จอมนางข้ามพิภพ - บทที่ 236 กล้าคิดแย่งผู้ชายข้า หาเรื่องตาย
จอมนางข้ามพิภพ บทที่ 236 กล้าคิดแย่งผู้ชายข้า หาเรื่องตาย
“เจ้าออกทางหน้าต่างด้านหลัง ไม่ต้องสนใจพวกเรา รีบไป” หยุนถิงบอก
“จะทำเช่นนั้นได้อย่างไร ข้าจะทิ้งเจ้าไว้คนเดียวได้อย่างไร ข้าจะพาเจ้าไปก่อน” โม่ฉือชิงบอกอย่างห้าวหาญ
“อย่ามาพิรี้พิไร เจ้าคนเดียวพาพวกเราสองคนออกไปไม่ได้ดอก หากโดนพบเจอ ฝ่าบาทต้องลงโทษเจ้าด้วยแน่ เจ้าไปพวกเราถึงจะปลอดภัย รีบไป เชื่อข้า ข้าไม่มีทางยอมให้พวกนั้นสมหวังหรอก” หยุนถิงเร่งเร้า
โม่ฉือชิงหมดหนทาง เห็นหยุนถิงพูดอย่างจริงจังขนาดนี้ เลยได้แต่หนีไปทางหน้าต่างด้านหลัง
หยุนถิงเหล่มองซ่างกวนหรูที่สลบบนเตียง สายตาส่อแววดุดันขึ้น
กล้าคิดแย่งผู้ชายข้า หาเรื่องตาย
ในเมื่อซ่างกวนหรูวางแผนมากขนาดนี้ ไม่เสียดายจัดฉากใหญ่ขนาดนี้ ถ้าหยุนถิงไม่ทำอะไรสักหน่อย คงจะผิดต่อซ่างกวนหรูแน่
หยุนถิงถอดเสื้อชั้นในบนตัวซ่างกวนหรูทิ้งไป และถอดกางเกงของนางด้วย จากนั้นหยิบเลือดถุงหนึ่งจากในมิติแตกออก และสาดลงไปบนเตียงสีขาวหลายหยด
ถ้าเทียบเรื่องความแรง เธอไม่เคยแพ้ให้ใครมาก่อน
หยุนถิงจัดการเรียบร้อยก็จูงมือจวินหย่วนโยว พลันคิดว๊าบ ทั้งสองคนเข้าไปในมิติ พอเห็นซื่อจื่อที่สลบไสล หยุนถิงคิดอะไรขึ้นมา ในมิติพลันมีผู้ชายคนหนึ่งปรากฏขึ้น พอได้ยินเสียงฝีเท้าด้านนอกมิติดังมาถึงหน้าประตูห้องแล้ว หยุนถิงถีบผู้ชายที่ใช้จิตสร้างมานั่นออกนอกมิติทันที
“ผ่าง!” ประตูห้องโดนคนเปิดออกจากด้านนอก
ฮ่องเต้ ฮองเฮา และคนอื่นๆอีกสิบกว่าคนพากันเดินเข้ามาจากด้านนอก พอเห็นภาพบนเตียง ทุกคนพากันตะลึง!
บนเตียง ชายผู้หนึ่งหันหลังให้ด้านนอก นอนเรือนร่างเปลือยเปล่าอยู่ตรงนั้น แขนโอบสตรีนางหนึ่งไว้ สตรีนางนั้นไร้ซึ่งอาภรณ์ใดๆ ขาวเนียนไปทั้งตัว ทำทุกคนตาพร่าไปชั่วขณะ โดยเฉพาะรอยเลือดสีแดงบนเตียงสีขาวนั่นช่างเสียดแทงสายตาอย่างเห็นได้ชัดนัก
ชายผู้นั้นหันหน้าเข้าด้านใน ทำให้มองหน้าไม่ชัด แต่ใบหน้าสตรีนางนั้นกลับหันออกด้านนอก ทุกคนมองแวบเดียวก็จำได้ว่าคือซ่างกวนหรู
“ไม่คิดเลยจริงๆว่า คุณหนูซ่างกวนจะเป็นคนเปิดเผยเช่นนี้ กล้ากระทำการบัดสีเช่นนี้กับบุรุษในพระราชวัง ช่างเปิดโลกกว้างให้กับทุกคนจริงๆ” จี๋ผินแดกดันใส่
ทุกคนที่อยู่ด้านนอกประตูพากันมองตะลึง มองเข้าไปด้านในอย่างตกใจและไม่เชื่อสายตาตนเอง
โดยเฉพาะซ่างกวนเฉิงเซี่ยง สีหน้ามิน่าดูเลย เขาไม่มีแก่ใจสนใจหน้าตาแล้ว รีบพุ่งเข้าไป ดึงผ้าห่มมาคลุมร่างทั้งสองคน จากนั้นคุกเข่าลงพื้นทันที
“ขอฝ่าบาทโปรดอภัยโทษด้วย กระหม่อมสั่งสอนบุตรีไม่ดี และขอฝ่าบาทให้ความยุติธรรมกับบุตรีกระหม่อมด้วย ความบริสุทธิ์ของนางจะถูกย่ำยีเช่นนี้ไม่ได้!” ซ่างกวนเจิ้นน้ำมูกน้ำตาไหลพราก พูดอย่างน่าสงสาร
ฮองเฮามีสีหน้าเย็นชา ดวงตาคมปลาบฉายแววโหดเหี้ยมและสาสม “ฝ่าบาท จวินซื่อจื่อกับคุณหนูซ่างกวนกระทำการเช่นนี้ บัดสีบัดเถลิงจริงๆ ขอฝ่าบาททรงพิจารณาด้วย”
“ยังมีอะไรต้องพิจารณาอีก ต่อให้จวินซื่อจื่อฐานะสูงส่ง แต่เขากระทำการเช่นนี้ในพระราชวัง เท่ากับมิเห็นฝ่าบาทอยู่ในสายตา” จี๋ผินทำสีหน้าเย้ยหยัน
“ฝ่าบาท บางทีอาจจะมีการเข้าใจผิดกันบางอย่าง ปลุกคนขึ้นมาก่อนเถิดเพคะ” เหมยเฟยเอ่ยปาก
นางพาชางหยุนสี่ไปเปลี่ยนเสื้อผ้า และให้หมอหลวงตรวจอาการนาง อย่างไรเสียก็เป็นองค์หญิงแคว้นหนึ่ง เหมยเฟยพยายามทำหน้าที่เจ้าบ้านที่ดีช่วยใส่ยาให้นางด้วยตัวเอง ถือว่าให้เกียรติชางหยุนสี่มากพอแล้ว
แต่ไม่คิดเลยว่า ตอนนางออกมาก็ได้ยินว่าจวินซื่อจื่อกระทำการทรพีไร้ศีลธรรมเช่นนี้ เหมยเฟยรีบให้สาวใช้ไปตามหาหยุนถิง ตนเองเดินตามทุกคนมา
ต่อให้เป็นการจับชู้คาหนังคาเขา เหมยเฟยก็ยังไม่อยากจะเชื่อว่า จวินซื่อจื่อจะทำเรื่องผิดต่อหยุนถิงได้
“ปลุกมันสองคนซะ เรื่องบัดสีบัดเถลิง,ทรพีไร้ศีลธรรมเช่นนี้ ข้าจะไม่ผ่อนผันโทษให้แน่!” ฮ่องเต้ตะคอกดัง
“หม่อมฉันทำเองเพคะ” เหมยเฟยบอกพลางเดินเข้าไป ในใจภาวนาเป็นหนักหนาให้ชายผู้นี้อย่าเป็นจวินซื่อจื่อเลย
โม่ฉือชิงกระโดดออกไปทางหน้าต่างด้านหลัง ตอนนี้รีบวิ่งมาด้านหน้า และโผล่หน้าเข้ามา “ทำไม เกิดอะไรขึ้นรึ?”
“ซ่างกวนหรูกับจวินซื่อจื่อนอนเปลือยเปล่าอยู่บนเตียง ช่างน่าขายหน้ายิ่งนัก” มีคนหนึ่งพูดขึ้น
“ซ่างกวนหรูเป็นสาวงามอันดับหนึ่งแห่งเมืองหลวงนะ ไม่คิดว่าจะกระทำเรื่องขายหน้าเช่นนี้ได้ เสียแรงที่ก่อนหน้านี้ข้าเลื่อมใสนาง ช่างทำสตรีขายขี้หน้ายิ่งนัก”
“ตบมือข้างเดียวไม่ดัง ต้องต่างฝ่ายต่างยินยอมเป็นแน่ เพียงแต่สองคนนี้ช่างบังอาจเสียจริง กล้าทำการเช่นนี้ในพระราชวัง คราวนี้มีเรื่องสนุกดูล่ะ”
“จวินซื่อจื่อรักใคร่โปรดปรานคุณหนูหยุนแต่เพียงผู้เดียว เป็นเรื่องที่รู้กันทั่วทั้เงมืองหลวง หากบอกว่าเขาทรยศคุณหนูหยุน ข้ายอมเชื่อว่าโลกนี้มีผีดีกว่า”
“คุณหนูหยุนล่ะ ทำไมไม่เห็นนาง คราวนี้น่ากลัวคุณหนูหยุนจะอาละวาดละ จวินซื่อจื่อรอกลับจวนไปคุกเข่าสำนึกผิดเถิด”
“คุณหนูหยุนดีกว่าซ่างกวนหรูมากนัก จริงใจ เปิดเผย ไม่เสแสร้ง โดยเฉพาะตอนสั่งสอนคนน่ารังเกียจสองคนจากแคว้นชางเยว่เมื่อครู่นั่น เฮ้อ เจอชายใจโฉดเสียเข้าแล้วนี่”
โม่ฉือชิงฟังแล้วตื่นเต้นยิ่งนัก รีบแหวกผู้คนเข้ามา ไหนหยุนถิงบอกว่าพวกเขาปลอดภัยไม่เป็นไรอย่างไรเล่า ทำไมยังไม่ออกมาอีก
เหมยเฟยเดินเข้าใกล้ขอบเตียง สูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกหนึ่ง มองดูชายผู้นั้นบนเตียง พอเห็นใบหน้าเขาชัดเจน เหมยเฟยดีใจยิ่งนัก
“ฝ่าบาท นี่มิใช่จวินซื่อจื่อ มิใช่จวินซื่อจื่อเพคะ!”
พอคำนี้ออกมา ทำทุกคนตกตะลึงไปตามๆกัน
ฮองเฮาตัวแข็งทันที รีบพุ่งเข้ามาดู พอเห็นใบหน้าคนบนเตียงชัดเจน ฮองเฮาสีหน้าไม่น่าดูยิ่งนัก “ทำไมถึงเป็นเช่นนี้?”
ทั้งๆที่นางให้คนนำทางจวินหย่วนโยวมา สาวใช้คนนั้นก็เป็นคนสนิทของนาง ทุกอย่างวางแผนไว้ดีขนาดนั้น เปลี่ยนคนได้ยังไงกัน
ซ่างกวนเจิ้นที่คุกเข่าอยู่ที่พื้นไม่มีแก่ใจสนใจมารยาทแล้ว เขารีบลุกขึ้นมาดู พอเห็นว่าชายบนเตียงมิใช่จวินหย่วนโยว ซ่างกวนเจิ้นเหมือนโดนฟ้าผ่าไปทั้งร่าง สีหน้าซีดเผือดทันที
หมดกัน คราวนี้เสียทั้งขึ้นทั้งล่องแล้ว
โม่ฉือชิงพอได้ยินดังนั้น ก็รีบพุ่งเข้ามาประชิดดูคนบนเตียง พอแน่ใจว่าไม่ใช่จวินหย่วนโยวก็วางใจละ
“เมื่อครู่ใครปล่อยข่าวลือว่าจวินหย่วนโยวมาหลับนอนกับซ่างกวนหรูกัน กล้าสร้างข่าวลือเผยแพร่ในพระราชวัง คิดว่าองครักษ์เงามังกรกินหญ้ารึ” โม่ฉือชิงตะคอกออกมา
ทุกคนพากันตกใจตัวสั่น จริงด้วย พวกเขามัวแต่สนใจดูเรื่องสนุก ลืมองครักษ์เงามังกรของจวินซื่อจื่อไปเลย ทุกคนรีบหุบปากสนิท ไม่กล้าพูดอะไรอีก
โม่ฉือหานที่อยู่หน้าประตูดวงตาขมวดมุ่น มีแววผิดหวัง เดิมเขาคิดว่าถ้าหากจวินหย่วนโยวทรยศหยุนถิงจริงๆ เขาก็มีโอกาสแล้ว บัดนี้พอได้ยินผลลัพธ์เช่นนี้ โม่ฉือหานเซ็งยิ่งนัก
ทุกคนรีบหันไปมองหน้าประตู อยากจะไปหาตัวสาวใช้คนนั้น แต่พบว่านางหายไปแล้
“เห็นได้ชัดว่ามีคนให้ร้ายจวินหย่วนโยว เสด็จพี่ท่านต้องสืบสวนให้แน่ชัดนะ กล้ามาวางแผนใช้เล่ห์กลเพทุบายในพระราชวังเช่นนี้ ไม่เห็นพระองค์อยู่ในสายตาชัดๆ” โม่ฉือชิงพูดอย่างห้าวหาญ
ดวงตาดำขลับของฮ่องเต้คมปลาบดุจใบมีด บรรยากาศรอบตัวเย็นเยือกถึงติดลบ เส้นเลือดที่ขมับปูดโปน กำลังจะเอ่ยปาก ก็ได้ยินเสียงเย็นชาเป็นน้ำแข็งดังขึ้น
“ฝ่าบาท นี่คือสาวใช้ที่บอกว่าเห็นจวินหย่วนโยวเข้าไปเมื่อครู่” โม่เหลิ่งเหยียนคุมตัวคนเข้ามา