“อะไรนะ?เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรนะ?คุณพูดซ้ำอีกครั้งได้ไหม?” โอวหยางเชี่ยนหรงขมวดคิ้วพร้อมกับถือโทรศัพท์ไว้และอดไม่ได้ที่จะถามด้วยความสับสน
“ฉันบอกว่า ไหนๆสื่อก็เผยแพร่เรื่องนี้ออกไปก็ถือโอกาสสร้างกระแสหน่อยเถอะ อันหรานบริษัทคุณก็เป็นศิลปินที่เพิ่งเดบิวต์และกำลังต้องการให้เป็นที่รู้จักพอดี เยี่ยนเฟยจากบริษัทฉันเองก็กำลังถ่ายภาพยนตร์และต้องการสร้างให้เกิดประเด็นร้อนสักหน่อย บริษัทของเราทั้งสองต่างได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน ถ้าอย่างนั้นเราถือโอกาสนี้ทำให้เกิดเรื่องอื้อฉาวขึ้นมาเถอะ"ผู้จัดการของหมิงเยี่ยนเฟยพูดด้วยเสียงหัวเราะผ่านโทรศัพท์
โอวหยางเชี่ยนหรงไม่อยากจะเชื่อเลยว่าอีกฝั่งของโทรศัพท์ที่เป็นผู้จัดการของหมิงเยี่ยนเฟยกำลังพูดอะไรแบบนี้ออกมา เมื่อเห็นเรื่องอื้อฉาวของหมิงเยี่ยนเฟยและเซี่ยอันหราน ผู้จัดการของหมิงเยี่ยนเฟยไม่โกรธเลยสักนิด กลับกันยังเป็นฝ่ายพูดกับโอวหยางเชี่ยนหรงว่าแนะนำให้หมิงเยี่ยนเฟยและเซี่ยอันหรานสร้างกระแสเรื่องอื้อฉาวขึ้นมา
ถ้าเป็นคนอื่นโอวหยางเชี่ยนหรงยังคิดได้ว่าอีกฝ่ายกำลังล้อเล่น แต่เธอก็ติดต่อกับผู้จัดการของหมิงเยี่ยนเฟย อยู่บ่อยๆเช่นกัน แม้ว่าเขาจะดูเรื่อยเปื่อยแต่จริงๆแล้วเขาเป็นคนฉลาดมากและรู้วิธีเข้าหาคนอื่นๆ เป็นคนจู้จี้จุกจิกและคอยระมัดระวังตัวเหมือนหมิงเยี่ยนเฟย จู่ๆก็เข้ากับเขาได้ซะงั้น
ในตอนนี้ตำแหน่งของเซี่ยอันหรานและหมิงเยี่ยนเฟยในแวดวงบันเทิงต่างกันราวฟ้ากับเหว ตอนนี้เซี่ยอันหรานไม่มีผลงานแม้แต่ชิ้นเดียวและอาจพูดได้ว่าเธอยังไม่ได้เดบิวต์ก็ได้ แต่โม่เซ่าเหยียนอยู่ในตำแหน่งราชาแห่งวงการบันเทิงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ถ้ามีข่าวอื้อฉาวของพวกเขาทั้งสองเซี่ยอันหรานสามารถใช้ชื่อเสียงของหมิงเยี่ยนเฟยเพื่อสร้างชื่อให้กับตัวเองได้อย่างรวดเร็ว
แม้วิธีการแบบนี้จะทำให้มีชื่อเสียงอย่างรวดเร็ว แต่ถ้าเกิดปัญหาขึ้นมามันจะกลายเป็นปัญหาที่ยิ่งใหญ่ที่สามารถแว้งกัดเซี่ยอันหรานได้ แถมเซี่นอันหรานยังเป็นนักแสดงหน้าใหม่ที่ยังไม่มีชื่อเสียงหรือแฟนคลับและเป็นเรื่องง่ายที่จะทำให้ทุกคนรู้สึกว่าเซี่ยอันหรานจงใจปีนขึ้นไปหาหมิงเยี่ยนเฟย แม้ว่าข้อเสนอนี้จะดูดีในระยะเวลาสั้นๆ แต่มันก็ไม่เหมาะสำหรับที่จะพัฒนาศิลปินในระยะยาว
โดยเฉพาะศิลปินหญิงที่เพิ่งเดบิวต์อย่างเซี่ยอันหรานยิ่งดูไม่เหมาะที่จะใช้ความรักในการสร้างกระแส นอกจากเหตุผลนี้ อีกเหตุผลที่โอวหยางเชี่ยนหรงไม่สามารถตอบตกลงกับการใช้ความรักมาสร้างกระแสของเซี่ยอันหรานและหมิงเยี่ยนเฟยได้ก็เป็นเพราะโม่เซ่าเหยียน โอวหยางเชี่ยนหรงนึกไม่ออกเลยว่าหากเธอส่งผู้หญิงที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับโม่เซ่าเหยียนไปเป็นข่าวอื้อฉาวกับศิลปินชายอื่น เธอจะต้องตายอย่างอนาถขนาดไหน!
โอวหยางเชี่ยนหรงเงียบไปชั่วขณะและพูดด้วยรอยยิ้ม: “แต่อันหรานของฉันวางแผนที่จะเดินเส้นทางนี้อย่างบริสุทธิ์ เกรงว่าจะไม่เหมาะสำหรับการสร้างเรื่องอื้อฉาวเช่นนี้"
"เฮ้ … ยังมีคนเดินเส้นทางนี้อย่างบริสุทธิ์อีกหรอ เชี่ยนหรงคุณก็ต้องเดินตามยุคสมัยสิ ตอนนี้ไม่ใช่ว่าใครที่สามารถสร้างกระแสได้คนๆนั้นก็ถือว่าได้ครองตำแหน่งไม่ใช่หรอ?เธอดูไป่หยู่ซินสิ พึ่งเริ่มต้นก็สร้างกระแสเพื่อครองตำแหน่ง?ดูสิว่าตอนนี้ดังแค่ไหน"ผู้จัดการของหมิงเยี่ยนเฟยพูดด้วยเสียงหัวเราะ
โอวหยางเชี่ยนหรงยิ้มและกล่าวว่า: “แต่เส้นทางที่บริสุทธิ์ดูมั่นคงกว่า ต้องขอโทษจริงๆ คุณลองคิดๆดู เรื่องนี้ก็ส่งผลกระทบกับพวกคุณไม่ค่อยดีเหมือนกัน หรือไม่เรามาเจรจากันว่าจะชี้แจงอย่างไร?
สำหรับเรื่องอื้อฉาวแบบนี้ ทั้งสองฝ่ายทำได้เพียงเจรจากันว่าจะชี้แจงอย่างไรเท่านั้น มิฉะนั้นหากมีบางอย่างดูไม่เหมาะสมผู้ที่ได้รับความเสียหายโดยตรงก็คือเซี่ยอันหรานที่ยังไม่มีชื่อเสียง อย่างไรก็ตามชื่อเสียงและสถานะของหมิงเยี่ยนเฟยก็วางอยู่ตรงนี้ ในใจของทุกๆคน คนอื่นๆก็มีเพียงคนที่สนใจติดตามเรื่องอื้อฉาวของหมิงเยี่ยนเฟยเท่านั้น
"ชี้แจง?" ผู้จัดการของหมิงเยี่ยนเฟยขมวดคิ้วและพูดอย่างเกียจคร้าน: “โอเค ฉันจะลองคิดดู"
ทันทีที่เสียงพูดจบลง ผู้จัดการของหมิงเยี่ยนเฟยก็วางสายทันที จากนั้นผู้จัดการของหมิงเยี่ยนเฟยก็หันกลับมาแล้วมองไปที่หมิงเยี่ยนเฟยที่กำลังท่องบทพูดของเขาและพูดด้วยรอยยิ้มเจื้อนๆ: “อีกฝ่ายไม่เห็นด้วย ดูออกว่า โอวหยางเชี่ยนหรงจงใจประจบประแจงอันหราน ไม่อยากให้อันหรานเดินเร็วเกินไป อ๊า จู่ๆพวกเขาก็ปฏิเสธโอกาสดีๆแบบนี้ นี้มันมองข้ามความหวังดีของคนอื่นจริงๆ"
ในขณะที่เขาพูด ผู้จัดการก็เงยหน้าขึ้นมองไปที่หมิงเยี่ยนเฟยและพูดด้วยรอยยิ้ม: “หรือไม่ก็ให้ฉันโพสต์เวยป๋อให้คุณ โพสต์ภาพท้องฟ้าสักภาพ พร้อมกับข้อความที่ว่า “ถ้าใจมนุษย์ขาวสะอาดและบริสุทธิ์เหมือนท้องฟ้าก็คงดี”จากนั้นก็หานักข่าวที่คุ้นเคยสักสองสามคนแล้วโพสต์ข่าวบนอินเทอร์เน็ตว่าเป็นการสร้างกระแสฝั่งอันหราน? แม้ว่าอันหรานจะตามโอวหยางเชี่ยนหรง แต่เธอก็เป็นนักแสดงหน้าใหม่ แค่พึ่งพลังแฟนคลับของคุณก็เพียงพอที่จะทำให้เธอออกจากวงการบันเทิงได้แล้ว”
ผู้จัดการเงยหน้าขึ้นและเลิกคิ้วพร้อมกับพูดด้วยรอยยิ้มว่า "กู้ลี่ได้ออกไปต่างประเทศแล้ว โอวหยางเชี่ยนหรง เหลืออันหรานที่เป็นศิลปินอยู่ในมือแค่คนเดียว อยู่ในสถานการณ์แบบนั้นแล้วเธอจะต้องกลับมาง้ออย่างแน่นอนและเธอจะต้องเป็นฝ่ายเสนออันหรานมาให้คุณเอง พอถึงเวลาคุณค่อยออกมาอธิบายว่าโพสต์ในเวยป๋อไม่ได้หมายถึงอันหรานที่พึ่งคุณเพื่อสร้างกระแส จากนั้นเรื่องนี้ก็จะคลี่คลาย ทั้งคุณงามความดีและข่าวประเด็นฮอตเราต่างก็ได้รับมัน ฉันดูๆแล้วคุณก็ดูสนใจสาวน้อยคนนั้นมากเลยนิ คุณเองก็ไม่ได้คลุกคลีกับผู้หญิงมานานแล้ว ถ้างั้นคุณก็ใช้สาวน้อยคนนี้ไกล่เกลี่ยสักหน่อย … "
"แผนก็ถือว่าไม่เลว" หมิงเยี่ยนเฟยปิดหนังสือสคริปต์ลงอีกครั้งและพูดกับผู้จัดการของเขาด้วยรอยยิ้ม: “แต่ว่า ผมไม่ค่อยอยากทำแบบนี้สักเท่าไหร่ อันหรานกับโอวหยางเชี่ยนหรงต่างก็ไม่ใช่คนโง่ ถ้าใช้เงื่อนไขนี้คุกคามพวกเขาเพื่อให้มานอนกับผม พวกเขาต้องคิดว่านี้เป็นแผนของผมแน่ๆ"
“แล้วมันไม่ใช่แผนของคุณหรอ?" ผู้จัดการของหมิงเยี่ยนเฟย ตะลึงไปชั่วขณะพร้อมกับชี้ไปที่หมิงเยี่ยนเฟยพร้อมกับขมวดคิ้วและพูดว่า “ตอนนั้นคุณไม่ได้พูดถึงแผนนี้หรอ?นักข่าวไม่ใช่คนที่คุณหามาหรอ?"
หมิงเยี่ยนเฟยส่ายหัวและมองไปที่ผู้จัดการด้วยรอยยิ้มจางๆ: “ไม่ใช่นักข่าวที่ผมหานิ ผมเองก็เพิ่งเห็นข่าว แค่คิดว่า เนื่องจากมีคนเตรียมวัตถุดิบไว้ให้แล้วถ้างั้นทำไมเราไม่ทำอาหารดีๆสักหน่อย ไม่งั้นก็รู้สึกไม่ให้เกียรติเขา แค่ไม่คิดว่าพ่อครัวคนนี้สนใจ แต่แม่ครัวฝั่งนั่นกลับไม่สนใจซะอย่างนั้น "
ผู้จัดการขมวดคิ้ว: “นั้นนะสิ ให้สร้างกระแสกับคุณพวกเขาก็ไม่เอาด้วย ตอนนี้มีผู้หญิงตั้งมากมายที่อยากปีนขึ้นไปบนเตียงของคุณ พวกเขาจะรู้หรือเปล่านะ? พวกเขามองข้ามความหวังดีของคนอื่นมากเกินไปแล้ว ถ้าไม่ใช่นักข่าวที่คุณหามางั้นก็ช่างเถอะ เราก็ทำเหมือนมองไม่เห็น ดูสิว่าพวกเขาจะทำยังไง อย่างไรก็ตามเราก็ได้ข่าวประเด็นฮอตมาฟรีๆ แต่คนอื่นๆจะต้องสงสัยแน่ๆว่ามันเป็นกระแสที่พวกเขาสร้างขึ้นมาเอง "
หมิงเยี่ยนเฟยลุกขึ้นยืนและบีบมือของเขาเบาๆ ราวกับว่าเขายังจำสัมผัสบนผิวอันอ่อนโยนของเซี่ยอันหรานได้
"ไม่! คุณโทรกลับไปหาโอวหยางเชี่ยนหรงแล้วตกลงเกี่ยวกับแผนการชี้แจงกับพวกเขา กำจัดเรื่องอื้อฉาวนี้ทิ้งซะและอย่าปล่อยให้เธอถูกโจมตี" หมิงเยี่ยนเฟยยกมุมปากขึ้นแล้วหันกลับไปมองผู้จัดการที่กำลังตกตะลึง จากนั้นก็เงยคางขึ้นพร้อมกับยิ้มอย่างสุภาพเรียบร้อย: "รีบไปจัดการเรื่องนี้เถอะ"
ผู้จัดการของหมิงเยี่ยนเฟยมองไปที่เขาด้วยสายตาแปลกๆ แม้ว่าหมิงเยี่ยนเฟยจะดูอ่อนโยนและดูไม่เป็นอันตรายเลยแม้แต่น้อย แต่หมิงเยี่ยนเฟยก็สามารถค่อยๆก้าวจากตัวประกอบเล็กๆจากด้านล่างขึ้นมาเป็นซูเปอร์สตาร์ในภาพยนตร์ได้ วิธีการที่เขาทำงานหนักและแผ่นการที่เขาวางไว้ไม่ใช่แบบที่คนอื่นๆสามารถจินตนาการได้
ภายนอกต่างเลื่องลือกันว่าหมิงเยี่ยนเฟยเป็นองค์ชายที่สมบูรณ์แบบ แต่มีเพียงคนรอบข้างของเขาเท่านั้นที่รู้ว่า หมิงเยี่ยนเฟยเป็นจอมวางแผนที่สมบูรณ์แบบ สิ่งที่เขาคำนวณในเรื่องทุกๆอย่างไม่เคยต้องขาดทุน ทุกสิ่งที่เขาทำนั้นมีจุดมุ่งหมายเสมอ
แต่จู่ๆตอนนี้หมิงเยี่ยนเฟยก็ยินดีที่จะช่วยเหลือสาวน้อยที่ชื่อ "อันหราน" แบบฟรีๆ ซึ่งทำให้ผู้จัดการของหมิงเยี่ยนเฟยประหลาดใจอย่างมาก
หมิงเยี่ยนเฟยเงยหน้าขึ้นและเห็นว่าผู้จัดการของเขายืนนิ่งอยู่กับที่ เขาก็เลิกคิ้วและถามด้วยรอยยิ้มทันที”คุณเป็นอะไรไป?ทำไมไม่ไปโทรหาโอวหยางเชี่ยนหรงล่ะ"
ผู้จัดการเลิกคิ้วและมองไปที่หหมิงเยี่ยนเฟยและพูดด้วยรอยยิ้ม: “ฉันแค่กำลังคิดว่าตอนนี้มีรายการเรียลลิตี้ที่จัดขึ้นสำหรับจัดหาคู่ให้นักแสดงกำลังได้รับความนิยม ให้ฉันติดต่อให้คุณสักรายการไหม? คนที่จับคู่กับคุณก็คือ อันหราน เป็นยังไง?”
"เรื่องมาก!" หมิงเยี่ยนเฟยยกแก้วน้ำขึ้นและพูดด้วยรอยยิ้มอ่อน ๆ : "รีบไปทำธุระของคุณก่อนเถอะ"
เมื่อเห็นผู้จัดการลุกขึ้นและเดินจากไป หมิงเยี่ยนเฟยก็ถือแก้วน้ำไว้ในมือแล้วยิ้มด้วยความอ่อนโยนพร้อมกับพึมพำกับตัวเอง: "ตอนนี้รายการเรียลลิตี้เกี่ยวกับความรักของคนดังกำลังเป็นที่นิยมมากงั้นหรอ?"
หลังจากที่หมิงเยี่ยนเฟยพูดจบ เขาก็ส่ายหัวเบาๆและพูดกับตัวเองด้วยรอยยิ้ม: “อ๊า มัวคิดเรื่องบ้าๆอะไรอยู่?"
ในขณะที่พูดนั้นหมิงเยี่ยนเฟยก็หยิบแก้วน้ำขึ้นมาและจิบไปอึกหนึ่ง
เนื่องจากได้รับความร่วมมือจากหมิงเยี่ยนเฟย ก่อนที่แฟนๆของหมิงเยี่ยนเฟยจะมีเวลาโจมตีเซี่ยอันหรานว่าเป็นฝ่ายสร้างกระแสขึ้นมา หมิงเยี่ยนเฟยก็ออกมาแถลงข่าวอย่างรวดเร็วโดยอธิบายที่มาของภาพถ่ายทั้งสองในข่าวอย่างชัดเจน ภาพหนึ่งคือรูปถ่ายจากการทำงานของทีมงาน ส่วนอีกภาพคือภาพถ่ายตอนที่ทีมงานโฆษณาทั้งหมดร่วมรับประทานอาหารร่วมกัน
บวกกับที่ผู้กำกับโฆษณารีโพสต์นี้บนเวยป๋อและเพิ่มคำพูดที่เยาะเย้ยว่า: ฉันก็ไปกินข้าวกับหมิงเยี่ยนเฟยนิ เขาเองก็คีบปิ้งย่างให้ฉันด้วย ทำไมถึงถ่ายแค่เซี่ยอันหรานไม่ถ่ายฉันบ้างล่ะ? หรือเป็นการเลือกปฎิบัติทางเพศงั้นหรอ? ฉันก็อยากมีเรื่องอื้อฉาว! ฉันก็อยากมีพาดหัวข่าวเหมือนกัน!
แม้แต่สุยเจี๋ยผู้กำกับ《ภาพยนต์เรื่องจิ้งจอกหยก》ก็ยังรีโพสต์ว่า: ฉันกับหมิงเยี่ยนเฟยถ่ายทำด้วยกันมานานขนาดนี้ยังไม่มีเรื่องอื้อฉาวอะไรเลย แต่เธอแค่ทานอาหารด้วยกันมื้อเดียวเอง
ภายใต้การเยาะเย้ยของทุกฝ่าย ก็สามารถทำให้เรื่องทั้งหมดอธิบายออกมาได้อย่างชัดเจน แถมยังลดผลกระทบลงอีกด้วย อีกทั้งยังได้โปรโมต《ภาพยนต์เรื่องจิ้งจอกหยก》และโฆษณาอันใหม่ของหมิงเยี่ยนเฟย ในตอนนี้การพูดคุยกันในโลกออนไลน์เกี่ยวกับเรื่องนี้ ต่างก็ถามว่า “อันหราน" นักแสดงหน้าใหม่คนนี้คือใคร? แล้วก็พวกเขาไปกินปิ้งย่างที่ร้านไหนกัน แฟนคลับอยากไปเฝ้า
แต่สิ่งที่มีอิทธิพลมากที่สุดคือหัวข้อ "ทำไมไม่เผยแพร่เรื่องอื้อฉาวของเรา" นี้เป็นหัวข้อที่แฟนคลับของหมิงเยี่ยนเฟยหยิบยกขึ้นมา เนื้อหาต่างก็เป็น “ฉันชอบหมิงเยี่ยนเฟยมาห้าปีแล้ว ทำไมไม่เผยแพร่เรื่องอื้อฉาวของเราล่ะ?”, “ฉันดูหนังทั้งหมดของหมิงเยี่ยนเฟย แล้วทำไมไม่เผยแพร่เรื่องอื้อฉาวของเราล่ะ?” “ฉันจำข้อมูลของหมิงเยี่ยนเฟยได้ทั้งหมด ทำไมไม่เผยแพร่เรื่องอื้อฉาวของเราล่ะ"
ท่ามกลางการพูดคุยที่เสียงดังบนโลกอินเทอร์เน็ต ยังมีอีกหลายๆคนที่โพสต์แสดงความคิดเห็นเป็นระยะๆบนอินเทอร์เน็ต: “แต่ผู้หญิงคนนี้ดูๆแล้วสวยมากเลยนะ เธอดูเข้ากับหมิงเยี่ยนเฟยมากเลยแหละ" "แม้ว่าจะได้รับการชี้แจงแล้ว และทั้งสองก็พึ่งถ่ายภาพยนต์เสร็จก็มาถ่ายโฆษณาต่อ จริงๆแล้วก็ดูเหมือนจะยังมีบางอย่างซ่อนอยู่นะ "" คนหนึ่งชื่อ 'อันหราน' และอีกคนชื่อ ‘หมิงเยี่ยนเฟย' ถ้างั้น CP ของพวกเขาเรียกว่าเฟยหรานแล้วกัน "
แต่แม้ว่าจะมีการพูดถึงการจับคู่ระหว่างหมิงเยี่ยนเฟยและเซี่ยอันหรานน้อยมาก อีกทั้งความคิดเห็นทั้งหมดก็ถูกลบโดยแฟนๆของหมิงเยี่ยนเฟยที่ไม่อยากให้เขามีความรัก
แต่ตอนนี้ผู้แสดงความคิดเห็นต่างก็ไม่คิดว่า หลังจากโฆษณา《ภาพยนต์เรื่องจิ้งจอกหยก》ของหมิงเยี่ยนเฟยและเซี่ยอันหรานได้รับการเผยแพร่ CP ที่ถูกแฟนๆของหมิงเยี่ยนเฟยบีบให้ลบความคิดเห็นทั้งหมดทิ้ง กลับกลายเป็นแฟนคลับกลุ่มเดียวของหมิงเยี่ยนเฟยที่ยอมรับและส่งเสริมรวมเรื่องกระแสของพวกเขาอย่างแข็งขัน
MANGA DISCUSSION