ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 54 เสแสร้ง
บทที่ 54 เสแสร้ง
“หนวนหน่วน เด็กดีของย่า ต้องเจอเรื่องลำบากมามากเลยสินะเนี่ย ไหนมาหาย่าใหญ่หน่อยซิลูก ขอย่าดูหน้าใกล้ ๆ หน่อย หน้าตาน่ารักถอดแบบพี่น้องมาจริง ๆ ด้วย โชคดีอะไรแบบนี้”
หญิงชราเข้ามาหาด้วยรอยยิ้ม ยื่นมือไปหาหนวนหน่วน แต่เจ้าหนูน้อยกอดคอพี่ชายของตนแน่นแล้วหันหน้าหลบ
ส่วนกู้หนานก็มองหญิงชราอย่างเย็นชา
“เด็กพวกนี้นี่!”
หญิงชราเหลือบตาจ้องเขม็ง “ทำไมไม่รู้จักเคารพผู้หลักผู้ใหญ่เลย ฉันเป็นคุณย่าใหญ่ของเธอนะ ไม่ยอมทักทายตอนเข้ามาไม่พอ ยังจะมาทำกิริยาแบบนี้อีก เป็นแบบนี้กันทั้งหลานทั้งลูกสะใภ้ พวกเราอุตส่าห์มาเยี่ยมเพื่อให้เด็ก ๆ แบบพวกเธอทำตัวไม่ดีใส่เหรอ ไม่ทักทายพี่น้องแบบนี้มัน…”
“เงียบน่า”
ผู้เฒ่ากู้ถอนหายใจอย่างจริงจังแล้ววางถ้วยชาในมือลงที่โต๊ะอย่างแรง
ชายชราเป็นคนเรียบง่าย ครอบครัวทางพ่อของเขาช่วยเหลือเกื้อกูลหญิงชราในยามทุกข์ยากมาเสมอ ตอนพ่อของผู้เฒ่ากู้ออกไปทำงาน เขาก็ได้รับการดูแลจากลุงเป็นอย่างดี พอเขาร่ำรวยเงินทองก็อยากตอบแทนโดยการช่วยเหลือดูแลลูกของลุงบ้าง
สำหรับเขาแล้วใครดีมาก็ดีตอบ ไม่เคยแล้งน้ำใจกับญาติมิตร
ลูกชายของลุงเขาเป็นคนดี นิสัยอ่อนโยน แต่กลับแต่งงานกับภรรยาที่ไม่รู้จักประมาณตนและใช้คำพูดล่อลวง ทำให้สุดท้ายความสัมพันธ์ระหว่างเขากับลูกของลุงก็ห่างเหินกัน
จนกระทั่งลูกชายของลุงเสียชีวิต พี่สะใภ้คนนี้ใช้เรื่องคนตายมาขอเชื่อมความสัมพันธ์ ถ้าเป็นเรื่องอื่นผู้เฒ่ากู้คงพอทนได้ แต่นี่หล่อนต้องการส่งหลานสาวตัวเองมาแทนหนวนหน่วน มันเป็นเรื่องที่ชายชราไม่มีทางยอม แล้วยังมาพูดไม่ดีกับหลานสาวเขาแบบนี้อีก ข้ามศพปู่คนนี้ไปก่อนเถอะ
“พี่สะใภ้”
ผู้เฒ่ากู้มองเธออย่างช้า ๆ ดวงตาราชสีห์เผยอำนาจบางอย่างออกมาอย่างน่าเกรงขาม ทำเอาคนถูกจ้องต้องหลบสายตา ไม่สามารถสู้หน้าตรง ๆ ได้ ยังไงซะผู้เฒ่ากู้ก็คือผู้นำที่ยิ่งใหญ่มาก่อน
“นี่หลานฉัน ลูกสะใภ้ฉัน เรื่องในครอบครัวไม่ต้องให้คนนอกมายุ่มย่ามหรอก ไม่ได้ขอให้มาช่วยชี้แนะสั่งสอน”
หญิงชราตัวสั่นด้วยความตกใจ ใช้เวลาครู่หนึ่งถึงจะรู้ตัวว่ากำลังถูกสั่งสอนต่อหน้าเด็ก ๆ ใบหน้าเริ่มขึ้นสีด้วยความอับอาย เธอผงะไปด้านหลังแล้วเอามือกุมที่หน้าอก
ลูกชายของเธอจึงต้องรีบเข้ามาประคองแม่ “แม่… แม่ครับ เป็นอะไรไป”
“แก… แก กู้เจี้ยนหัว!”
มือของหญิงชราสั่นระริก แข้งขาอ่อนนั่งลงร้องไห้ที่พื้น
“ฉันเป็นพี่สะใภ้แกแท้ ๆ ตอนที่พ่อแกไม่อยู่ พวกเราก็ดูแลแกอย่างดี เสียแรงที่เลี้ยงดูแกมา แต่ตอนนี้ทำเป็นเชิดหน้าใหญ่โต หยิ่งยโสกันทั้งบ้าน”
หญิงชราสวมเสื้อผ้าหรูหรา มีทั้งกำไล สร้อยคอทองคำอยู่บนตัวราวกับเป็นตู้ทองเคลื่อนที่ แต่พฤติกรรมกลับทำตัวราวกับพวกบ้านป่าเมืองเถื่อนก็ไม่ปาน
หนวนหน่วนมองหญิงชราแล้วนึกถึงแม่เฒ่าซุนที่อยู่หมู่บ้านเสี่ยวซี คุณย่าคนนั้นนิสัยไม่ดี ชอบมารังแกเธอให้เจ็บ คุณย่าคนนี้ก็ไม่ต่างกันเลย
กู้หนานเอามือปิดหูน้องสาว เพราะคำพูดที่น่าเหลือทนของหญิงชราคนนี้แย่ลงเรื่อย ๆ จนไม่อาจทนฟังได้
ผู้เฒ่ากู้ตัวสั่นด้วยความโกรธ
กู้หนานทิ้งตัวนั่งลงที่โซฟาอย่างไม่รีบร้อน มองไปที่พวกเขาอย่างเย็นชา น้ำเสียงนิ่งสนิทเริ่มเอ่ยออกมา แม้ว่าจะไม่ดังเท่าเสียงโวยวายของหญิงชรา แต่ก็ดังพอจะทำให้คนที่ฟังตัวสั่นได้
“ดูเหมือนว่าคุณลุงจะเสียเงินไปสามสิบล้านเมื่อเดือนก่อนเพราะโครงการมีปัญหาเรื่องวัสดุก่อสร้าง พ่อผมเป็นคนจ่ายให้คุณ มีแผนจะคืนเมื่อไรครับ ครึ่งปีก่อนมีคนงานได้รับบาดเจ็บเพราะระบบความปลอดภัยขัดข้อง ค่าชดเชย ค่ารักษาพยาบาล ค่าซ่อมบำรุงระบบรักษาความปลอดภัย ค่าปิดข่าว รวม ๆ แปดสิบล้านที่ผมจ่ายให้ก่อน อันนี้มีแผนจะคืนหรือเปล่าครับ”
คำพูดยาวเหยียดออกจากปากหลานชายคนโตอย่างเย็นชา แม้เขาจะมีสีหน้าว่างเปล่า แต่ทุกคำเหมือนเจาะเข้าไปถึงแกนสมองของทุกคนในบ้านนั้นราวกับมีดน้ำแข็งคมกริบ
ลูกชายของหญิงชราไม่กล้าสู้หน้า ก้มหน้าหนีเป็นการหลบเลี่ยง แม้แต่หญิงชราก็หยุดร้องไห้ด้วยความหวาดกลัว
ตั้งแต่เริ่มมีเงินใช้ไม่ขาดมือ ถึงจะไม่ได้มีความสามารถอะไรมากนัก แต่ก็ยังใช้ชีวิตอย่างอู้ฟู่ ไม่มีการวางแผนใด ๆ ตอนนี้ทุกคนมีค่าใช้จ่ายมากมายจนไม่สามารถหาเงินมาคืนได้ง่าย ๆ เงินเก็บออมก็ไม่ได้มากนัก ที่มีใช้อยู่ตอนนี้คือเงินปันผลที่ได้รับมาเป็นรายปี
ร้ายยิ่งกว่านั้นคือลูกชายของหญิงชรายังติดการพนัน ทำให้สถานะทางการเงินของครอบครัวแย่ลงเรื่อย ๆ ทุกคนจึงหวังพึ่งกู้หลินโม่และภรรยา เรื่องการสูญเสียหนวนหน่วนหลานสาวตัวน้อยที่อายุไล่เลี่ยกับหลานสาวตัวเองทำให้ครอบครัวของผู้เฒ่ากู้โศกเศร้ากันมาก พวกเขาจึงวางแผนจะส่งกู้หลิงไปเป็นลูกบุญธรรมเพื่อหาผลประโยชน์ให้ครอบครัวตัวเอง จะได้เป็นช่องทางทำเงินระยะยาวที่ดี
ไม่คาดคิดว่านังเด็กนี่จะโชคดีรอดชีวิตมาได้อีก
หญิงชรากัดฟันอย่างเคืองแค้น ความฝันสวยหรูที่วาดไว้พังทลายลง ทำให้หล่อนเกลียดหนวนหน่วนมาก มีลูกมีหลานสาว พอถึงวันหนึ่งก็ต้องแต่งงานออกจากบ้านไปเป็นสมบัติของคนอื่น แต่ครอบครัวลูกพี่ลูกน้องโง่เง่านี่กลับหวงแหนหนวนหน่วนราวกับเป็นสมบัติล้ำค่า
กู้หนานนั่งนิ่งบนโซฟา ทอดสายตามองอย่างเฉยเมย รอดูว่าพวกเขาจะตอบสนองกลับมาอย่างไร
ส่วนเจ้าตัวเล็กก็นั่งซบพี่ใหญ่ มองดูเหตุการณ์อย่างตั้งอกตั้งใจ
สมองน้อย ๆ กำลังพยายามจดจำพวกเขาเอาไว้ทั้งหมดเพื่อจะได้อยู่ให้ห่างทุกคนเอาไว้ในอนาคต
กู้หว่านยืนอยู่มุมหนึ่ง เห็นสองพี่น้องสนิทกันมากก็อิจฉาจนตาแดงก่ำ เธอกัดริมฝีปากแน่น มองหนวนหน่วนด้วยแววตาขุ่นเคืองปนรำคาญ รู้สึกเสียดายที่ตัวเองเกิดเร็วไป ถ้าเธอเป็นกู้หลิง จะไม่กลัวแบบน้องสาว เธอจะต้องเข้าหาพี่ใหญ่ให้ได้ ครอบครัวต้องภูมิใจได้แน่นอน
จากนั้นก็ดันตัวเองไปเป็นแก้วตาดวงใจของคนตระกูลกู้ มีพ่อแม่และพี่ชายที่ดูแลอย่างดี เป็นที่ต้องการของคนในครอบครัว ต่างจากบ้านของคุณย่าตัวเองตอนนี้ที่สนใจแค่ลูกชาย ชอบพี่ชายน้องชายมากกว่าเธอ ไอ้ความคิดพวกนั้นมันเกิดขึ้นเพราะคุณย่าเป็นคนชนบทหัวโบราณ
พ่อของเธอเป็นคนไม่เอาไหน เอาแต่เล่นการพนัน แม่เองก็ชอบเล่นไพ่นกกระจอกกับเพื่อน ๆ ทั้งวัน พี่ชายก็เอาแต่ทำเรื่องสกปรกเกินกว่าจะเข้าไปพึ่งพาอะไรได้ แถมยังมีน้องชายน้องสาวไร้ค่าพวกนี้อีก บ้านบ้า ๆ นี่มีเธออยู่คนเดียวก็พอแล้ว
ถ้าเพียงแค่เธอได้เกิดในบ้านของลูกพี่ลูกน้องนี่ ก็คงจะมีเงินใช้อย่างสุขสบาย ใคร ๆ ในบ้านต่างก็ตามเอาใจเป็นเจ้าหญิง
แต่ความฝันสวยหรูกลับพังทลายลงเพราะน้ำเสียงอันธพาลของคุณย่า
หญิงชราเหลือกตาโตที่อยู่บนใบหน้าเหี่ยวย่น พูดจาด้วยความประชดประชันอย่างร้ายกาจ
“นี่เราคนครอบครัวเดียวกัน ปัญหาของธุรกิจลูกชายฉันมันก็เป็นปัญหาของแกด้วย ยังไงก็ต้องเสี่ยงไปด้วยกัน มีเรื่องอะไรก็ต้องช่วยกันชดใช้ไม่ใช่หรือไง!”