คุณคนเดียวเท่านั้น - ตอนที่ 30 คุณมีความสามารถนั้นหรอ?
ในห้องชุดโรงแรม เสิ่นฉวนชีพาซ่งอีนั่วมาถึงที่นี่ แล้วเขาก็รับสายโทรศัพท์แล้วออกไปเลย เธอยืนอย่างใจจดใจจ่ออยู่กลางห้อง เมื่อกี้ดูเหมือนว่าเขาจะหยิบคีย์การ์ดห้องมาสองใบนะ ถ้างั้นพวกเขาคงไม่ได้นอนห้องเดียวกันหรอก
เธอวางกระเป๋าลง แล้วเดินสำรวจรอบๆห้อง เธอเห็นว่าในห้องมีเตียงเพียงตียงเดียว โล่งอกไปที ดูเหมือนว่าเธอจะคิดมากไปเองสินะ
หลังจากผ่อนคลายแล้ว เธอก็รู้สึกว่าตัวเองหิวมากหิวจนไส้จะขาดแล้ว นั่งเครื่องมาตั้งหลายชั่วโมงและเธอเองก็ไม่ได้กินอะไรเลย ตอนนี้ท้องเธอร้องหนักมาก เธอเดินไปข้างโต๊ะที่มีโทรศัพท์วางอยู่ จากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากำลังจะสั่งอาหาร " ติ๊ง "เสียงกริ่งประตูห้องก็ดังขึ้น และถูกเปิดมาจากข้างนอก
ซ่งอีนั่วมองไปยังมือของเสิ่นฉวนชีที่ถือคีย์การ์ดที่คุ้นเคยอยู่ เธอตกใจจนทำโทรศัพท์หล่นลงพื้น แล้วถามขึ้นอย่างประหลาดใจ " ทำไมคุณถึงได้มีคีย์การ์ดห้องนี้ด้วยหล่ะ? "
เสิ่นฉวนชีทำหน้าตาปกติแล้วไม่สนใจคำถามของเธอ พร้อมกับถามขึ้นว่า " พักผ่อนเสร็จแล้วใช่มั้ย? ฉันมาพาเธอลงไปทานข้าว "
ซ่งอีนั่วก้าวเท้าเข้าไปหาเขาแล้งเขยหน้าขึ้นจากนั้นถามอย่างโมโหว่า
" ทำไมคุณถึงมีคีย์การ์ดห้องนี้ อย่าบอกนะว่าคืนนี้เราจะต้องนอห้องเดียวกัน? "
"เมือง C กำลังเฉลิมฉลองงานนิทรรศการ ห้องพักในโรงแรมมีคนจองเต็มหมดแล้ว เรานอนห้องเดียวกันก่อนคืนนึง พรุ่งนี้เราก็กลับแล้ว " เสิ่นฉวนชีพูดกับเธอที่ในดวงตาของเธอลุกเป็นไฟเต็มไปด้วยความโกรธ มองเห็นภาพตัวเองในดวงตาของเธอ ดูดีมาก ดูดีแบบไม่มีใครเทียบได้
พอซ่งอีนั่วฟังอย่างนั้นก็รู้สึกมันไม่เหมาะสม เธอกำลังจะปฏิเสธ แต่เสิ่นฉวนชีได้พูดขึ้นมาก่อนว่า " เธอกลัวอะไร? ฉันไม่ได้ให้เธอขึ้นเตียงกับฉันสักหน่อย? "
คำพูดของเขาทำให้ซ่งอีนั่วเขินจนหน้าแดง จู่ๆเธอก็คิดถึงคำที่ซ่งจื่อจิงเคยพูดไว้ว่า " พวกเธอคนหนึ่งก็เย็นชาไร้ความรู้สึก อีกคนก็ไม่มีความสามารถอะไรเลย ช่างเป็นคู่ที่เหมาะสมกันจริงๆ! "พอคิดถึงเรื่องนี้ เธอก็ยิ้มแล้วหัวเราะเยาะเย้ย " คุณมีความสามารถนั้นมั้ย? "
พอพูดจบเธอก็รู้สึกว่าไม่น่าเลย คนอย่างเสิ่นฉวนชีเป็นคนที่ภาคภูมิใจในตัวเองมาก ไม่ควรไปหัวเราะเยาะเย้ยเขา หรือพูดแทงใจดำเขาเลยเธอไม่กล้ามองหน้าอันหล่อเกลาของเขาได้แต่พูดเบาๆว่า " ขอโทษนะ ฉัน……"
เสิ่นฉวนชีเอาแต่จ้องหน้าเธอจนเธอพูดจบ แล้วเขาค่อยพูดขึ้นว่า " พูดเสร็จแล้วใช่มั้ย ฉันรอที่ห้องอาหารนะ "
ซ่งอีนั่วมองตามแผ่นหลังของเขาที่กำลังเดินออกไป เธอคิดในใจ เธอทำไมห้ามปากตัวเองไม่ได้นะ? "
ซ่งอีนั่วเดินเข้าไปยังห้องอาหาร ก็เห็นเสิ่นฉวนชีที่นั่งอยู่โซนริมหน้าต่าง แสงอาทิตย์ในยามย็นที่ส่อง่านตึกสูงเข้ามา ทำให้กระทบกับเงาบนตัวเขา ในตอนนี้เขาดูบริสุทธิ์และมีออร่ามาก แต่ดูเหมือนเขาจะรู้สึกเศร้าเล็กน้อย
เธอรู้สึกผิดมาก ดูเหมือนว่าเธอจะพูดทำร้ายจิตใจเขาแล้วจริงๆ เธอเข้าเข้าไปใกล้ๆ จู่ๆเขาก็หันหน้ามาแล้วพอเห็นเธอเขาก็กระพริบตา พอเธอเดินเข้าไปใกล้เขาแล้ว สายตาเขาก็สงบทันที
เสิ่นฉวนชีลุกขึ้นแล้วเดินไปฝั่งตรงข้ามจากนั้นก็ดึงเก้าอี้ออกอย่างสุภาพบุรุษ แล้วพูดว่า " นั่งสิ "
ซ่งอีนั่วพูดว่าขอบคุณแล้วนั่งลงบนเก้าอี้
เสิ่นฉวนชีกลับไปนั่งที่เดิม และไม่ได้พูดอะไรเอาแต่เขี่ยโทรศัพท์ไปมา
เพราะว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในห้องเมื่อกี้นี้ ทำให้ทั้งสองคนต่างรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย ซ่งอีนั่วยกแก้วขึ้นแล้วดื่มน้ำไปหนึ่งคำ. จากนั้นก็เริ่มพูดขึ้นก่อนว่า " คุณอาเขยสี่ ขอโทษด้วยนะ ที่เมื่อกี้……"
" มันไม่ได้เกิดจากเธอ เธอไม่ต้องขอโทษฉันหรอก " แววตาของเสิ่นฉวนชีเต็มไปด้วยความเศร้าโศก
ซ่งอีนั่วรู้ดีว่า เธอได้พูดแทงใจดำเขาอีกแล้ว เธอกัดริมฝีปากตัวเองแน่น และไม่รู้ว่าจะพูดปลอบเขายังไงดี
เสิ่นฉวนชีเงยหน้าขึ้นมามองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น แล้วเขาก็พูดขึ้นว่า " เมื่อห้าปีก่อน ถูกแมวตัวหนึ่งทำร้าย "