถอยู่มาได้นานถึงขนาดนี้
เวินอวี่ไม่ได้ปกปิดสิ่งใดไม่ใช่เพราะเขาไม่อยากทำ แต่เพราะทุกคนในโลกนี้รู้จักตัวตนของเขาดี ต่อให้เขาพยายามเปลี่ยนคำพูดของเขา จวินเสียก็คงไม่เชื่อ
“ข้าเพิ่งมาที่รัฐเหยียนและยังไม่เข้าใจเรื่องของรัฐเหยียนเท่าไรนัก เรื่องที่พูดกันว่าท่านราชครูไม่ชอบออกจากจวนหรือออกจากเมืองหลวงของรัฐเหยียน ข้าสงสัยว่านั่นเป็นความจริงมากแค่ไหน” จวินอู๋เสียแสร้งทำเป็นไม่สนใจขณะมองเวินอวี่แล้วถามด้วยน้ำเสียงเฉยเมย
เวินอวี่หัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า “ฝ่าบาทยังไม่เคยชินกับการเป็นฮ่องเต้จริงๆ ยังเรียกตัวเองว่า ‘ข้า’ อยู่เลย แต่นั่นก็ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวของฝ่าบาทนะพ่ะย่ะค่ะ เรื่องข่าวลือนั่นก็อาจจะเกินความจริงไปหน่อย แม้ว่ากระหม่อมจะไม่ชอบออกข้างนอก แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยออกจากเมืองหลวง ทุกปีในช่วงเริ่มฤดูใบไม้ผลิตอนที่ดอกไม้เริ่มผลิบาน กระหม่อมจะไปท่องเที่ยวที่ทะเลสาบ ชื่นชมทัศนียภาพของภูเขาและแม่น้ำพ่ะย่ะค่ะ”
“อย่างนั้นหรือ” จวินอู๋เสียเลิกคิ้วถาม “แล้วท่านราชครูเคยไปที่รัฐชีบ้างหรือเปล่าเล่า”
สีหน้าของเวินอวี่แข็งทื่อไปครู่หนึ่ง รอยยิ้มในแววตาจางหายไปเล็กน้อย เขาเหลือบตาขึ้นมองจวินอู๋เสีย ดูเหมือนกำลังพยายามหาบางสิ่งจากสีหน้าของจวินอู๋เสีย แต่หลังจากมองอยู่พักหนึ่งเขาก็ยังไม่พบเบาะแสอะไรจากสีหน้าของจวินอู๋เสียเลยแม้แต่น้อย
“ทำไมฝ่าบาทจึงถามเช่นนั้นเล่าพ่ะย่ะค่ะ”
จวินอู๋เสียตอบ “ข้านำกองทัพไปที่รัฐชีครั้งนี้ ตอนที่ข้าจับแม่ทัพใหญ่ของรัฐจิ้วและคนอื่นๆ ข้าได้ยินบางอย่างที่น่าสนใจ รัฐจิ้วร่วมมือกับรัฐอื่นๆ อีกสามรัฐบุกโจมตีรัฐชี ไม่ใช่เพื่อดินแดนของรัฐชี แต่เพื่อหยกเพียงชิ้นเดียวเท่านั้น หยกนั่นคือหยกวิญญาณที่เป็นสัญลักษณ์ของรัฐชี แปลกนะที่รัฐจิ้วลงทุนลงแรงมากถึงขนาดนั้นเพื่อหยกแค่ชิ้นเดียว ท่านราชครูไม่คิดว่ามันแปลกบ้างหรือ”
รอยยิ้มบนใบหน้าของเวินอวี่จางหายไป คิ้วของเขาขมวดเข้าหากัน
จวินอู๋เสียสังเกตปฏิกิริยาทั้งหมดของเขาแล้วพูดต่อว่า “ข้างงมากจึงถามหลินอ๋องแห่งรัฐชีเกี่ยวกับมัน ดูเหมือนว่าหยกชิ้นนั้นถูกมอบให้แก่หลินอ๋องและฮ่องเต้ผู้ก่อตั้งรัฐของพวกเขาโดยชายหนุ่มคนหนึ่งก่อนที่รัฐชีจะก่อตั้งขึ้นเสียอีก จากที่หลินอ๋องอธิบาย คนที่มอบหยกให้กับพวกเขามีลักษณะที่พิเศษอย่างมาก เขาดูเป็นคนหนุ่มทุกตารางนิ้วเลยทีเดียวและมีใบหน้าที่งดงามมาก แต่ไม่รู้ทำไมเขาถึงมีผมสีขาวทั้งหัว ลักษณะเช่นนั้นหายากมากเลยนะ และในจำนวนผู้คนมากมายที่ข้าเคยพบเจอมา มีเพียงท่านราชครูของเราเท่านั้นที่ตรงกับคำบรรยายนั้น ข้าอยากรู้ว่าท่านราชครู…จะว่าอย่างไรในเรื่องนี้”
จวินอู๋เสียมองเวินอวี่โดยไม่ยอมละสายตา ความสงสัยที่นางพยายามข่มเอาไว้ในใจเริ่มเดือดพล่านขึ้น
เวินอวี่ฟังเรื่องราวทั้งหมดเงียบๆ และสุดท้ายเขาก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ