ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 44 พี่ใหญ่ทำสิ่งสำคัญสองอย่างพร้อมกัน
บทที่ 44 พี่ใหญ่ทำสิ่งสำคัญสองอย่างพร้อมกัน
“พี่ใหญ่คะ”
เสียงเรียกนุ่มนวลติดอ้อนของหนวนหน่วนดังฟังชัด ดวงตาแสนไร้เดียงสามองไปที่กู้หนานอย่างกระตือรือร้น เสียงนั้นราวกับต้องการละลายใจคนฟังให้ได้
กู้หนานจิ้มนิ้วที่หน้าผากมนของหนวนหน่วนพลางเอ่ยว่า “ทำไมไม่เข้ามา”
คนตัวเล็กยื่นจานผลไม้ให้พี่ชายแล้วอยู่ข้าง ๆ เขาด้วยความสนใจ
“หนูกลัวว่าจะรบกวนพี่ใหญ่”
พี่ใหญ่วางจานผลไม้ลงที่โต๊ะแล้วถามขึ้น “เธอชอบกินอะไร”
“องุ่นค่ะ” เด็กน้อยตอบเสียงหวานชัดแจ๋ว
มีเสียงหัวเราะในลำคอดังขึ้นเบา ๆ จากพี่ชาย นิ้วเรียวยาวของเขาดึงองุ่นลูกใหญ่ออกจากจาน ปอกเปลือกบางของมันออกช้า ๆ แล้วป้อนให้เจ้าตัวเล็ก
เด็กน้อยที่ถูกป้อนก็อ้ารับองุ่นเข้าปากอย่างเชื่อฟัง องุ่นหวานหอมฉ่ำไปทั่วโพรงปากจนต้องส่งเสียงในลำคอออกมาอย่างชอบใจ แก้มเล็ก ๆ พองโตขึ้นอีกครั้ง นิ้วเย็น ๆ ของพี่ชายที่สัมผัสลงมาทำให้องุ่นที่เด็กหญิงเพิ่งกินเข้าไปแทบหลุดออกมาจากปาก
ปากเล็กจิ๋วของหนวนหน่วนชะงักไปครู่หนึ่ง เจ้าตัวเล็กไม่ได้โกรธที่ถูกจิ้มแก้ม เธอตวัดลิ้นเล็กย้ายองุ่นไปที่แก้มอีกข้างแล้วพองแก้มเล่นกับมือของพี่ชาย
ระหว่างเด็กน้อยค่อย ๆ เคี้ยวองุ่นในปาก กู้หนานก็จ้องใบหน้าเล็กด้วยสายตาแสนเย็นชา เขาเริ่มอยากจิ้มไปที่แก้มอีกข้างของน้องน้อย แต่คราวนี้ชายหนุ่มยั้งมือตัวเองได้ทัน จึงไม่ได้จิ้มแก้มน้องสาวตามที่ใจคิด
ดวงตากลมโตสดใสจ้องมองประกายอบอุ่นที่ห้อมล้อมอยู่รอบ ๆ นัยน์ตาคนตรงหน้าแน่นิ่ง เมื่อหนวนหน่วนกะพริบตา ขนตางามงอนก็ขยับไหวราวกับปีกผีเสื้อ
เมื่อเห็นว่าองุ่นในปากของหนวนหน่วนจะหมดแล้ว กู้หนานก็เริ่มเอาลูกใหม่มาปอกแล้วยื่นให้อีก
เด็กหญิงตัวเล็กตอนนี้เหมือนกับสัตว์ตัวน้อยที่ถูกล่อลวงได้ด้วยของกิน หลังจากที่ป้อนผลไม้ไปสองสามคำ เด็กน้อยก็เริ่มติดพี่ชายแจ กู้หนานค่อย ๆ ขยับน้องสาวเข้ามาใกล้ขึ้น จนเจ้าตัวน้อยเข้ามาอยู่บนตักเขาในที่สุด
หนวนหน่วนไม่งอแงและเป็นเด็กดี อีกทั้งยังไร้เดียงสาและนุ่มนิ่มราวกับกระต่ายน้อยขนปุย
กู้หนานยกยิ้มขึ้นเป็นระยะแล้วป้อนองุ่นให้น้องสาวต่อไป
“อะแฮ่ม”
เสียงกระแอมที่ดังขึ้นจากจอแล็ปท็อปทำลายกิจกรรมแสนอบอุ่นระหว่างพี่น้องลง กู้หนานละสายตาจากหนวนหน่วนไปมองที่จออย่างเฉยเมย
ราวกับเขาเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าในตอนนี้ตัวเองกับน้องสาวไม่ได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพัง
ในตอนนี้เหล่าพนักงานกำลังนิ่งอึ้งกับภาพที่เห็นจนอ้าปากค้างกรามแทบล็อก หลายคนลุกขึ้นมาจ้องหน้าจออย่างสนอกสนใจ
หนวนหน่วนตัวเล็กมากจนพวกเขาไม่สามารถเห็นเธอได้ชัด ได้ยินเพียงเสียงแผ่วเบาเรียกเจ้านายว่าพี่ใหญ่ ฟังดูเหมือนเป็นเสียงของเด็กผู้หญิง แล้วเจ้านายของพวกเขาก็เปลี่ยนไปราวกับคนละคนตั้งแต่เด็กผู้หญิงคนนี้เข้ามา
แม้ว่าเขาจะยังคงดูเย็นชาราวกับน้ำแข็ง แต่ความรู้สึกแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง
ได้เห็นเจ้านายยิ้มและหัวเราะสักที!
แม้ว่าเสียงจะเบาและสั้นมากจนแทบไม่รู้สึกถึงมัน แต่พวกเขาได้ยินไม่ผิดแน่
มีคนช่างสังเกตหลายคนเห็นรอยยิ้มที่มุมปากของกู้หนาน
นี่ช่างเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อและน่าตกใจสำหรับเหล่าพนักงาน นี่มันยิ่งกว่าอุกกาบาตชนโลกซะอีก พวกเขาเห็นเจ้านายที่เย็นชาเหมือนภูเขาน้ำแข็งสูงตระหง่าน ไร้ความรู้สึกราวกับหุ่นยนต์หัวเราะออกมาจริง ๆ
ทุกคนตกอยู่ในความเงียบเป็นเวลานานด้วยความตกตะลึง กว่าจะหาเสียงตัวเองเจอแล้วรู้สึกตัวว่ากำลังอยู่ในการประชุมก็ผ่านไปครู่ใหญ่แล้ว
ไม่นานเจ้านายที่จริงจังและพิถีพิถันของพวกเขาก็กลับมาที่การประชุมอีกครั้ง
กู้หนานเช็ดนิ้วมือด้วยผ้าเช็ดหน้าอย่างช้า ๆ หลังจากเงยหน้าขึ้นมา ความอบอุ่นในดวงตาก็หายไปเกือบหมด ริมฝีปากของเขาเหยียดตรง กลายเป็นชายหนุ่มแสนเย็นชาอีกครั้งราวกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่เป็นเพียงภาพลวงตา
“ผมจะติดตามโปรเจกต์ ‘หนวนหน่วน’ ให้มากเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้ข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นกับโปรแกรมได้รับการแก้ไขอย่างเร็วที่สุด ยังไงเดี๋ยวผมจะส่งภาพร่างตัวละครหนวนหน่วนให้พวกคุณ…”
หนวนหน่วนที่เอนกายพิงตักพี่ชายพร้อมองุ่นในปากหันมองทางพี่ใหญ่ เพราะเหมือนว่าได้ยินเสียงเรียกชื่อตัวเอง แต่เขากลับไม่ได้คุยกับเธอ ทว่ากำลังพูดกับคนในแล็ปท็อป
พอได้ยินเสียงเรียกชื่อตัวเองอยู่สองสามครั้งเด็กหญิงก็เกิดประกายในแววตา แต่ถึงจะสงสัยแค่ไหน เธอก็ยังนิ่งเงียบอย่างเชื่อฟัง อีกทั้งยังวางคางน้อย ๆ ไว้บนแขนแกร่งแล้วทิ้งน้ำหนักทั้งตัวของตนเองลงบนตักพี่ชายอยู่แบบนั้น
ตอนนี้องุ่นถูกป้อนเพิ่มอีกลูก
หนวนหน่วนเงยหน้ามองพี่ชายที่กำลังพูดคุยอย่างจริงจังกับคนในแล็ปท็อปราวกับว่ามือไม่ได้กำลังทำอย่างอื่นอยู่ ชายหนุ่มกลับมาจดจ่ออยู่กับการทำงาน ไม่ถูกรบกวนสมาธิเลยแม้แต่น้อย
นั่นเป็นเรื่องที่น่าทึ่งมาก
หนวนหน่วนอ้าปากกินองุ่นในมือพี่ชายจนแก้มป่อง ก่อนจะมองพี่ใหญ่ด้วยแววตาระยิบระยับ ขับความน่าเอ็นดูมากขึ้นไปอีก
ขณะที่กำลังกินอย่างเพลิดเพลิน กู้หนานก็โอบแผ่นหลังน้องสาวให้ขึ้นมานั่งบนตักของตนเอง
กู้หนานกระชับกอดจนศีรษะเล็ก ๆ ของน้องสาวจมไปกับแผ่นอกแกร่ง เขาเหลือบมองเจ้าตัวเล็กเพียงเล็กน้อยแล้วกลับไปมองที่แล็ปท็อปด้วยสายตาเรียบนิ่ง
หนวนหน่วนตกใจเล็กน้อยที่พี่ใหญ่กอดเธอเป็นครั้งแรก แต่เด็กน้อยก็แสดงออกอย่างน่ารัก ร่างเล็กนุ่มนิ่มที่อยู่บนตักของพี่ชายเอนไปพิงแผ่นอก ส่วนใบหน้าซบอยู่ที่ไหล่ แผ่นอกกว้างขยับตามจังหวะหายใจ หนวนหน่วนซบแล้วรู้สึกสบายเป็นอย่างมาก
เจ้าตัวเล็กใช้เวลาที่เหลือเอนกายมองพี่ชายทำงานไปอย่างเงียบ ๆ พร้อมกับอ้าปากกินผลไม้ที่เขาป้อนให้อย่างเชื่อฟัง
การประชุมตลอดหนึ่งชั่วโมง กู้หนานทำสิ่งสำคัญสองอย่างพร้อม ๆ กันได้แบบไร้ที่ติ
หนวนหน่วนหาวเล็กน้อยในช่วงท้าย แล้วการประชุมก็จบลง
พอหน้าจอแล็ปท็อปกลายเป็นสีดำ กู้หนานก็ลูบหัวทุยของน้องสาวเล่นราว ๆ สองสามครั้ง
“ง่วงแล้ว?”
หนวนหน่วนพยักหน้าตอบ “นิดหน่อยค่ะ”
“งั้นก็ไปนอน”
แต่เด็กหญิงกลับส่ายหน้า ขยี้ตาด้วยมือเล็กนุ่มนิ่มพร้อมเอ่ยเสียงเบาว่า “พี่กู้อันจะเลิกเรียนแล้ว หนวนหน่วนสัญญาเอาไว้ว่าจะไปรับ แล้วก็จะต้องไปส่งของขวัญให้พี่สี่ที่โรงเรียนด้วยค่ะ”
เด็กน้อยซื้อของขวัญสำหรับทุกคนในครอบครัว อยากจะมอบให้พวกเขาพร้อมกัน เธอยังจำคำสัญญาที่ให้ไว้กับพวกเขาได้ดี เพราะฉะนั้นจะต้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้พวกเขาสมหวัง จะผิดหวังไม่ได้
กู้หนานลูบผมน้องสาวพลางตอบรับในลำคอ จากนั้นก็หยิบเอาสตรอว์เบอร์รีขึ้นมาหนึ่งลูก
หนวนหน่วนลูบพุงกลม ๆ ของตัวเองไปมา
“หนวนหน่วนกินไม่ไหวแล้วค่ะ พี่ใหญ่กินเถอะ”
เจ้าตัวเล็กมองไปยังผลไม้ในจานที่เหลือไม่มากอย่างเขินอาย เดิมทีเธอมาที่นี่เพื่อเอาผลไม้มาให้พี่ชายกิน แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้มันจะไปอยู่ในพุงกลม ๆ ของตัวเองแทนซะแล้ว