คุณสามีแห่งชาติของฉัน - ตอนที่ 23 แลกมาด้วยร่างกายของเธอ
เฉียวอันห่าวขับรถตรงไปที่สววนเหมียนซิ่วหลังจากออกจากคฤหาสน์ของลู่จินเหนียน เธออยู่ที่บ้านสี่วันหลังจากนั้น โดยไม่มีงาน หรือแม้แต่เสียงโทรศัพท์ติดต่อมาหาเธอ และสี่วันนี้ลู่จินเหนียนไม่เคยกลับมาที่บ้านเลย
ในคืนนั้น เธอเผลองีบหลับในช่วงบ่ายเป็นเวลานาน เธอจึงพลิกตัวไปมา เธอนอนไม่หลับจากการนอนในช่วงบ่าย เธอเอื้อมไปหยิบมือถือเพื่อดูเวลา และมันเป็นเวลาใกล้จะเที่ยงคืนแล้ว จากนั้นเธอก็มองไปที่อีกครึ่งหนึ่งของเตียงที่มันว่างเปล่า และคิดว่า
‘คืนนี้เขาคงไม่กลับบ้านอีกแล้วสินะ’
ถ้าเขากลับมาเธอคงกังวล แต่ถ้าเขาไม่กลับมา เธอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดหวัง
เฉียวอันห่าวดึงผ้าห่มและลุกออกจากเตียง จากนั้นก็เดินไปที่ระเบียง เธอมองออกไปในยามค่ำคืน สีหน้าเธอขุ่นมัวด้วยความเหงา
ในใจของเขา เขาคงไม่เคยคิดว่าเธอเป็นภรรยาของเขา … ตลอดห้าเดือนที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เธอถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว และเฝ้าห้องที่ว่างเปล่านี้
เฉียวอันห่าวมองออกไปอีกสักพักจนกระทั่งโทรศัพท์ของเธอดังขึ้น
เมื่อกลับไปที่ห้องนอน เธอเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์และเห็นหมายเลขที่ไม่คุ้นเคย เธอหยุดมองเป็นเวลานาน
ใครจะโทรหาเธอตอนนี้กันนะ
เธอลังเลก่อนกดรับสาย ด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนเธอถามว่า
“สวัสดีค่ะ นั่นใครคะ”
ผู้โทรไม่สนใจคำถามของเธอ และพูดอย่างตรงไปที่ประเด็น
“สัปดาห์หน้าเธอจะเข้าร่วมทีม ‘สเน่หาข้ามกาลเวลา’ อย่างเป็นทางการในฐานะนักแสดงนำหญิงคนที่สอง”
มือที่คว้าโทรศัพท์อยู่แน่นขึ้น เธอไม่เคยคาดหวังว่าลู่จินเหนียนจะแจ้งให้เธอทราบเป็นการส่วนตัว เธอหายใจเข้าลึก ๆ และตอบอย่างใจเย็น
“ฉันเข้าใจแล้ว ขอบคุณ … ลู่ … ” เฉียวอันห่าวกำลังจะพูดชื่อเต็มของเขา แต่หยุดตัวเอง และรีบแก้เป็น
“คุณลู่“
คำพูดของเธอดูเหมือนจะเข้าสู่ทะเล และไม่มีโอกาสตอบกลับ
ถ้าไม่ใช่เพราะเสียงหึ่งจากโทรศัพท์ เธอคงคิดว่าลู่จินเหนียนวางสายไปแล้ว
หลังจากนั้นไม่นานเฉียวอันห่าวเริ่มสงสัยว่าเขาลืมวางสายหรือเปล่า และเริ่มถกเถียงกับตัวเองว่าเธอควรจะวางสายหรือไม่เสียง แต่แล้วเย็นชาไร้อารมณ์ของลู่จินเหนียนก็ดังเข้ามา
“ไม่จำเป็นต้องขอบคุณฉันหรอก เพราะว่าเรื่องนี้มันแลกกับร่างกายของเธอ แต่ฉันต้องบอกว่าร่างกายของเธอมีค่ามากที่จะได้รับบทนักแสดงนำหญิงคนที่สองในเรื่อง ‘สเน่หาข้ามกาลเวลา’… “
ลู่จินเหนียนดูเหมือนจะพูดอะไรมากกว่านี้ แต่เขาก็หยุดกะทันหัน และหลังจากนั้นประมาณสองวินาทีสายก็ขาดหายไป
แม้ว่าลู่จินเหนียนจะไม่ได้พูดให้จบประโยค แต่เฉียวอันห่าวก็มั่นใจว่ามันคงไม่ใช่คำพูดที่ดีแน่นอน
เธอพยายามคิดถึงการกระทำของลู่จินเหนียนในช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้ เขาเป็นคนที่ถามเธอว่าอยากได้การตอบแทนแบบไหน แต่เมื่อเธอทำเหมือนร่างกายของเธอเองเป็นเครื่องมือในการหาผลประโยชน์ จากนั้นเขาก็โกรธมากจนอยากจะบีบคอเธอ ถึงขนาดที่โยนเธอออกจากคฤหาสน์
หลังจากเขาคุยโทรศัพท์ เธอก็เข้าใจความโกรธของเขาในที่สุด … เขาคงคิดว่าเธอประเมินร่างกายตัวเองสูงเกินไป
เธอน่าจะรู้ตัวตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว
เขาไม่ได้ตั้งใจจะนอนกับเธอตั้งแต่แรก แล้วร่างกายของเธอคุ้มค่ากับการเป็นนักแสดงนำหญิงคนที่สองใน ‘สเน่หาข้ามกาลเวลา’ งั้นหรอ?
ถ้าไม่ใช่เพราะไข้ของเขา เขาคงไม่อยากแตะต้องตัวเธอ … ใช่ไหม?
เธอจะต้องเป็นผู้หญิงคนเดียวในโลกที่ถูกชิงชังหลังจากนอนกับ …
นอกจากนั้นแล้วเธอต้องคงเป็นภรรยาคนเดียวในโลกนี้ที่รู้หมายเลขโทรศัพท์ของสามีหลังจากแต่งงานได้ห้าเดือนแล้ว
ริมฝีปากของเธอโค้งงอขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ เธอยิ้มอย่างไม่พอใจกับตัวเอง ความเศร้าโศกทำให้ดวงตาของเธอขุ่นมัว
‘สเน่หาข้ามกาลเวลา’ เป็นภาพยนตร์ที่ได้รับการคาดหวังอย่างสูงที่ฮวนหยิง เอ็นเตอร์เทนเมนท์ทุ่มเงินไปถึงยี่สิบล้าน หลังจากเตรียมงานเป็นเวลาสองปี แม้แต่ทีมงานการถ่ายทำ และการถ่ายทำก็ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ
ด้วยความที่ได้รับการยอมรับในระดับชาติ มันจึงเพียงพอแล้วที่สามารถดึงดูดความสนใจของผู้คนได้ ก่อนที่จะมีการถ่ายทำเริ่มขึ้น ในเรื่องนี้มีนักแสดงอันดับต้นๆ มาร่วมแสดงด้วย ยกเว้นเฉียวอันห่าว ซึ่งแม้แต่บทบาทเล็กๆน้อยๆ ในเรื่องนี้อย่างนักแสดงนำหญิงคนที่สองก็สามารถที่จะโด่งดังในระดับประเทศได้เลย
ในวันแรกมีพิธีเรียบง่าย นักแสดงทุกคนร่วมแสดง ยกเว้นนักแสดงนำชายคนที่สอง
การถ่ายทำอย่างเป็นทางการจะเริ่มในวันที่สอง และวันแรกจะทำเพื่อพิธีเปิดเท่านั้น ทีมงานทั้งหมดของเรื่อง ‘สเน่หาข้ามกาลเวลา’ จะได้รับเชิญให้มาร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำ เพื่อที่พวกเขาจะได้ทำความคุ้นเคยกันก่อนการถ่ายทำจริง
เมื่อถึงเวลาเฉียวอันห่าวรีบไปห้องจัดเลี้ยงซึ่งก็พบว่าผู้คนเต็มไปหมดแล้ว
เธอได้ทำการศึกษามาแล้วเกี่ยวกับทีมงานทุกคนของกองถ่าย ก่อนที่จะมีการถ่ายทำขึ้น เธอได้รับแจ้งเกี่ยวกับทีมงาน และนักแสดงทุกคนในภาพยนตร์เรื่องนี้
ทุกคนเข้าวงการมาก่อนเธอนานแล้ว ดังนั้นจึงจำเป็นที่เธอจะต้องสุภาพทักทายพวกเขาทีละคน โปรดิวเซอร์ของ ‘สเน่หาข้ามกาลเวลา’ นั่งอยู่แถวหน้า ขณะที่เฉียวอันห่าวกำลังจะจับมือก็มีคนแทรกเธอพร้อมกับยื่นมือเข้ามาทักทาย
“คุณซันไม่เห็นนานเลย”