ซุปเปอร์มหาเศรษฐีหน้าใหม่ - ตอนที่ 797 รู้สึกอบอุ่น
ฉีฉีเข้าไปในห้องตัวเองแล้วเดินไปอาบน้ำเลย เมื่อเดินถึงหน้าประตูห้องน้ำ เธอพบเสื้อผ้าที่สะอาดชุดหนึ่งวางอยู่บนชั้นวางของ
เห็นได้ชัดเจนว่า เขาเป็นคนเตรียมเสื้อผ้าให้
ฉีฉีรู้สึกอบอุ่นใจ
เมิ่งฉิงเป็นคนละเอียดอ่อน ทำให้ฉีฉีรู้สึกว่าตัวเองถูกเอาใจใส่จนเหมือนเจ้าหญิง
เมื่อก่อนฉีฉีไม่ชอบที่จะใช้เวลาเพื่อแต่งตัวเลย เสื้อผ้าที่สวมใส่แค่ใส่สบายก็พอแล้ว
แต่ตั้งแต่เธอมาปกป้องเมิ่งฉิง เธอใส่เสื้อผ้าก็จะพิถีพิถันมากขึ้น เพราะเสื้อผ้าของเธอเมิ่งฉิงเป็นคนซื้อให้
เธอไม่เคยได้รับการดูแลเอาใจใส่แบบนี้มาก่อน ทำให้หัวใจของฉีฉีสั่นไหว
ขณะที่เธออาบน้ำ เธอก็นึกถึงสิ่งเล็กๆน้อยๆที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกับเมิ่งฉิงในช่วงสองเดือนที่อยู่ด้วยกัน
หลังจากอาบน้ำเสร็จ เธอก็ไปหยิบเสื้อผ้าที่วางอยู่
ตอนนี้เธอจึงพบว่าขนาดชุดชั้นใน เขาก็ยังเตรียมไว้ให้เธอด้วย
ฉีฉีหน้าแดงขึ้นมาทันที ผู้ชายคนหนึ่งซื้อชุดชั้นในให้เธอ เธอรู้สึกละอายใจ
อย่างไรก็ตามฉีฉีก็ยังหน้าแดงและสวมชุดชั้นใน จากนั้นเธอก็อึ้งไปเลย
ชุดชั้นในขนาดพอดีเป๊ะ!
“ไอ้สารเลว!เขารู้ขนาดและสัดส่วนฉันได้ยังไง?”ฉีฉีพูดด้วยความโกรธ
หลังจากหายโกรธ ฉีฉีก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงคำพูดของไป๋ยี่เฟย ที่โทรหาเธอในตอนกลางวัน
ฉีฉีเริ่มขมวดคิ้ว
เธอพึมพำอยู่ในใจ ตอนแรกให้ฉันมาปกป้องเขา ตอนนี้ก็บอกให้ฉันจากเขาไป คุณคิดว่าฉันเป็นคนของคุณจริงๆเหรอ?หึ!ฉันอยากอยู่ที่ไหนก็ได้ คุณไม่ต้องมายุ่ง?
ตอนนั้นเธอจึงวางสายแล้วปิดเครื่องทันที
แต่ในเวลานี้ ฉีฉีก้มศีรษะแล้วมองชุดชั้นในที่พอดีตัวเป๊ะและพูดด้วยความโกรธ:“ไม่แปลกใจที่ไป๋ยี่เฟยบอกให้ฉันรีบไปจากเขา เพราะไอ้สารเลวนี้คงแอบขโมยดูชุดชั้นในของฉัน เขาเป็นคนจิตวิปริตจริงๆ!”
ฉีฉีสวมเสื้อผ้าด้วยความโกรธ เธอเดินออกจากห้องและต้องการถามเมิ่งฉิง
อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอเดินลงมาจากบันได ก็เห็นเมิ่งฉิงกำลังนำอาหารเย็นที่เตรียมไว้เข้าไปอุ่นร้อนที่ไมโครเวฟ
เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ความโกรธของฉีฉีก็หายไปทันที
เพราะความรู้สึกนี้ ทำให้เธอนึกถึงสวีลั่งกับหยางเฉียว มันเป็นความรู้สึกอบอุ่นของบ้าน
ดังนั้น ไม่ว่าเธอจะมีความโกรธมากเพียงไร มันก็จะสลายไปเพราะความรู้สึกอบอุ่นนี้
อย่างไรก็ตาม ฉีฉีไม่ค่อยแสดงออกความรู้สึกแบบนี้ออกมา เธอตั้งใจพูดด้วยเสียงเย็นชา:“เป็นถึงมหาเศรษฐีพันล้าน รูปร่างหน้าตาก็หล่อเหลา ยังทำอาหารเป็นอีก คงมีผู้หญิงจำนวนมากตามจีบคุณใช่ไหม?”
เมื่อเมิ่งฉิงได้ยินก็หันหน้ากลับมา พูดด้วยรอยยิ้ม:“เมื่อก่อนผู้หญิงที่ฉันเจอในคลับเฮาส์ล้วนแต่เป็นผู้หญิงธรรมดาทั่วไป พวกเธอไม่คู่ควรให้ฉันดูแลเอาใจใส่”
เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ฉีฉีก็แอบดีใจ แล้วยืนกรานที่จะนั่งลงที่โต๊ะอาหาร
ในเวลานี้ เมิ่งฉิงก็ยกอาหารจานหนึ่งที่อุ่นร้อนจนเสร็จ เดินมาข้างหน้าแล้ววางลงบนโต๊ะอาหาร พูดกับเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“ฉีฉี”
ระยะห่างของพวกเขาสองคนใกล้กันมากๆ และเสียงพูดก็ดูเหมือนว่าพูดอยู่ข้างหู ทำให้หัวใจของฉีฉีเต้นเร็วขึ้น
ฉีฉีพยายามหลบหลีกและพูด“เรียกฉันทำไม?”
เมื่อพูดคำนี้ออกมา ฉีฉีก็กังวลในใจ เธอกำลังคิด เขากำลังจะสารภาพรักหรือเปล่า?
แต่เมิ่งฉิงพูดด้วยรอยยิ้มว่า:“ฉันแค่อยากจะถามเธอว่า อาหารจานนี้รสชาติเป็นยังไง?”
หัวใจของฉีฉีสงบลงทันทีและหัวใจของเธอก็กลับมาเต้นปกติ เธอพูดด้วยสีหน้าเย็นชาว่า:“รสชาติธรรมดา”
เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น เมิ่งฉิงยิ้มและมองไปที่ฉีฉี
ฉีฉีแสดงสีหน้าเย็นชา ใช้ตะเกียบคีบถั่วฝักยาว ปรากฏว่าคีบหลายครั้งก็คีบไม่ขึ้น
เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น เมิ่งฉิงรีบหยิบตะเกียบคู่หนึ่งแล้วคีบถั่วฝักยาวลงไปในชามของเธอ พูดอย่างตลกว่า:“เธอเป็นอะไร?ทำไมถึงหน้าแดงอย่างนี้?”
ฉีฉีก้มศีรษะทานข้าว เธอรู้ว่าตัวเองคิดมากไป ดังนั้นเธอจึงส่ายหัวและพูด:“ไม่มีอะไร”
หลังจากทานไปหนึ่งคำ เธอก็เงยหน้าขึ้นมาพูดกับเมิ่งฉิง:“คุณก็ทาน……”
“เดียวก่อน คุณบาดเจ็บเหรอ?”ตอนที่เธอเงยหน้า เธอบังเอิญเห็นรอยแดงและบวมใต้คอเสื้อของเมิ่งฉิง
เมิ่งฉิงอึ้งไปชั่วครู่ จากนั้นก้มศีรษะมองที่คอเสื้อของตัวเอง ส่ายหัวและพูดด้วยรอยยิ้ม:“ไม่มีอะไร ฉันไม่ระวังโขกโดนเอง”
“อ้อ”ฉีฉีพยักหน้า“คุณควรระมัดระวังมากกว่านี้”
เมื่อเมิ่งฉิงได้ยิน เขาก็ยิ้มให้ฉีฉีอย่างอ่อนโยน
ฉีฉีรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย“คุณจะทำอะไร?มองฉันทำไม?รีบทานข้าวสิ!”
“มองคุณ เพราะคุณสวยไง!”เมิ่งฉิงตอบอย่างเป็นธรรมชาติ
ใบหน้าของฉีฉีแดงขึ้นมาทันที เธอพยายามหลบสายตา และเธอก็จงใจพูดว่า:“คุณพูดมาเลย ทั้งทำอาหารให้ฉัน ทั้งซื้อเสื้อผ้าให้ฉัน และยังดูแลเอาใจใส่ฉันเป็นอย่างดี คุณชอบฉันใช่ไหม?”
เมื่อเมิ่งฉิงได้ยิน ก็มองหน้าฉีฉี ดวงตาของเขาดูอ่อนโยนและจริงจัง“ใช่ ฉันชอบคุณจริงๆ!”
ฉีฉีเมื่อได้ยินคำพูด ทำให้ดวงตาของเธอเบิกกว้าง ตะเกียบในมือก็วางลงบนโต๊ะอาหารอย่างผิดปกติ
เมิ่งฉิงมองหน้าฉีฉี เพื่อรอคำตอบจากเธอ
แต่ปฏิกิริยาของฉีฉีทำให้เขางง
เห็นเพียงฉีฉีหยิบกระดาษขึ้นมาเช็ดปาก จากนั้นลุกขึ้นและพูด:“ฉันทานอิ่มแล้ว”
เมื่อพูดจบก็รีบวิ่งออกจากคฤหาสน์
เมิ่งฉิงอึ้งไปเลย
เธอวิ่งออกไปแล้ว?
เธอรับปากหรือปฏิเสธกันแน่?
หลังจากอึ้งไปได้สักครู่ เมิ่งฉิงก็ได้สติ และมองท้องฟ้าด้านนอก ตอนนี้มันมืดแล้ว ลมที่พัดมาก็ทำให้รู้สึกเย็น
เมิ่งฉิงนึกได้ว่าฉีฉีพึ่งจะอาบน้ำเสร็จไม่นาน เสื้อผ้าที่ใส่ก็ไม่หนาพอ ดังนั้นเขาจึงรีบหยิบเสื้อคลุมบนโซฟา แล้ววิ่งตามไปทันที
ฉีฉีวิ่งออกมาแล้วไปที่ทะเลสาบที่อยู่ในบริเวณคฤหาสน์
หลังจากยืนนิ่ง ฉีฉีก็หายใจอย่างแรง ไม่ใช่เพราะการวิ่งทำให้เขาหายใจลำบาก แต่เป็นเพราะเธอกระวนกระวายใจ
ฉีฉีไม่ได้คาดคิดว่าเมิ่งฉิงจะยอมรับ ดังนั้นเมื่อเขาสารภาพรักต่อเธอ ทำให้เธอไม่รู้จะทำตัวยังไง
ยิ่งไปกว่านั้นเธอไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน และเธอไม่เคยอยู่ร่วมกับคนอื่นๆแล้วรู้สึกแบบนี้
เธอยืนนิ่งๆอยู่ริมทะเลสาบ และไม่รู้ว่าควรทำยังไงดี?
ในขณะนี้ เมิ่งฉิงตามมาแล้ว จากนั้นเขาสวมเสื้อคลุมให้เธออย่างเบาๆ และพูดว่า:“คุณยังไม่ได้คิดถี่ถ้วนใช่ไหม?”
ฉีฉีหันศีรษะของเธอทันที และเห็นรอยยิ้มที่อ่อนโยนของเมิ่งฉิง ทำให้เธอสับสน เธอก้าวไปข้างๆหนึ่งก้าวโดยไม่รู้ตัว เพื่อรักษาระยะห่างกับเมิ่งฉิงนิดหน่อย
เมิ่งฉิงไม่ได้สนใจ เพื่อให้เธอรู้สึกสบายใจ เขาจึงจ้องมองไปที่ทะเลสาบ จากพูดด้วยรอยยิ้ม:“อันที่จริง คุณก็ประทับใจในตัวฉันใช่ไหม ทำให้เธอไม่กล้าพูดออกมา”
เมื่อฉีฉีได้ยิน เธอตกใจและถามว่า:“คุณรู้ได้ยังไง?”
อันที่จริงตัวเธอเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน
เมิ่งฉิงยิ้มและถามเธอว่า:“ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่นมาสารภาพรักกับคุณ คุณจะมีปฏิกิริยายังไง?”
ฉีฉีตอบโดยไม่คิดว่า:“ก็ปฏิเสธทันทีไง!”
“คุณเห็นไหม”เมิ่งฉิงหันหน้าแล้วยิ้มอย่างอ่อนโยน“เมื่อสักครู่คุณไม่ได้ปฏิเสธฉัน”
ฉีฉีรีบก้มศีรษะลงทันที ในมือจับเสื้อคลุมที่เมิ่งฉิงพึ่งคลุมให้เธอเมื่อสักครู่
เสื้อคลุมเป็นของเมิ่งฉิง มีกลิ่นอันเฉพาะของเขา เหมือนกับเขากำลังโอบกอดฉีฉีไว้ ทำให้ฉีฉีหน้าแดง หัวใจของเธอก็เต้นแรงขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้
ในขณะนี้ เมิ่งฉิงเดินเข้ามาใกล้ฉีฉีมากขึ้น เอื้อมมือไปจับมือของเธอ
ฉีฉีรู้สึกเหมือนโดนไฟช็อต เมื่อโดนเขาสัมผัส เธอก็รีบหดมือกลับไปทันที
เมิ่งฉิงนิ่งไปชั่วครู่ จากนั้นก็เอื้อมมือออกไปอีกครั้ง
และคราวนี้ เขาก็จับมือเธอไว้อย่างแน่น ไม่ให้โอกาสเธอหดมือกลับไป
ฉีฉียิ่งรู้สึกกระวนกระวายใจ
หลังจากนั้น เธอรู้สึกถึงลมหายใจของเมิ่งฉิงกำลังเข้าใกล้ และลมหายใจอุ่นๆของเขาก็ถูกพ่นใส่หน้าเธอ
ฉีฉีไม่กล้าไปมองเมิ่งฉิง แต่เธอก็ไม่ใช่คนที่ไม่เข้าใจเรื่องพวกนี้ ดังนั้นเธอจึงเดาได้ว่า เมิ่งฉิงกำลังจะจูบเธอ
เป็นเพราะเหตุผลนี้ ทำให้หัวใจของฉีฉียิ่งกระวนกระวายใจมากขึ้น
เธอไม่เคยจูบใครมาก่อน เมื่อก่อนตอนที่อยู่ถ้ำทองคำ ไป๋ยี่เฟยบอกว่าจะขืนใจเธอ แต่ไป๋ยี่เฟยเป็นคนที่มีหลักการของตัวเอง ตอนนั้นเขาก็แสร้งทำเป็นแกล้งเธอเฉยๆ ไม่ได้ทำอะไรที่ไม่ดีกับเธอ