จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) - บทที่ 441 เกิดใหม่
บทที่ 441 เกิดใหม่
ฉู่ชวิ๋นร้องโหยหวน ดวงตาแดงก่ำ เส้นเลือดที่ซ่อนอยู่ใต้ผิวหนังเต้นตุบ ๆ รูปลักษณ์ของชายหนุ่มดูน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง
ความเจ็บปวดนี่มันมากเกินไป ต่อให้โดนจับหักกระดูกทั้งเป็น ก็ยังไม่เจ็บปวดถึงเพียงนี้
“ท่านอาจารย์เจ้าคะ เขาจะไม่เป็นอะไรแน่หรือ?” จิงหงถามด้วยสีหน้าเป็นห่วง
“แมงป่องโลหิตเป็นสัตว์ดุร้ายมาตั้งแต่ยุคโบราณ เมื่อมันโตเต็มวัยจะมีความร้ายกาจไม่ต่างไปจากมังกรตัวหนึ่ง แต่นี่เป็นเพียงแค่ลูกของมันเท่านั้น พิษร้ายที่อยู่บนตัวของมันจะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ร่างกายของเจ้าหนู นี่คือวิธีสร้างความแข็งแกร่งให้เขาแบบรวดเร็วที่สุดแล้ว” อ๋าวฮวงอธิบายอย่างมีหลักการ
จิงหงมาจากดินแดนเซียน ย่อมเข้าใจเรื่องราวของพิษร้ายที่สามารถสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ร่างกายได้ไม่ยาก แต่เธอก็ยังทนรับไม่ไหวอยู่ดี สีหน้าของฉู่ชวิ๋นแสดงออกถึงความเจ็บปวดมากเกินไป
“ท่านอาจารย์ ช่วยเปิดผนึกจุดลมปราณของเขาไม่ได้หรือเจ้าคะ”
จักรพรรดิอ๋าวฮวงปฏิเสธโดยไม่ต้องคิดเลยสักนิดว่า “พิษของแมงป่องโลหิตสามารถช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งได้ทั้งพลังวิญญาณ เนื้อกระดูกและผิวหนัง ถ้าเปิดผนึกจุดลมปราณในตอนนี้ เจ้าหนูมันก็จะใช้พลังลมปราณขับไล่พิษเหล่านั้นออกไป แล้วที่ทำมาทั้งหมดนี้ มันจะมีประโยชน์อะไร?”
จิงหงรู้ดีว่าจักรพรรดิอ๋าวฮวงทำเพื่อผลดีของฉู่ชวิ๋นเอง แต่ใบหน้าที่เจ็บปวดของฉู่ชวิ๋นทำให้หญิงสาวรู้สึกเจ็บปวดหัวใจ เธอไม่อาจทนมองชายหนุ่มได้อีกต่อไปแล้ว
“นี่มันอะไรกัน…”
ฉู่ชวิ๋นร้องคำราม ดวงตาเบิกโต ผิวหนังของเขากลายเป็นสีแดงเถือก
“ไอ้เฒ่า ปล่อยฉันออกไปเดี๋ยวนี้นะ” ฉู่ชวิ๋นรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะตาย สมองวุ่นวายสับสน
“ยังมีแรงมาปากเก่งใส่ข้าได้แบบนี้ แสดงว่ายังเจ็บปวดไม่มากพอสินะ” อ๋าวฮวงเดินไปนั่งตกปลาอย่างไม่สนใจอะไรอีกแล้ว
วูบ!
แมงป่องโลหิตที่มีขนาดตัวเท่าฝ่ามือคน วิ่งวนไปทั่วร่างกายของฉู่ชวิ๋น
ถ้าใช้พลังลมปราณได้ตามปกติ ฉู่ชวิ๋นก็จะสามารถจัดการกับแมงป่องตัวนี้ได้เพียงแค่ดีดนิ้วมือ แต่จุดกำเนิดลมปราณของเขาถูกปิดผนึกเอาไว้ ตอนนี้จึงทำได้เพียงสะบัดตัวหนีเท่านั้น
ฉู่ชวิ๋นน้ำตาไหลนองใบหน้าด้วยความอับอาย ตัดสินใจยกมือบีบจมูก ก่อนที่จะดำลงไปใต้น้ำ ไม่สามารถทนทานความเจ็บปวดได้อีกต่อไป
แมงป่องโลหิตปีนขึ้นไปอยู่ที่ขอบอ่างน้ำ ก้ามแหลมคมของมันชูขึ้นมาอย่างน่าสยองขวัญ ดวงตาจับจ้องฉู่ชวิ๋นที่ซ่อนตัวอยู่ใต้น้ำด้วยความหมายมั่น พร้อมกันนั้นก็ส่งเสียงขู่น่าขนลุก
ฉู่ชวิ๋นที่ซ่อนตัวอยู่ใต้น้ำ แอบคิดในใจว่า “เอาเลยสิ โมโหนักแกก็ทำลายอ่างน้ำนี้ทิ้งไปซะ”
อ๋าวฮวงเหลียวหน้ากลับมาหัวเราะชอบใจ “ดีมาก ทำต่อไปเถอะ”
ถ้าสามารถใช้พลังลมปราณได้ตามปกติ ฉู่ชวิ๋นก็จะอยู่ใต้น้ำได้นานหลายชั่วโมง แต่ตอนนี้เขาใช้พลังลมปราณไม่ได้ ถึงร่างกายจะแข็งแรงกว่ามนุษย์ทั่วไป แต่ก็อยู่ใต้น้ำได้แค่เพียง ไม่กี่นาทีเท่านั้น
ฟู่!
ฉู่ชวิ๋นกลั้นหายใจไม่ไหวอีกต่อไป ต้องรีบพุ่งตัวขึ้นมาจากใต้น้ำ แล้วแมงป่องโลหิตก็กระโดดเกาะใบหน้าของเขาทันที
“อ๊าก…” ฉู่ชวิ๋นร้องโหยหวน ไม่เคยโกรธแค้นกันมาก่อน แต่ทำไมแมงป่องโลหิตถึงได้มาเกาะใบหน้าของเขาได้กันละ
ฉู่ชวิ๋นเดือดดาลมากแล้ว แมงป่องโลหิตกระโดดหนีไปเกาะที่ขอบอ่างน้ำ ชายหนุ่มเอื้อมมือตบลงไปด้วยความโมโห แต่กลายเป็นว่ามือของเขาเมื่อตบโดนร่างกายของมัน ก็เกิดความรู้สึกเหมือนถูกไฟลนจนร้อนฉ่า ส่งผลให้มือข้างนั้นพุพองจนได้กลิ่นเนื้อไหม้ลอยขึ้นมาเตะจมูกด้วยซ้ำ
แมงป่องโลหิตร้ายกาจยิ่งนัก เขาไม่มีทางแตะต้องตัวมันได้เลย
เมื่อเห็นว่าแมงป่องโลหิตจะกระโดดเข้าใส่ตนเองอีกครั้ง ฉู่ชวิ๋นก็ขนลุกซู่ กลั้นหายใจแล้วมุดหนีลงไปใต้น้ำอีกครั้ง
แมงป่องโลหิตชูก้ามแหลมของมันโบกไปโบกมา เช่นเดียวกับหางที่สะบัดอยู่ตลอดเวลา มันวิ่งวนอยู่บนขอบอ่างน้ำ จ้องมองฉู่ชวิ๋นด้วยความตลกขบขัน
น่าเศร้าที่ฉู่ชวิ๋นต้องพ่ายแพ้ให้แก่สัตว์ร้ายชนิดนี้ทุกรูปแบบ
ถึงแม้ว่าเขาจะดำลงมาใต้น้ำ แต่ความเจ็บปวดของฉู่ชวิ๋นก็ไม่ได้หายไปไหน ผิวหนังของเขายังคงแดงเถือก แขนขาสั่นเทา ทำให้ผิวน้ำไหวเป็นระลอกคลื่น
วูบ!
ไม่กี่นาทีเท่านั้น ฉู่ชวิ๋นก็ต้องโผล่ขึ้นมาเพื่อสูดอากาศหายใจ แต่เขาก็ถูกแมงป่องโลหิตโจมตีอีกครั้ง
คราวนี้เจ้าแมงป่องถึงขั้นกระโดดเกาะบนหัวของเขาเลยทีเดียว
“ไม่นะ…” ฉู่ชวิ๋นร่ำร้องครวญครางด้วยน้ำเสียงโหยหวน ดวงตาของเขาเหลือกลาน จิตใจสับสน ต้องรีบก้มหัวมุดกลับลงไปใต้น้ำอีกครั้ง
ผลที่ได้ก็คือ ชายหนุ่มสำลักน้ำ ร่างกายตอบสนองโดยอัตโนมัติให้โผล่ขึ้นมากลับสู่ผิวน้ำ แต่แมงป่องโลหิตก็กระโดดลงมาเกาะที่ศีรษะของเขาด้วยความว่องไว ได้ยินเสียงดัง “ฉ่า” แล้วเส้นผมของฉู่ชวิ๋นก็มีเปลวไฟลุกโชติช่วง ความเจ็บปวดแล่นพล่านกัดกินลึกไปถึงหัวใจ
“อ๊าก…”
ฉู่ชวิ๋นส่งเสียงกรีดร้อง ร่างกายชักกระตุกเหมือนโดนไฟฟ้าช็อต น้ำลายฟูมปาก เป็นลมหมดสติไปทั้ง ๆ ที่ดวงตาเหลือกค้าง แต่ไม่ถึงสามวินาทีต่อมา ความเจ็บปวดเหล่านั้นก็ทรมานให้เขากลับมาได้สติอีกครั้ง
มันคงจะดีกว่านี้ถ้าเขาหมดสติไปเลย แต่ฉู่ชวิ๋นก็ถูกปลุกขึ้นมาให้มีสติทุกวินาที
“ตาเฒ่าอ๋าว ไอ้แก่หนังเหี่ยว ไอ้ไส้เดือนโสโครก ฉันจะฆ่าแก” ฉู่ชวิ๋นร้องคำรามอย่างหมดหนทางสู้อยู่ในอ่างน้ำ
“จิงหง เธอใจดำเหลือเกินนะ ฉันต้องตายแน่ ๆ เธอรอเป็นม่ายได้เลย!”
“ไอ้แก่อ๋าว อย่าให้ฉันหลุดออกไปได้นะ ฉันจะเลาะเส้นเอ็นของแกมาทำเป็นเข็มขัด จะถลกหนังของแกมาทำเป็นเสื้อคลุม”
“จิงหง ช่วยฉันด้วย ฉันกำลังจะตายแล้ว ไอ้แก่นี่มันจะฆ่าฉัน”
ฉู่ชวิ๋นร่ำร้อง สบถสาบาน น้ำเสียงแหบแห้ง
แต่อ๋าวฮวงแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน ยังคงกิน ดื่มและตกปลาอย่างสบายอารมณ์ตามปกติ
ถึงแม้ว่าจิงหงจะได้ยินทุกถ้อยคำ แต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้
อีกหนึ่งเดือนเต็มๆ ผ่านไป ฉู่ชวิ๋นต้องพบกับความทรมานน่าสยองขวัญ ชีวิตของเขาไม่ต่างจากผ่านความตายมาแล้ว
ตลอดระยะเวลาหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ฉู่ชวิ๋นไม่ได้กิน ไม่ได้ดื่ม ไม่ได้หลับนอน ถูกทรมานทั้งวันทั้งคืนจนแทบเสียสติ
แต่แมงป่องโลหิตเพิ่งจะลดขนาดลงมาเหลือเพียงแค่ครึ่งฝ่ามือเท่านั้น
“ถ้าเป็นแบบนี้ อีกเดือนเดียวก็คงเสร็จสิ้น” จักรพรรดิอ๋าวฮวงพูดออกมาหลังจากยืนวิเคราะห์อยู่ครู่ใหญ่
เมื่อฉู่ชวิ๋นได้ยินว่าต้องทนรับชะตากรรมไปอีกหนึ่งเดือนเต็ม เขาก็อดไม่ได้ต้องเอาหัวโขกขอบอ่างน้ำด้วยความท้อใจ
อ๋าวฮวงตรวจสอบผิวหนังของฉู่ชวิ๋นอย่างละเอียดถี่ถ้วน บาดแผลที่ถูกแมงป่องกัดและต่อยหายดีหมดแล้ว
“ตาเฒ่าจะทำอะไรอีก?” ฉู่ชวิ๋นรู้สึกขนลุกขึ้นมาแปลก ๆ
“ร่างกายช่วงบนของเจ้าได้รับพิษจากแมงป่องโลหิตจนแข็งแกร่งดีแล้ว ทีนี้ก็เหลือแต่ร่างกายท่อนล่างเท่านั้น” จักรพรรดิอ๋าวฮวงพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
“ไม่เอานะ!” ฉู่ชวิ๋นอุทานออกมาด้วยความตื่นกลัว
อ๋าวฮวงยื่นมือออกไป เสกให้น้ำในอ่างน้ำระเหยหายไปหมดในพริบตาเดียว
“ตาเฒ่า อย่ามาก่อกวน กล้าดียังไง?” ฉู่ชวิ๋นรีบปีนออกมาจากอ่างน้ำด้วยความรวดเร็วยิ่ง
อ๋าวฮวงไม่สนใจเขาแม้แต่น้อย โบกสะบัดมือเพียงครั้งเดียว ฉู่ชวิ๋นก็ลอยกระเด็นกลับลงไปอยู่ในอ่างน้ำดังเดิม
จิงหงหน้าแดงซ่านเพราะฉู่ชวิ๋นไม่ได้ใส่เสื้อผ้าเลยสักชิ้น
อ๋าวฮวงหันไปมองหน้าฉู่ชวิ๋น แล้วพูด “ห้องเครื่องยังสมบูรณ์ดีอยู่นี่นา”
ฉู่ชวิ๋นทั้งอับอายทั้งโกรธแค้น ถลึงตามองอ๋าวฮวงด้วยความดุร้าย เหมือนอยากจะกินเนื้อเถือหนังอีกฝ่ายหนึ่งเสียเต็มประดา
อ๋าวฮวงซัดพลังลมปราณออกมาจากฝ่ามือ ฉู่ชวิ๋นลอยกระเด็นขึ้นไปในอากาศ ตีลังกากลับหัวกลับหาง ก่อนที่จะหล่นลงมาในอ่างน้ำอีกครั้งในสภาพที่ขาชี้ฟ้า
“อีกหนึ่งเดือนต่อจากนี้ ข้าจะเน้นไปที่การรักษาช่วงล่างของเจ้า” อ๋าวฮวงพูดด้วยน้ำเสียงชั่วร้าย ฉู่ชวิ๋นไม่มีทางรู้เลยว่าชายชรากำลังจะทำอะไรกับตนเองบ้าง
ฉู่ชวิ๋นโกรธแค้นจนแทบกระอักเลือด ลักษณะท่าทางของเขาในตอนนี้ มันน่าขายหน้ามากเกินไป
เนื่องจากว่าไม่มีน้ำอยู่ในอ่างน้ำอีกแล้ว ฉู่ชวิ๋นเปลือยกายกลับหัวกลับหางอยู่ในอ่าง ภาพลักษณ์ของเขาถูกทำลายยับเยิน ชายหนุ่มอับอายจนอยากจะมุดแผ่นดินหนีนัก
“ตาเฒ่าสารพัดพิษ ปล่อยฉันออกไปเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นได้เห็นดีกันแน่” ฉู่ชวิ๋นตะโกนสุดเสียง
“จะทำอะไรก็ทำเถอะ!” อ๋าวฮวงยกมือขึ้นสร้างม่านพลังปิดเสียง แล้วเขาก็ไม่ได้ยินเสียงดุด่าจากฉู่ชวิ๋นอีกต่อไป
แต่อันที่จริง ฉู่ชวิ๋นไม่อยากเสียเวลาไปกับการดุด่าชายชราอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้เขาอยู่นิ่งไม่ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว แมงป่องโลหิตที่เกาะอยู่บนขอบอ่างน้ำทางด้านซ้ายมือระเบิดเสียงหัวเราะด้วยความชอบใจ ก่อนที่มันจะกระโดดเข้าใส่เขาอีกครั้ง
“อ๊าก…” ฉู่ชวิ๋นส่งเสียงร้องโหยหวน สั่นเทาไปทั้งตัว รู้สึกเหมือนกลับไปตกนรกทั้งเป็นอีกครั้ง
ผ่านไปอีกประมาณ 7 ถึง 8 วัน เสียงของฉู่ชวิ๋นก็แหบแห้งหมดแล้ว ร่างกายของเขาซูบผอม บางครั้งชายหนุ่มคิดถึงการฆ่าตัวตายด้วยซ้ำ
แมงป่องโลหิตทำหน้าที่ของมันอย่างขยันขันแข็ง ทรมานฉู่ชวิ๋นทั้งวันทั้งคืนอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
“แกจะทำอะไรอีก?” วันนี้ ฉู่ชวิ๋นเห็นแล้วว่าเจ้าแมงป่องโลหิตกำลังจับจ้องส่วนไหนของร่างกายเขาอยู่ ชายหนุ่มรีบร้องออกมาด้วยความสยองขวัญทันทีว่า “ไปให้พ้นนะ แกจะมากัดตรงนี้ไม่ได้…”
หลังจากนั้น เสียงร้องโหยหวนก็ดังสนั่นหวั่นไหว นับเป็นเสียงร้องที่สะเทือนฟ้าสะท้านดิน แม้แต่ม่านพลังปิดเสียงก็หยุดยั้งเสียงกรีดร้องของฉู่ชวิ๋นไม่ได้อีกแล้ว
อ๋าวฮวงนั่งตกปลาอยู่แถวนั้น ปลาที่กำลังจะกินเบ็ดพลันว่ายหนีไปทันทีเมื่อได้ยินเสียงร้องของฉู่ชวิ๋น
จักรพรรดิอ๋าวฮวงหันหน้ากลับไปมองด้วยความประหลาดใจ นี่มันเกิดอะไรขึ้น? แม้แต่ม่านพลังปิดเสียงก็ใช้ไม่ได้ผลแล้วหรือ?
หลังจากเดินมาดูและพบว่าแมงป่องโลหิตกัดส่วนไหนของฉู่ชวิ๋น อ๋าวฮวงยืนนิ่งอยู่สักครู่หนึ่ง ก่อนที่จะหัวเราะจนตัวโยน
ขณะนี้ แมงป่องโลหิตยังคงกัดส่วนนั้นอยู่ไม่ปล่อย ตัวของมันห้อยต่องแต่งโบกสะบัดไปมา เหมือนเป็นลูกตุ้มของนาฬิกากําลังแกว่งไกวอย่างไรอย่างนั้น
ฉู่ชวิ๋นร้องไห้น้ำหูน้ำตาไหล ศักดิ์ศรีของเขาถูกทำลายยับเยินไม่เหลือชิ้นดี
……
……
หนึ่งเดือนผ่านไปในพริบตาเดียว
เมื่อถึงตอนนี้ แมงป่องโลหิตก็ได้สูญสลายไปแล้ว ฉู่ชวิ๋นมีร่างกายผอมแห้ง ผิวหนังเป็นสีแดงก่ำ แต่นั่นก็ยังไม่น่ากลัวเท่ากับความโกรธแค้นของเขา แม้จะอยู่ในสภาพครึ่งเป็นครึ่งตายก็ตาม
อ๋าวฮวงสลายม่านพลัง อุ้มฉู่ชวิ๋นขึ้นมาจากอ่างน้ำ เปิดผนึกจุดลมปราณ ก่อนที่จะโยนชายหนุ่มลงไปในบ่อน้ำโครมใหญ่
ซ่า!
ฉู่ชวิ๋นจมลงไปในบ่อปลาคาร์ฟ สะเก็ดสีแดงเหมือนขี้สนิมหลุดลอกขึ้นมาบนผิวน้ำจำนวนมาก ควันสีขาวลอยโขมง ผิวน้ำมีฟองน้ำผุดพราว บ่งบอกว่าน้ำในบ่อกำลังเดือดปุด ๆ
วูบ!
พลังวิญญาณที่หลอมรวมจากทั้งโลกมนุษย์และสวรรค์ไหลรินลงมาสู่ผืนน้ำ ก่อนที่จะซึมซับเข้าสู่ร่างกายฉู่ชวิ๋น
ฉู่ชวิ๋นนั่งขัดสมาธิอยู่ที่ก้นบ่อน้ำ ดวงตาปิดสนิท ดูดซับพลังงานทุกอย่างที่รายล้อมรอบกาย
ทุกอย่างดำเนินไปเช่นนี้เป็นเวลานับสัปดาห์
เช้าวันนี้ ฉู่ชวิ๋นได้ยินเสียงดังเปรี๊ยะปร๊ะรอบตัว เหมือนกับว่ามีบางอย่างกำลังแตกหัก
นั่นคือเสียงผิวหนังของฉู่ชวิ๋นกำลังปริแตก เกิดรอยร้าวขึ้นทั่วตัวของเขา มองไปแล้วเหมือนมีใยแมงมุมเกาะอยู่ทั่วร่างกาย
หลังจากนั้น รอยร้าวบนร่างกายก็หยุดขยายตัว สวนทางกับร่างกายซูบผอมของฉู่ชวิ๋นที่พองโตขึ้นเรื่อยๆ
ตู้ม!
พลังลมปราณระเบิดออกมาจากร่างกายของฉู่ชวิ๋น ผิวหนังชั้นนอกของเขาที่เป็นรอยแตกร้าวระเบิดกระจาย เผยให้เห็นผิวหนังชั้นด้านในที่เรียบเนียนและชุ่มชื้นเป็นอย่างยิ่ง
การกำเนิดใหม่
การผลัดเปลี่ยนผิวหนังใหม่ ไม่ต่างอะไรจากการเปลี่ยนโครงกระดูกใหม่ นี่เท่ากับเป็นการกำเนิดใหม่ชนิดหนึ่ง
ฉู่ชวิ๋นพลันลืมตาขึ้นมาแล้ว ลำแสงสีแดงสดพุ่งออกมาจากดวงตาของเขาในขณะที่พลังลมปราณก็แผ่ออกมาจากร่างกายอย่างรุนแรง
วูบ!
ผิวน้ำแตกกระจาย ฉู่ชวิ๋นกระโดดกลับขึ้นมาจากบ่อน้ำ เขายกมือขึ้นควบคุมพลังลมปราณ รู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าตัวเองแข็งแกร่งกว่าก่อนหน้านี้
คราวนี้ เขาไม่เพียงเหมือนได้ตายแล้วเกิดใหม่ แต่ระดับพลังยังเลื่อนขึ้นมาอยู่ที่ขั้นแก่นแท้ลมปราณช่วงปลาย!
“ไม่เลวเลยนะ!”
อ๋าวฮวงเดินเข้ามาโยนเสื้อผ้าชุดสีขาวให้กับฉู่ชวิ๋น
ฉู่ชวิ๋นรับเสื้อผ้ามาสวมใส่อย่างรวดเร็ว ก่อนที่มุมปากของเขาจะยกตัวเป็นรอยยิ้มเล็กน้อย แล้วจึงยกมือขึ้น ซัดพลังลมปราณใส่จักรพรรดิอ๋าวฮวงอย่างไม่บอกไม่กล่าว
“ไอ้เจ้าเด็กคนนี้” อ๋าวฮวงตกใจไม่ใช่น้อย ขณะที่ยกมือสลายพลังที่ฉู่ชวิ๋นซัดเข้ามา
“กล้ามาสู้กับผม แบบที่ปรับพลังให้เท่ากันไหมล่ะ?” ฉู่ชวิ๋นท้าทาย
อ๋าวฮวงระเบิดเสียงหัวเราะ แล้วตอบ “ได้เลย ขอดูหน่อยก็แล้วกันว่าเจ้าแข็งแกร่งสักแค่ไหนเชียว?”
เมื่อพูดจบแล้ว อ๋าวฮวงก็ปรับระดับพลังของตนเองลดลงมาอยู่ที่ขั้นแก่นแท้ลมปราณช่วงปลาย
วูบ!
พลังลมปราณสีแดงระเบิดออกมาจากร่างกายของฉู่ชวิ๋น เขากระโดดมายืนอยู่เบื้องหน้าจักรพรรดิอ๋าวฮวง ก่อนที่จะยกกำปั้นขึ้นต่อยออกไปอย่างรุนแรง
อ๋าวฮวงสร้างม่านพลังสีขาวขึ้นมาห้อมล้อมรอบกาย รอรับแรงกระแทกจากกำปั้นของฉู่ชวิ๋นด้วยความเรียบง่าย
เปรี้ยง!
กำปั้นปะทะเข้ากับม่านพลัง มวลอากาศระเบิดตัวทันที
สีหน้าของจักรพรรดิอ๋าวฮวงแปรเปลี่ยนไป ในขณะที่ร่างลอยกระเด็นไปไกลด้วยฤทธิ์หมัดของฉู่ชวิ๋น
หลังจากนั้น ฉู่ชวิ๋นกระโดดตามติดไป และรัวกำปั้นใส่ไม่ยั้งมือ
เปรี้ยง…!
หลังจากถูกต่อยไปหลายหมัด อ๋าวฮวงที่ลดพลังมาอยู่ในระดับเดียวกับฉู่ชวิ๋นก็ไม่สามารถต้านทานหมัดของชายหนุ่มได้เลย ชายชราถูกต่อยกระเด็นไปครั้งแล้วครั้งเล่า ริมฝีปากแตกมีเลือดไหลซิบ รอยช้ำปรากฏให้เห็นเด่นชัด
ถ้ามีระดับพลังเท่ากัน เห็นได้ชัดว่าฉู่ชวิ๋นมีความได้เปรียบกว่ามาก
“เจ้าหนู หยุดมือก่อน”
เมื่อเห็นว่าฉู่ชวิ๋นกำลังจะกระโจนเข้ามาต่อยตนเองอีกครั้ง อ๋าวฮวงก็รีบยกมือห้ามปราม
แต่น่าเสียดายที่ฉู่ชวิ๋นรั้งหมัดของตัวเองไม่ทันอีกแล้ว จักรพรรดิอ๋าวฮวงถูกต่อยกระเด็นไปไกลหลายร้อยเมตร เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว ชายชราลอยทะลุภูเขาด้านข้างราวกับเป็นลูกปืนใหญ่
ฉู่ชวิ๋นยิ้มมุมปากด้วยความชอบใจ นี่คือการแก้แค้นแบบทบต้นทบดอก เห็นได้ชัดเจนว่าชายหนุ่มไม่เคยลืมเลือนที่จักรพรรดิอ๋าวฮวงทรมานตนเองก่อนหน้านี้
วูบ!
ตัวคนเคลื่อนไหวด้วยความรวดเร็ว แต่ประกายแสงจากหมัดพุ่งมาถึงก่อนที่ฉู่ชวิ๋นจะเข้าใกล้หน้าผาหินเสียอีก หลังจากนั้น จักรพรรดิอ๋าวฮวงก็ถูกรัวหมัดต่อยอย่างต่อเนื่อง
โครม!
แผ่นดินไหว หน้าผาหินถล่มลงมา ฝังร่างของอ๋าวฮวงจมอยู่ด้านล่างในพริบตาเดียว