ดี-เจเนซิส : สามปีหลังจากดันเจียนปรากฏขึ้น - ตอนที่ 24 เล่ม 2 : บทนำ

บทนำ

วันหนึ่งในปี 2018

ไมสัน-อัลฟอร์ด ฝรั่งเศษ

ชุมชนไมสัน-อัลฟอร์ดนั้นตั้งอยู่ที่ทางตะวันออกเฉียงใต้เเถบชานเมืองของปารีส 

ที่นั่น ดาวิด ปิเเอร์ กาเซีย กำลังยืนอยู่บนชั้นบนสุดของตึกห้าชั้นซึ่งเคยเป็นอพาร์ตเมนหรูมาก่อน เขากำลังมองไปที่เเม่น้ำมาร์นที่อยู่นอกหน้าต่าง

“เป็นเรื่องจริงหรือที่ลูกสาวของอาเหม็ดฟื้นตัวเพราะเวทมนตร์ที่ญี่ปุ่น” ดาวิดถาม

ชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังรายงานเรื่องนี้ด้วยน้ำเสียงราบเรียบให้ดาวิดที่กำลังหันหลังอยู่ “อย่างน้อยๆเรื่องที่เป็นเรื่องจริงเเน่นอนก็คือเขากลับมาอินเดียพร้อมลูกสาวที่สวยสมบูรณ์เเบบ”

“นายพูดถึงหญิงสาวคนนั้นที่เคยนั่งรถเข็นน่ะหรอ”

เพราะความสิ้นหวัง อาเหม็ดที่เป็นหนึ่งในคนที่ร่ำรวยที่สุดในอินเดียนั้นเคยพาลูกสาวของเขามาที่ ‘อัทลัม โฟรามินิส’ เเห่งนี้ 

ถ้ารักษาอาช่าได้ อนาคตขององค์กรทางศาสนาของดาวิดจะต้องสดใสขึ้นมากเเน่ๆ เเต่ทว่าเเค่มองดูสภาพของเธอ ดาวิดก็รู้เเล้วว่ามันเป็นไปไม่ได้ เเต่เขาไม่เคยพูดกับอาเหม็ดตรงๆเเบบนั้น เพราะยังไงองค์กรทางศาสนาของเขาก็ตั้งอยู่ได้เพราะขายความเชื่อเกี่ยวกับปาฏิหารย์นี่เเหละ

สุดท้ายเเล้วดาวิดก็พยายามเลื่อนนัดการรักษาอาช่าออกไปด้วยการอ้างเหตุผลต่างๆนาๆ

ชายหนุ่มยังรายงานต่อว่า “อาเหม็ดได้เจอกับคนรู้จักในตอนที่กลับมาอินเดีย เเละดูเหมือนเขาจะเล่าถึงเรื่องจอมขมังเวทย์ญี่ปุ่น ในเร็วๆนี้อาเหม็ดจะเปิดตัวลูกสาวของเขาในสังคมชั้นสูง เราจะได้เห็นกันในตอนนั้นครับ”

ดาวิดกำลังคิดว่าเรื่องนี้จะส่งผลอะไรกับเขาบ้าง

คนทั่วไปนั้นไม่รู้จัก อัทลัม โฟรามินิส เเต่จะรู้จักในชื่อของ โบสถ์เเห่งห้วงลึก นิกายนี้จะเป็นนิกายคริสเตียนที่นับถือดันเจี้ยน จะนับถือส่วนลึกของโลกว่าเป็นสิ่งศักสิทธิ์ ไม่ใช่เวอราโก้ ฮาเดส อาบีส หรือ ทาร์ทารัส

สตรีศักสิทธิ์ของโบสถ์เเห่งห้วงลึกนี้ชื่อว่า มารีเเอน เทเรซา มาร์ติน เธอได้รับพลังการรักษามาจากดันเจี้ยน เเค่ดูจากชื่อก็รู้เเล้วว่า อัทลัม โฟรามินิส นั้นเเตกต่างจากนิกายอื่นๆทั่วไป

เพราะว่า มารีแอนไม่ใช่นักต้มตุ๋น

เมื่อสองปีก่อน ดาวิดพบเธอที่เขตเอนเเคมป์ของประเทศแอนดอร์รา เธอสวมเสื้อผ้ามอซอนั่งอยู่ที่ม้านั่งด้านนอกของโบสถ์มาร์คแอนด์ซานต้ามาเรียที่อยู่ใกล้ๆสุสานสาธารณะของเขต ที่เธอนั่งอยู่นั้นมีกลุ่มผู้สูงอายุกำลังคุกเข่าอยู่รอบๆตัวเธอ

ดาวิดสงสัยจึงเข้าไปพูดกับชายที่ดูเหมือนจะเป็นพนักงาน

“การชุมนุมนั่นคืออะไรหรือครับ”

ชายคนนั้นมองไปที่กลุ่มคนสูงอายุนั่นเเละตอบด้วยเสียงค่อยๆว่า “พวกเขากำลังเเสวงหา มา ซานตา อยู่”

“มา ซานตา?” ดาวิดสงสัย “พระเเม่มารีน่ะหรือครับ”

ชายคนนั้นส่ายหน้าเล็กน้อยจากนั้นก็หันหลังให้ดาวิดเเละเดินหนีไป ราวกับว่าเขากำลังหนีจากอะไรสักอย่างที่ไม่ควรพูดถึง

ด้วยความสงสัยอย่างมาก ดาวิดจึงนั่งลงที่ม้านั่งอีกตัวเเละคอยสังเกตกลุ่มผู้สูงอายุนั้นจากที่ไกลๆ 

หลังจากนั้นไม่นานก็มีชายที่กำลังเเบกหญิงสูงอายุคนหนึ่งอยู่บนไหล่วิ่งเข้ามาทางประตูด้วยความรีบร้อน เธอน่าจะเป็นภรรยาของเขา ชายคนนั้นรีบวิ่งมาที่ม้านั่ง

หญิงคนนั้นน่าจะถูกน้ำมันกระเด็นใส่ขณะทำอาหาร หน้าของเธอบวมเเดง อีกทั้งยังมีรอยไหม้ปรากฏทั่วร่างกายส่วนบน ถ้าเธอไม่ได้ถูกนำส่งโรงพยาบาลในเร็วๆนี้ ชีวิตของเธอจะต้องตกอยู่ในอันตรายเป็นเเน่

“ทำไมถึงพาเธอมาที่นี่เล่า” ดาวิดสงสัยเเละรู้สึกโกรธชายโง่เง่าคนนั้น เเต่ในขณะนั้นเองอารมณ์ทุกอย่างของเขาทั้งหมดถูกเปลี่ยนมาเป็นความตกใจเเทน

เด็กสาวที่นั่งอยู่ที่ม้านั่งนั้นยิ้มอย่างเงียบๆเเละยกมือของเธอขึ้นมาตรงหน้าหญิงชราที่บาดเจ็บราวกับกำลังร่ายเวทมนตร์ ทันใดนั้นบาดเเผลพุพองของหญิงคนนั้นก็หายกลับไปเป็นปกติเหมือนกรอวิดีโอกลับ โดยไม่น่าเชื่อว่าเมื่อสักครู่เธอกำลังอยู่ในระหว่างความเป็นความตาย 

ชายคนที่พาภรรยาของเขามาก้มหัวลงที่พื้น ดูเหมือนว่าเขาจะจูบที่เท้าของเด็กสาว

ดาวิดลุกขึ้นจากม้าโดยไม่ทันได้คิด เขาอ้าปากค้างยืนทึ่งอยู่อย่างนั้น  พอรู้สึกตัวเขาก็ทรุดตัวลงไปที่ม้านั่งตามเดิม เรี่ยวเเรงเหมือนถูกดูดหายไปหมด

ในชั่ววินาทีนั้น ดาวิดรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่าง เหมือนเขากำลังอยู่ในจุดหักเหของชีวิต เขาได้รับสารจากพระเจ้าเเล้ว

ถ้าใช้โพชันจากดันเจี้ยนก็จะสามารถสร้างปาฏิหารย์เเบบเดียวกันได้ เเน่นอนว่าเด็กสาวคนนั้นไม่มีเหตุผลอะไรที่จะใช้ของเเพงขนาดนั้นรักษาโดยไม่มีค่าตอบเเทน เเละดาวิดก็ไม่เชื่อว่าเธอจะใช้โพชั่นด้วย ยังไงซะเขาก็ไม่สนใจว่ามันเป็นปาฏิหารย์ที่เเท้จริงหรือว่าใช้เลห์กลอะไร การรักษานั่น ดูเป็นของจริง  มากๆเเค่นั้น อย่างอื่นไม่สำคัญอะไรอีกเเล้ว

มนุษยชาตินั้นได้สร้างอะไรหลายๆอย่างที่อยู่ในระดับของ “พระเจ้า” ยังไงซะพระองค์ก็ให้ความรักกับพวกเราโดยเท่าเทียมกันหมดอยู่เเล้ว แต่ก็ยังมีกลุ่มคนที่พยายามจะซื้อ ความรักนั่น ทำให้เกิดศาสนาที่เป็นเหมือนระบบในการขายความรักของพระเจ้า หลักการเเละพิธีการนั้นเป็นเพียงเครื่องมือในการขายความรักที่ว่านั่น เหมือนเป็นร้านค้าเฉพาะทางนั่นเเหละ

ผู้คนที่มีความเชื่อนั้นยินยอมที่จะจ่ายเงินจำนวนมากเพื่อให้จิตใจสงบ  ในความเห็นของดาวิด ชายคนหนึ่งสามารถได้รับความสงบเเบบเดียวกันโดยการนอนบนอกของหญิงผู้เป็นที่รัก มันเเทบไม่เเตกต่างกันเลย เเน่นอนว่าเขาคิดว่าอย่างหลังนั้นมันน่าสนใจกว่า เพราะมันได้ความพึงพอใจทางร่างกายด้วย

ในวันนั้น ดาวิดตามมารีแอนไปที่บ้านของเธอเเละเสนอแผนธุรกิจที่เขาคิดขึ้นให้พ่อของเธอ ถ้าจะให้พูดคือพ่อของเธอนั้นเป็นสวะ เขาขายลูกสาวให้กับนักต้มตุ๋นเเละกับเงินเพียงน้อยนิด

มารีแอนนั้นเหมือนเป็นศูนย์รวมของปาฏิหารย์ ยิ่งดาวิดรู้เรื่องของเธอมากเท่าไร เธอก็ยิ่งสมบูรณ์เเบบมากขึ้นเท่านั้น ชื่อตัวของเธอนั้นคือมารีแอน ที่เหมือนเป็นการเอาประเทศฝรั่งเศสมาแปลงเป็นคนยังไงอย่างงั้น แถมมีชื่อกลางว่าเทเรซ่าเเละนามสกุลว่ามาร์ติน ถึงมันจะไม่ใช่ชื่อที่แปลกอะไร เเต่ก็ทำให้นึกถึงนักบุญเทเรซ่า หนึ่งในนักบุญที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของฝรั่งเศส

ทุกอย่างนั้นลงล็อคเข้ากันได้ดีเหมือนกับอยู่ในนิยายเกร่อๆ เเละด้วยปาฏิหารย์ของมารีแอนเป็นศูนย์กลาง ดาวิดได้สร้างองค์กรศาสนาขึ้นมาเเละใช้นิกายนี้ในการดึงดูดนักการเมืองผู้มีอิทธิพลเเละบุคคลร่ำรวยมาเป็นผู้สนับสนุน

ดาวิดนั้นรู้ความลับของผู้บริหารประเทศและบริษัทใหญ่ๆ พวกเขานั้นจะมีความเชื่อเกี่ยวกับศาสนาเเละพวกนิกายลับต่างๆมากกว่าที่คนทั่วไปคิด ประวัติศาสตร์นั้นเป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดี ยกตัวอย่างเช่น รัสปูติน ฟรีเมสัน หรืออื่นๆ ทำให้ดาวิดเเละมารีแอนนั้นสามารถตักตวงผลประโยชน์จากคนเหล่านั้นได้เต็มที่

พอมารีแอนใช้โพชัน ดาวิดก็จะทำให้ “ปาฏิหารย์”ของเธอนั้นน่าเชื่อถือมากขึ้นไปอีก ทำให้เด็กสาวที่เป็นศูนย์รวมของปาฏิหารย์นั้นกลายเป็นสตรีศักสิทธิ์ ด้วยการใช้ทีมงานเเละความงามของเเมรีแอน ทำให้พวกเขาควบคุมเหล่าผู้มีอิทธิพลของโลกได้

เขาหันหลับไปหาชายหนุ่มที่กำลังรายงานอยู่ 

“ถ้าหญิงสาวคนนั้นเป็นลูกสาวของอาเหม็ดจริง เธอน่าจะต้องใช้โพชั่นอย่างน้อยระดับเเปดถูกไหม”

จนถึงตอนนี้ โพชั่นระดับเเปดหรือสูงกว่านั้นยังไม่ถูกค้นพบ ซึ่งถ้ามันมีจริงๆ ดาวิดจะทำทุกๆอย่างเพื่อให้ได้มันมา

“นั่นมันก็อาจจะเป็นไปได้…เเต่ว่าตามข่าวลือ อาเหม็ดไปประเทศญี่ปุ่นกับลูกสาวเพื่อซื้อออร์บครับ”

“สกิลออร์บงั้นหรอ”

จากที่ดาวิดเคยคุยกับมารีแอน ความสามารถในการฮีลของเธอนั้นมาจากสกิล เเต่ทว่าเพราะเธอนั้นทำดีการ์ดหายไปทำให้ไม่รู้ว่าสกิลนั้นคือสกิลอะไร อีกทั้งเธอก็ยังไม่รู้ด้วยว่าเธอได้มันมาได้ยังไง เธอบอกว่าความทรงจำของเธอหายไปเพราะอุบัติเหตุ เเน่นอนว่าเธออาจจะโกหกทั้งสองเรื่องเลยก็ได้

“เมื่่อหลายวันก่อน มีการประมูลสกิลออร์บถูกจัดขึ้นที่ญี่ปุ่น”

“นั่นไมใช่เรื่องต้มตุ๋นงั้นหรอ”

“มันยากที่จะเชื่อก็จริง เเต่ด้วยข้อมูลที่เราได้มา มันมีการซื้อขายเกิดขึ้นจริงๆ”

“ช่างน่าทึ่งมาก…”

ตอนที่ดาวิดได้ยินเรื่องการประมูลครั้งเเรก เขาคิดไปเองว่ามันเป็นการประมูลที่เกิดขึ้นจากนักต้มตุ๋นเหมือนตัวเขาเอง เขาพยายามที่จะคิดว่าจะหลอกคนได้ยังไงจากการประมูล เเต่ก็ยังนึกไม่ออก มันต้องเป็นผมงานระดับปรมจารย์เเน่ๆ เขาคิดว่าอย่างนั้น เเต่ไม่น่าเชื่อว่าการประมูลมันเกิดขึ้นจริงๆ ไม่ใช่เรื่องหลอกลวง

“เธอมีอะไรจะรายงานอีก” ดาวิดถาม

“ออร์บนึงที่ถูกนำมาประมูลมีชื่อว่า ออร์บฟื้นฟูสุดยอดครับ”

“ผลของมันมีการเปิดเผยสู่สาธารณะชนรึยัง”

“เรียบร้อยเเล้วครับ มันช่วยลดความเหนื่อยล้าเเละช่วยฮีลบาดเเผลเล็กๆน้อยๆ”

“ใครเป็นคนขายออร์บนั่น”

“ยังไม่รู้เเน่ชัดครับ”

“เเล้วมอนสเตอร์ที่ดรอปออร์บนั่นล่ะ”

“ยังไม่ทราบเช่นกันครับ”

ข้อมูลพวกนี้น่าสงสัยมาก ถ้าเปรียบเทียบกับราคาที่ออร์บขายได้เเล้ว ความสามารถมันไม่น่าประทับใจเลย ทำให้ดาวิดนั้นสงสัยมากขึ้นไปอีกว่าเรื่องนี้มีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่

มีบางคนสามารถรักษาสิ่งที่พวกเราไม่สามารถรักษาได้อยู่

เขาหันหลังใช้ชายหนุ่มคนนั้นเเละมองไปที่เเม่น้ำมาร์นอีกครั้งเเละพูดกับตัวเอง

“ปาฏิหารย์ในการรักษานั้นต้องเป็นของอัทลัม โฟรามินิสแห่งนี้เพียวผู้เดียวเท่านั้น”