ขอเกิดใหม่ เป็นภรรยาคุณชายโม่ - ตอนที่ 9 พบไอ้สารเลวอีกครั้งหนึ่ง
ทันทีที่พูดออกไป ฉู่เสี่ยวเสี่ยวก็เห็นว่าสีหน้าของกู้เหม่ยอวี้นั้นเปลี่ยนไป ฉู่เสี่ยวเสี่ยวจึงรู้สึกเสียใจขึ้นมาในทันที ทำไมเธอถึงได้รีบยอมรับออกมาทันทีที่เริ่มร้อนรนกันนะ
กู้เหม่ยอวี้มองไปที่ฉู่เสี่ยวเสี่ยว ก็พลันขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ ถ้าหากว่าเป็นเซี่ยอันหรานที่พูดคำโกหกเหล่านี้ล่ะก็ กู้เหม่ยอวี้ก็คงจะกล่าวสั่งสอนอย่างแน่นอน
การเรียนมีปัญหาก็ไม่ได้เป็นเรื่องร้ายแรงอะไร แต่ชัดเจนว่าเป็นเพราะสาเหตุมาจากตนเองถึงได้สอบไม่ผ่าน และกลับไปปรักปรำอาจารย์ว่าทำไม่ดีต่อตน ถ้าอย่างนั้นก็เป็นปัญหาทางด้านคุณธรรมส่วนตนแล้ว
กู้เหม่ยอวี้ไม่คาดคิดว่าเซี่ยอันหรานจะเรียนจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดังจบเร็วถึงเพียงนี้ เธอเป็นเลิศในด้านการดนตรีเปียโน อีกทั้งยังเก่งภาษาอังกฤษและฝรั่งเศส แต่ว่าฉู่เสี่ยวเสี่ยวไม่เพียงแต่สอบไม่ผ่าน แต่ภาษาอังกฤษก็พูดไม่คล่อง ซ้ำยังพูดจาใส่ความอาจารย์อีก กู้เหม่ยอวี้ไม่เข้าใจความคิดของฉู่เสี่ยวเสี่ยวเลยจริงๆ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอแล้ว
แต่ในเมื่อฉู่เสี่ยวเสี่ยวไม่ใช่ลูกสาวแท้ๆของกู้เหม่ยอวี้ เธอจึงจำเป็นที่จะต้องเป็นกังวลต่อความรู้สึกของฉู่เสี่ยวเสี่ยวให้มากขึ้น
กู้เหม่ยอวี้ลังเลอยู่ชั่วครู่ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวเท่าไหร่นัก เพียงแต่พยายามอย่างอ่อนโยนแล้วเอ่ยขึ้นมาว่า “เสี่ยวเสี่ยว ทำไมหนูถึงทำแบบนี้ล่ะ สอบไม่ผ่านก็ไม่เป็นอะไร แต่หนูจะพูดโกหกใส่ความคนอื่นไม่ได้นะ ถ้าหากว่าฉันฟังคำของหนูแล้วไปหาอาจารย์ท่านนั้นที่โรงเรียน มันจะส่งผลกระทบต่ออาจารย์ท่านนั้นมากแค่ไหนกัน”
ฉู่เสี่ยวเสี่ยวรีบร้องไห้โฮออกมา แล้วพูดเสียงเล็กสะอึกสะอื้นว่า “หนูไม่ได้ตั้งใจ หนูกลัวว่าคุณแม่จะเสียใจ ถึงได้พูดออกไปแบบนั้น หนูไม่ได้ตั้งใจจริงๆ……..”
ขณะที่ฉู่เสี่ยวเสี่ยวพูดอยู่ ทันใดนั้นก็มีคนรับใช้หญิงคนหนึ่งเข้ามาแล้วพูดขึ้นว่า “คุณผู้หญิงคะ คุณหนูคะ คุณชายถังมาแล้วค่ะ”
เมื่อเซี่ยอันหรานได้ยินดังว่า ก็ยิ้มอย่างเย็นเยียบขึ้นมา ถังรั่วชิวมาแล้วงั้นเหรอ มาได้ถูกเวลาจริงๆ นะ เธอกลับอยากที่จะตั้งใจดูภาพว่าถังรั่วชิวจะร่วมมือกับฉู่เสี่ยวเสี่ยวอย่างไรเสียจริง พวกเขาได้ทำเรื่องที่เลวร้ายกับเธอ และได้ทำเรื่องที่เลวร้ายต่อตระกูลเซี่ยนี้!
ถังรั่วชิวมีรูปร่างหน้าตาหล่อเหลาอ่อนโยน สวมใส่เสื้อผ้าสบายๆ สีขาว ท่วงท่าตอนที่กำลังก้าวเข้ามาหาอย่างช้าๆ นั้น ราวกับเป็นเจ้าชายขี่ม้าขาวในเทพนิยาย
ฉู่เสี่ยวเสี่ยวได้ยินว่าถังรั่วชิวกลับมาแล้ว ก็รีบเงยหน้าขึ้นมาในทันที ใช้ดวงตาที่เอ่อล้นเต็มไปด้วยหยาดน้ำตามองไปที่ถังรั่วชิวอย่างอ้อนวอนขอความช่วยเหลือ ฉู่เสี่ยวเสี่ยวเดิมทีก็มีหน้าตาสวยใสไร้เดียงสา ตอนนี้ดวงตาเธอใสเป็นประกายด้วยหยาดน้ำตา จึงยิ่งให้ความรู้สึกที่น่าสงสารต่อผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก
ถังรั่วชิวเห็นท่าทางที่น่าสงสารนั้นของฉู่เสี่ยวเสี่ยว ก็อดที่จะปวดใจจนขมวดคิ้วขึ้นมาไม่ได้
ตอนแรกถังรั่วชิวก็คิดที่อยากจะถามฉู่เสี่ยวเสี่ยวว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่เมื่อเห็นว่ากู้เหม่ยอวี้ยังอยู่ที่ตรงนั้น เขาก็จำเป็นที่จะต้องฝืนอดทนอย่างช่วยไม่ได้ แล้วกล่าวทักทายกู้เหม่ยอวี้ก่อน “คุณนายเซี่ย ใกล้จะถึงเทศกาลไหว้พระจันทร์แล้วนะครับ คุณแม่ของผมให้ผมเอาขนมไหว้พระจันทร์มาให้ท่าน”
แม้ว่ากู้เหม่ยอวี้จะไม่ค่อยชอบใจตระกูลถังเท่าไหร่นัก และในใจก็ไม่ชอบถังรั่วชิวอีกด้วย แต่ก็รู้ดีว่าลูกสาวของตนเอง เซี่ยอันหรานนั้นชอบถังรั่วชิว กู้เหม่ยอวี้ก็เลยจำเป็นที่จะต้องให้เกียรติแก่ถังรั่วชิวคนนี้ เธอแย้มรอยยิ้มออกตามความเหมาะสมแล้วพูดว่า “รบกวนพวกเธอแย่เลย ทางนี้เองก็มีคนส่งปูขนมาให้เยอะแยะไปหมด แล้วก็กำลังเตรียมส่งไปให้พวกเธอด้วยพอดีเลย แต่ในเมื่อเธอก็มาหาแล้ว เดี๋ยวฉันไปหยิบมาจากในครัวให้นะ”
กู้เหม่ยอวี้พูดขึ้น ก็พลางหันไปมองฉู่เสี่ยวเสี่ยวที่กำลังร้องไห้อยู่ ก็คิดว่าฉู่เสี่ยวเสี่ยวในตอนนี้คงจะสับสนไปชั่วขณะ ในเมื่อทำผิดแล้วก็ไม่ควรที่จะพูดจาว่าร้ายทำลายชื่อเสียงของฉู่เสี่ยวเสี่ยวต่อหน้าถังรั่วชิวโดนตรงแบบนี้
กู้เหม่ยอวี้ยิ้มแล้วเอ่ยขึ้นว่า “เสี่ยวเสี่ยว หนูต้องไปเข้าเรียนก็เรียนเถอะ อย่าขาดเรียนเลย ต่อไปนี้ก็ไม่ต้องตกใจจนร้องไห้เพราะว่าเห็นแมลงตัวน้อยๆ แล้วนะ”
ฉู่เสี่ยวเสี่ยวพยักหน้าหลายที จากนั้นก็มองไปที่ถังรั่วชิวที่อยู่ไกลออกไปหนึ่งที แล้วก็พลันวิ่งจากไปอย่างรวดเร็ว
เซี่ยอันหรานเห็นฉู่เสี่ยวเสี่ยวสบตาเข้ากับถังรั่วชิวก็อดที่ยิ้มอย่างเย็นเยียบขึ้นมาไม่ได้ ที่แท้พวกเขาก็ได้ร่วมมือกันตั้งแต่ตอนนี้แล้ว ช่างน่าขันที่ตัวเธอเซี่ยอันหรานนั้นช่างโง่เง่าเสียเหลือเกิน ภพที่แล้วไม่แม้แต่จะดูออกเลยด้วยซ้ำไป
แต่ว่าเซี่ยอันหรานในตอนนี้ก็ยังไม่แม้แต่จะสามารถจัดการกับฉู่เสี่ยวเสี่ยวได้อย่างถนัดมือนัก ก็ยิ่งไม่ต้องไปพูดถึงถังรั่วชิวเลย ตอนนี้เซี่ยอันหรานไม่อยากเผชิญหน้ากับถังรั่วชิวเลยแม้แต่น้อย จึงไม่แม้แต่จะกล่าวทักทายถังรั่วชิวแล้วเดินตามกู้เหม่ยอวี้เข้าห้องครัวไป
จิตใจของถังรั่วชิวในตอนนี้ยังคงพะว้าพะวงอยู่กับฉู่เสี่ยวเสี่ยว เลยไม่ได้สังเกตเห็นท่าทีของเซี่ยอันหรานที่ปกติแล้วเมื่อเจอหน้าเขาก็มักจะเขินอายอยู่ทุกครั้งไป แต่วันนี้กลับไม่สนใจเขาเลย
เซี่ยอันหรานตามแม่ของตัวเองเข้าไปในครัว กู้เหม่ยอวี้เห็นว่าเซี่ยอันหรานไม่ได้อยู่ด้วยกันกับถังรั่วชิวซึ่งนับเป็นภาพที่ยากจะพบเห็นได้ ก็เลยอดที่จะประหลาดใจขึ้นมาไม่ได้ “วันนี้ลูกเป็นอะไรไป”
เซี่ยอันหรานช่วยกู้เหม่ยอวี้หยิบปูขน แล้วก็พลางหัวเราะเสียงต่ำอย่างงอแงขึ้นมา “หนูไม่อยากเห็นหน้าเขา ตอนนี้หนูเกลียดเขาแล้ว หนูตัดสินใจที่จะเลิกกับเขาแล้วด้วย หนูชอบแม่ หนูอยากอยู่ด้วยกันกับแม่”