เอริโอ สการ์เล็ต 14 ปี ฮิวแมน <มารตัณหา> เลเวล 2
สกิลที่ถือครอง
พยศเย็ด Lv1
“ เอ๊ะ? ไหงเลเวลถึงขึ้นล่ะ……? ”
หลังจากช่วยตัวเองเสร็จหมาดๆ
ผมที่เห็นสเตตัสเพลทก็เปล่งเสียงอย่างตะลึงงันออกมาว่างั้น
เลเวลอัพนี้ ถูกเรียกอีกอย่างว่าเป็นการที่ดวงวิญญาณมีระดับความแข็งแรงเพิ่มสูงมากขึ้น
ยิ่งเลเวลสูงมากเท่าไหร่ สมรรถภาพร่างกายเดิม พลังเวท อานุภาพเวทมนตร์และอานุภาพของสกิลก็จะอัพเพิ่มขึ้นมา ทำให้มีระดับในฐานะสิ่งมีชีวิตสูงมากยิ่งขึ้น
แต่ก็แน่นอนแหละ เขาถึงกับใช้คำบรรยายว่าเป็นการทำให้ระดับในฐานะสิ่งมีชีวิตสูงขึ้นเลยไง เพราะแบบนั้นเงื่อนไขของการเลเวลอัพก็เลยค่อนข้างโหดหินพอควร
อย่างเช่น <กิฟต์> สายต่อสู้ก็มีความจำเป็นต้องปราบมอนสเตอร์ราวหลายสิบตัวเอย, <กิฟต์> สายการผลิตก็มีความจำเป็นต้องเข้ารับการฝึกฝนขัดเกลาฝีมืออย่างหนักเอย, กว่าจะขึ้นได้ก็ต้องใช้เวลาเป็นแรมเดือนนั่นแหละ
ก็จริงอยู่ว่าในช่วงที่เพิ่งได้รับ <กิฟต์> มาหมาดๆ นี่เลเวลจะขึ้นได้อย่างค่อนข้างง่าย……แต่การที่เลเวลขึ้นเองโดยที่นั่งนิ่งๆ ไม่ได้ทำอะไรเลยนี่มันเป็นไปไม่ได้หรอก
……ไม่สิ แต่ในกรณีของผม จะพูดว่าไม่ได้ทำอะไรเลยมันก็ไม่เชิงถูกซะทีเดียว
“ อย่าบอกนะ…… ”
นับเป็นข้อสันนิษฐานที่งี่เง่าสิ้นดี
แต่ก็คาดคิดถึงเหตุผลอื่นที่ทำให้เลเวลอัพไม่ออก ผมจึงปล่อยมือไปตามความแสบจี๊ดของร่างกายท่อนล่าง ทำการสำเร็จชักว่าวซ้ำเข้าอีกครา
ตั้งแต่นั้นแล้วผ่านไปนานซักเท่าไหร่เลยเชียวนะ
เอริโอ สการ์เล็ต 14 ปี ฮิวแมน <มารตัณหา> เลเวล 10
สกิลที่ถือครอง
พยศเย็ด Lv1
“ ……เอิ่ม ”
ผลลัพธ์อันสุดจะบรรยายได้ทำเอาผมเป็นงงไปเลยว่าควรทำหน้ายังไงดี
ขนาดทำเองก็ยังสะพรึงเองเลยเนี่ย
ผลจากการตรวจสอบได้ทำให้ทราบเข้าว่าพอช่วยตัวเองเสร็จสมอารมณ์หมาย 1 ครั้งแล้วเลเวลของผมจะอัพขึ้นมา 1 เลเวล
ไอ้ความเร็วการเติบโตที่เข้าขั้นเป็นไปไม่ได้นี่มันหยัง
มันก็ใช่ ช่วงแรกเริ่มน่ะเลเวลจะขึ้นอย่างรวดเร็วเลย
เขาพูดกันว่าต่อให้เป็นใครก็สามารถไปจนถึงระดับเลเวล 30 ได้ในเวลาไม่นาน
แต่ถึงอย่างนั้นปกติแล้วก็จำเป็นต้องใช้เวลาราวหนึ่งปีได้ กล่าวคือต้องมีการสั่งสมความชำนาญและเข้าเผชิญศึกจริงอย่างต่อเนื่อง
แล้วนี่มันอะไร แค่ระบายความเงี่ยนนิดหน่อยเท่านั้นก็เลเวลขึ้นแล้วเนี่ยนะ แถมคิดสิว่า <กิฟต์> เป็นสิ่งที่ถูกมอบลงมาให้จากสวรรค์เลย แบบนี้มันโคตรจะบาปกรรมดีๆ นี่เอง
“ เอ้ยแต่ว่า……ต่อให้คิดยังไงก็แปลกแล้วชัดๆ เนอะ อาจจะถูกออกแบบมาให้เลเวลขึ้นง่ายแต่ไม่ค่อยเก่งมากเท่าไหร่ละมั้ง ”
<กิฟต์> สายการผลิตก็เป็นแบบนั้นไง, ดังนั้น <มารตัณหา> ก็น่าจะเข้าข่ายนั้นเหมือนกันละมั้งนะ—เป็นในจังหวะที่กำลังคิดแบบนั้นอยู่น่ะเอง
โกร้ววววววววววว!
“ หวา!? ”
พลันได้ยินเสียงร้องของอสูรกายจำนวนนึงดังก้องมาจากภายนอก
และแล้วรถม้าก็สั่นไหวอย่างรุนแรง พร้อมกับที่คุณกิลซึ่งเป็นคนขับรถม้าแผดเสียงกรีดร้องดังลั่น
“ เอ๊ะ……!? ”
พอมองออกไปภายนอกด้วยความตื่นตกใจ ก็พบว่ามีเงาจำนวนนึงปรากฎขึ้นมาอยู่ใต้แสงจันทร์
“ ทำไมฝูงบอร์ (หมูป่า) กินคนถึงโผล่มาในช่วงเวลานี้กัน!? ท่านเอริโอ! รีบหนีไปเร็วเข้าครับ! ”
คุณกิลคำราม
ผมกระโจนออกมาจากที่นั่งโดยสารตามเสียงดังกล่าว……แต่ก็พบว่าไม่มีที่ให้หนีไปไหนได้เลย
ดวงตาจำนวนมากส่องประกายแวววาวอยู่ภายในความมืดรอบตัว มันล้อมรอบพวกผมเอาไว้โดยสมบูรณ์แล้ว
จำนวนน่าจะเฉียด 20 ตัวได้
ไม่ใช่สถานการณ์ที่จะหนีรอดพ้นเลยจริงๆ
“ โธ่เอ๊ย คุณกิลครับ! ผมจะช่วยถ่วงเวลาเอาไว้ให้ รีบไปยังเมืองข้างๆ เถอะครับ! ”
“ คุณหนู!? ”
ผมถือดาบส่งสายตาเขม่นเข้าใส่รอบตัว
ถึงจะไม่ได้รับ <กิฟต์> สายต่อสู้ แต่ผมเองก็ผ่านการฝึกฝนอย่างหนักมาตลอดเหมือนกันนะ
น่าจะพอจะป้องกันตัวเองได้……น่าจะพอเป็นกำลังช่วยเหลือคุณกิลที่ใจดียอมบากหน้าเข้ามารับหน้าที่ขนส่งตัวไอ้สิ่งมีชีวิตแสนอัปยศอดสูอย่างผมได้อยู่หรอก
เหมือนว่าระดับเลเวลที่คาดคะเนของบอร์กินคนนั้นจะเฉลี่ยราวๆ 7
หากไม่ใช่ผู้ครอง <กิฟต์> สายต่อสู้ที่มีเลเวลเท่ากันหรือสูงกว่าก็ยากจะรับมือ
แถมการสู้โดยต้องรับมือกับจำนวนมากขนาดนี้มันก็เหมือนกับเอาชีวิตตัวเองไปทิ้งดีๆ นี่เองหรอก……แต่ก็ต้องทำเท่านั้นแล้ว!
“ ย่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาา! ”
ปรี่ตรงเข้าใส่ฝูงหมูป่าซึ่งอยู่เบื้องหน้าด้วยการเตรียมใจพร้อมจะสละชีวิต เพื่อที่จะได้สร้างทางให้คุณกิลที่สับสนหลบหนีไปได้ง่ายขึ้น
เหวี่ยงดาบฟาดเข้าไปดังที่ได้ถูกสอนมา กระแทกกระทั้นอัดการโจมตีแรกเข้าไปหวังจะหยุดการเคลื่อนไหวของเจ้าบอร์กินคน
……ทว่า
“ กิ๊ววว!? ”
“ เอ๊ะ? ”
ไม่อาจเข้าใจไปซักระยะนึงเลยว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
บอร์กินคนที่ร่างใหญ่ท้วมซะยิ่งกว่าผม กลับถูกการโจมตีที่แทบไม่ได้ใส่น้ำหนักเข้าไปเลยอัดจนปลิวกระเด็นไปไกลลิบ
แถมยังรู้สึกเหมือนกับ เห็นการเคลื่อนไหวของบอร์กินคนดูเชื่องช้าอืดอาดยังไงไม่รู้อีก……
สับสนร่วมด้วยไปพลาง ฟาดการโจมตีอัดเข้าใส่เจ้าบอร์กินคนที่อยู่ถัดไปข้างๆ อย่างต่อเนื่อง
ตู้มมมมมมมมมมมมมม!
แค่ในอึดใจเดียวเอง
ผมเหวี่ยงดาบไปเพียงสามครั้งเท่านั้น
แต่วงล้อมของบอร์กินคนกลับพลันเกิดทะลุเป็นรูรั่วขึ้นมา ทำเอาคุณกิลถึงกับร้อง “เห๊ะ?” อย่างมึนตึ๊บไปเลย
“ นะ นี่มันอะไรกันเนี่ย!? ”
และผู้ที่ตื่นตระหนกตกใจหนักยิ่งกว่าคุณกิลก็ไม่แคล้วเป็นผมเองนี่แหละ
มันก็จริง ตัวผมตอนนี้มีเลเวลเท่ากับ 10
จะชนะบอร์กินคนเลเวล 7 ได้แบบกินนิ่มก็ไม่แปลก
แต่มันจะเป็นแบบนั้นก็ต่อเมื่อ ผมได้รับ <กิฟต์> สายต่อสู้เท่านั้นหรอก
<กิฟต์> ที่แค่ระบายความเงี่ยนแค่นั้นก็เลเวลอัพมันจะแข็งแกร่งได้มากถึงขนาดนี้ได้ยังไงกันพิลึกพิลั่นบ้าบอสุดขีดไปเลย
“ มันยังไงกันน่ะขอถามจริงเถอะ……แต่ก็นะ ถ้าแข็งแกร่งแล้วก็ไม่มีอะไรเสีย……หาย! ”
ผมตะเพิดเจ้าพวกหมูป่าที่ทะยานเข้ามาใกล้ให้เผ่นหนีไปพลาง วิ่งไปตามถนนยามค่ำด้วยกันกับคุณกิล
“ สมแล้วที่เป็นคุณหนู! ก็เคยได้ยินอยู่หรอกนะครับว่าถึงไม่ใช่ <กิฟต์> สายต่อสู้แต่หากได้รับการขัดเกลาฝีมือมากเพียงพอก็จะสามารถต่อกรกับเจ้าพวกมอนสเตอร์ได้ในระดับนึง ทว่าไม่คิดฝันเลยจริงๆ ว่าจะจัดการได้อย่างง่ายดายถึงเพียงนี้! ”
คงเพราะฝ่าสถานการณ์คับขันมาได้ด้วยนั่นแหละ คุณกิลก็เลยตะโกนดังลั่นด้วยท่าทางตื่นเต้นใหญ่เลย
และมันเป็นในฉับพลันนั้นเอง
—โกร้ววววววววววววววววววววววววววว!
ฝูงบอร์กินคนเริ่มจะขับขานเสียงร้องแหลมสูงขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียงกัน
เท่านั้นแหละ,
“ ห้ะ!? ”
จู่ๆ เงาขนาดยักษ์ก็กระโจนเข้ามาจากมุมด้านข้างของถนน
มองไปแล้วจึงพบว่านั่นคือบอร์กินคนที่ร่างใหญ่มหึมากว่าตัวอื่นๆ ราวสองเท่าได้
“ ตัวบอสของฝูงเหรอ……!? ”
หากจัดการเหยื่อได้ด้วยวงล้อมในตอนแรกสุดก็นับว่าเยี่ยม
ต่อให้เหยื่อหนีรอดไปได้ แต่ตัวบอสที่ซุ่มหลบซ่อนตัวดักอยู่ข้างหน้าก็จะคอยตามเช็ดก้นให้
ความชาญฉลาดเจ้าเล่ห์ของมอนสเตอร์ที่เพิ่งเคยได้เผชิญหน้าเป็นครั้งแรกนั้นทำเอาผมถึงกับหลั่งเหงื่อเย็นเฉียบไหลท่วมกาย
เจอะฝูงมอนสเตอร์ที่ไล่มาจากเบื้องหลังและตัวบอสที่เข้าขวางเส้นทางมุ่งหน้า
ทางเลือกมีได้แค่เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น
“ อุว๊าาาาาาาาาาาาาาา! ”
ผมทะยานขึ้นหน้ารถม้าแล้วฟาดฟันเข้าไปใส่อีกครา
ทว่า
“ กุอ๊าาาาาาาาาาาาา! ”
“ หวา!? ”
แข็งแกร่งมาก
สมแล้วที่เป็นตัวบอสซึ่งมีอำนาจสั่งการฝูงได้ ทั้งความเร็วทั้งกำลังล้วนต่างไปจากตัวอื่นแบบคนละระดับเลย
ไม่ง่ายแบบก่อนหน้านี้แล้ว
ผมถูกกดดันจนกลายเป็นรองในชั่วอึดใจ เส้นทางก็ถูกปิดกั้นไว้ทำให้พวกบอร์กินคนวิ่งไล่มารายล้อมรถม้าได้อย่างรวดเร็ว
“ คุณหนู! ”
“ ไม่ได้นะคุณกิล! รีบหนีไปเถอะ! ”
คุณกิลยกเอาหอกที่มีติดไว้ภายในตัวรถออกมาพยายามจะเข้าช่วยสู้ด้วยอีกแรง
ผมเร่งเสียงขึ้นหยุดเขาหรอก……แต่คุณกิลเองก็คงรู้ดีว่าไม่มีทางไหนให้หนีได้ ก็เลยคิดจะลองเสี่ยงดวงเข้าช่วยสู้หวังไปตายเอาดาบหน้าละมั้งนะ
ขึก ถ้าเป็นแบบนี้ละก็ได้ร่วงกันทั้งสองคนแน่……!
และ เป็นในฉับพลันที่เตรียมใจเช่นนั้นเอง
สายลมพลันพัดโหม
ฟิ้วฟิ้วฟิ้วฟิ้วว!
เสียงสายลมถูกเฉือนลั่นดังกังวาน
ที่ได้ยินต่อเนื่องขึ้นมา ก็คือเสียงล้มกระแทกพื้นของเหล่าบอร์กินคนจำนวนนับไม่ถ้วนที่ไม่มีเวลาให้ได้แผดเสียงกรีดร้องก่อนสิ้นใจซะด้วยซ้ำไป
และพอทราบว่าร่างของเจ้าบอสที่ตัวใหญ่เป็นพิเศษได้ถูกสะบั้นขาดออกเป็นสองซีกแล้ว,
“ ……ว่าแล้วเชียว คิดถูกจริงๆ ที่ไล่ตามมา ”
ผู้ที่ยืนอยู่เบื้องหน้าผม ก็คือเด็กผู้หญิงที่มีเอกลักษณ์จุดเด่นเป็นเส้นผมสีเงินกับดวงตาสีฟ้าที่งดงามประหนึ่งอัญมนี
“ ……ได้ยินว่าเอริโอถูกไล่ออกจากเมือง……ฉันก็เลยหนีออกจากบ้านมาด้วยน่ะ ”
เสียงอลิเซีย บลูอายส์เอาดาบเก็บเข้าฝักพลันก้องกังวานดังชิ้งขึ้นมา
MANGA DISCUSSION