ฉันมีพี่ชาย 7 คน - บทที่ 208 ต่อหน้าต่อตา
บทที่ 208 ต่อหน้าต่อตา
เปิดเรียนวันที่สองเป็นวันที่แดดค่อนข้างจัด หนวนหน่วนถือกระเป๋าใบเล็กพร้อมกับบอกลาพี่ใหญ่ที่มาส่งเธอถึงโรงเรียน
“เลิกเรียนพี่จะมารับ”
หนวนหน่วนเด็กดีตอบกลับอย่างนุ่มนวล
“โอเคค่ะ บ๊ายบายพี่ใหญ่”
“ไปเถอะ จะเข้าเรียนแล้ว”
กู้อันจับมือน้องสาวแล้วเดินเข้าไปในโรงเรียน ในขณะที่กู้หนานเองก็เฝ้ามองดูทั้งคู่เดินหายลับตาปะปนเข้าไปกับฝูงชนก่อนจะขับรถออกไป
“หนวนหน่วน!”
ยังไม่ทันจะถึงห้องเรียน เสียงของหลินจิ่วก็ดังขึ้นมาจากด้านหลัง หลังจากนั้นเธอก็ตรงเข้ามาจับมือเล็กทั้งสองข้างของหนวนหน่วนแล้วยิ้มให้อย่างร่าเริง
“โชคดีจัง มาถึงก็เจอเธอเลย”
หลังจากทักทายหนวนหน่วนแล้ว หลินจิ่วก็เอ่ยทักกู้อันอีกครั้งอย่างจริงจัง
“พี่ชายหนวนหน่วนสวัสดีค่ะ”
กู้อันส่งยิ้มให้ “อรุณสวัสดิ์ เธอชื่อหลินจิ่วเหรอ หลังจากนี้พวกเรามีเรื่องอะไรก็คุยกันได้นะ”
เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วส่งให้
หลินจิ่ว “…แต่ว่าโรงเรียนไม่ให้ใช้โทรศัพท์นะคะ”
กู้อันคะยั้นคะยอต่อไป “เธอซื่อจัง ถ้าครูไม่เห็นก็ไม่เป็นไรหรอก”
“นี่นักเรียนคนนั้นถืออะไรเอาไว้ในมือน่ะ?”
เสียงของกู้อันค่อย ๆ เบาลง
นี่น่ะเรอะช่วงเวลาแห่งการเผชิญหน้าอย่างกล้าหาญ
คุณครูมุ่งหน้าตรงเข้ามาอย่างเด็ดเดี่ยว จ้องเขม็งไปที่โทรศัพท์ในมือของกู้อัน
กล้าดียังไงควักโทรศัพท์ออกมากลางโรงเรียนแบบนี้
กู้อัน “…”
ดูเหมือนว่าเขากำลังตกตะลึงอยู่ หนวนหน่วนจึงต้องดึงเสื้อของเขาแล้วรีบกระซิบเตือน “พี่เล็กรีบวิ่งเร็ว”
หลังจากได้สติกลับมากู้อันก็กำลังเตรียมจะเผ่นหนีไป “หนวนหน่วนไปห้องเรียนเองนะ”
“หยุดนะ!” คุณครูคนนั้นวิ่งไล่ตามเขาไป แต่เจ้าเด็กนั่นกลับวิ่งปราดไปแล้ว เขาจึงทำได้เพียงยืนหน้าตึงอยู่ตรงหน้าเด็กทั้งสอง
“นักเรียนคนนั้นชื่ออะไร อยู่ชั้นอะไรห้องไหน?”
หนวนหน่วนและหลินจิ่วส่งสายตาใสซื่อมองไปที่เขา ไม่มีคำพูดอะไรทั้งนั้น
“ครูครับผมอยู่ทางนี้ มาตามจับผมสิ”
กู้อันวิ่งกลับมาอีกครั้ง ก่อนจะเริ่มพูดจายั่วยุคุณครู
ครูคนนั้นเบิกตาโพลงอย่างแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง เขาเป็นครูมาหลายปี ไม่เคยเจอนักเรียนจอมอวดดีแบบนี้มาก่อนเลย เขาละความสนใจจากเด็กหญิงทั้งสองไปครู่หนึ่ง ก่อนจะรีบตามกู้อันไปด้วยความโกรธ
“ทั้งสองคนยืนอยู่นี่นะ อย่าไปไหน”
หนวนหน่วนและหลินจิ่ว “…”
เมื่อรอให้ครูคนนั้นตามกู้อันไป หลินจิ่วก็คว้ามือหนวนหน่วนวิ่งหนีไปด้วยกัน
แววตาของหนวนหน่วนมึนงงเล็กน้อย “ครูคนนั้นบอกว่า…”
หลินจิ่ว “เธอจะกลัวอะไร! โรงเรียนตั้งกว้าง เขาไม่รู้จักพวกเราด้วยซ้ำ ถ้าหนีไปก็ไม่มีทางรู้หรอกว่าเราเรียนอยู่ชั้นไหนห้องอะไร”
หนวนหน่วนครุ่นคิด เมื่อพบว่ามีเหตุผลดี เธอก็จับมือหลินจิ่ววิ่งนำหน้าไป
หลินจิ่ว “!!!”
นึกไม่ถึงเลย ขาก็สั้นขนาดนี้ทำไมวิ่งเร็วจัง!
เมื่อมาถึงระเบียงห้อง เด็กหญิงทั้งสองก็ดูเหมือนจะหายใจไม่ค่อยทันอยู่บ้าง ฝ่ามือจับอยู่ตรงหน้าเข่าขึ้นสีแดง แต่ถึงอย่างนั้นก็พวกเธอก็มองหน้าแล้วหัวเราะออกมาพร้อมกัน
เสียงเล็กของหนวนหน่วนพึมพำออกมา “หวังว่าพี่กู้อันจะไม่โดนจับนะ”
หลินจิ่วพาเธอเดินเข้าไปในห้องเรียน “วางใจเถอะ พี่ชายเธอวิ่งเร็วมาก”
รอยยิ้มบาง ๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของหนวนหน่วน เธอเคยคิดว่าตัวเองเป็นเด็กดีและเชื่อฟังมาก ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใครด้วย แต่ใครจะไปรู้ว่าเปิดเทอมวันแรกก็โดนเรียกเข้าห้องพักครูเลย แถมวันที่สองยังได้มีประสบการณ์น่าตื่นเต้นอีกด้วย
ถึงแม้ว่าในใจจะรู้สึกลนลานอยู่บ้าง แต่มันก็ตื่นเต้นดี
ทั้งสองปรับอารมณ์และเดินไปที่ห้องเรียนโดยมีกระเป๋านักเรียนสะพายอยู่ด้านหลัง นักเรียนส่วนใหญ่มาถึงกันเรียบร้อยแล้ว และส่วนมากกำลังเร่งรีบเขียนงานลงในสมุดอยู่บนโต๊ะ
เมื่อเห็นภาพตรงหน้าก็เตือนความจำหลินจิ่วขึ้นมาได้ทันที
“อ๊ะ! ฉันยังไม่ได้ทำการบ้านเลย”
เมื่อวานกลับบ้านไปก็เล่นเกมอย่างเดียว
เธอมองหนวนหน่วนตาละห้อย “หนวนหน่วนทำการบ้านเสร็จแล้วใช่ไหม?”
เด็กหญิงพยักหน้าแล้วเปิดกระเป๋าหยิบสมุดการบ้านออกมา ก่อนจะพูดขึ้น
“ทำเสร็จแล้ว”
“ขอยืมลอกแป๊บหนึ่งนะขอบคุณ!”
หลินจิ่วรีบลงมือลอกการบ้าน ส่วนหนวนหน่วนที่นั่งอยู่ด้านข้างก็กำลังนั่งอ่านหนังสืออย่างตั้งใจ
เมื่อเสียงกริ่งดังขึ้น หลินจิ่วถึงยอมวางปากกาลง
คาบนี้เป็นการศึกษาค้นคว้าด้วยตัวเองโดยมีหัวหน้าห้องคอยคุมให้ทุกคนอ่านหนังสือ และในบางครั้งก็จะมีคุณครูคอยมาเดินตรวจตราอยู่ตรงหน้าห้อง
เมื่อหนวนหน่วนเหลือบไปเห็นชายวัยกลางคนที่ศีรษะค่อนข้างโล้นและท่าทางเคร่งขรึมยืนอยู่ตรงประตู เธอก็รีบยกหนังสือในมือขึ้นมาปิดหน้าทันที
หลินจิ่ว “เป็นอะไร…”
หนวนหน่วนยกมือชูหนังสือขึ้นก่อนจะพูดเสียงกระซิบ
“ครูคนนั้นที่เจอเมื่อกี้”
หลินจิ่วแอบมองแล้วรีบหันกลับมาอย่างรวดเร็ว เขายังคงยืนถือหนังสืออยู่ตรงประตูแล้วจ้องมองอย่างจริงจัง แต่แล้วพวกเธอก็ได้แต่พึมพำภาวนาออกไปเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“อย่าเห็นพวกเราเลย อย่าเห็นพวกเราเลย…”
คุณครูที่ยืนเฝ้าอยู่ตรงประตูกวาดสายตามองในห้องเรียนอย่างถี่ถ้วน พวกนักเรียนส่วนใหญ่ต่างอ่านหนังสือกันหมด มีเพียงสองคนแถวหลังที่กำลังเร่งปั่นการบ้านอยู่
“พวกเธอสองคน ออกมาหาฉันหน่อย!”
เมื่อได้ยินคำพูดนั้น ตัวของหนวนหน่วนและหลินจิ่วก็สั่นเทาราวกับพวกเธอทำอะไรผิดมา จิตใต้สำนึกมันบ่งบอกว่าเขากำลังเรียกเธอทั้งสองคน
หัวใจดวงน้อยของทั้งคู่เต้นสั่นรัว ก่อนจะหันมองไปอย่างระมัดระวัง ตอนนั้นเองพวกเธอจึงรู้ว่าไม่ใช่ตัวเองที่ถูกเรียก
“คาบแรกเป็นวิชาศึกษาด้วยตัวเอง ตอนเช้าเป็นช่วงที่สมองของคนเราจดจำได้ดีที่สุด เขาถึงให้อ่านหนังสือศึกษาหาความรู้ด้วยตัวเอง แล้วพวกเธอสองคนดันมาแอบทำการบ้านในคาบเรียนรู้ด้วยตัวเอง เมื่อวานมัวไปทำอะไรอยู่…”
เด็กที่โดนเรียกออกไปเป็นนักเรียนชาย และในตอนนี้ก็กำลังโดนต่อว่าในขณะที่พวกเขาก็ก้มหน้ารับฟัง
เมื่อคุณครูคนนั้นเดินจากไป หนวนหน่วนกับหลินจิ่วก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
หลินจิ่วถอนหายใจอย่างหนักหน่วงแล้วพูดขึ้น “ฟู่ว… กลัวแทบตาย คิดว่าพวกเราจะโดนจับได้ซะแล้ว”
เมื่อได้ฟังคำพูดของเธอแล้วหนวนหน่วนก็พยักหน้าเห็นด้วย เธอตื่นเต้นมาก
หลังจากคาบศึกษาด้วยตัวเองจบลง เมื่อหนวนหน่วนส่งการบ้านเสร็จกู้อันก็เดินเข้ามาหาพวกเธอพอดี
ทันทีที่เดินเข้ามาถึงก็มองเห็นกลุ่มเด็กผู้ชายจับกลุ่มใช้มือพาดไหล่และพูดคุยเล่นกัน ดูสนุกสนานสบายใจราวกับอยู่บ้านตัวเอง
“หนวนหน่วน”
กู้อันเดินเข้ามาหาทีละก้าว ก่อนจะวางมือเท้าสะเอวแล้วเงยหน้าหัวเราะออกมา
“ครูที่ไล่ตามเมื่อเช้าจับไม่ได้ด้วยละ พี่ซ่อนโทรศัพท์เรียบร้อยแล้ว แล้วพวกเธอเป็นยังไงบ้าง?”
ขณะพูดเขาก็หยิบกระป๋องนมหวังไจ๋สองกระป๋องออกมาจากกระเป๋าของตนราวกับเสกได้ เด็กชายส่งกระป๋องหนึ่งให้หลินจิ่ว นี่เป็นเพื่อนสนิทที่โรงเรียนคนแรกของน้องสาว ต้องญาติดีกับเธอเอาไว้
เขาสอดมือเข้าไปข้างในอีกรอบแล้วส่งอีกกระป๋องให้หนวนหน่วน
“ยังร้อนอยู่รีบกินเลย”
เขาเพิ่งวิ่งไปที่ร้านค้าเพื่อซื้อมัน ตอนนั้นมันยังอยู่ในตู้อบพอดี
หนวนหน่วนถือนมหวังไจ๋แล้วยกมันขึ้นดื่มอย่างว่าง่าย แต่ก็ไม่ลืมที่จะตอบคำถามของพี่ชาย
“หนูกับหลินจิ่วไม่เป็นไรค่ะ แต่เมื่อเช้าตอนคาบศึกษาด้วยตัวเองครูคนนั้นมาคุมแถวห้องเรียนเราพอดี กลัวแทบแย่ว่าจะถูกจับได้”
กู้อันยกมือเกาศีรษะเมื่อได้ยินคำพูดนั้น “ไม่เป็นไรหรอก ต่อไปถ้ามีเรื่องแบบนี้แล้วครูถามก็ให้บอกเขาไปตรง ๆ เถอะ อย่างมากก็แค่ยึดโทรศัพท์ เดี๋ยวกลับไปค่อยซื้อใหม่ก็ได้”