คุณคนเดียวเท่านั้น - ตอนที่ 55 จะจัดการอย่างไรดี
เนื้อตัวของซ่งอี่นั่วสั่นไม่หยุด ในหัวได้ยินเสียง " เวิงๆๆ" พอเธอได้สติเธอก็จะเปิดประตูออกไป แต่วินาทีต่อมา ร่างกายก็โดนเขารั้งเอาไว้ ยืนหน้าประชิดอยู่กับเขา ลมหายใจของเขาได้พ่นออกมาบนหน้าของเธอ เขาค่อยๆเข้ามาใกล้เธอมากขึ้น แค่ก้มหัวลงก็เกือบจะจูบลงบนหน้าผากของเธอ
เขาไม่ละสายตาไปจากเธอเลย ไม่รู้ว่าเวลานั้น นิ้วมือของเขาได้จับอยู่ที่แก้มของเธอ สัมผัสอย่างนุ่มนวน มองดูเขาเดินที่กำลังจะเดินจากไป ในน้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยการไม่มีความสุขและเข็มแข็ง"ฉันกำลังถามเธอนะ พูดสิ"
หัวใจของซ่งอีนั่วเริ่มเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ เธอไม่สามารถที่จะอยู่กับความรู้สึกที่ไม่ชัดเจนแบบนี้กับเสิ่นฉวนซีได้ เธอรู้สึกว่าจะต้องออกมา เสิ่นฉวนซีมีความสนใจต่อเธอ แต่เธอไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะกระโดดข้ามความน่าสนใจของเขาได้ ให้เขาทำแบบนี้ครั้งแล้วครั้งเล่าต่อตัวเอง
เธอจ้องมองที่เขา บนทางเดินด้านหลังประตูได้มีเสียงฝีเท้า ในใจของเธอเริ่มเกิดอาการโกรธ โกรธจนเขาไม่กล้าที่จะบังคับเธออีก และโกรธตัวทีทุกครั้งไม่ยอมที่จะเอาชนะเขา ความสัมพันธ์ของพวกเขาไม่จำเป็นต้องเป็นแบบนี้
แม้ว่าถังโย่วหนานกับซ่งจื่อจินจะไม่รู้ว่าพวกเขาได้ทรยศไม่รู้กี่ครั้งแล้วก็ตาม ความประพฤติของพวกเขาถ้าเอาเรื่องศิลธรรมเข้ามาวัดกัน แบบนี้คือมันไม่ถูกต้อง
"พวกเราไม่ควรทำแบบนี้ ทำแบบนี้คือไม่ถูกต้อง" ซ่งอี่นั่วจ้องมองสายตาที่วิงวรของเขา เธอไม่ยอมที่จะเป็นเหมือนกับซ่งจื่อจิน ถ้าเปลี่ยนไปเป็นแบบนั้น เธอจะไม่ยอมให้อภัยตัวเองอย่างแน่นอน
เสิ่นฉวนซีสีหน้าหมองคล้ำไม่หลงเหลือความรู้สึกอะไรอยู่ สายตาของเขาได้บีบบังคับเธอ มือได้มาจับที่คางของเธอ พยายามจับหน้าเธอเงยขึ้นมา รอยริมฝีปากก็ได้ทำรอยไว้บนริมฝีปากของเธอ
ซ่งอี่นั่วนึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะทำแบบนี้ หัวใจที่เต้นแรงของเธอก็ได้เต้นแรงเพิ่มขึ้น คำพูดของเธอได้พูดชัดเจนแล้ว เธอคิดว่าเขาจะฟังรู้เรื่อง แต่เขา…..
รอยปู้ยี้ปู้ยำบนริมฝีปากของเธอได้ทำให้เธอรู้สึกตัวขึ้น เธอได้เริ่มขัดขืน แต่แรงของเธอสู้เขาไม่ได้ เหมือนแมลงปอที่จะเขย่าต้นไม้่ใหญ่ ดูแล้วน่าขำ ริมฝีปากโดนเขากลืนหายไป ความดุเดือนแบบนั้น เหมือนสัตว์ป่าที่ไม่ได้ล่าอาหารมานาน
หัวใจของซ่งอี่นั่วเต้นแรงจนจะเป็นบ้า ความจริงอยากจะปฎิเสธ แต่มือทั้งสองข้างก็เหมือนจะไปโอบแน่นอยู่ที่คอของเขา ทั้งร่างกายร้อนเหมือนโดนไฟเผา ระบบไหลเวียนเลือก็ได้สูบฉีดอย่างคล่องแคล่ว และเธอก็ได้เป็นคนเริ่มที่จะจูบเขากลับ
ไม่น่าจะใช่แล้ว
ซ่งอี่นั่วได้ลืมตาขึ้นมา ตัวสั่นและตกใจกับผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้า เขาเหมือนได้รับความสุขจากการโดนเธอเป็นฝ่ายจูบกลับ ริมฝีปากก็ค่อยๆที่จะมีรอยยิ้ม เธอตกใจไม่น้อยเลยหลังจากนั้นเธอก็ได้รู้สึกต้ว แล้วออกแรงผลักเขาออกไป
เสินฉวนซีไม่คิดเลยว่าเธอจะรีบผลักเขาออกไปขนาดนี้ ผลักถอยกลับไปสองสามก้าว เขาหลี่ตาจ้องมองผู้หญิงของเขาที่กล้าจะผลักเขาออกไป
ด้านหลังของซ่งอี่นัวติดกับแผ่นประตู ขาทั้งสองข้างสั่น เมื่อกี้เธอเหมือนเปลี่ยนไปไม่ใช่ตัวเอง เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง เห็นๆอยู่ว่าสมองสั่งการให้ปฏิเสธ แต่เธอตอบโต้เขาด้วยการจูบกลับอย่างเต็มใจ
เธอไม่มีคำอธิบายถึงการกระทำของตัวเอง โดนบังคับนานเกินไปจนทำให้ความรู้สึกผลิกกลับ หรือว่าตัวตนของเธอกับซ่งจื่อจินนั้นจะเหมือนกัน เสิ่นฉวนซีได้เดินเข้ามาที่เธอ เธอไม่กล้าที่จะยื่นอยู่ตรงนี้อีก ไม่ใช่กลัวเสิ่นฉวนซีจะทำอะไรไม่ดีต่อเธอ แต่เธอกลัวว่าตัวเองจะทำเรื่องอะไรไม่ดีออกไปแล้วทำให้ตัวเองผิดหวังในภายหลัง
เธอจับกลอนประตูแน่ ใช้ความกล้าทั้งหมดเปิดประตู ในตอนที่มือของเสิ่นฉวนซีที่กำลังจะโดนตัวเธอ เธอก็ได้หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
เธอหนีกลับมาที่ห้องอาหาร แม้แต่เวลาที่จะจัดการกับอารมณ์ตัวเองก็ยังไม่มี เธอหยิบกระเป๋าขึ้นมา บอกกับเฮ้อตงเฉินว่า "ขอโทษนะคะ พอดีมีเรื่องเร่งด่วนค่ะ เดียวขอกลับก่อน" แล้วก็จากไปอย่างรวดเร็ว
ซ่งจื่อจินมองเธอที่ตื่นตกใจได้เดินจากไป สงสัยแล้วพูดว่า "เธอเป็นอะไรไปแล้ว"
เฮ้อตงเฉินในมือจับแก้วไวน์แน่น ค่อยๆเขย่าไวน์ที่อยู่ด้านในของแก้ว สายตามีลับลมคมใน "หรือว่ามีเรื่องด่วนจริงๆ"
ซ่งจื่อจินไม่ได้สนใจอะไร ซ่งอี่นั่วไปได้ก็ดี ได้นั่งอยู่กับเธอและยังต้องแสร้งว่าเป็นความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน เธอก็จะอึดอัดตายไปซะเปล่าๆ
ไม่กี่นาที่ผ่านไป เสิ่นฉวนซีกลับมายังที่นั่งของตัวเอง เขามองที่เก้าอี้ข้างๆซ่งจื่อจินที่ว่างเปล่า ความโกรธก็ได้ขยายไปทุกส่วนบนร่างกาย
ซ่งอี่นั่วหนี่กลับมาที่จินยู้หลานวาน หัวใจของเขายุ้งเหยิงไปหมด ไม่ว่าอย่างไรก็ตามก็ไม่ยอมจะเชื่อ ว่าเธอได้จูบตอบกลับเสิ่นฉวนซี จะทำยังไงดี ในสายตาของเขา เขาจะคิดหรือไม่ว่าเขาเป็นผู้หญิงที่ปากไม่ตรงกับใจ ทั้งปฏิเสธเขา ทั้งยังจูบกลับอย่างเต็มใจ
เธอโมโหจนดึงเส้นผม จะทำยังไงดี ณ เวลานั้นเธอเป็นบ้าอะไรกันแน่
"อี่นั่ว เธอกลับมาแล้วเหรอ " หูก็ได้ยินเสียงผู้หญิงที่่เคยคุ้นชิน ซ่งอี่นั่วชะโงกหน้ามองไป เห็นคุณซ่งยื่นอยู่ด้านล่างของตึก เธอรีบปล่อยเส้นผมของเธอทันที รีบก้าวเท้าลงไป" แม่ แม่มาแล้วทำไมไม่โทรบอกหนู ด้านนอกร้อนแบบนี้ เดียวเป็นไข้จะทำยังไง"
คุณซ่งได้นำซุปไก่มาส่งให้ซ่งอี้นั่วติดต่อกันหลายวัน ราวกับว่าอยากจะทดแทนความสัมพันธ์แม่ลูกขึ้นมาจริงๆ เธอมองที่ซ่งอี่นั่วที่หน้าแดงอยู่จากความโมโห หัวเราะแล้วพูดว่า"ฉันไม่ร้อน เข้าไปเถอะ"
ซ่งอี่นั่วหยิบกุญแจเปิดประตู รอคุณซ่งเข้าไปก่อน เธอจึงตามเข้าไป ระหว่างกดลิฟต์ก็พูดว่า "แม่ ครั้งต่อไปก่อนแม่จะมาให้โทรศัพท์บอกหนูนะ จะได้ไม่ต้องรออยู่ด้านนอก"
"เธอทำงานยุ่งขนาดนี้ ฉันรอแปปเดียว ไม่เป็นปัญหาหรอก" ลิฟต์ถึงแล้ว ทั้งสองคนได้เข้าไปในลิฟต์ ซ่งอี่นั่วก็ได้ยื่นมือรับกระติ๊กเก็บความร้อน หัวใจเริ่มได้รับความอบอุ่นขึ้นมา
กลับไปยังห้องพัก คุณซ่งได้สังเกตเห็นชั้นวางรองเท้ามีรองเท้าแตะคู่ใหม่เกินมาหนึ่งคู่ ซ่งอี่นั่วโค้งตัวหยิบรองเท้าแตะมาวางไว้ตรงหน้าของเธอ หลังจากนั้นก็ถือกระติ๊กเก็บความร้อนเข้าไปในครัว คุณซ่งถอดรองเท้าส้นสูงออก เปลี่ยนเป็นรองเท้าแตะ ในใจยุ่งเหยิงสับสนไปหมด
เสียงน้ำได้ยินออกมาจากห้องครัว คุณซ่งเดินผ่านไป เห็นซ่งอี่นั่วกำลังล้างผัก เธอยืนอยู่ข้างประตูพูดว่า"อี่นั่ว ไม่ต้องทำกับข้าวเผื่อฉันนะ สักพักฉันก็ไปแล้ว เธอออกมานั่งเป็นเพื่อนฉันหน่อย"
ซ่งอี่นั่วที่ล้างผักอยู่จะมาแล้วใช่ไหม เธอบีดเปิดก๊อกน้ำ ล้างมือสะอาดแล้ว หลังจากนั้นก็ออกมา คุณซ่งกำลังนั่งอยู่บนโซฟา เธอเดินไปที่ข้างโซฟา นั่งลงบนเก้าอี้หนัง
คุณซ่งขยับเข้ามาจับมือเธอแน่น พูดอย่างอบอุ่นว่า"อี่นั่ว พรุ่งนี้ตอนเย็นพวกเราได้เชิญครอบครัวฝั่งสามีเธอมาทานข้าวด้วยกัน พอถึงเวลาเธอแต่งตัวให้สวยๆหน่อยนะ จำไว้ว่าต้องมาด้วยกันกับโย่วหนานนะ"
ซ่งอี่นัวค่อยๆแปลกใจขึ้นมา ตระกูลเสิ่นไม่รู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างซ่งจื่อจินกับถังโย่วหนาน ในใจของคุณซ่งเหมือนกันกับกระจก เธอให้คนสองตระกูลนี้มานั่งกินข้าวด้วยกัน คิดอะไรอยู่กันแน่นะ
"แม่…."
"ในระยะเวลานี้ฉันคิดนานมาก ฉันป้องป้องจื่อจินแบบนี้ถูกหรือไม่ถูกกันแน่ เธอกับโย่วหนานเกิดเรื่องที่สลับซับซ้อนแบบนี้ ก็จะต้องชดใช้กับกระทำของตัวเอง ในช่วงนี้เธอไม่ได้รับความเป็นธรรมเอาซะเลย " คุณซ่งกับคำพูดของเธอ เหมือนกับว่าเธอกำลังพิจารณาตัวเองอยู่จริงๆ
ซ่งอี่นั่วไม่คิดเลยว่าคุณซ่งจะมาพูดสารภาพด้วยตัวเอง แต่หลังจากการสารภาพ ซ่งจื่อจินกับถังโย่วหนานหนังหน้าหนา ไม่ได้สนใจว่าใครจะมองแบบไหน พอถึงเวลา เธอกับเสิ่นฉวนซีจะจัดการอย่างไร