ข้าคือเขยผู้ยิ่งใหญ่ - ตอนที่ 112 ตบหน้าห้าสิบที
ในขณะเดียวกัน ผู้จัดการของฉินโหลวเดินผ่านมาพอดี มองมาทางนี้อย่างไม่ตั้งใจ มองเห็นการ์ดมังกรดำใบนั้นในมือเย่เทียน ทันใดนั้นรู้สึกคุ้นตาอยู่หน่อย อดหยุดฝีเท้าลงไม่ได้ เดินเข้าทางนี้แบบไม่รู้ตัว
“คุณผู้ชายครับ การ์ดใบนี้ของคุณคือ……”
เย่เทียนครุ่นคิดอย่างหนักรอบหนึ่ง พูดแบบไม่ค่อยแน่ใจ “ผมจำได้ว่าเหมือนมันจะเรียกว่าการ์ดมังกรดำอะไรสักอย่าง”
มองท่าทางที่ไม่ค่อยแน่ใจของเย่เทียนนั้น จากนั้นพินิจพิเคราะห์การแต่งตัวของเย่เทียนอย่างละเอียดอีกหน่อย ผู้จัดการก็ลังเลขึ้นมาอยู่บ้าง
สำหรับการ์ดมังกรดำ เขาเพียงแค่เคยได้ยินมาเท่านั้น แต่ไหนแต่ไรไม่เคยเห็น เดิมทีไม่สามารถยืนยันผ่านรูปลักษณ์ภายนอกได้ว่าเป็นของจริงหรือของปลอม!
คิดมาถึงจุดนี้ ผู้จัดการจึงพูดแนะนำ “คุณผู้ชายครับ ถ้าไม่อย่างนั้นคุณให้การ์ดใบนี้กับผมก่อน ผมจะนำเข้าไปดูหน่อย?”
“ได้”
เย่เทียนไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ยื่นการ์ดมังกรดำให้ผู้จัดการ ให้เขานำไปวินิจฉัยชี้ขาดแล้ว
ภาพเงาของผู้จัดการเพิ่งหายไปเมื่อสักครู่นี้ หลี่เฟิงและพนักงานต้อนรับชายปรึกษากันเสร็จเดินกลับมาแล้ว
“ทั้งสามท่านครับ ยังรบกวนพวกคุณนั่งรอทางนั้นสักครู่นะครับ ขอเพียงมีที่นั่งว่างผมจะรีบจัดเตรียมให้พวกคุณทันทีครับ”
พนักงานต้อนรับชายชี้ไปยังห้องพักผ่อนที่อยู่ด้านข้าง จากนั้นถึงพุ่งเป้าหมายมายังเย่เทียน พูดแบบไม่เป็นมิตร “สำหรับคุณผู้ชายคนนี้ ยังขอเชิญคุณออกไปจากที่นี่ด้วย ร้านอาหารของพวกเราไม่ต้อนรับพวกต้มตุ๋น!”
“นายพูดแบบนี้หมายความว่าอะไร?” เย่เทียนขมวดคิ้วแน่นขึ้นมาในชั่วขณะนั้น
“เหอะ เมื่อกี้คุณเอาการ์ดอะไรไม่รู้ออกมา กล้าสวมรอยเป็นสมาชิกของร้านอาหารพวกเรา คุณไม่ใช่พวกต้มตุ๋นแล้วจะเป็นอะไร?”
รับเงินของหลี่เฟิงไป พนักงานต้อนรับชายเกรงใจต่อเย่เทียนได้ที่ไหนกัน “นี่คุณจะออกไปเอง? หรือว่าจะให้ผมเรียกรปภ.ไล่คุณออกไป?”
เย่เทียนเงียบงันลงมา ชำเลืองสายตาไปทางหลี่เฟิงที่หน้าตาเยาะเย้ยแวบหนึ่ง ใช้จมูกคิดก็รู้ว่าเป็นเขาวางแผนชั่วร้าย
“เย่เทียน ฉัน……” ซูเหมยร้อนใจแล้ว อยากออกมาปกป้องเย่เทียน
เพียงแต่ จ้าวเสว่เฟินที่ไม่ชื่นชอบเย่เทียนอยู่แล้ว เดิมทีไม่ได้ให้โอกาสเธอ ฝืนดึงไว้เดินไปด้านข้าง
“มา เสี่ยวเหมย แม่จะคุยธุระกับลูกหน่อย”
“คุณผู้ชายในเมื่อคุณไม่ยินยอมออกไปเอง งั้นอย่าโทษว่าผมเรียกรปภ.แล้วกัน”
เย่เทียนนิ่งเงียบ แต่ไม่ได้หมายความว่าพนักงานต้อนรับจะเลิกราด้วยดี คลำเอาวิทยุสื่อสารที่แขวนไว้ตรงเอวออกมา ออกปากเรียก “รปภ.มาหน้าประตูหน่อย มีคนกำลังก่อเรื่อง”
เวลานี้ ผู้จัดการที่นำการ์ดมังกรดำออกไปวิ่งเข้ามาอย่างร้อนรนมาก ยื่นการ์ดมังกรดำให้เย่เทียนด้วยความเคารพนบนอบ
“คุณผู้ชายครับ สมาชิกชั้นสุดที่มาใช้บริการร้านของพวกเราน้อยเหลือเกินครับ ขอโทษที่ผมตาต่ำ ไม่สามารถจำได้ ยังขอให้คุณอย่าได้ถือสาด้วยครับ”
ชั่วพริบตาเดียวหลี่เฟิงราวกับโดนฟ้าผ่า ตะลึงค้างถึงที่สุดอยู่ที่เดิม ในหัวสมองเต็มไปด้วยคำว่า‘สมาชิกชั้นสุด’
โดยเฉพาะเขาเป็นสมาชิกชั้นเงิน สำหรับระดับสมาชิกของฉินโหลวมีมากน้อยเท่าไรยังเข้าใจดี ตามที่รู้มาจนถึงปัจจุบันนี้ ทั้งตระกูลฉินเพิ่งส่งการ์ดสมาชิกชั้นสุดออกไปแค่สามใบเท่านั้น เห็นได้ว่ามีความสูงศักดิ์!
แต่ทว่า เย่เทียนที่เขาเยาะเย้ยเข้ามาตลอดทาง คาดไม่ถึงก็คือสมาชิกชั้นสุดของฉินโหลว ครั้งนี้ขายขี้หน้ามากเสียจริงเลย!
แต่ว่า ไม่นานหลี่เฟิงก็ได้สติกลับมา ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ “ผู้จัดการ คุณเข้าใจผิดหรือเปล่า? การ์ดที่ดำจนดูไม่ได้ใบนั้น เป็นการ์ดสมาชิกชั้นสุดของบริษัทพวกคุณจริง?”
“เทคนิคปลอมแปลงในตอนนี้เหนือชั้นมากเลยนะ คุณอย่าโดนคนอื่นหลอกเข้าเป็นอันขาดล่ะ!”
พูดแบบนี้ออกมา ชั่วขณะนั้นสีหน้าผู้จัดการเปลี่ยนไป จ้องหลี่เฟิงอย่างเย็นชา
“คงไม่รบกวนคุณผู้ชายมากังวลหรอกครับ การ์ดลูกค้าพิเศษของบริษัทพวกเราล้วนมีบาร์โค้ดพิเศษ คนนอกไม่อาจปลอมแปลงได้เด็ดขาดครับ”
“การ์ดที่คุณบอกว่าดำจนดูไม่ได้ใบนั้น คือการ์ดมังกรดำชั้นสุดของบริษัทพวกเรา นอกจากสามารถถอนเงินสิบล้านจากธนาคารใดก็ได้แล้ว ยังใช้จ่ายฟรีภายใต้กิจการทุกหมดของตระกูลฉินด้วยครับ!”
พูดมาถึงตรงนี้ ถึงแม้เขาในฐานะผู้จัดการของฉินโหลว ยังอดทำหน้าตาอิจฉาเต็มที่ไม่ได้
ไม่ต้องพูดถึงเงินสิบล้าน เพียงแค่ใช้จ่ายฟรีในกิจการทั้งหมด ขอเพียงตระกูลฉินไม่ล้ม ทั้งชาตินี้ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องของกินของใช้เลย!
ได้รับคำตอบยืนยัน หลี่เฟิงงงตาค้างถึงที่สุด นึกไม่ถึงโดยสิ้นเชิง เย่เทียนที่ยากจนนี้ จะครอบครองการ์ดมังกรดำที่สูงค่าสุดของตระกูลฉิน!
ต้องรู้ว่า เขาใช้จ่ายอยู่ที่นี่มาเป็นเวลาเกือบจะสองปีแล้ว เพียงแค่แลกการ์ดสมาชิกชั้นเงินมาได้อย่างลำบาก เทียบกับการ์ดมังกรดำห่างไกลกันหมื่นลี้?
แม้แต่หลี่เฟิงยังเป็นเช่นนี้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพนักงานต้อนรับชายที่รับเงินมากคนนั้นเลย ยื่นมือออกมาชี้ไปยังเย่เทียน พูดติดอ่าง “ผู้ ผู้จัดการ……”
“เสี่ยวหลิว นี่เป็นถึงสมาชิกชั้นสุดของร้านอาหารพวกเรา ระวังท่าทีของนายด้วย!”
แต่น่าเสียดาย ไม่รอให้เขาพูดออกมา ผู้จัดการก็ถลึงตาใส่อย่างดุร้าย พูดประจบเย่เทียน “คุณลูกค้าที่เคารพครับ คนชั้นล่างไม่รู้ภาษาอะไร ยังหวังว่าคุณจะเมตตากรุณา อย่าเก็บไปใส่ใจเลยนะครับ”
เย่เทียนเล่นการ์ดมังกรดำใบนั้นอยู่ พูดแบบมีเลศนัย “ถ้าเขาเป็นแค่แบบนี้ผมจะไม่เก็บมาใส่ใจแน่นอน เพียงแต่……”
ในเวลานี้ พนักงานรักษาความปลอดภัยที่เสี่ยวหลิวเรียกปรากฏตัวขึ้นพอดี พูดตะโกนมาแต่ไกล “เสี่ยวหลิว เป็นใครที่ใจกล้าบ้าบิ่นมาก่อเรื่องที่ฉินโหลวของพวกเรากัน? พวกพี่ต้องต่อยมันสักยกซะให้เข็ด!”
“พวกนายหลายคนนี้ตะโกนมั่วอะไรกัน!”
ผู้จัดการเห็นแบบนี้ ชั่วขณะนั้นขมวดคิ้วใหญ่ และมองไปทางเสี่ยวหลิวคนนั้น “เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
“ผู้จัดการครับ ผม ผมคิดว่าเขาเป็นพวกต้มตุ๋น ดังนั้นถึง……” เสี่ยวหลิวสับสนถึงขั้นสุด อธิบายแบบติดๆ ขัดๆ
สีหน้าผู้จัดการเปลี่ยนไปมาก พูดด้วยเสียงเย็นชา “คนที่ครอบครองการ์ดชั้นสุดไว้ จะเป็นพวกต้มตุ๋น? สมองแกมันผิดปกติรึไง! แกโดนไล่ออกแล้ว!”
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าล่วงเกินลูกค้าที่เคารพอย่างเย่เทียนแล้ว เขาคงไม่ต้องคิดอยากทำงานที่นี่ต่อไป นับประสาอะไรกับพนักงานบริการตัวเล็กๆ คนหนึ่งล่ะ!
สำหรับตัวอย่างของผู้จัดการ เย่เทียนยังพึงพอใจมาก หลังจากย้ายสายตาไปมองบนตัวหลี่เฟิงที่แข็งทื่อเป็นหิน พูดจาหยอกเย้า “ผู้จัดการ ในเมื่อผมเป็นสมาชิกชั้นสุดของพวกคุณ ผมอยากจะทำอะไรก็ได้ทั้งนั้นใช่ไหม?”
“แน่นอนครับ ขอแค่ท่านไม่ทุบร้านนี้ก็ได้ทั้งหมดครับ!” ผู้จัดการยิ้มเข้าสู้บอกไป
เย่เทียนหัวเราะแล้ว ชี้ไปยังหลี่เฟิง
“ผมแค่รู้สึกว่าเขาอยู่ที่นี่ขวางตาอยู่บ้าง พวกคุณไล่เขาออกไป ถือโอกาสแขวนป้ายไว้ที่หน้าประตูเพิ่มด้วย ต่อไปเขากับหมาล้วนห้ามเข้ามาข้างใน!”
“ลูกค้าครับ ขอเชิญคุณมอบการ์ดสมาชิกชั้นเงินออกมาด้วยครับ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปร้านอาหารพวกเราจะไม่ต้อนรับคุณอีก!”
ผู้จัดการย่อมจะไม่มีปัญหาใดๆ “และหวังว่าคุณจะสามารถออกไปเอง อย่าบังคับให้พวกเราต้องใช้กำลัง”
หลี่เฟิงโมโหเดือดดาล “เย่เทียน แกแม่งกล้าไล่ฉันเลยเหรอ ฉันไม่จบกับแกแน่!”
เย่เทียนยักคิ้วขึ้น “นึกไม่ถึงว่าเขาจะกล้าด่าผม ลากเขาออกไปตบหน้าให้ผมห้าสิบที!”
“ไม่มีปัญหาครับ!”
ผู้จัดการรีบพยักหน้า เรียกพนักงานรักษาความปลอดภัยมาสองคน พุ่งเข้าไปทางหลี่เฟิงเหมือนหมาป่าและเสือที่โหดร้าย
หลี่เฟิงสีหน้าเปลี่ยน ยังอยากจะดิ้นรน แต่เนื่องจากเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ ไม่นานนักก็ถูกควบคุมเอาไว้อยู่หมัด
หลี่เฟิงร้องคำรามขึ้นมาเสียงดัง “ฉันเป็นสมาชิกชั้นเงินของพวกแก พวกแกรีบปล่อยฉันออกเดี๋ยวนี้ ถ้าไม่อย่างนั้นฉันจะให้พวกแกรับผิดชอบทั้งหมด!”
ผู้จัดการเดินมาข้างหน้าสองก้าวคลำหาการ์ดสมาชิกชั้นเงินออกมาจากบนตัวหลี่เฟิง พูดแบบเย็นชา “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป คุณไม่ใช่สมาชิกชั้นเงินของพวกเราอีกแล้ว!”
“พวกนายสองคนฟังให้ดี ลากเขาออกไปข้างนอก ฉันต้องได้ยินเสียงตบหน้าที่ชัดแจ๋วห้าสิบที”
เบื้องบนสั่งมา พนักงานรักษาความปลอดภัยสองคนกล้าไม่เชื่อฟังที่ไหน หิ้วหลี่เฟิงซ้ายคนขวาคนออกไปลงโทษแล้ว