ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 26 ส่งภาพถ่ายไม่ถึงตายหรอก
บทที่ 26 ส่งภาพถ่ายไม่ถึงตายหรอก
มื้อนี้ทำให้เขาได้อีกด้านหนึ่งของท่านประธานและอดีตประธาน
แต่หลี่เต๋อจู้ก็ทำได้แค่ถอนหายใจ เพราะหนวนหน่วนนั้นสเน่ห์ล้นเหลือเกินต้านเสียจริง
ตอนนี้หนวนหน่วนไม่ได้สังเกตสงครามที่เกิดขึ้นอย่างลับ ๆ ระหว่างคุณปู่กับคุณพ่อของตนเลย เธอกำลังทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย แก้มข้างที่กำลังเคี้ยวพองเหมือนแฮมสเตอร์ตัวน้อย ดวงตากลมโตคู่สวยเปล่งประกายไปด้วยความสุข
แม้ว่าเธอจะทานคำเล็กหรือเต็มคำ แต่เธอก็กินอย่างระมัดระวังและอร่อย ทำให้ผู้ที่เฝ้ามองอดไม่ได้ที่จะอยากอาหารมากขึ้น
“เอิ่ก…”
หลี่เต๋อจู้วางตะเกียบในมือ เขารู้สึกว่าตนเองทานเยอะเกินไปโดยไม่รู้ตัว ยิ่งมองมองเด็กน้อยทานแล้วตนก็ยิ่งอยากอาหารมากขึ้นกว่าเดิม!
หนวนหน่วนพุงเริ่มป่อง ตอนนี้ผู้เฒ่ากู้และกู้หลินโม่ก็อิ่มมากเช่นกัน
“ไปเถอะ เดี๋ยวพ่อจะพาไปเดินเล่นรอบ ๆ”
เขามองลูกสาวทานอาหารจนตนเองก็ทานอิ่มโดยไม่รู้ตัว ออกไปเดินเล่นก็ดี อย่างไรก็เป็นการย่อยอาหารไปในตัว
หนวนหน่วนสะอึกออกมา เด็กน้อยรีบเอามือปิดปากด้วยความเขินอาย
กู้หลินโม่เดินไปรอบ ๆ บริษัทกับหนวนหน่วน แววตาของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม เขาพาเธอเดินไปยังแผนกพัฒนาเพื่อเล่นกับแมวและสุนัขต่ออีกสักพัก เมื่อถึงเวลากลับ หนวนหน่วนก็เดินออกมาด้วยแววตาที่สดใส กู้หลินโม่เข้ามาอุ้มเธอแล้วพาไปเดินต่อ หลังจากจากนั้นอาการง่วงก็เริ่มเข้าโจมตีหนวนหน่วนจนเธอเริ่มสัปหงกเล็กน้อย
ตอนนี้เด็กน้อยเหนื่อยมาก เมื่ออยู่ในอ้อมแขนอันอบอุ่นของคุณพ่อก็เริ่มรู้สึกง่วงนอน
“ง่วงนอนเหรอ?”
กู้หลินโม่ใช้ฝ่ามือหนาลูบลงบนศีรษะของเด็กน้อยอย่างแผ่วเบา ศีรษะของหนวนหน่วนเอนพักพิงอิงซบลงบนไหล่ของคุณพ่อ ใบหน้าน้อย ๆ ของเธอหันไปด้านข้างจนเนื้อแก้มเบียดจมลงไป ริมฝีปากเผยอขึ้นเล็กน้อย
เธอได้ยินคำพูดของผู้เป็นพ่อไม่ค่อยชัดเจนนัก ดวงตากลมโตคู่สวยเริ่มหรี่ลง ขนตาเริ่มสั่นไหวเล็กน้อย ราวกับว่าเธอพยายามจะเปิดมันแต่ก็ไม่สามารถทำได้
เสียงหวานเยิ้มดั่งน้ำนมของหนวนหน่วนเริ่มอ้อแอ้ เด็กน้อยถูไถใบหน้าคลอเคลียไหล่กว้าง ๆ ของผู้เป็นพ่อ ไม่นานก็หลับปุ๋ย เสียงหายใจสม่ำเสมอดังคลอ เรือนผมร่วงกราวลงบนหน้าผาก กู้หลินโม่ทัดผมของลูกสาวไปไว้ที่หลังใบหูแล้วเอ่ยเสียงเบา
“หึหึ… หลับซะแล้ว”
ผู้เฒ่ากู้บอกให้กู้หลินโม่เงียบเสียง จากนั้นทั้งสองจึงพาหนวนหน่วนกลับไปที่ห้องทำงานอย่างระมัดระวัง เพราะด้านในสุดของห้องทำงานมีห้องรับรองพิเศษสำหรับใช้พักผ่อนอยู่
กู้หลินโม่วางลูกสาวตัวน้อยที่กำลังหลับสนิทในอ้อมแขนลงบนเตียงนุ่มอย่างระมัดระวัง ก่อนจะถอดรองเท้าและห่มผ้าให้
“พ่ออยากนอนพักด้วยไหม”
ผู้เฒ่ากู้ถอดรองเท้าและเสื้อโค้ทก่อนจะรีบขึ้นไปบนเตียงทันที “นอน! ฉันจะนอนกับหลานสาวของฉัน!”
กู้หลินโม่ “….”
ให้ตายสิ เขานอนกับหนวนหน่วนไม่ได้ด้วยซ้ำ!
กู้หลินโม่ทอดตามองหนวนหน่วนที่หลับสนิท เมื่อทำอะไรไม่ได้ก็ก้มลงจูบหน้าผากคนตัวเล็กก่อนจะเดินจากไป
ยังมีงานต้องทำอีกเยอะ โธ่เอ๊ย… คิดถึงลูกชายคนโตอีกแล้ว เมื่อไหร่เขาจะกลับมากันนะ จะได้วางมือและไปอยู่บ้านกับหนวนหน่วนสักที
หลังจากนั้นข่าวที่ว่ากู้หลินโม่พาหนวนหน่วนไปที่โรงอาหารเพื่อทานข้าวก็ได้แพร่กระจายออกไปอย่างรวดเร็ว คนทั้งบริษัทต่างรับรู้กันหมด
ข่าวนี้ยังสร้างความรำคาญใจให้กับคนที่ไม่ได้ไปโรงอาหารเช่นกัน เหล่าพนักงานเสียดายที่ไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง หลังรู้ข่าวก็เปิดการสนทนากันในห้องแชททันที
[ตอนที่ประธานกู้อุ้มลูกสาวดีต่อใจมากเลย เขาอุ้มเธอด้วยมือข้างเดียว อย่างหล่อ!
[ประธานกู้ของเราดูดีจริง ๆ อายุสี่สิบแล้ว แต่ยังเหมือนอายุสามสิบอยู่เลย ถ้าคนที่ไม่รู้อายุเห็นเขายืนอยู่กับประธานกู้หนานคงคิดว่าเขาเป็นพี่ชาย]
[ลูกสาวของประธานกู้เป็นเด็กดีมาก พวกเขายืนอยู่ข้างหลังตอนที่ฉันกำลังต่อคิวรับอาหาร รู้ไหม ฉันกลัวจนแทบขยับตัวไม่ได้ ก็เลยรวบรวมความกล้าถามประธานกู้ไปว่าอยากแทรกคิวไหม แต่เขาบอกว่าไม่เป็นไร
จากนั้นฉันก็ได้ยินลูกสาวประธานกู้ถามว่า เมื่อยหรือเปล่าที่อุ้มเธอ เธออยากจะลงมาเดินเอง แต่พอลงเดินแล้วไม่ใช่แค่จับมือประธานกู้นะ แต่ยังจับมืออดีตประธานด้วย ฉันเพิ่งรู้ว่าชายชราที่ตามประธานกู้มาด้วยคืออดีตประธาน!]
[ตื่นเต้นมาก! แต่เรื่องของเรื่องก็คือ ลูกสาวของประธานกู้พูดจานุ่มนวลน่าฟังมาก เอาใจใส่ วางตัวก็ดีด้วย พระเจ้า นางฟ้าตัวน้อยชัด ๆ ฉันน่ะอิจฉาประธานกู้มากเลยที่มีลูกสาวน่ารักเชื่อฟังแบบนี้ ที่สำคัญนะ น่ารักมาก]
[ฮึ่ย เสียดายอ่ะ แฟนเอาข้าวมาให้วันนี้ ไม่ได้ไปกินที่โรงอาหาร เหมือนพลาดเงินร้อยล้านเลย!]
[นึกไม่ถึงว่าประธานกู้จะอุ้มลูก ว้าวซ่า ใครมีรูปขอหน่อย!]
มีเพียงไม่กี่คนนักที่จะกล้าขอเขาถ่ายรูป ด้วยความเป็นประธานที่ทั้งหล่อและรวย และถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะเข้าสู่วัยกลางคนแล้วก็ตาม แต่เสน่ห์ในการดึงดูดความสนใจของเขาก็ไม่ด้อยไปกว่าเหล่าดาราในวงการบันเทิง ขนาดแค่อุ้มลูกก็ยังเป็นที่พูดถึงไปทั่ว
สมาชิกของตระกูลกู้ไม่เป็นสองรองใคร ลูกชายฝาแฝดทั้งสองเป็นอัจฉริยะ คนในตระกูลจึงเป็นที่สนใจอยู่เสมอ
น่าเสียดายที่ตระกูลไม่ชอบเปิดเผยตัวต่อหน้าสาธารณชนจึงมีรูปถ่ายของพวกเขาบนอินเทอร์เน็ตน้อยมาก และโดยปกติแล้วจะปรากฎตัวอยู่บนนิตยสารการเงินระดับไฮเอนด์เป็นส่วนใหญ่ จำได้ว่าประธานกู้เคยไปถ่ายอยู่ช่วงหนึ่ง และมันกลายเป็นนิตยสารที่ขายดีมากจนขาดแคลนตลาดเลยทีเดียว
ดังนั้นทันทีที่มีคนขอถ่ายรูปปรากฏขึ้นจะต้องมีคนต่อไปมาขอถ่ายรูปเพิ่มอย่างแน่นอน
[ฮ่าฮ่าฮ่า… ฉันมีรูปนะ! จะบอกว่าด้านได้อายอดน่ะ แต่ขอไม่ลงรูปนะ เดี๋ยวจะอดตายก่อน ฮ่าฮ่า…]
เจ้าของข้อความนี้ยอมโดนเกลียด เพราะอย่างไรพนักงานในบริษัทนี้จะไม่เปิดเผยตัวตนหรือไม่ระบุชื่อ พวกเขาจึงไม่รู้ว่าใครเป็นใคร
ณ ห้องของฝ่ายบุคคล….
“อ๊ะ! หลิงเหม่ย เธอเป็นคนที่พูดในกลุ่มใช่ไหม!”
“ส่งภาพมาซะดี ๆ!”
“หลิงเหม่ยจ๋า ขอรูปถ่ายหน่อยนะ! เราเป็นเพื่อนกันนะ ให้รูปฉันไม่ได้หรอ!”
ฝ่ายบุคคลคึกครื้นขึ้นมาทันที ในที่สุดสาวผมสั้นก็ต้องส่งรูปถ่ายลงในกลุ่ม ‘ส่วนตัว’
เธอมีเพียงรูปเดียวเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นมันก็เป็นภาพถ่ายที่ชัดมาก เห็นได้ชัดว่าโทรศัพท์รุ่นนี้กล้องดีเพียงไร
ภาพนี้ถ่ายจากด้านหลัง จึงเป็นรูปที่มองเห็นแผ่นหลังเป็นส่วนใหญ่ ชายสูงสง่ากำลังอุ้มเด็กหญิงตัวน้อยที่อ่อนหวานน่ารักไว้บนแขนข้างเดียวของตน ถึงแม้ว่าเขาจะดูเต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์แต่ก็แฝงไปด้วยความอ่อนโยน
แม้ว่าจะถ่ายจากด้านหลังแต่จังหวะการจับภาพก็พอเหมาะพอดีจึงได้เห็นใบหน้าด้านข้างของทั้งสองอย่างชัดเจน สาตาของประธานกู้เขานุ่มนวลอย่างไม่น่าเชื่อ
เด็กน้อยก็ดูเชื่อฟัง ใบหน้าน้อย ๆ เห็นเค้าสวยมาแต่ไกล โดยเฉพาะขนตาที่โค้งงอนและหนาดั่งกับพัดเล็ก ๆ นั่น มองให้ดีจะพบเข้ากับดวงตากระจ่างดั่งแก้วคริสตัล สะอาดสดใสไร้ร่องรอยของสิ่งสกปรกใด
นัยน์ตาของเธอดำขลับ รอยยิ้มขับดวงตาให้เปล่งประกายดุจทะเลแห่งดวงดาว ต้องยอมรับว่าหนวนหน่วนดูน่าหลงใหลอย่างเหลือเชื่อ