จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) - บทที่ 446 ฉู่ชวิ๋นมาแล้ว
บทที่ 446 ฉู่ชวิ๋นมาแล้ว
บรรดาสัตว์ป่ากลายพันธุ์ที่จิ่วโยวนำขบวนมา พากันบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก
หวงหยิน หูฉือเอิน สองสัตว์ร้ายกลายพันธุ์ที่มีพลังขั้นจักรพรรดิระดับ 9 เมื่อร่วมวงต่อสู้ด้วยก็กลายเป็นการไล่ฆ่าอยู่เพียงฝ่ายเดียว
จิ่วโยวเองก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสอยู่ไม่น้อย พลังการต่อสู้ของเธอลดลงไปหลายเท่า
“องค์หญิงจิ่วโยว จงเปิดตามองดูให้ดี พวกข้าสามารถฆ่าลูกน้องของเจ้าได้เพียงแค่ดีดนิ้วมือ” หวงหยินยิ้มกว้าง
เปรี้ยง!
ลมปราณสีแดงสลับขาวเป็นประกายแวววาว หวงหยินยิงพลังจากฝ่ามือระเบิดหัวของสุนัขป่าตายไปอีกตัว
ฟ่อ!
ดวงตาของจิ่วโยวแยกออกกว้าง พลัน เด็กหญิงกลายร่างเป็นงูยักษ์ขนาดมหึมา พ่นมวลอากาศที่เย็นเยียบออกมาจากปากอย่างรุนแรง
หวงหยินหมุนตัวตีลังกากระโดดหลบไปยืนตั้งหลักอยู่ไกลๆ
มวลลมเย็นปกคลุมพื้นดินกินพื้นที่หลายสิบตารางเมตร ได้ยินเสียงดัง
“เปรี๊ยะ” แล้วพื้นดินตรงบริเวณนั้นก็เกิดรอยแตกร้าวทุกอณูนิ้ว
ร่างกายใหญ่ยักษ์ของจิ่วโยวเลื้อยไปข้างหน้าด้วยความรวดเร็ว หางของเธอตวัดเหมือนแส้เหล็ก ซัดกระแสพลังหลากสีสันพุ่งเข้าใส่หูฉือเอิน
หูฉือเอินหัวเราะในลำคอ โคจรม่านพลังสีเหลืองขึ้นมาห่อหุ้มร่างกายพร้อมกับซัดพลังตอบโต้ พลังลมปราณของมันพุ่งเป็นสายดูรุนแรงน่าหวาดกลัว
เปรี้ยง!
ภูเขาจิ้งจอกสั่นสะเทือนไปทั้งลูก เกิดการระเบิดขึ้นบนอากาศ หางขนาดใหญ่ยักษ์ของจิ่วโยวสะบัดออกมา เกล็ดงูหลุดกระเด็น เลือดสาดกระจาย
“นี่มันงูอะไรกันเนี่ย?” หูฉือเอินอุทานด้วยความสงสัย ด้วยตัวมันเองไม่เคยเจองูยักษ์ที่มีสีสันสวยงามอย่างนี้มาก่อน
“นางจะเป็นงูอะไรก็ช่างเถอะ รีบฆ่าทิ้งดีกว่า” หวงหยินคำรามออกมาด้วยความอำมหิต
จิ่วโยวพลันเลื้อยเข้ามาขดตัวเป็นวงกลมและบีบรัดพวกมันทั้งสองคนเอาไว้ตรงกึ่งกลาง
“ฉันไม่ออมมือให้หรอกนะ” หูฉือเอินพูดน้ำเสียงเหยียดหยาม ซัดพลังลมปราณสีเหลืองออกจากฝ่ามือ กระแทกเข้าใส่ลำตัวของจิ่วโยว
ในขณะเดียวกันนี้ ลมปราณสีทองก็ระเบิดประกายเจิดจ้า กระบองช่อหนามทองคำปรากฏขึ้นในมือของหวงหยิน มันลงมือด้วยความรวดเร็ว ฟาดกระบองลงไปบนตัวของงูยักษ์
ฟู่!
จิ่วโยวร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด กระบองช่อหนามปักเข้าที่หางของเธอ และตรึงเธอให้ติดอยู่กับพื้นดิน
“องค์หญิงจิ่วโยว”
เสือใหญ่และสิงโตทองคำพร้อมใจกันส่งเสียงร้องโหยหวน
“เก่งจริงก็เข้ามาฆ่าข้าแทนสิ ไอ้แก่หัวฟางข้าวเอ๊ย” สิงโตทองคำร้องคำราม
หวงหยินหันขวับกลับมามอง ยิ้มด้วยความอำมหิต “ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวก็ถึงตาของเจ้าแล้ว”
จิ่วโยวเปลี่ยนร่างกลับมาเป็นมนุษย์อีกครั้ง ขาขวาของเธอถูกกระบองปักติดอยู่กับพื้นดิน เลือดไหลทะลักออกมาไม่หยุด
หวงหยินดึงกระบองช่อหนามขึ้นมา ฟาดเข้าใส่จิ่วโยวอีกครั้ง เลือดเป็นสายสาดกระจาย เด็กหญิงล้มฟุบลงไปบนพื้นดินที่กลายเป็นพื้นโคลน
“องค์หญิงจิ่วโยว วันนี้จะเป็นวันตายของเจ้า” หวงหยินตวัดกระบองทองคำในมือ ร่างของจิ่วโยวลอยกระเด็นไปไกล บนเนื้อตัวเต็มไปด้วยบาดแผลจากหนามแหลมของกระบอง ขาข้างหนึ่งของเธออยู่ในสภาพห้อยร่องแร่งใกล้ขาดเต็มที
เปรี้ยง!
จิ่วโยวร่วงหล่นกระแทกพื้นดิน ร่างน้อยๆ หมุนกลิ้งไปหลายตลบ เลือดไหลนองเต็มพื้นดิน
“องค์หญิงจิ่วโยว”
พวกของสิงโตทองคำร้องคำรามด้วยความโกรธแค้น
“ฉันไม่เป็นไร” จิ่วโยวเสียงสั่นเครือ กระอักเลือดออกมาจากปากเวลาพูด ใบหน้าซีดขาวเป็นอย่างยิ่ง
แล้วกลุ่มสัตว์ป่ากลายพันธุ์จะสามารถเบาใจได้อย่างไร?
“ฉันทำให้พวกนายต้องผิดหวังแล้ว” จิ่วโยวพูดด้วยความละอายใจต่อบรรดาสัตว์ป่าที่เลือกติดตามเธอ
“องค์หญิงจิ่วโยว อย่าพูดอย่างนั้นเลย เป็นพวกเราเองที่เลือกติดตามท่าน ตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา เราสังหารพวกสัตว์ร้ายกลายพันธุ์ไปมากมาย เพียงเท่านั้นก็เพียงพอแล้ว” เสือใหญ่พูดน้ำเสียงหนักแน่น
“ถูกต้อง ฆ่าพวกมันตายตัวหนึ่งถือว่าเป็นทุน ฆ่าพวกมันได้สองตัวถือว่าเป็นกำไร แต่นี่พวกเราสามารถฆ่าพวกมันนับไม่ถ้วน แค่นี้ก็มาไกลเกินกว่าที่พวกเราคิดมากแล้ว” สิงโตทองคำก็ตะโกนออกมาเช่นกัน
“น่าประทับใจเหลือเกิน” หวงหยินยิ้มกริ่ม
“รีบจัดการพวกมันดีกว่า อย่าให้มีใครเหลือรอดไปได้เด็ดขาด” หูฉือเอินพูดเสียงแข็ง
หวงหยินพยักหน้า แล้วยิ้มกว้าง “องค์หญิงจิ่วโยว เตรียมตัวตายได้แล้ว!”
หวงหยินตวัดกระบองช่อหนาม ลมปราณสีทองคำเป็นประกายเจิดจ้า คมหนามกำลังจะฟาดเข้าใส่จิ่วโยวอีกครั้ง
ทันใดนั้นเอง บนท้องฟ้าปรากฏเงาดำขนาดใหญ่
หวงหยินกับหูฉือเอินเงยหน้ามองโดยไม่รู้ตัว พวกมันเห็นนกอินทรีเงินตัวหนึ่งบินวนอยู่บนท้องฟ้าบดบังแสงอาทิตย์
หวงหยินกับหูฉือเอินสีหน้าแปรเปลี่ยนแล้ว เมื่อตระหนักได้ว่าเจ้านกอินทรีตัวนี้เห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง
“เราจะทำอย่างไรดี? เจ้านกตัวนี้มันเห็นหมดแล้ว” หูฉือเอินถามเสียงแผ่วเบา
“เราต้องหาทางฆ่ามันให้ได้ พฤติการณ์ครั้งนี้จะให้ใครรู้เห็นไม่ได้เด็ดขาด” หวงหยินพูด แววตาเป็นประกายอำมหิต
“เดี๋ยวข้าจัดการเอง” หูฉือเอินพลิกฝ่ามือหนึ่งครั้ง คันธนูสีเขียวก็ปรากฏขึ้นในมือของมัน
“นี่มันธนูของพวกเอลฟ์ไม่ใช่หรือ?” หวงหยินอุทานด้วยความประหลาดใจ
หูฉือเอินพยักหน้า ตอบว่า “ข้าซื้อมาจากงานประมูล มันมีพลังมากพอที่จะยิงนกอินทรีเงินได้แน่นอน”
พูดจบ หูฉือเอินก็ประทับลูกศร น้าวคันธนูที่ยาวสองเมตร หรี่ตาเล็งเป้าหมาย
ฟุบ…!
ลูกศรสามดอกพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า แหวกอากาศด้วยความรวดเร็ว ลอยละลิ่วไปที่นกอินทรียักษ์ด้วยความแม่นยำ
“แย่แล้ว!” เจ้านกยักษ์คำรามในลำคอ กระพือปีกเตรียมบินหนี
แต่ความเร็วของลูกศรทั้งสามดอกนั้นมีมากเกินไปจนมันบินหนีไม่ทัน เจ้านกยักษ์ได้แต่เบิกตาโตขนลุกซู่ กรีดร้องออกมาสุดเสียง “พ่อจ๋า หนูตายแน่”
ฉู่ชวิ๋นระเบิดพลังลมปราณออกมาจากร่างกาย พลังลมปราณแผ่ออกมารุนแรงเสียจนมวลอากาศรอบตัวระเบิดตัวปั่นป่วนครืนครัน
ชายหนุ่มกระโดดลงมาจากหลังนกอินทรีพร้อมด้วยมวลพลังลมปราณนั้น เมื่อเผชิญหน้ากับลูกศรทั้งสามดอกที่พุ่งขึ้นมา เขาก็ยกมือขึ้นตบพวกมันหักกระจายด้วยความง่ายดายเป็นอย่างยิ่ง
หูฉือเอินกับหวงหยินคิดไม่ถึงเลยว่าจะมีมนุษย์ขี่อยู่บนหลังนกอินทรี พวกมันถึงกับยืนอึ้งไปครู่ใหญ่
เปรี้ยง!
ฉู่ชวิ๋นกระโดดลงมาถึงพื้นดิน พื้นดินเกิดรอยแตกร้าวเป็นวงกว้าง โดยที่มีเขายืนเด่นเป็นจุดศูนย์กลาง แผ่นดินถึงกับสั่นสะเทือนเมื่อฉู่ชวิ๋นลงมาจากท้องฟ้า
แต่ก่อนที่จะมีใครตั้งตัวได้ทัน ลมปราณรูปทรงฝามือขนาดใหญ่ยักษ์ก็ร่วงหล่นลงมาจากท้องฟ้า ทับลงไปที่เหนือศีรษะของหูฉือเอินกับหวงหยิน
สีหน้าของพวกมันทั้งสองตัวแปรเปลี่ยนไป ฝ่ามือใหญ่ยักษ์นี้มีพลังลมปราณมหาศาล ทำให้พวกมันต้องรีบกระโดดหลบโดยอัตโนมัติ
แต่น่าเสียดายที่จิ้งจอกปีศาจระดับสูงอีก 30 กว่าตัวไม่ได้มีความรวดเร็วเหมือนพวกมัน จิ้งจอกปีศาจเหล่านั้นจึงมีจำนวนไม่น้อยที่ร่างกายแหลกสลายอยู่ใต้ฝามือขนาดใหญ่ยักษ์
ครืน!
ภูเขาจิ้งจอกสั่นสะเทือนไปทั้งลูก แผ่นดินยุบตัว บนพื้นดินเกิดเป็นหลุมรูปฝ่ามือขนาดใหญ่ กินพื้นที่ลึกลงไปประมาณสามเมตร
จิ้งจอกปีศาจหลายสิบตัวต้องตายไปโดยไม่ทันได้ส่งเสียงร้องด้วยซ้ำ
แต่โชคดีที่ยังมีจิ้งจอกปีศาจบางส่วนอยู่พ้นรัศมีของฝ่ามือพิฆาต ถึงอย่างนั้น พวกมันก็โดนแรงอัดอากาศกระแทกเข้าใส่จนกระอักเลือดออกมามากมาย
หูฉือเอินกับหวงหยิน ถอยไปตั้งหลัก ยืนมองเหตุการณ์ด้วยสีหน้าสยองขวัญ
บรรดาสัตว์ป่ากลายพันธุ์ที่ติดตามจิ่วโยว ก็นอนนิ่งจ้องมองผู้มาใหม่เหมือนเป็นรูปปั้นแกะสลัก
หลังจากนั้นครู่ใหญ่ หูฉือเอินถึงได้ร้องครวญครางออกมาด้วยความเศร้า สมาชิกเผ่าพันธุ์จิ้งจอกปีศาจของมันถูกผู้คนฆ่าตายหลายสิบตัวในพริบตาเดียว ทำให้มันปวดใจเหลือเกิน
เสียงร้องครวญครางของหูฉือเอินทำให้ทุกคนได้สติกลับมาอีกครั้ง
พวกมันจ้องมองไปยังชายหนุ่มหน้าตาธรรมดาที่ยืนอยู่ตรงกลางหลุมขนาดใหญ่ ชายหนุ่มค่อย ๆ เดินขึ้นมาจากหลุม ร่างกายแผ่ไอสังหารออกมาอย่างรุนแรง
ฉู่ชวิ๋นเดินตรงเข้ามาหาจิ่วโยว เมื่อเห็นใบหน้าที่ซีดขาวของเธอ เขาก็ทั้งโกรธแค้นและปวดใจ
ยัยเด็กคนนี้ทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลังเสียเลย ถ้าเขามาช้ากว่านี้สักนาทีเดียว เหตุการณ์คงเลวร้ายเกินจะคาดเดา
ก่อนหน้านี้ ฉู่ชวิ๋นเดินทางไปที่ภูเขาอีกาดำ แต่ก็ไม่พบจิ่วโยว ถึงอย่างนั้น เขาก็เจอร่องรอยว่าเธอกำลังเดินทางมาที่ภูเขาจิ้งจอก เลยรีบตามมาทันที
“นายเป็นใคร…” จิ่วโยวมองหน้าฉู่ชวิ๋นด้วยความสงสัย
ตอนนี้ฉู่ชวิ๋นอยู่ในระหว่างปลอมตัว เด็กหญิงจึงจำเขาไม่ได้ แต่ก็รู้สึกคุ้นเคยกับจังหวะการหายใจของฉู่ชวิ๋น
“เงียบไปเลยนะ ยัยเด็กบ้า” ฉู่ชวิ๋นพูดด้วยความโกรธเคือง
จิ่วโยวดวงตาเป็นประกายสว่างไสว เด็กหญิงยิ้มหวาน เธอรู้สึกได้ทันทีว่าเขาก็คือฉู่ชวิ๋น
“ยังมีหน้ามายิ้มอีก” ฉู่ชวิ๋นดุ ขณะที่รู้สึกหัวใจเต้นผิดจังหวะด้วยความหวาดหวั่นกับรอยยิ้มของเด็กคนนี้
เมื่อเห็นว่าฉู่ชวิ๋นมีทีท่าว่าจะโกรธ จิ่วโยวก็ก้มหน้ารับฟังเหมือนเด็กน้อยที่โดนจับได้ว่าทำความผิด
ฉู่ชวิ๋นย่อกายลงมา โคจรลมปราณเยียวยาอาการบาดเจ็บของจิ่วโยว
เมื่อเห็นเส้นเลือดที่ขาของจิ่วโยวขาดหลุดลุ่ย ฉู่ชวิ๋นก็ต้องข่มความแค้นในจิตใจเอาไว้ แต่ไอสังหารก็ยังแผ่ออกมาจากร่างกายของเขาอย่างรุนแรงไม่หยุด
ฉู่ชวิ๋นเริ่มรักษาจิ่วโยวด้วยการห้ามเลือดก่อนเป็นอันดับแรก หลังจากนั้น จึงใช้เคล็ดวิชาลับต่อกระดูกเชื่อมเส้นเอ็นให้กลับเข้าที่เข้าทางอีกครั้ง
ลมปราณจำแลงมีอานุภาพในการรักษาอาการบาดเจ็บอย่างน่ามหัศจรรย์ แต่เด็กหญิงบาดเจ็บสาหัสหนักเกินไป โดยเฉพาะเส้นเอ็นและเส้นเลือดของขาข้างหนึ่ง จำเป็นต้องใช้สมุนไพรวิเศษนำมาโปะลงไปเพื่อเยียวยาบาดแผล
แต่เขาเดินทางมามือเปล่าและทิ้งสมุนไพรวิเศษทั้งหมดให้กับจิงหงในภูเขาหลงฉี
“ส่งแหวนมิติของพวกแกมาซะ” ฉู่ชวิ๋นหันกลับไปตะโกนใส่หูฉือเอินและหวงหยิน
ชายชราทั้งสองคนยืนนิ่ง ไม่ตอบรับคำใดอยู่นานสองนาน
“เจ้าเป็นใคร?” หูฉือเอินถามออกมาด้วยความเหยียดหยาม มันเพิ่งจะเห็นอีกฝ่ายฆ่าบริวานตายไปหลายสิบตัว แถมตอนนี้ยังมาสั่งให้มันมอบแหวนมิติให้อีก นี่คือเรื่องตลกผีสางอันใดกัน?
วูบ!
ฉู่ชวิ๋นขี้เกียจพูดจาให้มากความ ขณะนี้ไม่มีอะไรสำคัญเท่าการรักษาจิ่วโยวอีกแล้ว
ระยะห่างอยู่เพียงแค่ 100 เมตร ฉู่ชวิ๋นมาปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้าหูฉือเอินในพริบตา
หวงหยินตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ ฝ่ายตรงข้ามเคลื่อนไหวรวดเร็วมากเกินไป มันยังไม่ทันได้ตั้งตัวเลยด้วยซ้ำ
“อวดดีนัก!”
หวงหยินร้องคำรามในขณะที่กระแทกฝามือเข้าใส่ฉู่ชวิ๋น หมายจะซัดชายหนุ่มให้ลอยกระเด็นออกไป
ควับ!
ฉู่ชวิ๋นไม่สนใจพลังลมปราณของฝ่ายตรงข้ามที่พุ่งเข้ามา เขายกมือขึ้น แล้วตวัดมือคว้าจับข้อมือของชายชราเอาไว้
ผลั่ก!
ฉู่ชวิ๋นเตะหวงหยินลอยกระเด็นไปไกล
หวงหยินโดนจับข้อมือเอาไว้ ในขณะที่ตัวโดนเตะลอยกระเด็น เกิดแรงกระชากอย่างรุนแรง เลือดสีแดงสดพุ่งสูงในอากาศราวสามเมตร
หวงหยินส่งเสียงร้องโหยหวน แขนของมันฉีกขาดตั้งแต่ช่วงหัวไหล่ลงมา
ฉู่ชวิ๋นถอดแหวนมิติออกมาจากแขนข้างที่ขาด ก่อนที่เปลวไฟจะลุกโชติช่วงบนฝ่ามือของเขา เผาผลาญแขนข้างนั้นจนกลายเป็นเถ้าถ่าน
หูฉือเอินเบิกตาโตด้วยความตกตะลึง หวาดกลัวเกินกว่าจะลงมือโจมตี ในขณะที่ร่างกายก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว
ฉู่ชวิ๋นหมุนวนฝ่ามือแล้วตวัดออกไป พลังลมปราณพวยพุ่งแหลมคมเหมือนมีดดาบ มีเป้าหมายปลายทางอยู่ที่หูฉือเอิน
ชายชราคำรามในลำคอ โคจรลมปราณคุ้มกายขึ้นมากำบังร่างกาย ก่อนประกบฝามือเข้าด้วยกัน พลังลมปราณสีเหลืองพวยพุ่งออกมา ระดับความรุนแรงของมวลพลังลมปราณนี้เพียงพอที่จะทะลวงแผ่นเหล็กกล้าหนา 10 เซนติเมตร
แต่พลังลมปราณของฉู่ชวิ๋นแข็งแกร่งมากเกินไป สามารถสลายมวลพลังลมปราณสีเหลืองและทะลวงม่านพลังเข้ามาได้อย่างง่ายดาย
ฟู่!
หูฉือเอินร้องโหยหวน เลือดสีแดงสดสาดกระจาย แขนอีกข้างของมันถูกพลังลมปราณของฉู่ชวิ๋นตัดขาดในพริบตา
ฉู่ชวิ๋นเดินเข้าไปถอดแหวนเก็บสมบัติออกมาจากแขนข้างที่ขาดนั้น ก่อนที่จะเผาแขนข้างนั้นกลายเป็นเถ้าถ่านไปอีกหนึ่งข้าง
หลังจากนั้น ชายหนุ่มก็เดินกลับมาหาจิ่วโยว เปิดแหวนมิติทั้งสองวงและนำของที่อยู่ด้านในออกมา
สมุนไพรวิเศษ ดอกไม้วิเศษ ผลไม้วิเศษ สมุนไพรวิญญาณทองคำ สมุนไพรวิญญาณเงิน มีทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาต้องการแล้ว
นอกจากนี้ เขายังเจอคัมภีร์เคล็ดวิชาอีกหลายเล่ม แต่ฉู่ชวิ๋นไม่เสียเวลาอ่านมันเลยแม้แต่น้อย
เขาคัดเลือกสมุนไพรคุณภาพสูงสุด นำมาบดผสมรวมกันแล้วโปะลงไปบนบาดแผลของจิ่วโยว จากนั้นจึงเลือกผลไม้วิเศษที่มีคุณค่าเป็นยารักษาอาการบาดเจ็บให้เด็กหญิงรับประทาน
หูฉือเอินกับหวงหยินร้องครวญคราง ดิ้นทุรนทุรายอยู่บนพื้นด้วยความเจ็บปวดทรมาน
บรรดาจิ้งจอกปีศาจที่รออดชีวิตมาได้ แต่ก็ได้รับบาดเจ็บจากแรงอัดอากาศก่อนหน้านี้ ล้วนแล้วแต่ไม่กล้าลงมืออีกแล้ว
สิงโตทองคำ เสือใหญ่ และบรรดาสัตว์ป่ากลายพันธุ์ที่ติดตามจิ่วโยว ทุกตัวต่างเฝ้าดูเหตุการณ์ด้วยความสับสน
สัตว์กลายพันธุ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 9 สองตัวไม่อาจต้านทานพลังของชายหนุ่มผู้ปรากฏตัวใหม่คนนี้ได้เลย พวกมันไม่รู้ว่าตนเองควรจะทำอย่างไรดี
เห็นได้ชัดว่าคนผู้นี้มีพลังเข้าถึงขั้นเซียนไปแล้ว
แต่สิ่งที่ทำให้พวกมันรู้สึกเบาใจและมีความสุขก็คือ ชายหนุ่มคนนี้เป็นมิตร ไม่ใช่ศัตรู
“ช่วยรักษาพวกเขาด้วยสิ” จิ่วโยวขอร้องให้ฉู่ชวิ๋นช่วยรักษาอาการบาดเจ็บของพวกสิงโตทองคำ
ฉู่ชวิ๋นหันไปมองกลุ่มสัตว์ป่าและพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “เธอแอบหนีออกมาเพื่อเป็นหัวหน้าพวกมันเนี่ยนะ? แบบนี้จับพวกมันเอามาย่างไฟถลกหนังแล่เนื้อกินดีกว่า เนื้อกับเลือดของสัตว์ป่ากลายพันธุ์พวกนี้เป็นยาบำรุงกำลังชั้นดี มันจะช่วยรักษาอาการบาดเจ็บของเธอได้นะ”
สิงโตทองคำ เสือใหญ่ และสัตว์ป่ากลายพันธุ์ตัวอื่น ๆ ที่เหลืออยู่ เมื่อสักครู่นี้ยังโล่งใจที่ตนเองรอดตายมาได้อย่างหวุดหวิด แต่เมื่อได้ยินคำพูดของฉู่ชวิ๋น เลือดในกายของพวกมันก็พลันเย็นเฉียบขึ้นมาอีกครั้ง