ความลับ(รัก)ของประธานพันธุ์ร้าย NC25 - ตอนที่ 83 ไม่นานคงเจอตัว
ด้านเฉินเฟยอวี๋ผู้ถูกจับตัวมาหลังจากร้องไห้จนไม่มีน้ำตาเหลือแล้วก็เปลี่ยนวิธีใหม่ ผู้ชายคนนี้ถูกจ้างมาล่อลวงเขาดังนั้นเขาจึงคิดว่าเงินคงเป็นทางออกที่ดี เขาไม่รู้ว่าเบื้องหลังคนที่ว่าจ้างคือใคร ที่จับมาจุดประสงค์หลักเพื่ออะไร ข่มขู่พี่ชายเขา หรือต้องการเงิน
เฉินเฟยอวี๋รู้ดีว่าตัวเองมีเครื่องติดตามติดอยู่ที่ตัว จากเวลาที่เขาหายมาจวบจนป่านนี้ก็ผ่านมาข้ามคืนแล้วแต่เขากลับไม่เห็นวี่แววของคนที่มาติดตามเขาย่อมรู้ดีว่าต้องเกิดเรื่องผิดพลาดบางอย่างแน่นอน
หรือว่าเครื่องติดตามตัวจะใช้ไม่ได้
ในตอนนี้เฉินเฟยอวี๋ถูกมัดให้ติดอยู่กับเก้าอี้ตัวหนึ่ง เขาหาเรื่องปวดท้องเข้าห้องน้ำไปครั้งหนึ่ง คนพวกนั้นกลับยืนเฝ้าเขาทั้งที่เปิดประตูห้องน้ำเอาไว้ เฉินเฟยอวี๋มีใจเป็นหญิงย่อมอับอายอย่างมาก หลังจากนั้นเขาก็ไม่หาเรื่องให้ตัวเองอับอายอีก
คนพวกนั้นไม่คู่ควรที่จะเห็นงูของเขา
เมื่ออยู่กันสองต่อสองกับผู้ชายคนนั้น เฉินเฟยอวี๋ก็เริ่มต่อรอง
“ถ้านายต้องการเงินฉันคุยกับนายได้”
ผู้ชายคนนั้นกลับยกยิ้ม เขาพยักเพยิดหน้าขึ้นด้านบน เฉินเฟยอวี๋มองตามแล้วก็เห็นกล้องวงจรปิดที่ติดอยู่ในห้องจึงรีบหุบปากของตัวเองทันที
เขาสังเกตุพฤติกรรมของผู้ชายคนนั้นแล้วก็รู้สึกว่าเหมือนคนคนนี้กำลังเจอเรื่องลำบากใจ
ทำไมเขาไปโผล่ที่ฟิตเนส และ ทำไมคนพวกนั้นถึงรู้ว่าผู้ชายแบบนี้เป็นสเปคของเขา และเฉินเฟยอวี๋ก็มั่นใจในสายตาของตัวเอง หยางเจิงหรือจะชื่ออะไรก็ไม่รู้คนนั้นต่างมีรสนิยมเดียวกันกับเขา
เขาเชื่อสายตาตัวเองว่ามองไม่พลาด
เอาล่ะคราวนี้อาจจะต้องแสดงหนังสดกันหน่อย
เฉินเฟยอวี๋ยิ้มแล้วพูดว่า
“หยางเจิงฉันชอบคุณจริง ๆ นะ ฉันไม่ได้พูดเล่น”
เหมือนหยางเจิงจะหน้าแดง เขาหันหลังแล้วเดินออกมาจากห้องทันที เฉินเฟยอวี๋ไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ เขาดูไม่โหดเหี้ยมพอที่จะลักพาตัวคน และตอนนี้เหงื่อเขาก็ท่วมตัว ท่าทางกระวนกระวายเหมือนเกิดเรื่องไม่ดีกับตัวเขาเอง
หรือว่าที่เขาทำนี่ไม่ใช่เพราะเงิน แต่เพราะมีความจำเป็นอย่างอื่น
เฉินเฟยอวี๋สลัดความคิดพวกนี้ทิ้งเมื่อคิดได้ว่าตัวเองตอนนี้ยังเอาตัวไม่รอด ที่นี่ไม่มีหลี่เจี่ยซินสักหน่อย เขาในตอนนี้คิดถึงเธอจริง ๆ นะ คิดถึงมากที่สุด ถ้าหลี่เจี่ยซินอยู่ที่นี่เขาไม่มีทางตกอยู่ในสถาณการณ์นี้แน่นอน
เฉินเฟยอวี๋ได้แต่กระทืบเท้าลงพื้นน้ำตาหลั่งออกมาอีกครั้ง
ด้านอเล็กซ์ได้ช่วยกระจายกำลังคนของเขาออกตามหาเบาะแสของเฉินเฟยอวี๋อย่างเร่งด่วน เขาได้ใบหน้าของคนคนนั้นที่มาหลอกเฉินเฟยอวี๋แล้ว และกำลังตรวจสอบครอบครัวของคนคนนั้นอยู่
ผู้ชายคนนี้ชื่อหยางชิว เมื่อสืบหาคนในครอบครัวก็พบว่าหยางชิวมีน้องสาวคนหนึ่งพ่อแม่เสียเพราะอุบัติเหตุ และตอนนี้น้องสาวของเขาก็หายไปเด็กหญิงตัวน้อยมีอายุแค่เพียงสิบขาวเท่านั้น
หยางชิวเป็นนายแบบแต่ชื่อเสียงไม่ค่อยดังนักเป็นดาราเกรดซีที่ไม่ค่อยมีงาน หรือเพราะเขาหาเงินลำบากทั้งยังต้องเลี้ยงน้องสาวจึงรับทำงานล่อลวงนี้ จากการที่อเล็กซ์สืบมาดูแล้วน่าจะเป็นไปได้ เพราะหยางชิวมีหน้าตาคล้ายกับคู่ควงคนก่อน ๆ ของเฉินเฟยอวี๋แต่หล่อเหลาก่อมากเป็นสเปคของชายหนุ่มคนนั้นเขาจึงได้รับการติดต่อ
สงสัยว่าหยางชิวอาจจะปฏิเสธน้องสาวเลยถูกจับตัวไป
แล้วหยางชิวล่ะอยู่ที่ไหน หากว่าพบหยางชิวก็ย่อมตามหาเฉินเฟยอวี๋ได้
อเล็กซ์เองเมื่อสมัยเด็กเป็นหัวขโมยตามถนนในเกาะฮ่องกงนี้ไม่มีที่ไหนที่เขาไม่เคยไป และจากการที่เขาตามหาในตอนนี้คาดได้ว่าเฉินเฟยอวี๋จะอยู่ที่เกาะเกาลูน พวกนั้นคงพาเขาไปแอบซ่อนที่นั้น
ดูเหมือนว่าประธานกู้หรือกู้เมิ่งจะพาเขาไปที่นั่นเป็นแน่ และสิ่งที่สำคัญในตอนนี้นอกจากการตามหาตัวเฉินเฟยอวี๋แล้วคนที่พวกเขาต้องตามตัวให้เจอก่อนก็คือน้องสาวอายุสิบขวบของหยางซิว
ซึ่งง่ายกว่ามาก
นั่นเป็นเพราะว่าคนของกู้เมิ่งคิดไม่รอบคอบ ไม่คิดว่าพวกเขาจะตามแกะรอยจากวิธีนี้ การกระจายกำลังกันค้นหาจึงเกิดขึ้นเมื่อได้ภาพจากกล้องวงจรปิดจนพอที่จะตีวงแคบเพื่อค้นหาน้องสาวของหยางซิวแล้ว
ในบริเวณนั้นนอกจากบ้านเรือนของคนที่ไม่คิดว่าพวกคนร้ายจะจับตัวเอาไว้ในนั้นแล้วก็ยังมีวัดที่อยู่บนภูเขาสูงแห่งหนึ่ง หลิวไห่ได้ข้อมูลจากดวงตาสวรรค์มาแล้วเขาจึงรีบนำคนไปอย่างลับ ๆ เพื่อตามหาตัวเด็ก
พวกเขาเฝ้าอยู่รอบบริเวณวัดจนกระทั่งสัญญาณความร้อนจากดาวเทียมจับได้ว่าในวันนั้นมีเด็กผู้หญิงถูกจับขังอยู่ในห้องสวดมนต์แห่งหนึ่ง โดยข้างนอกมีคนเฝ้าอยู่สี่คน วัดแห่งนี้ยังพบว่ามีประธานกู้ให้การทำนุบำรุงอยู่เสมอ
หลิวไห่หัวเราะในใจ
“คนใจบาปอย่างประธานกู้ต่อให้พระพุทธเจ้าฟื้นขึ้นมาแสดงธรรมด้วยตนเองเขาก็ไม่มีทางที่จะบรรลุธรรมได้ คิดว่าให้เศษเงินกับวัดแล้วจะทำให้ตัวเองสบายใจได้จริงเหรอ”
เมื่อคนพร้อม และได้โอกาสบุก หลิวไห่สั่งให้คนบุกเข้าไปและช่วยเด็กคนนั้นเอาไว้ทันที เป็นเพราะการเฝ้าเด็กค่อนข้างหละหลวมด้วยไม่มีใครคิดว่าพวกหลิวไห่จะตามต้นตอมาถึงที่นี่จึงสามารถจับคนได้อย่างง่ายดาย
หลิวไห่เปิดประตูไม่ออกเพราะคนร้ายกลืนลูกกุญแจเข้าไปในท้อง เขาหัวเราะกับความโง่เขลาของผู้ชายคนนั้น คิดว่ากินลูกกุญแจแล้วจะสามารถแสดงความจงรักภักดีให้กู้เมิ่งเห็นได้อย่างนั้นเหรอ น่าตลกสิ้นดี
หลิวไห่ไม่แยแสเขาจึงใช้แรงถีบอย่างเต็มที่ไม่กี่ครั้งกลอนง่อย ๆ ก็พังลงจนสามารถเปิดประตูได้
เสียงเด็กหญิงร้องไห้ขึ้นมาอย่างน่าสงสาร ใบหน้าเล็ก ๆ ของเด็กน้อยเพียงเท่าฝ่ามือเท่านั้น
“ไม่ต้องกลัวนะพี่เป็นเพื่อนพี่ชายหนู พี่ชายหนูชื่อหยางซิวใช่หรือเปล่าเขาให้พี่มาช่วย”
เด็กคนนั้นแม้จะร้องไห้เพราะหวาดกลัวที่จู่ ๆ มีคนถีบประตูเข้ามาพอได้ยินชื่อพี่ชายตัวเองก็หยุดร้อง ทั้งยังกอดหลิวไห่เอาไว้แน่น
“พี่ชายให้มาช่วยหนูเหรอคะ บอกพี่ชายนะคะว่าหนูเข้มแข็งมากไม่ร้องไห้เลย”
หลิวไห่พยักหน้า เขาคว้ามือของเด็กออกมาแล้วให้คนพาไปที่รถ ขณะเขาสวบสวนคนสี่คนที่ถูกคนของเขาจับมัดเอาไว้เรียบร้อย เขาสั่งให้คนลากตัวคนร้ายไปขึ้นรถแล้วมาที่โกดังร้างของลุงเฉิงสถานที่ประจำที่เขาเคยซ้อมคนที่นี่
คนพวกนั้นถูกลากลงมาจากรถทีละคุณ หลิวไห่ดวงตาแดงก่ำด้วยความโกรธ คนพวกนี้ดูจะกระจอกและคงเป็นลูกน้องปลายแถว
“พวกแกจับน้องฉันไปไว้ที่ไหน”
แน่นอนว่าคนสี่คนเอาแต่ก้มหน้าและหุบปากแน่น หลิวไห่ยิ้มเย็นพลันแตะเข้าไปที่ใบหน้าของพวกมันทีละคน ทั้งยังใช้ส้นรองเท้ากระทืบโดยไม่คิดที่จะปราณีเลยสักนิด
หลิวไห่จับคอเสื้อคนพวกนั้นขึ้นมาทีละคน ก่อนจะต่อยหน้าจนฟันของพวกมันแทบหลุดไม่เว้นแม้แต่คนเดียว
การทรมานของเขายังไม่จบสิ้น หลิวไห่ลากพวกมันออกมายังพื้นข้างนอก สั่งให้คนถอดรองเท้าพวกมันออกให้หมด ด้านหน้าของเขาเป็นเศษแก้วที่แตกจำนวนมาก มองดูเผิน ๆ เหมือนแก้วนั้นจะเป็นสีแดง แต่เมื่อดูดี ๆ กลับพบว่าเป็นเศษแก้วที่เปื้อนไปด้วยเลือด
ที่แท้สีแดงนั้นคือเลือดของมนุษย์ ไม่รู้ว่าจะมีใครต้องย่ำเศษแก้วนี้ไปเท่าไหร่แล้ว
หลิวไห่ยกมุมปากเหี้ยมเกรียม การทรมานคนเขาไม่เคยชอบเลยสักนิด แต่หากไม่ทำเช่นนี้ก็อย่าหวังว่าจะได้สิ่งที่ต้องการจากปากของคนพวกนี้
สุดท้ายแล้วพวกมันต่างมองหน้ากัน ระยะทางเบื้องหน้าหากต้องเหยียบเข้าไปก็ไม่รู้ว่าพวกเขาจะทนทรมานได้หรือเปล่า เศษแก้วคมที่พร้อมจะทิ่มตำร่างกายของคนทำให้พวกมันขนลุก
หลิวไห่รู้ดีว่าคนของประธานกู้โหดร้ายแค่ไหน แม้ในตอนนั้นที่เขาถูกทรมานโยนลงน้ำก็เกือบจะกลายเป็นเหยื่อของจรเข้ไปแล้ว หากพ่อของเขาไม่ยอมปริปาก
สุดท้ายแล้วคนพวกนั้นย่อมทนไม่ได้ มีคนหนึ่งพูดขึ้นมาทันใด
“ผมรู้แค่ว่าเขาอยู่ฝั่งเกาลูนครับ แต่ที่ไหนผมเองก็ไม่รู้ครับ ไม่รู้จริง ๆครับ ผมรู้แค่นี้จริง ๆ ครับ”
หลิวไห่คาดคั้นต่อ
“ใครเป็นคนติดต่อคนฝั่งโน้น”
ผู้ชายคนนั้นที่คุกเข่าอยู่ทั้งใบหน้าเต็มไปด้วยเลือดชี้ไปที่ ผู้ชายอีกคนที่ทนพิษเท้าของหลิวไห่ไม่ไหวจนสลบไปแล้ว
“เขาครับ”
หลิวไห่สั่งให้คนค้นตัวแต่ไม่พบโทรศัพท์สักเครื่อง
“โทรศัพท์อยู่ไหน”
ผู้ชายคนนั้นตอบทั้งที่เลือดเริ่มกลบปาก
“โทรศัพท์มีคนเอาไปแล้วครับ”
หลิวไห่รีบโทรศัพท์หาอเล็กซ์ทันที
“อยู่เกาลูน คาดว่าอาจจะเป็นวัดสักที่”
อเล็กซ์รับคำ
“ไม่ต้องห่วงคิดว่าได้เบาะแสแล้ว ไม่นานต้องเจอตัวแน่”