คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา - ตอนที่ 639 ฮูหยินเซียง / ตอนที่ 640 เจ้าไม่เป็นไรกระมัง
- Home
- คู่มือเศรษฐีของหมอหญิงบ้านนา
- ตอนที่ 639 ฮูหยินเซียง / ตอนที่ 640 เจ้าไม่เป็นไรกระมัง
ตอนที่ 639 ฮูหยินเซียง
เซียงอี๋เหนียงไล่คนที่อยู่ในห้องออกไปทั้งหมด จากนั้นนางก็นั่งลงที่ข้างเตียง ลูบหลังบุตรสาวอย่างเบามือ ก่อนจะพูดเสียงเบาว่า “เด็กโง่ เจ้าคิดเช่นไรแม่รู้ดี เจ้าวางใจเถอะ ขอเพียงเจ้าชอบพอ แม่จะคิดหาหนทางทำให้เจ้าได้มาไว้ในครอบครอง เจ้าอยากแต่งให้คุณชายเมิ่งใช่หรือไม่ แม่จะหาทางให้ อย่าร้องไห้ไปเลยนะ”
เมื่อเผยเซี่ยเฉินได้ยินดังนั้น นางก็ลุกขึ้นนั่งในทันที ถามพร้อมขอบตาแดงก่ำว่า “จริงหรือเจ้าคะ ท่านแม่พูดจริงหรือ ท่านจะช่วยข้าจริงๆ ใช่หรือไม่”
ผู้เป็นมารดาพยักหน้า “นั่นย่อมแน่นอน แม่เคยหลอกเจ้าเสียเมื่อไร”
เผยเซี่ยเฉินยิ้มทั้งน้ำตา ก่อนจะโผเข้าไปในอ้อมกอดของมารดาโดยพลัน “ท่านแม่ ท่านดีกับข้ายิ่งนัก!”
“เอาละ รีบล้างหน้าล้างตาสักหน่อย เปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่เสียด้วย แม่จะพาเจ้าไปดูที่หอเทียนอี ได้ยินมาว่ามีผ้าชุดใหม่มาที่นั่นแล้ว ส่งมาจากแคว้นจินเชียวละ ข้าไม่เคยเห็นรูปแบบและสีสันของผ้าชุดนี้มาก่อน สองวันนี้ฮูหยินและคุณหนูมากมายล้วนไปเยี่ยมเยียนหอเทียนอีกันไม่ขาดสาย พวกเราจะรั้งท้ายไม่ได้เชียว”
เซียงอี๋เหนียงมองเงาหลังที่ลิงโลดของเผยเซี่ยเฉิน ลูกตากลอกกลิ้ง ก่อนจะเรียกคนให้ไปบอกคุณหนูใหญ่ ว่าจะพานางออกไปเที่ยวเล่น
หนึ่งชั่วยามหลังจากนั้น เซียงอี๋เหนียง เผยเซี่ยเฉินที่แต่งองค์ทรงเครื่องใหม่ รวมถึงไป๋เจินจูก็ออกจากจวนโหวไป
เผยเซี่ยเฉินเกิดมาสะสวย ผิวขาวงดงาม ประกอบด้วยลำคอระหงและขาเรียวยาว นับเป็นหญิงงามตามมาตรฐานอย่างแท้จริง ครั้นเพิ่งลงจากรถม้า ก็ดึงดูดสายตาผู้คนมากมายได้ในทันที
คนบนโลกนี้ ไหนเลยเห็นสตรีงามแช่มช้อยแล้วจะไม่มองอยู่หลายครั้งบ้าง
เผยเซี่ยเฉินชอบความรู้สึกยามถูกสายตามากมายจับจ้องเป็นที่สุด ในสายตาของใครหลายคน นางรู้สึกตนเองเป็นดั่งเซียนสาวที่จุติจากสวรรค์ ทว่าคนธรรมดาสามัญที่อยู่เบื้องหน้าเหล่านี้ ไม่คู่ควรที่จะยืนอยู่บนผืนแผ่นดินเดียวกันกับนางทั้งสิ้น
อย่างเช่นไป๋เจินจูที่เดินอยู่ข้างๆ นางในเวลานี้ หากผู้เป็นมารดาไม่ได้บอกว่ามีไป๋เจินจูอยู่ด้วย แล้วจะยิ่งขับเน้นให้นางดูงดงามยิ่งขึ้น นางคงไม่ยอมเดินเคียงข้างอีกฝ่ายเช่นนี้เป็นแน่
ไป๋เจินจูไม่เคยอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ ฮูหยินและคุณหนูมากมายแถวนี้ล้วนแต่งกายกันงดงาม แต่ละคนจับจ้องมาที่นางและเผยเซี่ยเฉิน ทำเอานางประหม่าจนไม่รู้แม้แต่จะวางมือไว้ที่ใด
เจ้าของร้านเข้ามาต้อนรับ กล่าวกับเซียงอี๋เหนียงว่า “ฮูหยินเซียงมาแล้ว เชิญชั้นบนเลยขอรับ”
ชั้นบนมีห้องรับรองที่หรูหรา เป็นห้องที่ไม่ใช่ว่าใครก็สามารถขึ้นไปได้ แม้นางจะเป็นเพียงสตรีคนหนึ่ง ทว่าก็เป็นสตรีของจวนชางหยวนโหว ฐานะของนางย่อมแตกต่างกับตระกูลเล็กตระกูลน้อยเหล่านี้แน่อยู่แล้ว
เซียงอี๋เหนียงพยักหน้าให้เจ้าของร้าน แล้วเชิดหน้าเดินไปยังบันไดที่อยู่ข้างๆ โดยพลัน ส่วนเผยเซี่ยเฉินและไป๋เจินจูตามหลังนางไป
เสียงวิพากษ์วิจารณ์เบาๆ เหล่านั้นตามหลังพวกนางมาด้วย แต่ละคำพูดกระทบโสตประสาทของไป๋เจินจูและเผยเซี่ยเฉินทั้งหมด
“คนที่อยู่ข้างๆ คุณหนูรองเผยผู้นั้น คือคุณหนูใหญ่แห่งสกุลเผยใช่หรือไม่”
“ข้าไม่เคยเห็นนางมาก่อน น่าจะใช่กระมัง สกุลเผยไม่มีคุณหนูคนอื่นแล้ว ได้ยินมาว่าคุณหนูใหญ่ระหกระเหินอยู่ข้างนอก ชางหยวนโหวเพิ่งพบและพาตัวนางกลับมา ดูสภาพนางสิ ไม่รู้เหมือนกันว่าได้รับความลำบากอยู่ข้างนอกนั่นมากมายเท่าไร”
“นั่นน่ะสิ ทว่าคุณหนูใหญ่กับคุณหนูรองยืนอยู่ข้างๆ กันแล้ว มองปราดเดียวก็แยกออกเลยว่าใครเป็นคุณหนู ใครเป็นสาวชาวบ้าน และไม่รู้ว่าต้องบำรุงผิวพรรณนางเท่าไรถึงจะเทียบเคียงคุณหนูรองได้”
ไป๋เจินจูมุ่นคิ้ว คอตก
ทว่าเผยเซี่ยเฉินกลับเลิกคิ้วขึ้นด้วยความลำพองใจ เหยียดหลังตรงแหน็วยิ่งกว่าเดิม
“ชิ…คุณหนูรองดูสูงส่งกว่าแล้วอย่างไร นางก็ยังเป็นบุตรสาวของอนุอยู่วันยันค่ำ หลายคนเรียกแม่แท้ๆ ของนางว่าฮูหยินเซียง ทว่าพูดกันตามตรงแล้ว ก็แค่อี๋เหนียงคนอื่นไม่ใช่หรือ ต่อให้มีหน้าตาสดสวย แต่กลับมีชาติกำเนิดต่ำต้อย แล้วจะมีประโยชน์อะไร แม้ตอนนี้คุณหนูใหญ่จะงดงามเทียบเคียงนางไม่ได้ ทว่าคู่หมั้นของคุณหนูใหญ่เป็นถึงจิ้นอ๋องเชียวนะ พวกเจ้าไม่ได้ยินข่าวนี้เลยหรือไร”
……….
ตอนที่ 640 เจ้าไม่เป็นไรกระมัง
ไป๋เจินจูเงยหน้าขึ้น ส่วนเผยเซี่ยเฉินหน้าแดงเพราะความโมโห นางหันไปถลึงตามองสตรีปากเปราะพวกนั้น ทว่านางไม่รู้ว่าใครกำลังพูดอยู่ จึงทำได้เพียงกวาดสายตาดุดันมองพวกนางเสียรอบหนึ่ง
“พวกเจ้าสองคนชักช้าเสียจริง รีบขึ้นมาเร็ว!” เซียงอี๋เหนียงยืนอยู่บนชั้นสองแล้ว กำลังกวักมือให้พวกนางสองคน
หลังจากเผยเซี่ยเฉินถลึงตามองทุกคนแล้ว นางก็คิดจะหมุนกายเดินขึ้นไป แต่กลับได้ยินเจ้าของร้านด้านล่างกล่าวว่า “คุณชายเมิ่ง? หากท่านต้องการตัดชุด กำชับข้าสักคำก็พอแล้ว ไหนเลยต้องมาด้วยตนเองด้วยขอรับ”
ครั้นเผยเซี่ยเฉินได้ยินดังนั้น นางก็หมุนกายลงไปดูที่ชั้นล่างโดยพลัน ใครจะรู้ว่าท่วงท่าของนางรวดเร็วเกินไป จึงเหยียบเข้ากับชายกระโปรงของตนเองเข้า ร่างกายเสียสมดุลและล้มลงในทันใด
เหล่าฮูหยินและคุณหนูที่อยู่ชั้นล่างเห็นดังนั้น ก็ตกใจจนพากันร้องเสียงแหลม แม้กระทั่งมีคนหลับตาปี๋ ไม่กล้ามองอะไร
เผยเซี่ยเฉินล้มอยู่บนบันได ความเจ็บบนแผ่นหลังแทบจะทำให้นางเป็นลมสลบไป จากนั้นร่างกายของนางก็กลิ้งอยู่บนบันไดเสียงดังปั้กๆๆ…จนกระทั่งนางกลิ้งลงไปถึงพื้นชั้นล่าง ไปถึงขาของบุรุษผู้หนึ่ง
เขานั่งยองลงมองใบหน้าของหน้า ในดวงตาของเขามีแววขบขัน ทว่าไม่ได้หัวเราะออกมา เขาถามว่า “เจ้าไม่เป็นไรกระมัง”
เผยเซี่ยเฉินมองใบหน้าที่นางเอาแต่พร่ำเพ้อหา ตอนนี้อยู่ใกล้นางเช่นนี้ นางแม้กระทั่งลืมความเจ็บบนกายไปจนสิ้น ดวงตาสองข้างจับจ้องแค่บุรุษผู้นี้เท่านั้น “ขะ ข้าไม่เป็นไรเจ้าค่ะ”
นางยื่นมือออกไป ด้วยคิดว่าเมิ่งหนานจะจับมือนาง ฉุดนางให้ลุกขึ้นยืน
ทว่าเมิ่งหนานไม่ได้ทำเช่นนั้น เขายืดตัวตรง ยิ้มจางๆ เอ่ยว่า “ในเมื่อไม่เป็นไร เช่นนั้นก็ลุกขึ้นเถอะ บนพื้นเย็นนัก!” ครั้นกล่าวเช่นนั้นจบ เขาก็หันไปถามเจ้าของร้าน “แม่ของข้าให้ข้ามารับนาง นางยังอยู่ใช่หรือไม่”
เจ้าของร้านพยักหน้า “อยู่ขอรับๆ นางอยู่ที่ห้องรับรองบนชั้นสอง ข้าจะนำท่านไปเดี๋ยวนี้ขอรับ”
บัดนี้เซียงอี๋เหนียงปรี่ลงมาจากชั้นบนแล้ว ก่อนจะต่อว่าสาวใช้ที่ยืนตะลึงลานอยู่ด้านข้าง “พวกเจ้าทำอะไรกันอยู่ ยังไม่รีบประคองคุณหนูลุกขึ้นมาอีก”
คราวนี้สาวใช้ถึงได้ตื่นจากภวังค์ ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก เร็วเสียจนพวกนางทำตัวไม่ถูกกันเลยทีเดียว
เมิ่งหนานไม่มองพวกนางอีก เขาขึ้นไปชั้นบนทันที ก่อนจะพบหญิงสาวที่ยืนนิ่งงันอยู่ระหว่างทาง เขาเห็นนางแล้วรู้สึกคุ้นตานัก แต่ก็นึกไม่ออกว่าเคยเห็นนางที่ใด จึงไม่ได้เอ่ยทักทาย เดินหน้าต่อไปเพียงเท่านั้น
ไป๋เจินจูตกใจจนหัวใจเต้นแรงมาก เขาคือเมิ่งหนาน นางเคยพบเขาที่หมู่บ้านหวงถัวครั้งหนึ่ง โชคดีที่เขาจำนางไม่ได้ หากเขาจำนางได้ขึ้นมา ทุกอย่างก็คง…
เผยเซี่ยเฉินทั้งโกรธทั้งอาย ล้มครั้งนี้นางเจ็บไปทั่วทั้งตัว แต่ยังดีที่บันไดไม่สูงมาก อีกทั้งหัวไม่ได้กระแทกอะไร ไม่เช่นนั้นวันนี้นางคงจะมีสภาพย่ำแย่กว่าตอนนี้แน่
“เฉินเอ๋อร์ เจ็บตรงไหนหรือไม่ รีบบอกแม่มาเร็ว” เซียงอี๋เหนียงถาม
บุตรสาวส่ายหน้า ก่อนจะสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ “ท่านแม่ ข้าไม่เป็นไรเจ้าค่ะ รีบช่วยข้าจัดทรงผมเถอะ พวกเราควรขึ้นไปชั้นบนแล้ว”
เซียงอี๋เหนียงรีบเอ่ยว่า “จะขึ้นไปทำอะไรอีก พวกเรารีบกลับกันดีกว่า ข้าจะได้ตามหมอมาดูอาการเจ้าสักหน่อย”
เผยเซี่ยเฉินจะยอมได้อย่างไร กว่าจะได้พบหน้าเมิ่งหนานไม่ใช่เรื่องง่าย ตอนนี้เขาอยู่ที่ชั้นบนนี่เอง แล้วนางจะกลับไปเช่นนี้ได้อย่างไรกัน ไม่มีทางเด็ดขาด!
ไป๋เจินจูเองก็กล่าวว่า “จริงเจ้าค่ะ พวกเรากลับกันดีกว่า วันหน้าค่อยมาใหม่”
ทว่าเผยเซี่ยเฉินยืนกราน “ไม่ ไม่มีวันหน้า ต้องเป็นวันนี้”
เซียงอี๋เหนียงถอนใจเสียงหนึ่ง ก่อนจะยื่นมือไปจัดทรงผมให้บุตรสาว จัดเครื่องประดับมุกที่เอียงกระเท่เร่ให้ดี “เอาละ ล้วนฟังเจ้า”
เผยเซี่ยเฉินปัดฝุ่นบนเสื้อผ้า พลางสูดลมหายใจลึก จัดวางท่าทางจนแน่ใจแล้วว่าตนเองสง่างามยิ่ง แล้วจึงก้าวขาขึ้นไปยังชั้นบนทีละก้าว สาวใช้ที่ตามติดอยู่ด้านหลังช่วยนางยกชายกระโปรงขึ้นอย่างระมัดระวัง ไม่กล้าสะเพร่าอีก