ดี-เจเนซิส : สามปีหลังจากดันเจียนปรากฏขึ้น - ตอนที่ 13 เล่ม 1 : D-Powers, เริ่มทำงานได้ (3)
- Home
- ดี-เจเนซิส : สามปีหลังจากดันเจียนปรากฏขึ้น
- ตอนที่ 13 เล่ม 1 : D-Powers, เริ่มทำงานได้ (3)
2 พฤจิกายน 2018 (วันศุกร์)
ไซมอน เกิร์ชวิน
“นายกำลังทำอะไรอยู่ ไซมอน”
เสียงถามนั้นดังไปทั่วบ้านที่พวกเขาใช้เป็นฐาน คนพูดเป็นชายหนุ่มรูปร่างสูงเพรียวผมสีบลอนด์เทา ชายคนนั้นเกาท้องพลางเดินลงมาที่ห้องนั่งเล่นจากชั้นสอง ดูเหมือนว่าจะพึ่งตื่นนอน
“โอ้ เฮ้ โจชัว” ไซมอนตอบ “นายตื่นเร็วนะวันนี้ ว่าเเต่จำตอนที่เมสันถูกซัดกระเด็นในอีเเวนส์ดันเจี้ยนได้ไหม”
“จำได้สิ ถ้าเรายังต้องเจอฝูงมอนเสตอร์จำนวนขนาดนั้นอีกคงน่ารำคาญเเย่เลย ขนาดเเทงค์ของเรายังสาหัสซะขนาดนั้น คงไม่มีใครทนได้หรอก”
“ใช่ ถึงต้องทำอะไรสักอย่างไง ฉันลองดูมาหลายๆอย่างเเล้วนะ เเต่ว่า…”
ไซมอนจ้องอยู่ที่หน้าจอโน๊ตบุค โจชัวที่เห็นว่าผิดสังเกตเลยถามขึ้น “มีอะไรงั้นหรอ”
“นายคิดว่าไง” ไซมอนถามพร้อมเอาเวปไซต์ของดี-พาวเวอร์ที่เป็นภาษาอังกฤษให้โจชัวดู
“นี่มัน… การประมูลสกิลออร์บงั้นหรอ? มีระยะเวลาประมูล 3 วัน! ไองั่งที่ไหนทำเรื่องพวกนี้ขึ้นมา พวกต้มตุ๋นยังเนียนกว่านี้เลย”
สิ่งที่โจชัวคิดนั้นก็ไม่ผิดซะทีเดียว ทุกคนรู้กฏสามข้อนี้ของสกิลออร์บ พวกมันหายาก พวกมันจะหายไปในเวลาหนึ่งวันเเละการรวบรวมพวกมันนั้นเป็นไปไม่ได้
“ผ่านไปหนึ่งวันเเล้วตั้งเเต่การประมูลเริ่มต้นขึ้น เเละเวปก็ยังไม่ถูกปิดจนถึงตอนนี้” ไซมอนอธิบาย “เเถมยังมีองค์กรที่น่าเชื่อถือขนาดใหญ่มาร่วมประมูลด้วย อย่างเช่น กระทรวงกลาโหมของญี่ปุ่น สำนักงานตำรวจเเห่งชาติของญี่ปุ่น หรือเเม้เเต่บริษัทยักษ์ใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับดันเจี้ยน”
ถ้าการประมูลนี้เป็นเรื่องหลอกลวง ก็น่าจะถูกJDAสั่งปิดไปเเล้ว เเละที่สำคัญคือบวกบิ๊กๆต่างก็มาร่วมประมูลกันหมด
“หรือว่าปาร์ตี้นี้หาวิธีเก็บรักษาออร์บได้” ไซมอนคิด
ถึงไซมอนจะคิดว่าการคิดค้นวิธีเก็บรักษาออร์บนั้นเป็นไปได้ยาก เเต่มนุษยชาตินั้นก็ยังไม่เคยหยุดพัฒนา การค้นพบสิ่งใหม่ๆต่างๆนั้นเป็นไปได้เสมอ ถึงเจ้าของเวปไซต์นี้จะเป็นเอกชนก็เถอะ
“ถ้าปาร์ตี้นี้ค้นพบวิธีเก็บรักษาออร์บได้จริง” ไซมอนพูดต่อ “เทคโนโลยีนั้นก็จะเป็นเเค่ของคนพวกนั้นสินะ”
“นี่เพื่อน ถ้ามันจริง เราควรจะต้องดึงตัวพวกเขามาอยู่กับเราทันทีเลยเถอะ” โจชัวร้อง “พวกเขามีค่ามากกว่าเครื่องบินไอพ่นซะอีก”
“ทุกคนที่เห็นเวปไซต์นี้ก็น่าจะคิดเหมือนพวกเรานี่เเหละ ญี่ปุ่นก็ไม่ได้โง่ด้วย พวกเราคงดึงตัวพวกเขาไม่ได้ง่ายๆเเน่”
ตอนนี้ทุกๆคนที่เกี่ยวข้องกับดันเจี้ยนน่าจะหัวหมุนกันอยู่เเน่ๆ จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีใครรู้ว่าการประมูลนี่เป็นของจริงรึปล่าว พอพยายามที่จะตามหาว่าเจ้าของคือใคร ก็จะเจอเเค่หมายเลขใบอนุญาติของWDA ตอนนี้ทุกคนน่าจะรอดูว่าสุดท้ายเเล้วจะเป็นอย่างไร
ไซมอนชี้ไปที่ออร์บต่อต้านทางกายภาพที่อยู่ในรายการการประมูล “นี่ต่างหากที่เป็นปัญหาของเราจริงๆ”
“ต่อต้านทางกายภาพ?” โจชัวถาม “ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยนะ”
“ฉันลองไปค้นหาเเล้ว เป็นไปตามที่นายบอก มันไม่มีอยู่ในฐานข้อมูล”
“เป็นสกิลใหม่ที่ไม่มีใครรู้จักงั้นหรอ”
ไซมอนพยักหน้า ใช้นิ้วชี้จิ้มไปที่จอLCD “หลังจากนี้เมสันน่าจะต้องการสกิลนี้นะ นายว่าไง”
“การประมูลที่ใช้เวลาสามวันกับสกิลใหม่ที่ไม่มีใครรู้จัก บ้าชัดๆ” โจชัวพูด “คนจัดประมูลรู้ตัวรึปล่าวว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่”
“ใครจะไปรู้ ฉันอยากจะลองประมูลดู เเต่มีเงินไม่พอ ถ้านายไม่ว่าอะไรก็ฝากขอสิทธิใช้เงินของทีมให้ทีสิ”
“คิดว่ามันจะเเพงขนาดนั้นเลยรึไง”
“ก็ดูสิว่าใครที่ร่วมประมูลบ้าง”
ไซมอนเอารายชื่อผู้เสนอราคาให้โจชัวดู ไอดีของคนๆนั้นก็เป็นที่รู้จักพอๆกับของไซมอน
“จวินซี หวง หรอ” โจชัวถาม
เเรงค์4ใน WDA, หวงเป็นนักสำรวจเเรงค์สูงที่สุดของจีน
“ถ้าพวกเราชนะการประมูล พวกเราน่าจะอยู่ที่โยโยกิสักพัก” ไซมอนพูด “นักสำรวจเเรงค์หนึ่งที่อยู่ดีๆก็โผล่มาก็มาจากเเถวนั้น จำได้ไหม เรื่องนี้ต้องเกี่ยวกันเเน่ๆ ถ้าไม่เกี่ยว ฉันยอมให้เอาขี้มาปาใส่เลย”
“ไม่รู้ว่าเมสันจะพร้อมรึปล่าว”
“ไปพักผ่อนที่ญี่ปุ่นก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรนี่”
“พักผ่อนหรอ ในเวลาเเบบนี้เนี่ยนะ”
เพราะออร์บเเปลภาษาเวรนั่น ทำให้นักสำรวจที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลสหรัฐนั้นถูกใช้งานอย่างหนักมาตลอด เเต่ไซมอนก็เเค่ยิ้มให้กับคำถามของโจชัว
“ไม่ว่าจะพูดยังไงนายก็ไม่ฟังใช่ไหมล่ะ” โจชัวถอนหายใจ “ได้ เดี๋ยวฉันจะไปติดต่อคนอื่นๆ”
“ฝากด้วยล่ะ” ไซมอนตอบพร้อมกลับไปจ้องหน้าจอตามเดิม
4 พฤจิกายน 2018 (วันอาทิตย์)
โยโยกิ-ฮาจิมัน
หลังจากที่ผมพยายามปลุกตัวเองด้วยการอาบน้ำในตอนเช้า ผมก็ออกมาจากห้องน้ำ เเต่ทันใดนั้นประตูหน้าก็เปิดขึ้นพร้อมกับมิโยชิที่วิ่งเข้ามา ผมรีบพันผ้าขนหนูด้วยความตกใจ
“ถึงเราจะใช้ที่นี่เป็นออฟฟิศเเต่ยังไงก็ยังเป็นบ้านฉันนะ” ผมบ่น “ถึงมีกุญเเจสำรองเเต่ก็เคาะประตูซะหน่อยเถอะ!”
“ระ-ระ-ระ-ระ-รุ่นพี่! เรื่องนั้นจะเป็นยังไงก็ช่าง!”
“เธอว่าไงน-”
“นี่ ดูนี่ก่อน!”
ผมมองไปที่มือถือที่มิโยชิยื่นมา มันกำลังเปิดเวปไซต์ประมูลของพวกเราอยู่
อ้อใช่ การประมูลน่าจะจบลงตอนเที่ยงคืนที่ผ่านมาตามเวลาญี่ปุ่น พวกนั้นเป็นราคาสุดท้ายของเเต่ละอออร์บเเล้วสินะ ไหนดูซิ…
“สองร้อยล้านเลยหรอ!” ผมร้อง “สุดยอด นี่มันมากกว่าสามเท่าของที่เราคิดไว้อีกใช่ไหม”
“ดูจำนวนหลักให้ดีๆสิ รุ่นพี่ดูพลาดไปเยอะมากเลยนะ”
“หืม…? หน่วย สิบ ร้อย พัน…เดี๋ยวก่อนนะ สองพันสี่ร้อยแปดสิบสองล้าน?”
2,482,000,000 เยน
2,643,000,000 เยน
2,562,000,000 เยน
ออร์บเวทย์น้ำทั้งสามลูกที่เเสดงอยู่บนหน้าจอมือถือของมิโยชินั้นราคาปิดอยู่ที่ลูกละมากกว่าสองพันสี่ร้อยล้านทั้งหมด
“เเถมคนที่ชนะการประมูลทั้งสามลูกยังเป็นคนเดียวกันหมดเลย” ผมสังเกต “เดี๋ยวก่อน นี่มันไอดีของรัฐบาลไม่ใช่รึไง”
ไอดีของWDAนั้นประกอบไปด้วยสี่ส่วน ส่วนซ้ายสุดนั้นจะประกอบด้วย ประเภท + หมายเลขแอเรีย + รหัสประเทศ ตัวPเเสดงถึงตัวบุคคล Cคือบริษัท Gคือรัฐบาล เเละ Dคือองค์การที่เกี่ยวกับWDA ยกตัวอย่างเช่น บุคคลที่มาจากแอเรีย12จะได้เป็น P12JP
“เป็นของกระทรวงกลาโหม” มิโยชิพูด
โอ้ ว้าว
พวกเราอยู่ในยุคที่เครื่องบินรบราคาลำละหนึ่งหมื่นล้าน อีกทั้งยังต้องมีค่าบำรุงรักษาเพิ่มเติม ถ้าเวทย์น้ำนั้นมาสามารถสร้างนักรบที่มีความเเข็งเเกร่งพอๆกันได้เเล้ว มันก็อาจจะถือว่าถูกก็ได้
“ที่สำคัญกว่านั้น ดูนี่สิ” มิโยชิพูดต่อ
ที่เธอกำลังชี้อยู่เป็นราคาของออร์บต้านทานทางกายภาพ
3,547,000,000 เยน
“สะ-สามพันห้าร้อยล้านเยน!” ผมตกใจสุดๆ
ถึงจะเป็นสกิลที่ไม่มีใครรู้จักก็เถอะ เเต่รู้เเค่ชื่อก็สามารถเเพงได้ขนาดนี้เเล้ว เเถมไอดีของคนซื้อยังเป็นไอดีส่วนบุคคลด้วย
มีอภิมหาเศรษฐีที่ไหนมาซื้อเนี่ย
“คนๆนี้มีชื่อเสียงมากจนฟิลเตอร์สามารถบอกชื่อเขาจากไอดีได้เลย” มิโยชิบอก “ดูสิ เขาคือ ไซมอน เกิร์ชวิน”
“เธอบอกว่ามีชื่อเสียงงั้นหรอ หรือว่าเป็นมหาเศรษฐีต่างชาติ? ชื่อก็ฟังดูคุ้นๆอยู่นะ”
“พูดอะไรของนาย” มิโยชิชี้ไปที่นักสำรวจเเรงค์3ของWDARL “คนนี้ไง”
“อ๋ออ ที่เป็นหัวหน้าของทีมที่พิชิตอีเเวนส์ดันเจี้ยนได้ นามสกุลเกิร์ชวินงั้นหรอ”
ผมถอนหายใจยาวพร้อมนั่งลงบนเก้าอี้ในห้องทานข้าว ทั้งหมดนี้มันน่าตกใจเป็นบ้า
“หลังจากหักภาษีเเล้ว เราจะได้ 8,987,200,000 เยน” มิโยชิพูด “จะเอาไปทำอะไรดีนะ”
“ก็นะ รายจ่ายของเราทั้งหมดก็มีเเค่ค่าน้ำลายเอเลียนเอง ถ้าถามว่าจะทำอะไรต่อ ก็ไปตรวจวัดร่างกายกับเพื่อนเธอที่ชื่อมิโดริไง”
มิโยชิหัวเราะ “รุ่นพี่นี่น่าทึ่งจริงๆเลย”
“ยังไงล่ะ”
“ก็เพราะรุ่นพี่เกือบจะไปเป็นขอทานข้างถนนอยู่เเล้ว เเต่ตอนนี้ใกล้จะมีเงินหมื่นล้านในบัญชี ฉันคิดว่านายใกล้จะเเย่เเล้วซะอีก”
“อย่าพูดอย่างนั้นสิ นั่นเป็นเงินของปาร์ตี้เรานะ ฉันก็ยังเป็นคนจนๆเหมือนเดิมนั่นเเหละ”
เเน่นอนว่าพนักงานไม่สามารถใช้เงินของบริษัทได้เองตามใจชอบอยู่เเล้ว
“เเต่พวกเรามีกันเเค่สองคน ครึ่งนึงของเงินนั้นเป็นของนายเเน่ๆล่ะ” มิโยชิพูด
“ถ้าเธอพูดเเบบนั้นก็ได้ เเต่ตอนนี้ฉันก็ไม่มีแผนว่าจะเอาเงินไปทำอะไรนะ…อ้อ เดี๋ยวก่อน เราควรจะย้ายบริษัทเราไปที่ๆดีกว่านี้สิ”
มาอยู่ที่ห้องผมตลอดต้องเป็นปัญหาเเน่ๆ ถ้าเจาะจงเลยก็คือ มิโยชิเนี่ยเเหละที่จะสร้างปัญหาให้ผม
“ถ้ามีเงินขนาดนี้ เราซื้อทั้งตึกเลยก็ยังได้” มิโยชิพูด
“โอ้ ฟังดูดีนี่นา ประมาณว่าเป็นฐานลับ ฉันเอาด้วย”
“ฐานลับหรอ นายเป็นเด็กเก้าขวบรึไง เอ้อนี่ ปาร์ตี้การ์ดของนายเสร็จเเล้วนะ เอ้า”
มิโยชิยื่นICการ์ดสีดาร์บอนดำด้านมาให้ มันมีปาร์ตี้IDกับหมายเลขIDของสมาชิกอยู่เป็นตัวหนังสือสีทอง เท่ไม่เบา
“มีทั้ง ดี-การ์ด ใบอนุญาติของWDA เเล้วก็มีปาร์ตี้การ์ดงั้นหรอ” ผมถาม “เอามันมารวมๆกันไม่ได้รึไง”
“มนุษย์ยังไม่สามารถทำความเข้าใจ ดี-การ์ดได้ เเถมปาร์ตี้ก็สามารถเปลี่ยนได้ด้วย ถ้าเอามารวมกัน ตัวตนของนายก็จะถูกเปิดเผยน่ะสิ”
ตัวปาร์ตี้IDนั้นเป็นเพียงเเค่ตัวเลข เเต่ถ้าเอามารวมกับใบอนุญาติเเล้ว มันสามารถเชื่อมโยงไปถึง ไอดีWDAได้
“พูดอีกเเง่คือ ถ้าอยากจะทำตัวเป็นความลับ ก็ต้องใช้ความพยายาม ถูกไหม” ระหว่างที่ผมสำรวจปาร์ตี้่การ์ดของผม อยู่ดีๆก็นึกคำถามขึ้นมาได้ “จะว่าไป บัตรนี้มีวงเงินเท่าไรล่ะ”
“พวกเราไม่มีเงินเดือนซะหน่อย”
“เอ่อ..ว่าไงนะ”
“ปาร์ตี้การ์ดนี้เป็นการผสมกับระหว่างบัตรกดเงินสดกับบัตรเครดิต” มิโยชิอธิบาย “เพราะว่าWDAเป็นผู้ออก ส่วนของบัตรเครดิตเลยทำงานเหมือนกับบัตรAmEx เหมือนว่าพอฝากเงินเข้าไปก็จะใช้ได้เลย เเละก็ไม่มีวงเงินขึ้นต่ำหรือ จำกัดวงเงินที่ใช้ได้ด้วย”
“หมายความว่า?”
“นายจะถอนเงินเท่าไรก็ได้เท่าที่มีในบัญชี เเล้วก็เพราะมันไม่มีลิมิตอะไรเลย นายจะใช้มันยังไงก็ได้”
“เอ่อฟังดูไม่ค่อยดีเท่าไรรึปล่าว”
“ก็ปาร์ตี้นี้มีเเค่พวกเราสองคน เเล้วWDAก็จะหักภาษีไปตั้งเเต่ตอนเเรก โดยพื้นฐานเเล้ว วงเงินของบัตรAmExนั้นผู้ใช้จะต้องกำหนดเอง เพราะงั้นถึงตัวบัตรจะไม่มีลิมิต เเต่เราก็สามารถมากำหนดกันเองก็ได้”
อ๋ออ มันเป็นอย่างงั้นนี่เอง
“ก็ถ้ามีใครจะซื้ออะไรที่เเพงมากๆ ก็มาคุยกันก่อนละกัน” มิโยชิพูดต่อ “”เเต่ถ้าจะใช้กันเเค่ 10ล้านเยน ก็ใช้ๆไปก็ได้นะ”
“เอ่อ ฉันอยากจะเอาไปเข้าบัญชีเงินฝาก…”
“ฉันก็คิดเหมือนกัน เเต่เจ้าการ์ดนี้มันก็เป็นบัญชีเงินฝากในตัวอยู่เเล้ว มันก็เหมือนกันนั่นเเหละ”
“อ๋อ อย่างนั้นหรอ”
พอถึงตอนนี้ พวกเราก็หัวเราะออกมา
“พวกเรานี่มันเป็นชนชั้นกลางจริงๆนะ” ผมพูด
“ใช่ พวกเรามันชนชั้นกลางจริงๆด้วย เอาล่ะ ในระหว่างที่ฉันจัดการเรื่องพวกนี้ นายก็พยายามต่อไปนะ สไลม์พวกนั้นมันคงไม่จัดการตัวมันเองหรอก!”
“เข้าใจเเล้ว เเต่ว้าว พอมีตัวเเทนเเล้วทุกอย่างมันง่ายชะมัด”
“ใช่ม้า สำหรับฉันที่เป็นปลิงราชินีการค้าเเล้ว โฮสของฉันนี่ทำเงินได้มากมายอย่างไม่น่าเชื่อเลย”
พวกเราหัวเราะกันอีกครั้ง
“เเต่ว่าฉันมีค่าเช้าห้องกับค่าใช้จ่ายอื่นๆด้วย” “ถ้าไม่เเบ่งเงินกันจะไม่เป็นปัญหาหรอ”
“ตอนที่เงินเข้าไปยังบัญชีของปาร์ตี้จากJDA เราสามารถเเบ่งเงินนั้นเเล้วโอนต่อไปยังบัญชีธนาคารส่วนตัวที่เชื่อมอยู่กับWDAการ์ดของสมาชิกปาร์ตี้ได้ พวกเราจะทำเเบบนั้นก่อนก็เเล้วกัน จะโอนเงิน 1 เปอร์เซ็น เข้าบัญชีส่วนตัวของพวกเราโดยอัตโนมัติ เเต่ว่าอย่าถอนเงินจากบัญชีปาร์ตี้เข้าบัญชีส่วนตัวเองนะ ถ้าทำเเบบนั้นตอนคิดภาษีจะมีปัญหา”
อืม แบบนั้นก็สมเหตุสมผล ถ้าเเบ่งเอาเงินที่หักภาษีเเล้วด้วยเรทของปาร์ตี้ไปเข้าบัญชีส่วนตัวที่เป็นเรทของบุคคลปกติ ถ้าเป็นอย่างงั้น…
“หนึ่งเปอร์เซ็นหรอ” ผมถาม “ปกติเดือนนึงฉันใช้ประมาณหนึ่งเเสนเยน เท่านั้นจะพอหรอ”
“รุ่นพี่! หนึ่งเปอร์เซ็นของออร์บลูกเเรกอย่างเดียวมันจะประมาณ 90ล้านเยน เเถมนั่นหักภาษีเเล้วด้วยนะ”
“หืม..? คือฉันมีเงินเดือน 90ล้านเยนงั้นหรอ”
มิโยชิหัวเราะ “ถ้าสำหรับเเค่เดือนนี้ล่ะก็ใช่ เเต่นายยังต้องจ่ายภาษีผู้อยู่อาศัยอีก 10% ระวังด้วยล่ะ”
พอได้รู้ทั้งหมดนี้ในทีเดียว ผมก็รู้สึกมึนหัวขึ้นมา ผมต้องเอาเรื่องนี้ออกจากสมองผมก่อน รู้เเค่ว่าตอนนี้ผมน่าจะมีเงินจ่ายค่าต่างๆเเล้ว เเค่นี้เเหละที่สำคัญในตอนนี้
“เเล้ว เราจะส่งมอบออร์บวันไหนล่ะ” ผมถาม
“เราจะส่งมอบออร์บให้กระทรวงกลาโหมในวันพรุ่งนี้”
“พรุ่งนี้เเล้วหรอ เธอเตรียมตัวเสร็จเเล้วรึไง”
มิโยชิหัวเราะอย่างชั่วร้าย “ดูกล่องไทเทเนียมนี่ฉันทำขึ้นนี่สิ ข้างในมีประดับด้วยไหมกำมะหยี่ด้วยนะ”
มิโยชิค้นลังกระดาษที่กองอยู่ในครัวเเละหยิบหีบอันนึงออกมาให้ผมดู ขนาดมันเหมาะเจาะสำหรับใส่ออร์บ มีกำมะหยี่ไหมสองเส้นประดับอยู่ภายใน เส้นนึงเป็นสีน้ำเงินเข้มจนเกือบดำ ส่วนอีกเส้นเป็นสีแดงเข้ม เเถมยังมีวงเเหวนเวทย์สลักอยู่ด้านในฝากล่องกับก้นกล่องอีกด้วย
“อ้อ กล่องกระดาษพวกนั้นใส่นี่อยู่นี่เองสินะ” ผมพูด “เเต่ว่าหีบนี่มันดูเเพงน่าดู”
“ก็เเพงน่ะสิ ฉันสั่งทำขึ้นมาพิเศษเลย สั่งครั้งนึงจะมีหนึ่งร้อยกล่อง กล่องละหนึ่งเเสนสองหมื่นเยน”
“กล่องละหนึ่งเเสนสองหมื่นเยนหรอ บ้าไปเเล้ว”
“ถ้าต้องจ่ายเงินก่อนที่จะขายออร์บได้ ฉันไม่มีเงินจ่ายเเน่ๆ” มิโยชิพูดด้วยความมั่นใจ
“เเล้วเจ้าวงเเหวนเวทย์นี่คืออะไร”
“เป็นบลัฟไงล่ะ ฉันสร้างขึ้นโดยให้มันมีรูปทรงเลขาคณิตหลายๆแบบ ไม่คิดว่ามันตลกหรอถ้ามีองค์กรอะไรสักอย่างมาวิจัยวงเเหวนเวทย์พวกนี้อย่างจริงจังน่ะ”
“นี่มันซาดิสเกินไปสำหรับฉันเเล้วล่ะ”
“ไม่ใช่เเน่นอน” มิโยชิยืนยัน “เเต่ก่อนที่จะส่งมอบหีบออร์บพวกนี้พรุ่งนี้ ฉันอยากให้นายเอาออร์บใส่ข้างในก่อน”
“เข้าใจเเล้ว เราจะส่งมอบกี่โมงล่ะ”
“ฉันเช่าห้องประชุมที่ JDA ไว้เเล้วตอน 11 โมงเช้า อ้อ พูดถึงเเล้วก็นึกขึ้นได้”
“ว่าไงล่ะ” ผมถาม
“ฉันได้รับโทรศัพท์จากJDAมาเมื่อไม่กี่วันก่อน พวกเขาต้องการพบเรา”
“เรื่องเก็บรักษาออร์บหรอ”
“น่าจะเป็นอย่างนั้นนะ ฉันเลยตกลงที่จะคุยกับJDAวันพรุ่งนี้ตอนบ่าย ยังไงซะพวกเราก็เคยเจอกับกระทรวงกลาโหมไปเเล้วที่สำนักงานใหญ่ของJDA รุ่นพี่จะมาด้วยไหม”
อืมม ถึงผมจะไม่อยากให้ตัวตนของผมถูกเปิดเผย เเต่ทุกคนที่JDAนั้นรู้อยู่เเล้วว่าผมอยู่ในปาร์ตี้ด้วย เเค่ไปด้วยก็น่าจะไม่ใช่ปัญหาอะไร อีกอย่างผมเป็นห่วงมิโยชิด้วยถ้าไปคนเดียว
“ได้สิ ฉันจะไปด้วยในฐานะสมาชิกปาร์ตี้” ผมพูด “เผื่อไว้น่ะ”
“เข้าใจเเล้ว”
“เอาล่ะ ถ้างั้น ฉันจะไปนอนให้เต็มที่เตรียมพร้อมสำหรับวันพรุ่งนี้ก็เเล้วกัน”
มิโยชิถอนหายใจ “นายรู้ใช่ไหมว่านี่มันยังเช้าอยู่เลยนะ”
“งั้นเอาไว้ก่อนก็ได้ ฉันไปดันเจี้ยนละกัน”
“เดี๋ยวฉันจะไปลองหาออฟฟิศใหม่ของเรา จะลองไปติดต่อกับบริษัทนายหน้าดู นายมีเขตที่อยากจะอยู่รึปล่าว”
“เอาเป็นละเเวกนี้ได้ไหม มันใกล้โยโยกิดันเจี้ยน ฉันค่อนข้างติดที่นี่พอควร”
“ได้เลย”
ฟุนาบาชิ จังหวัดจิบะ
JGSDFเเคมป์ นาราชิโนะ
เป้าหมายหลักของทีมจู่โจมดันเจี้ยนของญี่ปุ่น(JDAG)คือการพิชิตดันเจี้ยนเเละให้ความเหลือในกรณีที่เกิดภัยพิบัติต่างๆในดันเจี้ยน ในช่วงเเรกนั้นสมาชิกของJDAGนั้นจะถูกคัดเลือกมากจากองค์กรตำรวจเเละSDFเป็นหลัก แต่ก็เหมือนกับหน่วยรบพิเศษ(JGSDF) ที่ถูกก่อตั้งโดยมีกองพลทหารอากาศที่ 1 เป็นองค์กรควบคุม ทำหน้าที่เป็นหน่วยย่อยของกองบัญชาการกองกำลังภาคพื้นดิน ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อไม่กี่ปีมานี้
วันหนึ่งในนาราชิโนะเเคมป์ ร้อยโทคิมิตสึ อิโอริพึ่งฝึกอบรมเเบบสมัครใจเสร็จเเละกำลังมุ่งหน้ากลับบ้านพักที่กองทัพจัดหาให้ การเข้าฝึกเเบบสมัครใจในวันอาทิตย์นั้นอาจจะฟังดูเหงาๆ เเต่นอกจากทำความสะอาดเเละซักเสื้อผ้าเเล้ว เธอก็ไม่มีอย่างอื่นให้ทำอยู่ดี ในระหว่างที่กำลังออกไปวิ่งเบาๆ เธอก็เกิดอยากใช้เเรงขึ้นมา อีกอย่างเธอรู้ว่าจะต้องได้รับภารกิจใหม่ในอีกไม่กี่วันข้างหน้าเเน่ๆ ภารกิจใหม่นั้นน่าจะเป็นการค้นหามากกว่าการจู่โจม
“สกิลการเข้าใจภาษาต่างโลกงั้นหรอ”
เมื่อไม่กี่วันก่อน เธอเห็นชื่อออร์บนี้ในเอกสาร
“ออร์บนั้นมีโอกาสดรอปต่ำอยู่เเล้ว ฉันไม่คิดว่าเราจะหามันได้เจอ”
ตั้งเเต่ที่ดันเจี้ยนปรากฏขึ้น อิโอริเคยเห็นออร์บดรอปแแค่สองครั้งเท่านั้น ลูกเเรกนั้นเธอเป็นคนดรอปเอง นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้เธอเป็นเธอในทุกๆวันนี้ ระหว่างที่คิดเรื่องนี้อยู่ ก็มีเสียงเรียกเธอจากที่ไกลๆ
“อิโอริ”
“จ่าสิบเอกฮากาเนะ?” เธอถาม “มีอะไรรึปล่าวคะ”
จ่าสิบเอกฮากาเนะเป็นหัวกะทิมือเก๋าที่ใช้ความสามารถของตัวเองไต่ยศขึ้นมา เขาถูกมอบหมายให้เข้าร่วมกับทีม I (ไอ) โดยมีหน้าที่เทียบเคียงกับนายทหารประทวนชั้นสัญญาบัตร ซึ่งเป็นยศสูงที่สุดของนายทหารประทวนใน JGSDF เพราะเขาเป็นผู้ได้รับมอบหมายให้มาฝึกหน่วยของอิโอริ เธอเลยพูดกับเขาเหมือนเป็นผู้บังคับบัญชาเวลาอยู่นอกภารกิจ
“พอดีเลย” ฮากาเนะพูด “ฉันพึ่งได้รับการติดต่อจากทางอิจิกายะ เราจะไปที่นั่นตอนบ่ายสองโมงวันพรุ่งนี้”
“รับทราบค่ะ ฉันจะไปรายงานตัวที่อิจิกายะตอนบ่ายสองโมงวันพรุ่งนี้! พูดถึงเรื่องนี้เเล้ว..”
“ใช่ คำสั่งนี้มาจากพันตรีเทราซาวะ..เดี๋ยวก่อน ไม่ใช่ว่าเป็นพันโทเเล้วรึปล่าว”
ถึงเเม้ว่าจะอายุใกล้กัน เเต่ฮากาเนะเเละเทราซาวะกลับเลือกเส้นทางอาชีพที่ต่างกันออกไป เเต่อย่างไรก็ตาม ตอนได้รับมอบหมายให้อยู่ในหน่วยเดียวกันช่วงหนึ่ง พวกเขาก็เข้ากันได้อย่างน่าประหลาด ตั้งเเต่นั้นมาพวกเขาก็กลายเป็นเพื่อนกันในเวลาส่วนตัว
“พันตรีน่าจะรอจนถึงพิธีการเลื่อนยศในเดือนมกราคมค่ะ” เธอตอบ “จะว่าไป ท่านสามารถเข้ารับการอบรมหลักสูตรผู้นำอาวุโสได้ไม่ใช่หรือคะ”
ฮากาเนะที่อายุ 36 ใช้เวลาทั้งชีวิตการงานของเขาไปกับภาคสนาม ทำให้เขามีสิทธิเป็นผู้สมัครซีได้ ในจำนวนเจ้าหน้าที่ในSDF คนที่สอบผ่านการสอบคัดเลือกภายในในขณะที่อยู่ในยศจ่านั้น จะถูกเรียกว่า ผู้สมัครบี ส่วนผู้สมัครซีนั้นจะเป็นเจ้าหน้าที่ที่อายุระหว่าง 36-49ปี ที่ผ่านการสอบคัดเลือกเเละจบการฝึกอบรมร้อยตรี
“ได้สิ” ฮากาเนะพูด “เเต่ตอนนี้ฉันยังต้องคอยดูเเลเธออยู่”
อิโอริยิ้มเเหยๆ “อย่าพูดอย่างนั้นสิคะ”
ถึงฮากานะจะชอบการทำงานภาคสนาม เเต่เขาไม่สามารถทำมันไปได้ตลอด อิโอริอยากให้เขาใช้ความรู้ที่มีอยู่อย่างเหลือเฟือในการอบรวมเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ
“ยังไงก็เถอะ นี่เป็นคำสั่งโดยตรงจากพันตรีเทราซาวะ” ฮากาเนะพูด
“พันตรีออกคำสั่งโดยตรงมาวันอาทิตย์เลยหรือคะ”
“ใช่ ไม่ค่อยปกติเท่าไร”
ถ้าพันตรีรู้ล่วงหน้า อย่างช้าที่สุดเขาน่าจะออกคำสั่งทีมของอิโอริในวันศุกร์ เเต่ช่วยไม่ได้ว่ามีเรื่องด่วนเข้ามา
“เกี่ยวกับสกิลแปลภาษาต่างโลกหรือคะ”
“ไม่ใช่ เเต่ฉันได้รับคำสั่งให้พาไคบะกับซาวาตาริไปด้วย คิดว่าข่าวที่กระทวงกลาโหมชนะการประมูลนั่นน่าจะไม่ใช่เเค่ข่าวลือซะเเล้ว”
“เรื่องนั้นเป็นเรื่องจริงหรือคะ!”
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็รู้เเล้วล่ะ”
เมื่อตอนต้นเดือน มีปาร์ตี้ที่มีชื่อตลกๆว่า ดี-พาวเวอร์ ได้เปิดเวปไซต์ประมูลขึ้น สำหรับปาร์ตี้ที่มีใบอนุญาติการค้าก็ไม่ใช่เรื่องเเปลก เเต่ว่าไอเทมที่นำมาประมูลนั้นก่อให้เกิดความวุ่นวายมากมาย JDAGได้รับคำถามจำนวนมากเกี่ยวกับการประมูลจากกระทรวงกลาโหมเเละหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทุกคนถามเหมือนกันว่าJDAG มีความสามารถเเละช่องทางที่จะทำเเบบเดียวกันนี้ได้หรือไม่ คำตอบนั้น เเน่นอนว่าคือ ไม่ได้
ทุกคนที่เข้าร่วมประมูลต้องรู้ว่าการประมูลนี้มันเป็นไปไม่ได้ อิโอริไม่คิดว่าจะมีใครหลงเชื่อ เเต่ก็ปรากฏว่าคนส่วนใหญ่ไม่ได้คิดอย่างนั้น เวปนั้นยังไม่ถูกปิดเเละยังอยู่ดีจนถึงสามวันให้หลัง ด้วยความที่ว่าไม่มีคำสั่งปิดจาก JDA ก็เเสดงว่า…
“ต้องเป็นของจริง” อิโอริพึมพำ
“ว่าไงนะ” ฮากาเนะถาม “เธอได้พูดอะไรรึปล่าว”
“ไม่ค่ะ ไม่มีอะไร ท่านจะเดินทางไปด้วยในวันพรุ่งนี้ไหมคะ”
“เเน่นอน เราจะไปกันด้วยรถไหม ออกทางออกC1ที่คิตาโนะมารุเเละวิ่งผ่านคุดันซากะไปน่าจะประมาณหนึ่งชั่วโมง”
อิโอริหัวเราะ “ถ้าเกิดรถติดจนไปถึงช้าขึ้นมา พันตรีฆ่าเราเเน่”
“ถ้างั้น เจอกันที่หน้าประตูหลักตอน เที่ยงครึ่งวันพรุ่งนี้ พวกเราจะเดินทางด้วยรถไปจนถึงสึดะนุมะ จากนั้นก็จะขึ้นรถไฟสายโซบุต่อจนถึงจุดหมาย”
“เข้าใจเเล้วค่ะ เจอกันที่หน้าประตูหลักตอนเที่ยงครึ่งวันพรุ่งนี้”
“ดี กลับบ้านเเล้วไปพักผ่อนซะ เธอมาฝึกอะไรในวันอาทิตย์ อย่างน้อยก็หาใครสักคนไปเดทด้วยซะสิ”
“นั่นเป็นการล่วงละเมิดทางเพศนะคะท่าน”
พออิโอริยิ้มอย่างน่ากลัว ฮากาเนะรีบทำท่าตะเบ๊ะ “เอาล่ะ วันนี้พอเเค่นี้”
พอพูดเสร็จ เขาก็รีบหนีออกไปจากตรงนั้น