ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี - บทที่ 1177 เลี่ยงหนักเป็นเบา
จักรพรรดินีเจี่ยหมิงคงตอนนี้หลับตาสนิท ไม่ได้เปิดตาของตัวเอง นางใบหน้าไร้อารมณ์ เหมือนมีเกล็ดน้ำแข็งปกคลุม
รวบห้านิ้ว ตั้งฝ่ามือประดุจดาบ จากนั้นก็วาดใส่ความว่างเปล่า
ทันใดนั้น พยัคฆ์มังกรคู่หนึ่งที่เกิดจากสายน้ำในสี่มังกรสี่พยัคฆ์ที่อยู่รอบๆ ก็กลายเป็นรูปสลักน้ำแข็ง
จากนั้นก็แตกร้าวจากตรงกลาง ถูกฟันลำตัวขาด!
จักรพรรดินีหมุนร่าง ฟันออกไปอีกดาบหนึ่ง ฟันพยัคฆ์มังกรที่เกิดจากพายุ
จักรพรรดิศานติเห็นดังนั้นกลับไม่ลนลาน สองมือใช้กระบวนท่าหักล้างกระบวนท่า สี่มังกรสี่พยัคฆ์ที่เกิดจากสี่ลักษณ์ปรากฏตัวอีกครา ยังคงต่อสู้กับจักรพรรดินีอย่างดุเดือด
หลังจากเขาเห็นหน้าตาของเยี่ยนจ้าวเกอ ก็คล้ายกับไม่ได้ประหลาดใจนัก
หลังจากขบคิดเล็กน้อย จักรพรรดิศานติก็หัวเราะคำหนึ่ง “สหายร่วมเส้นทางเจี่ย วันนี้ดูเหมือนได้แต่พอแค่นี้แล้ว”
เขาผลักสองฝ่ามือออกไปด้านหน้าพร้อมกัน พยัคฆ์มังกรที่เกิดจากดิน น้ำ ไฟ พุ่งเข้าหาจักรพรรดินี
จากนั้น มังกรลมและพยัคฆ์ลมก็พุ่งตัวมาอยู่ด้านล่างเขา ดันเขาขึ้นด้วยคามเร็วสูงสุด ออกห่างไปไกลในชั่วพริบตา ผละจากชายฝั่งยมโลก
เยี่ยนจ้าวเกอหยีตาเล็กน้อย เพราะเขารู้สึกว่าก่อนที่จักพรรดิศานติจะผละไป อีกฝ่ายคล้ายมองเขาแวบหนึ่ง ดวงตาฉายแฝงความล้ำลึก
ถึงแม้จะไม่เคยบอกอย่างชัดเจน แต่เยี่ยนจ้าวเกอก็ทราบผ่านการเตือนโดยนัยของเกาเสวี่ยโพและหลงฮั่นหัวแล้ว ว่าจักรพรรดิศนาติที่แล้วมายกให้บูรพาจารย์เป็นผู้นำ
บูรพาจารย์เฒ่าแห่งมรกตท่องฟ้าผู้นั้นเป็นผู้สืบทอดของเจ้าแม่อู๋ตัง ส่วนจักรพรรดิศานติทำให้การสืบทอดอันเห็นหลักมรรคาส่วนหนึ่งของเจ้าแม่จินหลิงปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง แต่นี่ไม่เป็นอุปสรรคต่อการเอนเอียงเข้าหาอีกฝ่ายของจักรพรรดิศานติ
ในขณะเดียวกัน ที่แล้วมาจักรพรรดิศานติกับจักรพรรดิสัญญะเมฆยังใกล้ชิดกันยิ่ง
เขาเป็นฝ่ายที่มองโลกซ้อนโลกเป็นปรปักษ์ถึงขีดสุดอย่างไม่ต้องสงสัย หลายปีมานี้เกิดการกระทบกระทั่งกับยอดฝีมือบนโลกซ้อนโลกไม่น้อย
ขณะมองเขา เยี่ยนจ้าวเกอคิดถึงวัตถุเรื่องราวมากมายได้ในเกือบชั่วพริบตา
ชนชั้นจักรพรรดิศานติและจักรพรรดิเมฆ เกรงว่าจะยินดีเห็นโลกซ้อนโลกเกิดความไม่สงบภายใน หรือถึงขั้นแตกแยก
หากพวกเยี่ยนจ้าวเกอคิดสวามิภักดิ์กับมรกตท่องฟ้า พวกเขาใช่ว่าจะรับไม่ได้
และหากโลกซ้อนโลกแตกแยกปั่นป่วนเพราะสาเหตุนี้ ก็ยิ่งเป็นเรื่องที่สอดคล้องกับเจตนาของพวกเขา
ถ้ากษัตริย์กระบี่เยว่เจิ้นเป่ยที่เพาะความแค้นอย่างล้ำลึกไม่อาจอยู่บนโลกซ้อนโลกได้อีกต่อไป เช่นนั้นพวกเขายิ่งปรบมือเรียกหา
เพื่อทำให้เป้าหมายนี้บรรลุ การป้องกันไม่ให้พวกเยี่ยนจ้าวเกอขอให้กษัตริย์ดาราสนับสนุนหรือไกล่เลี่ย เห็นได้ชัดว่ามีความจำเป็นมาก
พวกเขาไม่ต้องทำอะไรมาก เพียงแค่บอกจักรพรรดินีเจี่ยหมิงคงอย่างลับๆ ว่าเยี่ยนจ้าวเกอเคยไปมาหาสู่กับฉู่หลีหลี ก็เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะกระตุ้นโทสะของจักรพรรดินี ทำให้นางขัดขวางทำลายแผนการของเยี่ยนจ้าวเกอได้แล้ว
ถึงแม้จะไม่ทราบว่าเยี่ยนจ้าวเกอช่วยส่งสารให้ฉู่หลีหลี แต่ขอแค่เรื่องการไปมาหาสู่กลายเป็นเรื่องแทรกซ้อนในตอนที่เยี่ยนจ้าวเกอตามหาษัตริย์ดารา นั่นก็มากพอทำให้เยี่ยนจ้าวเกอสะอึกได้แล้ว
แน่นอนว่า หากพวกเขาคิดล่วงเกินเยี่ยนจ้าวเกอสองพ่อลูก จะมีเพทภัยตามมามากมาย ต่อให้เยี่ยนจ้าวเกอกับเยี่ยนตี๋ในตอนนี้ยังเป็นแค่จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ก็ตาม
แต่ความอาฆาตของพวกเขา โดยเฉพาะความอาฆาตในภายหลังตามเวลาที่ผ่านไป ไม่มีทางที่คนทั่วไปจะรับได้
สำหรับพวกจักรพรรดิศานติแล้ว นี่เป็นเรื่องที่ได้ไม่คุ้มเสีย ถึงอย่างไรพวกเขากับเยี่ยนจ้าวเกอสองพ่อลูกก็ไม่ได้มีความแค้นต่อกัน
แต่ว่าการเหลือบมองก่อนไปของจักรพรรดิศานติเมื่อครู่ ก็ยังทำให้เยี่ยนจ้าวเกอกังวลเล็กน้อย รู้สึกไม่ค่อยดีนัก
‘หรือเป็นเพราะว่า…’ ถึงแม้ในในเขาจะเกิดความคิดมากมาย แต่ก็เป็นเรื่องแค่พริบตาเดียว
เห็นจักรพรรดินีไม่มีเจตนาจะรั้งตัวอีกฝ่ายไว้ เยี่ยนจ้าวเกอก็ยินดีดูอยู่เงียบๆ ใช้สายตาส่งจักรพรรดิศานติออกไปไกล
“ไฉนเจ้าถึงมาที่นี่” จักรพรรดินีไม่คิดไล่ตามเช่นกัน เก็บมือยืนตรง ดวงตาที่ปิดอยู่ ‘มอง’ ไปทางเยี่ยนจ้าวเกอ “มาตามหาภรรยาเจ้าอีกรอบหรือ”
นางเว้นครู่หนึ่ง “คำนวณเวลาแล้ว งานประมูลของตึกความลับฟ้าควรจะจบลงนานนานแล้ว ก่อนหน้านี้ข้ามีธุระต้องจัดการ ไม่อาจปลีกตัวไปได้”
เยี่ยนจ้าวเกอเป็นผู้สืบทอดของราชันพระศุกร์เยี่ยนซิงถาง เจี่ยหมิงคงจึงอธิบายสองสามประโยค แฝงความหมายขอโทษ
แต่พอเยี่ยนจ้าวเกอฟังความหมายในวาจาของนาง กลับคล้ายไม่ทราบเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นบนโลกซ้อนโลกเมื่อก่อนหน้านี้
“จักรพรรดินี ข้าขอไม่ปิดบัง ครั้งนี้ที่เข้ามาในนพยมโลกเพราะต้องการตามหากษัตริย์ดารา” เยี่ยนจ้าวเกอพูดความจริงหลังจากขบคิดครู่หนึ่ง
บนร่างของจักรพรรดินีมีเกล็ดน้ำแข็งจับตัวกันอีกครั้ง กำลังจะแช่แข็งตัวเอง
แต่ตอนนี้พอได้ฟังคำพูดของเยี่ยนจ้าวเกอ เกล็ดน้ำแข็งรอบตัวก็พลันสายไป
นางขมวดคิ้ว “เจ้าตามหาอาจารย์?”
“เพื่อช่วยท่านแม่ ท่านพ่อข้าจึงสังหารนักพรตเทียนอี้ ประมุขบูรพา” เยี่ยนจ้าวเกอกล่าวอย่างตรงไปตรงมา “ส่วนข้าสังหารประมุขปฐวีหวังเจิ้งเฉิง”
พอได้ยินว่านักพรตเทียนอี้ถูกฆ่า สีหน้าของจักรพรรดินีไม่มีการเปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย
แต่หลังจากฟังว่าเยี่ยนจ้าวเกอได้สังหารประมุขปฐวีหวังเจิ้งเฉิง คิ้วที่ขมวดของนางก็ยกขึ้นเล็กน้อย “กษัตริย์เร้นลับยังคงเข้าฌานไม่ออกมาหรือ”
“ไม่ผิด” เยี่ยนจ้าวเกอผงกศีรษะ จากนั้นเขาก็เล่าเรื่องคร่าวๆ ตามความจริงทั้งหมด
“กษัตริย์เร้นลับจะต้องช่วยกษัตริย์ดิน” จักรพรรดินีฟังจบก็พยักหน้า “มิน่าเจ้าถึงตามหาอาจารย์”
เยี่ยนจ้าวเกอฉวยโอกาสถาม “ไม่ทราบตอนนี้กษัตริย์ดาราอยู่ที่ใด สะดวกมาพบกันหรือไม่”
“เกรงว่าท่านอาจารย์จะช่วยไม่ได้” เป็นเช่นที่คาดการณ์เอาไว้ จักรพรรดินีให้คำตอบปฏิเสธทันที
ไม่รอเยี่ยนจ้าวเกอเอ่ยปาก นางพลันถามกลับว่า “ในเมื่อกษัตริย์กระบี่ยังไม่กลับโลกซ้อนโลก เจ้าไปรู้มาจากไหนว่าท่านอาจารย์ยังมีชีวิตอยู่ ทั้งยังเกี่ยวข้องกับนพยมโลกด้วย”
“จากมารดาเจ้าหรือ? สิ่งที่นางรู้สมควรมีจำกัดนัก” จักรพรรดินีกล่าวอย่างราบเรียบ “ประมุขปฐวีหวังเจิ้งเฉิงปิดปากสนิทยิ่ง แม้จะคิดว่าชัยชนะห่างแค่เอื้อมก็ไมมีทางบอกข่าวของอาจารย์กับเจ้า”
นาง ‘มอง’ เยี่ยนจ้าวเกอ “หลายปีก่อนหน้านี้ ทางมรกตท่องฟ้ามีข่าวส่งมา ว่าเจ้าได้ไปที่นั่นด้วย…”
“ฉู่หลีหลีอยู่ที่มรกตท่องฟ้าใช่หรือไม่ เจ้าพบนางแล้วหรือ”
เยี่ยนจ้าวเกอถูกดวงตาที่ปิดสนิทของจักรพรรดินี ‘จ้อง’ จึงอดเกิดคาวมคิดยิ้มขื่นขมไม่ได้
การคาดการณ์ก่อนหน้าของเขาได้รับการพิสูจน์แล้ว
ถึงแม้จักรพรรดินีเจี่ยหมิงคงจะแสดงท่าทีไม่ยุ่งเกี่ยวในเรื่องของคนอื่น คล้ายไม่ใส่ใจอะไรทั้งสิ้น แต่นั่นเป็นเพราะว่านางไร้ความสนใจจะยุ่งเกี่ยวเท่านั้น
ทว่าความจริงแล้วนางทราบถึงเรื่องราวมากมาย เพียงแต่ปกติแสดงท่าทีเตรียมตัวไว้
เมื่อนางเข้าใจว่าเป็นเรื่องอะไร นางยังประเปรียวยิ่งกว่าคนอื่นเสียอีก
จักรพรรดิศานติคล้ายเข้าใจเรื่องนี้ดี ดังนั้นเขาจึงไม่คิดเอ่ยวาจายั่วยุ
ข่าวที่เยี่ยนจ้าวเกอได้ไปยังมรกตท่องฟ้า ยอดฝีมือระดับสูงบนโลกซ้อนโลกในตอนนั้นล้วนทราบเป็นส่วนใหญ่ เพียงแต่ไม่รู้รายละเอียดเท่านั้น
แต่ว่าสำหรับจักรพรรดินีเจี่ยหมิงคงในตอนนี้ คล้ายกับไม่จำเป็นต้องทราบรายละเอียด
ตอนนี้นางกำลังคาดเดา เยี่ยนจ้าวเกอย่อมปฏิเสธได้
ถึงอย่างไรมารดาของตนจะต้องช่วยกลบเกลื่อน ทางประมุขปฐวีหวังเจิ้งเฉิงก็ตายไปแล้ว ไม่อาจตรวจสอบได้
แต่ว่าความจริงไม่มีความจำเป็นต้องโกหก เพราะต่อจากนี้จะถูกเปิดเผยง่ายดายเกินไป
กระนั้น…
“ได้เจอผู้อาวุโสฉู่ท่านหนึ่งที่มรกตท่องฟ้าจริงๆ” เยี่ยนจ้าวเกอสีหน้าฉายแววประหลาดใจ
หลีกเลี่ยงหนักเป็นเบาเป็นเรื่องง่ายดายยิ่ง เรื่องช่วยส่งสารยิ่งปกปิดได้
เรื่องนี้เจี่ยหมิงคงไม่มีที่ให้สืบสาวหาคนยืนยัน นอกเสียจากว่าฉู่หลีหลีจะขายเยี่ยนจ้าวเกอ
ถึงจะดูใช้การไม่ค่อยได้ แต่ว่าแม่เฒ่าฉู่ผู้นั้นคงไม่ทำเรื่องไร้สมองเช่นนี้
ดังนั้นเยี่ยนจ้าวเกอจึงเยือกเย็นยิ่ง “จักรพรรดินีไม่ทราบว่านางอยู่ที่มรกตท่องฟ้าหรือ ข้านึกว่าพวกท่านเป็นสหายร่วมสำนักกันเสียอีก…”
………………..