ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 253 เล่านิทานให้หนวนหน่วนฟังได้ไหม
บทที่ 253 เล่านิทานให้หนวนหน่วนฟังได้ไหม
ริคก้มหัวลงเล็กน้อย จมูกได้กลิ่นหอมของเด็กหญิงตัวน้อย
ขนหมาป่าเปียกชุ่มรอบปากของมันยุ่งเหยิงเล็กน้อย ยังมีอาการคันจมูกอีกด้วย
จากนั้นริคก็จามอย่างรุนแรง ผมหน้าม้าของหนวนหน่วนเลยถูกพัดจนเป๋
เธอกะพริบตาปริบ ๆ หยิบผ้าขนหนูออกมาลูบเส้นขนของริค จากนั้นก็หยิบหวีอันเล็กออกมาจากกระเป๋าเสื้อ
ทุกคน “…”
เตรียมตัวมาอย่างรอบคอบเลยเหรอ?
เมื่อเห็นหนวนหน่วนปฏิบัติต่อหมาป่าหิมะเหมือนเป็นตุ๊กตา พวกเขาก็ไม่รู้ว่าตัวเองควรแสดงออกอย่างไร
เด็กหญิงตัวน้อยหวีขนที่มุมปากของริคอย่างระมัดระวัง จากนั้นชำเลืองมองริคกี้ที่อยู่อีกด้านหนึ่ง
ในขณะนี้ริคกี้ก็จ้องมองเธออยู่เช่นกัน ดวงตาของทั้งสองจึงสบประสานกัน
หนวนหน่วนถือผ้าขนหนูไว้ในมือแล้วถามด้วยรอยยิ้มสดใส
“ริคกี้ อยากเช็ดขนไหม?”
หลังจากลังเลอยู่สองวินาที ริคกี้ที่นั่งตัวตรงก็ลุกขึ้นยืน จากนั้นเดินไปหาเด็กหญิงตัวน้อยอย่างเย่อหยิ่ง
สีหน้าของไคน์ในตอนนี้มึนงงไปหมดแล้ว
เด็กหญิงตัวน้อยวิ่งถือผ้าขนหนูไปหาริคกี้อย่างมีความสุขแล้วเช็ดปากให้มัน จากนั้นนั่งลงตรงกลางระหว่างหมาป่าทั้งสามตัวบนเก้าอี้เล็ก ประคองหัวและหางฟูของพวกมันแล้วเริ่มหวีอย่างตั้งใจและระมัดระวัง
ภาพหนวนหน่วนตัวน้อยนั่งอยู่ตรงกลางระหว่างหมาป่าหิมะทั้งสามตัวพลางประคองหัวหมาป่าไว้ ดูน่าตื่นเต้นและให้ความสวยงามแปลกตาจริง ๆ
ไคน์หงุดหงิดเจ้าหมาป่าหิมะทั้งสาม เขาเป็นฝ่ายเลี้ยงมาจนโต แต่กลับถูกเด็กหญิงตัวน้อยกำราบอย่างรวดเร็ว ถึงจะคิดอย่างนั้น อีกใจหนึ่งก็หยิบกล้องขึ้นมาถ่ายรูปไว้อย่างตื่นเต้น
งดงามจริง ๆ!
“เสร็จแล้ว”
เสียงพึงพอใจของหนวนหน่วนพลันดังขึ้น เมื่อมองไปที่หมาป่าหิมะทั้งสามอีกครั้ง หัวของพวกมันก็ถูกถักเปียอย่างสวยงาม ไม่ใช่แค่บนหัวเท่านั้น แต่รวมไปถึงหางด้วย!
แต่ไม่ว่ามันจะสวยงามแค่ไหน เมื่อเป็นหมาป่าทั้งสาม… ก็ตลกมากอยู่ดี
“ฮ่า ๆ”
อีวานอดระเบิดเสียงหัวเราะออกมาไม่ได้
ศักดิ์ศรีแห่งราชาหมาป่าของริคและริคกี้ในเวลานี้ได้ลดน้อยลงไปมาก
เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา เล็งถ่ายภาพหมาป่าหิมะทั้งสามอย่างคลั่งไคล้
ไป๋โม่ซูเดินเข้าไปอุ้มหนวนหน่วนขึ้นมา บีบจมูกน้อยของเธอ บนศีรษะและร่างกายของเธอมีขนของหมาป่าหิมะติดอยู่เต็มไปหมด
“ไปสระผมอาบน้ำ เตรียมตัวนอนได้แล้ว”
หนวนหน่วนตอบรับอย่างเชื่อฟัง พลางโบกมือลาเหล่าหมาป่าหิมะ
หมาป่าหิมะทั้งสามมองเธอจากไป ก่อนจะยืดตัวอย่างเกียจคร้าน ทว่าก็ดูสง่างาม
“เฮ้ เด็ก ๆ พวกแกลืมพ่อแล้วเหรอ!”
ไคน์ออกมาแสดงตัวตนอีกครั้ง เขาเท้าเอวมองเหล่าหมาป่าหิมะที่ตนเลี้ยงมาจนโตด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะเริ่มพูดเจื้อยแจ้วออกมาเป็นการสั่งสอน
“พวกแกอย่าใจแคบนัก ถึงน้องสาวของหมอไป๋จะสวยและน่าเอ็นดู แต่เธอก็ไม่ใช่ลูกของพวกแก ฉันต่างหากที่เป็นพ่อที่เลี้ยงพวกแกมาจนโต พวกแกไม่เคยดีกับฉันแบบนี้เลย…”
ไคน์พูดพึมพำต่อไปเป็นเวลานาน ใบหูของหมาป่าหิมะทั้งสามลู่ลง รอให้เขาพูดจนพอใจแล้วก็วิ่งแจ้นหายไปในความมืดอย่างรวดเร็ว
ไคน์จิบน้ำแล้วตัดพ้อ “ริคกับพวกตัวอื่น ๆ เริ่มหมดความอดทนแล้ว เมื่อก่อนยังฟังฉันพูดจ้อได้อยู่เลย”
แม้จะตัดพ้อ แต่ใบหน้าก็ยังเปื้อนยิ้มอยู่
หนวนหน่วนอาบน้ำเสร็จก็สวมชุดนอนลายหนูแฮมสเตอร์แบบวันพีช เมื่อปิดหมวกก็กลายเป็นหนูแฮมสเตอร์ขาวตัวน้อย แก้มยุ้ย ๆ ดูนุ่มมือน่าบีบมาก
เท้าเปลือยเปล่าขาวนวลกระจุ๋มกระจิ๋มคู่หนึ่งยื่นออกมา ข้อเท้าและนิ้วเท้าเป็นสีชมพูสวยงาม
เธอเหยียบลงบนผ้านวมนุ่ม ๆ ให้เป็นหลุมลงไป
ไป๋โม่ซูก็เปลี่ยนเป็นชุดนอนสีเทาอ่อน ในเวลานี้ได้ถือไดร์เป่าผมไว้ในมือพลางเป่าผมให้เด็กน้อย
หนวนหน่วนนั่งอยู่บนเตียงอย่างน่าเอ็นดู กวัดแกว่งเท้าเป็นครั้งคราว ศีรษะเหวี่ยงไปตามแรงนิ้วมือของพี่ชาย อยู่ในโอวาทเหมือนตุ๊กตาตัวหนึ่ง
“เสร็จแล้ว นอนเถอะ”
หนวนหน่วนขยับบั้นท้ายน้อย ๆ ขึ้น หางของชุดนอนหนูแฮมสเตอร์แลดูเหมือนลูกบอลเล็ก ๆ
“ผมของพี่ยังไม่แห้งเลย”
เธอลุกขึ้นยืน โน้มตัวแนบหัวไหล่ของลูกพี่ลูกน้องคนโตแล้วเอานิ้วลูบผมดำสั้นของเขา
“หนวนหน่วนช่วยเป่าผมให้พี่ดีไหม?”
เด็กหญิงตัวน้อยมองดูชายหนุ่มผู้เย็นชาและสะอาดสะอ้านราวกับหิมะตาปริบ ๆ
ไป๋โม่ซูตอบรับเบา ๆ แล้วนั่งไขว่ห้าง ดูสง่างามมีเกียรติ
หนวนหน่วนยืนอยู่บนเตียง ถือไดร์เป่าผมเริ่มเป่าให้เขา
หลังจากเป่าผมให้ญาติผู้พี่จนแห้งแล้ว เด็กหญิงตัวน้อยก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ
“เสร็จแล้วค่ะ!”
ไป๋โม่ซูเอานิ้วสางผมของตัวเองง่าย ๆ แล้วลุกขึ้นยืน เอาไดร์เป่าผมและผ้าขนหนูไปเก็บ
“นอนเถอะ”
“โอเคค่ะ”
หนวนหน่วนตอบเสียงเบา ลอดตัวเข้าไปใต้ผ้าห่ม ก่อนจะตบตรงข้างตำแหน่งของตัวเธอเบา ๆ
“พี่ชายรีบมานอนเถอะ”
เมื่อไป๋โม่ซูเข้ามานอน หนวนหน่วนก็สอดตัวเข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของเขาทันที
“ราตรีสวัสดิ์ค่ะพี่โม่ซู”
หนวนหน่วนวางศีรษะลงบนหัวไหล่ของลูกพี่ลูกน้องคนโต เธอหาว ก่อนจะเอ่ยราตรีสวัสดิ์พร้อมกับหลับตาลง
ไม่กี่นาทีต่อมา ขนตางอนของเธอสั่นระริก แง้มเปลือกตาขึ้นอย่างเงียบ ๆ
ไม่นานดวงตาทั้งสองของเธอก็เปิดขึ้น แจ่มใสอย่างเห็นได้ชัดว่ายังไม่มีสัญญาณว่าจะนอน
นิ้วมือที่เห็นข้อต่อชัดเจนบีบใบหูของเธอ อาจเป็นเพราะถือมีดผ่าตัดอยู่ตลอด ปลายนิ้วของไป๋โม่ซูจึงค่อนข้างด้าน แต่ก็ยังเรียบเนียน ชายหนุ่มบีบติ่งหูเล็กของเด็กสาวตัวน้อยจนรู้สึกจั๊กจี้
หนวนหน่วนหดคอลงไป เสียงหัวเราะใสเหมือนกระดิ่งดังขึ้นมา
“พี่โม่ซู จั๊กจี้”
“นอนไม่หลับเหรอ?”
เสียงของไป๋โม่ซูก็เหมือนกับตัวเขา เย็นชาราวกับหิมะ แต่ไพเราะมาก
เด็กหญิงตัวน้อยเอาศีรษะดันหัวไหล่ของเขา เสียงแผ่วเบาอู้อี้ดังออกมาจากผ้าห่ม
“วันนี้หนวนหน่วนได้รู้จักกับเพื่อนสี่ห้าคน เคธี ไอริส ริค ริคกี้ และยังมีแอนนี่ด้วย พวกมันสวยมากเลย…”
สาวน้อยเล่าประสบการณ์ในวันนี้และความในใจด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น แม้ว่าญาติผู้พี่ของเธอ จะคอยเธออยู่ตลอดเวลาและรู้ว่าวันนี้เธอทำอะไรไปบ้าง แต่เธอก็อดเล่าให้ฟังไม่ได้
“พี่โม่ซู หนูนอนไม่ค่อยหลับ ยังคิดถึงพวกไอริสอยู่เลย”
เธอพูดพลางเงยหน้าขึ้น ใช้มือเล็กลูบหัวไหล่ของเขาเบา ๆ ก่อนจะจับเสื้อนอนตรงหน้าอกของเขาไว้
“พี่โม่ซู เล่านิทานให้หนวนหน่วนฟังหน่อยได้ไหมคะ”
เธออ้อนวอนเสียงเล็กเสียงน้อย แววตาดูน่าสงสารมาก
ไป๋โม่ซูบีบจมูกเล็ก ๆ ของเธอ “อืม”
เขาตอบตกลง คิดครู่หนึ่งแล้วเริ่มเล่าเรื่องราชาสิงโต
เขาเคยอ่านเรื่องนี้เวอร์ชันภาษาอังกฤษมาเพียงครั้งเดียว ตอนเด็กมาก ๆ แต่ตอนนี้ก็ยังพอจำเรื่องราวได้
เสียงของไป๋โม่ซูน่าฟังมาก แม้ว่าน้ำเสียงเวลาเล่านิทานจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ แต่แค่ฟังเสียงอย่างเดียวก็เพลิดเพลินแล้ว
ในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาที เด็กน้อยในอ้อมกอดที่เพิ่งพูดว่าตัวเองนอนไม่หลับก็ส่งเสียงผ่านลมหายใจเข้าออกยาว ๆ ออกมาอย่างสม่ำเสมอ
มือทั้งสองกำหลวม ๆ วางลงบนหน้าอก กำลังหลับตาพริ้มนอนหลับฝันหวาน
ไป๋โม่ซู “…”
เล่านิทานมีผลเหมือนสะกดจิตเหรอ?
เขาอดหัวเราะในใจไม่ได้ ไม่นานรอยยิ้มก็ฉายชัดในดวงตา ชายหนุ่มโอบกอดหมอนนุ่มใบน้อยผล็อยหลับไปอย่างรวดเร็ว
วันถัดมาพวกเขาถูกปลุกด้วยเสียงร้องอย่างตกใจของไคน์
“บัดซบ! เมื่อคืนนี้มีอะไรบางอย่างที่แข็งแกร่งมากมาที่นี่”
ไคน์คอยปลอบประโลมหมาป่าหิมะทั้งสามที่กำลังกระวนกระวาย พลางอธิบายให้ทุกคนฟังด้วยสีหน้าจริงจัง
“ริคและเพื่อน ๆ สัมผัสได้ว่าสัตว์ใหญ่มาที่นี่เมื่อคืนนี้ มันเลยกระสับกระส่ายอยู่ไม่สุข ดูรอยเท้าบนพื้นหิมะตรงนั้นสิ ใหญ่มาก ต้องเป็นสัตว์ร้ายที่แข็งแกร่งมากแน่ ๆ”
ไคน์ชี้ไปที่รอยเท้าบนหิมะรอบบ้านที่ยังไม่หายไป เขาวางเท้าตัวเองลงบนขอบเพื่อเปรียบเทียบ มันใหญ่กว่าสองเท่าเต็ม ๆ