ความลับ(รัก)ของประธานพันธุ์ร้าย NC25 - ตอนที่ 22 เรียน หลีก เลี่ยง
สามปีแล้วที่หลิวไห่ติดคุกในข้อหาร้ายแรง เขายังคงตั้งใจเรียนรู้จากคนที่มีความสามารถที่วนเวียนเข้ามาและออกไป วันเวลาที่ผ่านมาหลิวไห่ไม่เคยระรานใครและไม่เคยมีใครกล้ากับเขา
จนกระทั่งวันหนึ่งลุงเฉิงผู้เงียบขรึมที่อาศัยอยู่ในห้องขังรวมกับเขาก็เริ่มที่จะออกมากินข้าวร่วมกับคนอื่น หลิวไห่ประหลาดใจมากที่ลุงเฉิงจู่ ๆ ก็ออกมา เขารู้มาจากอเล็กซ์ว่าลุงเฉิงคนนี้มีโรคประจำตัว อยู่ร่วมกับคนหมู่มากไม่ได้ผู้คุมจึงอนุญาตให้เขากินข้าวแยกต่างหาก
แต่ถึงจะพูดแบบนั้น แต่เขาผู้อยู่ร่วมห้องกับลุงเฉิงมาถึงสามปีกับไม่เคยป่วยหรือเป็นอะไรเลย ลุงเฉิงเป็นคนชอบอ่านหนังสือ เขามักจะมีหนังสือแปลกใหม่อยู่ในมือเสมอ เมื่ออ่านจบก็โยนให้หลิวไห่ไปอ่านต่อ
นี่จึงเป็นบทสนทนาเพียงเรื่องเดียวที่ลุงเฉิงกับหลิวไห่ได้สนทนากันบ้าง ส่วนคนอื่นที่อยู่ร่วมห้องไม่มีใครกล้ายุ่งกับลุงเฉิงแม้แต่คนเดียว
หลิวไห่รู้เพียงว่า ลุงเฉิงเองก็ถูกยัดข้อหาฆ่าคนตายมาเหมือนกันกับเขา คนส่วนใหญ่มักจะมองว่าที่นักโทษปฏิเสธก็เพราะว่าตัวเองได้หลอกตัวเองไปแล้วว่าไม่ได้ฆ่าใคร เป็นจิตใต้สำนึกที่กำลังปิดบังความจริงอันเจ็บปวดที่ตัวเองก่อไว้
ดังนั้นผู้ที่มีหลักฐานแน่นหนาที่เชื่อได้ว่าคนผู้นั้นเป็นคนฆ่าย่อมถูกเข้าใจผิดได้ง่าย
หลิวไห่ศึกษาทุกอย่างที่ลุงเฉิงโยนมาให้ เขาถึงขั้นลองแนะนำผู้คุมคนหนึ่งให้ซื้อหุ้นบางตัวเพื่อลองวิชาและผลที่ได้คือผู้คุมคนนั้นได้กำไรมหาศาล จึงชักชวนผู้คุมคนอื่นให้มาเล่นด้วย ระยะหลังมานี้หลิวไห่จึงกลายเป็นคนโปรดของผู้คุม
เขาสามารถนั่งอ่านหนังสือ วิเคราะห์ตลาดหุ้นได้ทั้งวันโดยที่ไม่ต้องทำอย่างอื่นเลยโดยที่ไม่มีใครว่า
หลิวไห่มีเงินเก็บอยู่ก้อนหนึ่งซึ่งเป็นเงินที่พ่อของเขาทิ้งไว้ให้นับเป็นจำนวนพอสมควร เขาได้วานผู้คุมคนหนึ่งไปที่บ้านของเขาแล้วเอาเอทีเอ็มเบิกไปเบิกเงินเพื่อมาซื้อหุ้นตัวหนึ่ง เมื่อได้กำไรเขาก็แบ่งให้ผู้คุมคนนั้นถึงครึ่งหนึ่ง
ปีที่แล้วเขาได้ช่วยเหลือนักบัญชีคนหนึ่งที่เพิ่งเข้ามาเพราะคดียักยอกเงินในบัญชีบริษัทมาเกือบสิบห้าปี จนกระทั่งถูกจับได้ในที่สุด เพราะเห็นท่าทางอ่อนแอชวนให้คนรังแกของเขาทำให้หลิวไห่อดสงสารไม่ได้
“ทำไม่ถึงทำเรื่องแบบนั้นล่ะ”
หลิวไห่ถามเขาในวันหนึ่ง
“ลูกสาวป่วยเป็นมะเร็ง ต้องใช้เงินรักษาเยอะผมไม่มีทางอื่นแล้วนอกจากวิธีนี้ ความจริงก็ตั้งใจว่าหากลูกสาวดีขึ้นจะทำงานชดใช้หนี้แต่โชคร้ายที่นอกจากลูกสาวจะจากผมไปแล้ว ผมยังถูกจับได้อีก”
หลิวไห่มองเขาแล้วพูดว่า
“คุณถูกจับได้หรือจงใจให้บริษัทรู้ล่ะ”
เขายิ้มเศร้า ๆ
“คุณเป็นคนแรกที่พูดแบบนี้กับผม”
“ผมคิดว่าคุณแค่อยากชดใช้ให้กับบริษัท และเพราะลูกสาวเสียเลยไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อแล้ว ความจริงนักบัญชีที่เก่งแบบคุณหลบเขามาได้เป็นสิบปีอยู่ ๆ จะถึงทางตันได้ยังไง มันไม่มีทางเป็นไปได้นอกจากคุณตั้งใจเข้ามาอยู่ในนี้เอง”
ผู้ชายคนนั้นร้องไห้
“ผมแค่อยากชดใช้กรรม เผื่อว่าได้มีโอกาสเจอลูกสาวของผมบนสวรรค์เธอจะยกโทษให้พ่อแบบผม”
หลิวไห่ตบไหล่เขา แล้วพูดว่า
“เธอต้องภูมิใจแน่ ๆ คุณจำเป็นนี่นา”
ผู้ชายคนนี้ชื่อมู่หลง เขาอายุเกือบจะห้าสิบปีแล้วภรรยาก็ตายด้วยมะเร็งและมีเพียงเขาเท่านั้นที่เฝ้าเลี้ยงดูลูกสาวเพียงลำพัง แต่ลูกสาวก็โชคร้ายเมื่อได้รับเชื่อมาจากกรรมพันธ์ มู่หลงทำเต็มที่เพื่อยื้อชีวิตของลูกสาวแต่สุดท้ายเธอก็จากเขาไปอีกคน
หลังจากวันนั้นมู่หลงก็ตามติดหลิวไห่ราวกับเด็กน้อยคนหนึ่ง ไม่ว่าหลิวไห่จะอยู่ไหนยกเว้นในตอนที่ต่างคนต่างแยกไปนอนที่แดนของตัวเอง ก็มักจะเห็นมู่หลงอยู่กับเขาแทบจะตลอดเวลา
ในช่วงพักกลางวัน หลังจากที่ทุกคนต่างทำกิจกรรมที่เรือนจำกำหนดเรียบร้อย หลิวไห่กำลังต่อคิวรับอาหารอยู่ เขาบังเอิญเหลือบไปเห็นหนึ่งในนักโทษคนหนึ่งกำลังซ่อนวัตถุบางอย่างไว้ในกางเกง
หลิวไห่เดาไว้ว่าน่าจะเป็นช้อนที่ถูกทุบให้แบนแล้วเจียปลายแหลม ไม่รู้ว่าแก๊งไหนจะตีกันอีกเขาไม่อยากสนใจ เรื่องพวกนี้ล้วนมีอยู่ตลอดขอเพียงคนพวกนั้นไม่ยุ่งกับเขาก็พอ เขาจึงเอ่ยเตือนมู่หลง
“พี่มู่เห็นแก๊งที่อยู่ห่างจากเราสักสี่ห้าคนหรือเปล่า วันนี้อย่าเข้าใกล้พวกเขาเด็ดขาดไม่รู้ว่ากำลังจะทำร้ายใคร”
เห็นได้ชัดว่ามู่หลงหน้าซีด เขายังกำชายเสื้อหลิวไห่แน่น เพราะความรู้สึกที่โดนกระทืบในวันนั้นเขายังจำได้ดี เขาแค่เดินชนผู้ชายคนหนึ่งแทบจะสะกิดแต่กลับถูกรุมกินตีนจนใบหน้าบวม ถ้าหลิวไห่ไม่มาช่วยเอาไว้คงมีคางแตกหรือกระดูกหักเป็นแน่
“วันนี้ฉันจะเกาะติดพี่หลิวเลยล่ะ”
ถึงมู่หลงจะอายุมากกว่าแต่เขาก็เรียกหลิวไห่ด้วยความนับถือว่าพี่
หลิวไห่ไม่พูดอะไร เขาต่อแถวรับข้าวเงียบ ๆ จนกระทั่งถึงคิว ก็เห็นว่าลุงฉิงเดินผ่านหน้าตัวเองไป ในมือของเขามีถาดอาหารซึ่งมีกับข้าวเต็ม หลิวไห่ยังเห็นเนื้ออยู่ในถาดนั้นชิ้นใหญ่ ในขณะที่คนอื่นได้กินแค่วิญญาณหมูกับเศษผัก
ไม่รู้ว่าลุงฉิงใหญ่แค่ไหน ได้แต่เตือนตัวเองว่าอย่าหาเรื่องกับลุงแก่คนนี้
หลิวไห่รับข้าวพร้อมวิญญาณหมูและผักแข็ง ๆ ที่ผัดกับน้ำมันจนเลี่ยน แต่เขากินแบบนี้มานานจนชินแล้ว รสชาติอาหารกลายเป็นสิ่งสมมุติสำหรับเขา ในขณะที่มู่หลงทำยังไงก็ไม่ชินเสียที ยังทำหน้าแทบจะอาเจียนออกมาเมื่อเห็นของมันแผล็บบนถาดข้าวของตัวเอง
“กินไปเถอะ ถ้าทนดูไม่ได้ก็หลับตากิน”
หลิวไห่บอกเขาเมื่อนั่งคนละฝั่งเพื่อกินข้าว เขามองไปรอบ ๆ วันนี้แปลกที่ไม่เห็นอเล็กซ์ที่ปกติต้องมาทักทายเขาเพื่อเรียนวิชาการต่อสู้ทุกวัน แต่วันนี้หลิวไห่ไม่เห็นอเล็กซ์ตั้งแต่เช้าแล้ว
ลูกน้องคนหนึ่งของอเล็กซ์มานั่งข้างเขาแล้วพูดเบา ๆ ด้วยใบหน้าซีดเซียวว่า
“พี่หลิววันนี้ต้องรบกวนพี่แล้ว เมื่อวานตอนเย็นพี่อเล็กซ์ถูกลอบแทงอาการสาหัส ตอนนี้คนของพวกเราโดนเรียงตัวไปทีละคนดูไม่ทันเลยว่าเป็นพวกไหนกันแน่”
หลิวไห่ถึงบางอ้อทันทีว่าผู้ชายคนที่เขาเห็นนั้นกำลังจะใช้ช้อนที่ทำเป็นอาวุธไปจัดการพวกใครกัน