ความลับ(รัก)ของประธานพันธุ์ร้าย NC25 - ตอนที่ 32 กลัวจริง ๆ
น่าเสียดายที่วันนี้กว่าเขาจะออกจากบ้านคุณย่าของหลี่เจี่ยซินก็มืดค่ำแล้ว หลิวไห่จึงได้แต่ต้องรอให้ถึงวันพรุ่งนี้เพื่อที่จะเดินทางไปยังบ้านเก่าของเขาเพื่อไปเอาจดหมายในตู้ไปรษณีย์ที่เขาเช่าเอาไว้
ขับรถออกมาได้ไม่นาน หลี่เจี่ยซินก็รู้สึกถึงบางอย่าง
“ที่รักคุณก้มตัวลงต่ำหน่อย อย่าเงยหน้าขึ้นมาเด็ดขาดนะ อันตราย ถ้าเสียงดังให้ใช้นิ้วอุดหูเอาไว้”
หลิวไห่เองก็รู้สึกถึงความผิดปกติ เขามองหลี่เจี่ยซินพลางทำหน้าสงสัย เธอยังเปิดเพลงเสียงดังเหมือนกำลังจะกลบเสียงบางอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้นพร้อมกับพูดว่า
“ฉันคิดว่ามีคนตามเรามา ระวังเอาไว้ก่อนก็ดี”
หลิวไห่เองต้องทำตัวอ่อนแอให้หลี่เจี่ยซินปกป้อง แม้ว่าเขาจะสามารถดูแลตัวเองได้และยังรู้สึกกระดากที่ต้องให้ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างหลี่เจี่ยซินปกป้องก็ตาม
“พวกมันคงจ้องวันที่ที่รักจะกลับมาคิดจะลงมือวันนี้ ไม่มีทางหรอกฉันไม่มีวันยอม”
“พวกมันจ้องเล่นงานฉันเหรอ”
หลิวไห่ถามด้วยความสงสัย แต่เขาคิดว่าคนของสกุลกู้ชอบใช้วิธีนี้อยู่แล้วก็ไม่มีอะไรแปลกอยู่แล้ว
“ใช่ มันคงโกรธที่ที่รักไม่ยอมขายบริษัทให้มัน คงคิดสั่งสอน แต่คอยดูเถอะวันนี้ว่าใครกันแน่ที่จะสั่งสอนใคร”
หลี่เจี่ยซินพูดขึ้น เธอเร่งความเร็วของรถและขับแซงคันอื่นอย่างน่าหวาดเสียว หลิวไห่ก้มตัวตามที่หลี่เจี่ยซินบอก เขาไม่ต้องการให้หลี่เจี่ยซินสงสัยจึงแสดงสีหน้าคล้ายจะวิตก ยังแกล้งทำเสียงอ่อนทั้งยังสั่นเครือบอกหลี่เจี่ยซินให้ระวัง
“ที่รัก คุณระวังด้วยนะ”
“ไม่ต้องห่วง เธอก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าฉันดูแลตัวเองและปกป้องเธอได้”
หลี่เจี่ยซินยังมีเวลาปล่อยพวงมาลัยแล้วลูบหัวเขาคล้ายเป็นลูกหมาตัวหนึ่งที่เธอต้องปกป้อง
หญิงสาวเหยียบคันเร่งจนมิด หลิวไห่ในใจอยากเห็นว่าหลี่เจี่ยซินจะเก่งแค่ไหน นอกจากแรงที่เธอมีแล้วการขับรถของเธอก็นับว่าเป็นเทพเจ้าซิ่งสายฟ้าได้เลยทีเดียว
และเห็นอย่างที่หลี่เจี่ยซินคาดเดา มีรถสองคันที่ตามพวกเขามา คันหนึ่งเป็นมอเตอร์ไซต์และอีกคันหนึ่งเป็นรถเก๋งที่เครื่องแรงไม่ใช่น้อย
หลี่เจี่ยซินเร่งเครื่องพาหลิวไห่หนีอย่างรวดเร็ว สายตาของเธอนับว่าดีมาก ไม่มีวอกแวกและมั่นคง
“เอาล่ะ ฉันจะเลี้ยวซ้ายข้างหน้า”
เธอพูดจบก็หักพวงมาลัยเลี้ยวกระทันหัน จนกระทั่งรถที่ตามมาถูกปาดหน้าต้องเบรกและบีบแตรสนั่น โชคดีที่พวกเขาไม่เกิดอุบัติเหตุ การตัดสินใจของหลี่เจี่ยซินในครั้งนี้สามารถสลัดรถยนต์คันนั้นที่ตามมาได้แต่ยังไม่หลุดจากมอเตอร์ไซต์คันหนึ่ง
ถนนค่อนข้างแคบ หลี่เจี่ยซินกลืนน้ำลายลงคอเมื่อเห็นว่าคนที่ซ้อนหลังรถมอเตอร์ไซต์มีปืนกลเบาและกำลังเล็งมาที่รถของพวกเขา ถึงรถคันนี้จะกันกระสุนแต่เธอก็กลัวว่าเฉินเฟยอวี๋จะตกใจจนกรีดร้องออกมา
เห็นเขาร่างบึกบึนกล้ามแน่นแบบนี้ใจอ่อนแอเป็นอย่างยิ่ง
เธอจึงลูบหัวของเขาอีกครั้งแล้วพูดปลอบใจเอาไว้
“อย่ากลัวนะ ข้างหลังมีปืนยกมืออุดหูเอาไว้ไม่ต้องห่วงรถค้นนี้กันกระสุน”
หลิวไห่ยิ้มออกมา เมื่อหลี่เจี่ยซินกำลังดูแลเขาราวกับว่าเขาเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง เขาในฐานะที่เป็นเฉินเฟยอวี๋จึงต้องแสดงละครเล็กน้อย
“ที่รักช่วยคุ้มครองฉันด้วย”
“ไม่ต้องกลัว ฉันจะปกป้องเธอด้วยชีวิต”
หลี่เจี่ยซินบอกเขา ตั้งใจขับรถต่อ ในขณะที่หลิวไห่รู้สึกแปลกประหลาดที่ได้ยินผู้หญิงตัวเล็กพูดกับเขาแบบนี้
ไม่นานกระสุนก็สาดมายังรถของพวกเขา หลิวไห่ก้มตัวลงต่ำเพราะหลี่เจี่ยซินสั่งเขาเสียงดัง ในขณะที่เขาเองก็ห่วงเธอไม่น้อย
แต่ฝีมือของหลี่เจี่ยซินทำให้หลิวไห่ต้องอ้าปากค้าง เมื่อเธอคล่องแคล่วพามอเตอร์ไซต์คันนั้นมาถึงที่เปลี่ยวแล้วกลับรถเสียงดังเอี๊ยด
หลี่เจี่ยซินดึงปืนออกมาจากเบาะข้าง เธอเปิดกระจกออกแล้วเล็งปืนออกนอกกระจก ขับรถพุ่งเข้าหามอเตอร์ไซต์คันนั้นอย่างไม่เกรงกลัว หลิวไห่ยังเห็นดวงตาเย็นชาของเธอพร้อมทั้งรอยยิ้มเหี้ยมเกรียม
มันเป็นรอยยิ้มเดียวกันกับที่เธอข่มขืนเขาในวันนั้น
ใช่เขาดูไม่ผิดหรอก มันเหมือนกันไม่มีผิดเพี้ยน
หลี่เจี่ยซินกดไกปืน เธอยิ่งรัวไม่ยั้งและก็ค่อนข้างแม่น มอเตอร์ไซต์คันนั้นในตอนนี้หวาดกลัวจนกลับรถและหนีไปแล้ว กลายเป็นหลี่เจี่ยซินที่เป็นฝ่ายไล่ล่า
หญิงสาวยิงโดยไม่คิดว่ามันจะตายหรือเปล่า เป็นครั้งแรกที่หลิวไห่เห็นผู้หญิงที่น่ากลัวขนาดนี้ เขาเอาแต่คิดว่า หลี่เจี่ยซินโตมาแบบไหนกันนะ เหมือนเธอจะสามารถฆ่าคนได้โดยที่ตาไม่กะพริบด้วยซ้ำ
สุดท้ายแล้วกระสุนปืนของหลี่เจี่ยซินหมด เขาคิดว่าคงจะจบแล้วเมื่อมอไซต์คันนั้นเร่งเครื่องหนี แต่หลี่เจี่ยซินกับยกยิ้มเหี้ยมเกรียมอีกครั้ง เธอหยิบปืนอีกอันขึ้นมา คราวนี้หญิงสาวรัวปืนเป็นชุด
“บิงโก ยิงถูกมันแล้ว สนุกเป็นบ้าเลย”
เป็นครั้งแรกที่หลิวไห่รู้สึกตื่นเต้นที่ได้เห็นผู้หญิงเป็นแบบนี้ ยิ่งเห็นว่าเธอหัวเราะชอบใจก็ยิ่งคิดว่าหลี่เจี่ยซินคนนี้น่าสนใจไม่ใช่น้อย
แต่แล้วคนขับมอเตอร์ไซต์คันนั้นก็ขับรถกระโดดข้ามเกาะเล็กหนีไปได้ หลี่เจี่ยซินเบรกรถเสียงดังเอี๊ยด ถ้าไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัยหลิวไห่คงหน้าชนกับคอนโซลรถไปแล้ว
หลี่เจี่ยซินตบเข้าที่พวงมาลัยเสียงดัง พร้อมกับสบถออกมาอย่างแรง
“ไอ้เลวเอ๊ย หนีไปจนได้”
หลิวไห่ค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมองเธอ หลี่เจี่ยซินปรับสีหน้าที่ดูน่าหวาดกลัวเมื่อสักครู่ให้อ่อนลงแล้วถามเขา
“ที่รักกลัวมากใช่หรือเปล่า เสียดายที่ฉันฆ่ามันไม่ได้แต่พวกมันคงเข็ดไม่มาตามตอแยไปอีกหลายวัน”
หลิวไห่อยากจะถามเหรอเกินว่าเกิดเหตุการณ์นี้บ่อยเหรอ ทำไมน้องชายของเขาไม่เคยเล่าให้ฟังเลย แต่เขาไม่สามารถถามเธอออกไปได้ นอกจากคำว่า
“ที่รักฉันขอกอดได้หรือเปล่า ฉันกลัวจริง ๆ นะ”