แม้ว่าบาดแผลบนมือของเซี่ยอันหรานจะไม่ร้ายแรง แต่ในขณะนอนหลับก็ยังสร้างความเจ็บปวดให้กับเธอ และปวดจนพลิกตัวไปมาจนเธอนอนไม่ค่อยหลับ
เมื่อถึงตอนเช้า เซี่ยอันหรานที่นอนไม่กลับทั้งคืนได้ยินเสียงคนเดินอยู่ข้างนอก เธอก็รีบลุกขึ้นมา และเดินออกจากห้อง เซี่ยอันหรานก็เห็นว่าคนที่กองถ่ายที่พักผ่อนอยู่ที่โรงแรมหลายคนล้วนมองเธอด้วยสีหน้าแปลกๆ
เซี่ยอันหรานขมวดคิ้ว และยืนพิงเฉิงเสี่ยวเถียนที่เดินมาข้างๆพลางหาวไป และถามด้วยเสียงต่ำว่า:“ มีอะไรเหรอ ? พวกเขาทำไมถึงมองฉันแบบนี้ ?”
เฉิงเสี่ยวเถียนเหลือบมองไปที่ทีมงานที่แอบมองเซี่ยอันหราน และกดเสียงให้ต่ำลง:“ ทุกคนรู้เรื่องที่ว่าคุณจะต้องถ่ายรายการเรียลลิตี้โชว์ความรักร่วมกับหมิงเยี่ยนเฟย ทุกคนล้วนพูดว่า……..”
เฉินเสี่ยวเถียนยกมุมปากยิ้ม “อิอิ” และกระพริบตา:“ ล้วนบอกว่าหมิงเยี่ยนเฟยมีความสนใจคุณ ฉันก็รู้สึกว่าเป็นอย่างนี้”
เมื่อเซี่ยอันหรานฟังถึงตรงนี้ เธอยกมุมปกาขึ้นอย่างแรง ถึงแม้ว่าเธอจะตกลงที่จะถ่ายรายการเรียลลิตี้ร่วมกับหมิงเยี่ยนเฟย แต่เซี่ยอันหรานก็สามารถมองเห็นสถานการณ์นี้เช่นกัน อย่างไรก็ตามเธอและหมิงเยี่ยนเฟยเคยมีข่าวลือกันมาก่อน ทันทีที่เธอประสบอุบัติเหตุ ทำให้แฟนคลับของหมิงเยี่ยนเฟยโจมตีเธอ เธอและหมิงเยี่ยนเฟยเตรียมถ่ายรายการเรียลลิตี้โชว์ความรักทันที ตอนนี้จะบอกว่าเธอไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับหมิงเยี่ยนเฟย ก็คงจะไม่มีใครเชื่อ
แต่ในเรื่องมันเป็นแบบนี้ ก็ไม่มีวิธีอื่นแล้วจริงๆ ตอนนี้เธอทำได้เพียงปล่อยให้คนอื่นๆพูดคุยเกี่ยวกับเธอ เธอทำได้เพียงรอให้ถ่ายรายการเสร็จแล้ว เธอค่อยหาหนทางชี้แจงเรื่องอื้อฉาวของเธอและหมิงเยี่ยนเฟย
เฉิงเสี่ยวเถียนขยี้ตา และเห็นเซี่ยอันหรานขมวดคิ้ว และกระซิบกับเซี่ยอันหรานว่า:“ อันหราน คุณอย่าเอาแต่ขมวดคิ้วและทำหน้าขมขื่นตลอดเวลา เดี๋ยวตอนบ่ายไปถ่ายรายการเรียลลิตี้กับหมิงเยี่ยนเฟย ถ้าเกิดหน้าบูดแบบนี้ จะทำให้หน้า ‘ดำ’ ได้นะ”
“ถ่ายทำตอนบ่ายเหรอ ?”เซี่ยอันหรานขมวดคิ้วทันที:“ทำไมถึงเร็วขนาดนี้ ?”
เฉิงเสี่ยวเถียนพยักหน้ารับ:“เมื่อคืนฉันส่งกำหนดไปทางโทรศัพท์แล้วคุณแล้ว คุณไม่ได้ดูเหรอ ? ฉันยังคิดว่าคุณตื่นมาเช้าขนาดนี้ เพราะรู้ตารางถ่ายทำแล้ว ดังนั้นจึงเตรียมตัวแต่เนิ่นๆ”
เซี่ยอันหรานกระตุกมุมปาก เมื่อวานเธอมีเรื่องยุ่งเล็กน้อย เธอเลยไม่ได้สังเกตด้วยซ้ำว่ามีตารางเวลาที่โพสต์ทางโทรศัพท์ เธอส่ายหัวและพูดว่า:“ฉันไม่ทันสังเกต ทำไมถึงเริ่มถ่ายทำเร็วขนาดนี้ล่ะ ?”
“ไม่เป็นไร ตอนนี้คุณจะทำความเข้าใจก็ยังทัน เพราะฉันเป็นห่วงว่าเมื่อคืนคุณจะไม่ได้ดู วันนี้ตอนเช้าเลยรีบตื่นเช้า และจะมาเตือนคุณอีกครั้ง ”เฉิงเสี่ยวเถียนพูดพลางยิ้ม:“ ที่จริงรายการนี้ก็ไม่ได้เร็วขนาดนั้น สำหรับดาราดังอย่างหมิงเยี่ยนเฟย ถึงแม้แขนเขาจะได้รับบาดเจ็บ แต่ตารางงานก็สามารถปรับเปลี่ยนได้เพียงแค่เจ็ดแปดวัน ทีมงานผลิตรายการเรียลลิตี้จะล่าช้าได้อย่างไร ? ได้ยินว่าเขาเตรียมโต๊ะไว้ทั้งคืน และหาสถานที่ถ่ายท่ะ ? เพราะกลัวว่าจะกระทบกับการถ่ายของเซี่ยอันหราน สถานที่เลยจัดไว้ใกล้ๆ กองถ่ายจะมาถึงในเช้าวันนี้ ตอนบ่ายพวกเราก็สามารถไปถ่ายรายการได้เลย ยังมี………..”
เฉิงเสี่ยวเถียนพูดพลางลดเสียงลง:“ผู้กำกับจินได้ปรับบทบาทการถ่ายทำของคุณ เหตุผลแรกก็เพราะว่าร่วมมือกับทีมงานรายการเพื่อถ่ายทำรายการ ถึงแม้ว่าอุปกรณ์ของกองถ่ายจะมีปัญหา ที่ทำให้คุณและหมิงเยี่ยนเฟยบาดเจ็บ ผู้กำกับจินเลยคิดว่ากองละครควรรับผิดชอบ และคุณกับหมิงเยี่ยนเฟยจะได้พูดถึงรายการนี้ นอกจากนี้ยังมีผลต่อการโปรโมทละครเรื่องนี้ และโปรดิวเซอร์ก็มีความสุขมากเช่นกัน ยังมีอีกเหตุผลนั่นก็คือ ตอนนี้มือของคุณได้รับบาดเจ็บสาหัส จึงไม่เหมาะกับการถ่ายทำ ไม่มีทางที่จะถ่ายทำอะไรได้มาก เช้าวันนี้ถึงแม้ว่าจะมีฉากของคุณอยู่บ้าง แต่ก็เป็นฉากที่ถูกตัดออกทั้งหมด อันหรานคุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการถ่ายทำรายการเรียลลิตี้ที่จะส่งผลกระทบต่อทีมงาน เธอแค่ทำใจให้สบายตอนถ่ายทำก็พอแล้ว”
เซี่ยอันหรานได้ยินเฉิงเสี่ยวเถียนอธิบายทุกอย่างที่เธออาจจะกังวล เซี่ยอันหรานอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ:“ คุณพูดอย่างชัดเจนขนาดนี้แล้ว ฉันยังมีอะไรต้องกังวลอีก ?”
“ใช่แล้ว ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง……”ทันใดนั้นเซี่ยอันหรานก็คิดได้อีกเรื่องหนึ่ง เธอลดเสียงลงทันทีและถามว่า:“อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อวาน คุณรู้ไหมว่าสรุปแล้วมันเกิดอะไรขึ้น ?”
“กองถ่ายนี้ก็ถูกตรวจสอบแล้ว เขาบอกว่าอุปกรณ์ทำฉากมีความผิดพลาด และตาข่ายนิรภัยทีใช้ก็มีคุณภาพต่ำ ตอนนี้อุปกรณ์พวกนั้นถูดถอดไปหมดแล้ว และเปลี่ยนเป็นอุปกรณ์ใหม่ เฉิงเสี่ยวเถียนพูด ดวงตาของเธอเบิกกว้าง อันหรานคุณไม่รู้ เมื่อวานทำคนในกองถ่ายพวกนี้ตกใจหมดเลย
ผู้กำกับจินหลังจากส่งเธอและหมิงเยี่ยนเฟยไปโรงพยาบาลแล้ว เขาก็โกรธมาก และดุด่าว่าทุกคน แม้กระทั่งฉู่เสี่ยวเสี่ยวคนนั้นก็ไม่พูดอะไรสักคำ และรับกลับไปพักผ่อนที่โรงแรม”
“กลับไปที่โรงแรมอย่างรวดเร็ว ?”เซี่ยอันหรานขมวดคิ้ว:“แม้ว่าผู้กำกับจิน ฉู่เสี่ยวเสี่ยวก็ไม่ได้พูดอะไรเลย ?”
“อืม ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรก็กลับมาที่โรงแรมแล้ว เพียงแต่สีหน้าไม่ค่อยดี ”เฉิงเสี่ยวเถียนขมวดคิ้วและพูดว่า:“ อันหราน คุณถามคำถามนี้ทำไม ?”
“ไม่มีอะไร……….”เซี่ยอันหรานง้างปาก และมองลงไปที่มือที่บาดเจ็บและค่อยๆยิ้มออกมา
ฉู่เสี่ยวเสี่ยวเห็นผู้กำกับจินอารมณ์เสีย ยังไม่มีปฎิกิริยาใดๆ มันไม่สอดคล้องกับความเย่อหยิ่งก่อนหน้านี้ของเธอ และแม้ว่าเซี่ยอันหรานจะตื่นตระหนกเมื่อเขาตกลงมาจากตาข่ายนิรภัย แต่เขาก็เห็นรอยตัดที่เรียบร้อยบนเชือกนิรภัย
ถ้าเชือกนิรภัยขาดเพราะมันเก่าแล้ว มันไม่มีทางที่จะขาดเร็วขนาดนี้ และเชือกจะไม่เรียบร้อยแบบนี้ ในตอนนั้นเซี่ยอันหรานเดาได้ว่ามีคนจงใจทำร้ายเธอจากข้างหลัง ตอนนี้ได้ยินว่าฉู่เสี่ยวเสี่ยวมีพฤติกรรมที่ผิดปกติ เซี่ยอันหรานจึงมั่นใจว่าอุบัติเหตุเมื่อวานนี้ฉู่เสี่ยวเสี่ยวเป็นคนทำ
“เช้านี้มีการถ่ายของฉู่เสี่ยวเสี่ยวไหม ?”เซี่ยอันหรานยิ้มถาม
เฉิงเสี่ยวเถียนพยักหน้า:“ มีสิ วันนี้มีฉากเยอะมาก”
เซี่ยอันหรานพูดว่า:“งั้นพวกเรารีบไปสตูดิโอกันเถอะ ฉันอยากเห็นดาราฉู่แสดงหนังจริงๆ”
เฉิงเสี่ยวเทียนขมวดคิ้วอย่างสงสัยและมองไปที่เซี่ยอันหรานและเตือนว่า:“ อันหรานตอนที่คุณถ่ายหนัง อย่าซีเรียสเกินไปนะ เพราะร่างกายของคุณยังบาดเจ็บอยู่”
“รู้แล้ว ขอบคุณเสี่ยวเถียนที่เตือนนะ ”เซี่ยอันหรานตอบรับด้วยรอยยิ้ม ใบหน้าของเธอยังยิ้มอยู่ แต่ดวงตาของเธอเย็อกเย็นลง
ฉู่เสี่ยวเสี่ยว คุณจะต้องทำร้ายฉันให้ตายก่อน ถึงจะยอมแพ้ได้ !
เมื่อถึงกองถ่าย ฉู่เสี่ยวเสี่ยวยังมาไม่ถึง ผู้กำกับจินจึงทำได้เพียงเลื่อนฉากของเซี่ยอันหรานมาก่อน เพราะว่าร่างกายของเซี่ยอันหรานยังมีแผลจากอุบัติเหตุเมื่อวาน ผู้ช่วยผู้กำกับมาบอกเรื่องเลื่อนการถ่ายของเซี่ยอันหรานขึ้นมา ใบหน้าของเขาแดงไปด้วยความลำบากใจ แต่เซี่ยอันหรานก็ไม่ลังเลเลย เธอรีบตอบตกลงทันที สิ่งนี้ทำให้ผู้กำกับจินรู้สึกลำบากใจเล็กน้อย ตอนถ่ายทำเขารู้สึกลำบากใจที่จะบอก “หยุด” แต่เซี่ยอันหรานก็ยังไม่พอใจ และถ่ายซ้ำอีกหลายรอบ
จนกระทั่งเวลาเกือบเที่ยง เซี่ยอันหรานรู้สึกว่ารอฉู่เสี่ยวเสี่ยวไม่ไหว และต้องไปถ่ายรายการเรียลลิตี้โชว์ที่กำหนดไว้ ฉู่เสี่ยวเสี่ยวถึงเพิ่งมาถึงกองถ่าย เมื่อเดินเข้ามาทักทาย ก็ถูกกลุ่มคนสวมกอด
เมื่อเซี่ยอันหรานเห็นฉู่เสี่ยวเสี่ยว เธอก็ค่อยๆยิ้มออกมา ฉู่เสี่ยวเสี่ยวมองเห็นเซี่ยอันหรานจากไกลๆ เมื่อเห็นใบหน้าที่ยิ้มแย้มบนใบหน้าของเซี่ยอันหราน เธอก็อดไม่ได้ที่จะจำความอัปยศอดสูต่อที่เธอประสบต่อหน้าหมิงเยี่ยนเฟยเมื่อวาน
แต่เมื่อวานเซี่ยอันหรานเพิ่งประสบอุบัติเหตุ ถ้าหากว่าเธอยั่วยุเซี่ยอันหราน มันจะต้องดึงดูดความสนใจของเซี่ยอันหรานได้อย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าข้างหลังของฉู่เสี่ยวเสี่ยวจะมีเซียวเทียนหลีอยู่ แต่เธอก็ยังคงกลัวโม่เซ่าเหยียนที่อยู่เบื้องหลังเซี่ยอันหราน เธอจึงไม่ค่อยกล้าที่จะยั่วยุเซี่ยอันหรานในที่สาธารณะ
ฉู่เสี่ยวเสี่ยวกัดฟัน และพูดอย่างเย็นชาว่า และหันไปเปลี่ยนเสื้อผ้า
เมื่อเห็นฉู่เสี่ยวเสี่ยวมาแล้ว เซี่ยอันหรานก็กลับไปที่เก้าอี้นั่งพักใหม่อีกครั้ง เธอหรี่ตาลงนิดนึง และดูฉู่เสี่ยวเสี่ยวถ่ายทำ
ฉากแรกของฉู่เสี่ยวเสี่ยวในวันนี้ก็คือต่อสู้กับเมิ่งเทียนที่รับบทเป็นซ่างกวนหลิง ฉากนี้เป็นฉากที่ฉู่เสี่ยวเสี่ยวที่แสดงเป็นหลินสุ่ยเซียวรู้ว่าจักกพรรดิซ่างกวนหลินกำลังจะแต่งงานกับเฟิ่งรุ่ยฮวา หลินสุ่ยเซียวไม่ต้องการใช้สามีร่วมกับคนอื่น เธอจึงตัดสินใจเลิกกับซ่างกวนหลิง และไม่พบเจอกับเขาอีก
ในฉากนี้ หลินสุ่ยเซียวที่รับบทโดยฉู่เสี่ยวเสี่ยวเดิมทีควรจะพยายามปฎิเสธซ่างกวนหลิงอย่างเต็มที่ และป้องกันไม่ให้ซ่างกวนหลิงเข้าใกล้ ในหมู่พวกเขาหลินสุ่ยเซียวยังมีบรรทัดที่สำคัญมากว่า “แม้ว่าผู้หญิงจะถ่อมตัว แต่ก็ไม่เคยปรนนิบัติสามีร่วมกับผู้หญิงคนอื่น จักรพรรดิโปรดกลับไปเถอะ นับแต่นี้จนตายก็จะไม่พบหน้ากันอีก !”
บรรทัดนี้ไม่ควรอ่อนน้อมถ่อมตนหรือเอาแต่ใจ และต้องแสดงให้เห็นถึงภายนอกที่นุ่มนวลและภายในที่แข็งแกร่งของหลินสุ่ยเซียวของตัวเองหญิงอย่างสมบูรณ์
แต่ไม่รู้ว่าฉู่เสี่ยวเสี่ยวเป็นอะไร ในขณะที่ถ่ายทำฉากนี้สีหน้าเธอมีแต่ความรัก เดิมทีควรจะเป็นหลินสุ่ยเซียวและซางกวนหลิงทะเลาะกัน แต่ก็ถูกฉู่เสี่ยวเสี่ยวแสดงออมา มันกลับกลายเป็นว่ารักกัน
เมื่อฉู่เสี่ยวเสี่ยวพูดประโยคนี้ออกมาเบาๆ “แม้ว่าผู้หญิงจะถ่อมตัว แต่ก็ไม่เคยปรนนิบัติสามีร่วมกับผู้หญิงคนอื่น จักรพรรดิโปรดกลับไปเถอะ นับแต่นี้จนตายก็จะไม่พบหน้ากันอีก !”
ความมุ่งมั่นของนางเอกหลินสุ่ยเซียวที่จะปฎิเสธซ่างกวนหลิงอย่างแน่วแน่นั้น ตรงกันข้ามดูเหมือนจะเต็มใจที่จะปฎิเสธ มันต่างกันโดยสิ้นเชิงที่เลิกกับซ่างกวนหลิงด้วยความโกรธ เพราะว่าเขาไม่รักษาสัญญาว่าจะแต่งงานกับเธอคนเดียว แต่มันเหมือนกับว่าเลิกกันเพราะจะให้ซ่างกวนหลิงพาเธอกลับไปที่วัง
เซี่ยอันหรานเห็นฉู่เสี่ยวเสี่ยวที่รับบทเป็นหลิงสุ่ยเซียว เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิดต่อหลินสุ่ยเซียวในละครเรื่องนี้ ในบทหลินสุ่ยเซียวเป็นคนจิตใจดี และมีน้ำใจที่อ่อนโยนจากภายนอก และแข็งแกร่งจากภายใน
แต่ตอนนี้รับบทโดยฉู่เสี่ยวเสี่ยวในฐานะที่เป็นผู้หญิงเลวที่เต็มไปด้วยคำโกหก มันเป็นการทำให้เสียบทบาทที่ดีของหลินสุ่ยเซียวจริงๆ
เดิมทีเซี่ยอันหรานไม่ต้องการใช้ละครมาข่มกัน ถึงแม้เธอจะอยากเล่นเฟิ่งรุ่ยฮวาให้ดี แต่เธอก็รู้ว่าละครไม่รองรับตัวละครหนึ่งหรือสอง แต่เนื่องจากฉู่เสี่ยวเสี่ยวแสดงหลินสุ่ยเซียวออกมาเป็นแบบนี้ เช่นนั้นอย่าตำหนิเธอที่ปราบฉู่เสี่ยวเสี่ยวด้วยทักษะการแสดง
เซี่ยอันหรานนึกถึงเรื่องนี้ และหันศีรษะไปมองผู้กำกับจิน ผู้กำกับจินทนไม่ได้ที่จะมองกล้อง เขาส่ายหัวพลางหลับตา แสดงให้เห็นว่าเขาไม่พอใจกับการแสดงของฉู่เสี่ยวเสี่ยวมาก แต่ผู้กำกับจินก็ไม่ได้ให้ฉู่เสี่ยวเสี่ยวถ่ายอีกรอบ
ผู้กำกับจินยังสังเกตเห็นว่าฉู่เสี่ยวเสี่ยวแค่อยากที่จะเป็นดาราดัง และไม่ใส่ใจเกี่ยวกับการแสดงเลยสักนิด ถ้าเขาพูดมากเกินไปก็จะทำให้ฉู่เสี่ยวเสี่ยวไม่มีความสุข ดังนั้นเขาจึงเลิกสนใจฉู่เสี่ยวเสี่ยว และทำตามที่เธออยากจะแสดง ในอนาคตขฉากของฉู่เสี่ยวเสี่ยวจะต้องถูกตัดมากขึ้นเพื่อที่เธอจะได้ไม่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพของละครทั้งหมด
MANGA DISCUSSION