ขอเกิดใหม่ เป็นภรรยาคุณชายโม่ - ตอนที่ 51 ให้ฉันกอดคุณหน่อย
เมื่ออันหรานกลับมาที่ห้อง ก็สองทุ่มพอดี โทรศัพท์ของโม่เซ่าเหยียนก็โทรเข้ามาตรงเวลาพอดี
ยังคงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา"ฉันคือโม่เซ่าเหยียน"……” จากนั้นก็เงียบไป
เซี่ยอันหรานขมวดคิ้วมองโทรศัพท์ อันที่จริงเธอสงสัยกับความเงียบในช่วงเวลานี้ โม่เซ่าเหยียนไม่ได้ฟังอยู่หรอ ฉับพลันเธอก็พูดว่า : "โม่เซ่าเหยียน คุณยังอยู่ไหม?"
เซี่ยอันหรานเพิ่งจะถามจบ โม่เซ่าเหยียนก็ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชาทันที : "ยังอยู่"
ตอนที่เซี่ยอันหรานถาม อันที่จริงก็อยากจะหยั่งเชิงเล็กน้อย ดูว่าโม่เซ่าเหยียนฟังอยู่จริงๆหรือเปล่า ได้ยินคำตอบของโม่เซ่าเหยี่ยนอย่างรวดเร็วแบบนี้ เซี่ยอันหรานตกตะลึงเล็กน้อย ไม่รู้ว่าควรจะตอบกลับอย่างไร
เธอลังเลสักพัก จึงพูดว่า : "เอ่อ……เอ่อฉันถ่ายเสร็จแล้ว"
"ฉันรู้แล้ว" คำพูดของโม่เซ่าเหยียนยังคงเย็นชา
"ห๊ะ? คุณรู้แล้ว?" ขั้นตอนการถ่ายทำทั้งหมดของกองถ่ายยังไม่แน่นอน โม่เซ่าเหยียนรู้ได้อย่างไรว่าเธอถ่ายเสร็จเมื่อไหร่? แต่แล้วเซี่ยอันหรานก็นึกได้ว่าโม่เซ่าเหยียนรู้จักโอวหยางเชี่ยนหรง และโอวหยางเชี่ยนหรงไม่เพียงแต่รู้ตารางงานของเธอเท่านั้นแต่ยังรู้ถึงความสัมพันธ์ของเธอกับโม่เซ่าเหยียนด้วย เช่นนี้ดูเหมือนว่า โม่เซ่าเหยียนรู้ว่าเมื่อไหร่ที่เธอไม่ได้ถ่ายหนัง ก็ไม่ได้เรื่องยาก
เซี่ยอันหรานไม่รอให้โม่เซ่าเหยียนตอบกลับ ก็พูดทันทีว่า : "อ่า ฉันเข้าใจแล้ว เอ่อ ฉันนอนหก่อนนะ"
จากนั้นเซี่ยอันหรานก็รออย่างเงียบๆให้โม่เซ่าเหยียนวางสาย แต่โม่เซ่าเหยียนก็ไม่ได้วางสายในทันที หลังจากที่เงียบไปสักพัก ก็พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า : "พรุ่งนี้ฉันจะไปรับคุณที่สนามบิน"
"ห๊ะ?ไม่ต้อง!" เซี่ยอันหรานแทบจะตะโกน
ล้อเล่นอะไรเนี่ย? สนามบินคนเยอะขนาดนั้น นี่จะไม่ถูกคนเห็นเข้าหรอ? ถึงแม้ว่าตอนนี้เธอจะเป็นคนมาใหม่ที่ไม่ได้สำคัญอะไร แต่โม่เซ่าเหยียนเป็นคนมีชื่อเสียงปรากฏตัวอยู่บนนิตยสารการเงินบ่อยๆ
แต่เมื่อเซี่ยอันหรานพูดจบ ทางด้านโม่เซ่าเหยียนก็วางสายไปแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่โม่เซ่าเหยียนวางสาย เซี่ยอันหรานมองไปที่โทรศัพท์ที่ยกเลิกการติดต่อไป ยังคงไม่สบายใจเล็กน้อย วางสายไปแบบนี้ ไม่ได้เงียบตลอดเพื่อรอก่อนเธอเข้านอนหรอ? ไม่รอจนกระทั่งโม่เซ่าเหยียนกล่าวราตรีสวัสดิ์ในที่สุด?
เซี่ยอันหรานนอนอยู่บนเตียง ขมวดๆคิ้ว จากนั้นโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นอีกครั้ง
น้ำเสียงทุ้มของโม่เซ่าเหยียนดังในหูของอันหราน : "ราตรีสวัสดิ์"
เซี่ยอันหรานได้ฟังคำพูดราตรีสวัสดิ์นี้ ก็ถอนหายใจยาว ราวกับประสบความสำเร็จอะไรสักอย่าง ถือโทรศัพท์แนบหน้าอกไว้ แล้วหลับตา
เช้าตรู่วันต่อมา เซี่ยอันหรานเรียกเฉิงเสี่ยวเถียนตื่นแต่เช้า เก็บกระเป๋าเดินทาง ก็นั่งเครื่องบินกลับเมืองT เฉิงเสี่ยวเถียนนอนหลับสนิทอยู่ข้างเซี่ยอันหราน แต่เซี่ยอันหรานไม่สามารถหลับตาได้ บางทีอาจเป็นเพราะว่าต้องเจอกับโม่เซ่าเหยียน ในใจเซี่ยอันหรานร้อนรนเล็กน้อย
เกือบจะทันทีที่ลงจากเครื่องบิน เซี่ยอันหรานก็ได้รับโทรศัพท์จากโม่เซ่าเหยียน
โม่เซ่าเหยียยออกคำสั่งด้วยเสียงทุ้มเย็นชา : "เดินออกมาจากสนามบิน รถคันสีดำด้านซ้ายมือ"
"ห๊ะ?" เซี่ยอันหรานตกตะลึง ขมวดคิ้วขึ้นมา
"ถ้าคุณไม่อยากให้ฉันลงไปรับคุณ ก็ทำตามที่ฉันบอก" โม่เซ่าเหยียนน้ำเสียงเย็นชา โม่เซ่าเหยียนพูดจบ ก็วางสายไป
เอาแต่ใจจริงๆ! ไม่มีทางเจรจาต่อรอง เซี่ยอันหรานมองไปที่โทรศัพท์ที่ถูกวางสาย ก็เม้มปากแน่น ขมวดคิ้วขึ้น เธอหันหน้าไปมองเฉิงเสี่ยวเถียนที่กำลังโทรติดต่อกับบริษัท รับกระเป๋าเดินทางในมือเฉิงเสี่ยวเถียน กล่าวกับเฉิงเสี่ยวเถียนด้วยรอยยิ้มว่า : "เสี่ยวเถียน คุณกลับบ้านไปพักผ่อนก่อนเถอะ ฉันกลับบ้านเองได้"
เฉิงเสี่ยวเถียนนอนหลับมาบนเครื่องบิน เพิ่งจะตื่น ก็ขยี้ตาไปพลางบ่นพึมพำไปพลาง : "แต่ แต่ว่า จะให้คุณกลับบ้านคนเดียวได้อย่างไร?"
เซี่ยอันหรานยิ้มพูดว่า : "ไม่เป็นไร มีคนมารับฉันแล้ว คุณวางใจเถอะ……”
เฉิงเสี่ยวเถียนทำหน้ามุ่ยและขมวดคิ้ว : "พูดแล้วก็ เป็นผู้ช่วยอันหรานก็เหมือนไม่ได้รู้สึกประสบความสำเร็จเลย เรื่องอะไรอันหรานก็ทำด้วยตัวเองหมด"
แม้ว่าเฉิงเสี่ยวเถียนจะทำประโยชน์ให้กับเซี่ยอันหรานมามากแล้ว แต่เมื่อเทียบกับนักแสดงหลายคนที่ต้องวัดอุณหภูมิของน้ำก่อนมาเสิร์ฟตรงหน้า คิดว่าอยู่ข้างๆนักแสดงอย่างเซี่ยอันหราน มันช่างง่ายและผ่อนคลายเหลือเกิน
เซี่ยอันหรานยิ้มพูดว่า : "จะไม่รู้สึกประสบความสำเร็จได้อย่างไร? ฉันถอนตัวจากซุปที่เสี่ยวเถียนต้มไม่ได้เลยนะ"
เซี่ยอันหรานพูดจบ ก็บีบแก้มตนเอง เอียงคอแล้วยิ้มเล็กน้อย : "ดูสิผิวพรรณของฉันได้รับการบำรุงดีมากเลย"
เมื่อเซี่ยอันหรานพูดอยู่ โทรศัพท์ในกระเป๋าก็ดังขึ้น แต่ดังแป๊ปเดียว ก็ตัดสายไป ไม่ต้องดู เซี่ยอันหรานก็เดาได้ว่าโม่เซ่าเหยียนเตือนเธอ เซี่ยอันหรานออกแรงเม้มปาก หันไปมองเฉิงเสี่ยวเถียน ยิ้มพูดว่า : "ฉันไปก่อน ตอนที่ไม่มีงาน ก็พักผ่อนดีๆนะ"
เฉิงเสี่ยวเถียนพยักหน้า เซี่ยอันหรานสูดหายใจเข้าลึกๆ รีบเดินออกมาจากสนามบิน เดินไปยังรถที่โม่เซ่าเหยียนระบุ เซี่ยอันหรานเพิ่งเข้าใกล้รถสีดำ ชายชุดสูทสีดำสวมแว่นกันแดดก็ลงมาจากรถ รับเอากระเป๋าเดินทางของเซี่ยอันหรานมาใส่ท้ายรถ จากนั้นก็เปิดประตูรถให้เซี่ยอันหราน
เซี่ยอันหรานเล็งสายตาไปในรถ ก็เห็นเพียงโม่เซ่าเหยียนที่สวมเสื้อดำกางเกงดำนั่งอยู่ในรถด้วยสีหน้าที่เย็นชา เซี่ยอันหรานกัดริมฝีปากเล็กน้อย แล้วก็ขึ้นรถทันที
หลังจากที่เธอนั่งในรถแล้ว โม่เซ่าเหยียนก็ไม่ได้เคลื่อนไหวอะไร คล้ายกับมองไม่เห็นเซี่ยอันหราน
ขณะที่รถยนต์เคลื่อนที่ ร่างกายของเซี่ยอันหรานถูกรถที่เพิ่งออกตัว ทำให้โอนเอนไปมาเล็กน้อย โม่เซ่าเหยียนจึงหันหน้ามา ใช้สายตาที่เย็นชานั้นของเขา กวาดมามองเซี่ยอันหราน
เซี่ยอันหรานไม่ได้เจอโม่เซ่าเหยียนนานมาก ช่วงนี้ความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสองล้วนอยู่ในโทรศัพท์ ทำให้เซี่ยอันหรานไม่ได้รับรู้ถึงความเย็นชาที่รุนแรงของโม่เซ่าเหยียน แต่การพบหน้ากันครั้งนี้ ทำให้เซี่ยอันหรานรับรู้ได้ถึงความเยือกเย็นที่ต้องห้ามของโม่เซ่าเหยียนในความเป็นจริงอีกครั้ง เธออดไม่ได้ที่จะขยับตัวเล็กน้อยไปยังประตูรถ ออกห่างโม่เซ่าเหยียนเล็กน้อย
โม่เซ่าเหยียนเห็นเซี่ยอันหลานขยับไปไกล ก็ทำได้เพียงเม้มปาก แล้วลดสายตาลงเล็กน้อย มองนิ้วมือที่วางอยู่บนเข่า ไม่ได้พูดจา เซี่ยอันหรานก็ไม่กล้าพูดมาก ทำได้เพียงงอตัวอย่างระมัดระวังบนรถ บรรยากาศในรถก็คล้ายกับแข็งทื่อ
เพราะบรรยากาศในรถที่แข็งทื่อเกินไป เซี่ยอันหรานทำได้เพียงมองไปยังนอกหน้าต่าง มองวิวทิวทัศน์นอกหน้าต่างเพื่อผ่อนคลายอารมณ์ แต่วิวทิวทัศน์นี้ก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นผิดปกติ ทำไมมองแล้วไม่เหมือนกับทางกลับคฤหาสน์ของเธอ แต่กลับเป็นสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย
"นี่ไม่ใช่ทางกลับบ้านฉัน?" เซี่ยอันหรานกระซิบถามอย่างแปลกใจ
"แน่นอนว่าไม่ใช่ทางกลับบ้านของคุณ" โม่เซ่าเหยียนพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา: "เป็นทางกลับบ้านของฉัน"
"บ้านคุณ?" เซี่ยอันหรานขมวดคิ้วแน่น หรือว่าจะเป็นสถานที่ที่เยือกเย็นมืดมิดที่เหมือนกับสุสานแห่งหนึ่งก่อนหน้านั้น? การแสดงออกบนใบหน้าของเซี่ยอันหรานก็แข็งทื่อไป เธอส่ายหน้าอย่างนิ่งๆ: "ฉัน ฉันจะไปคฤหาสน์ที่ฉันอาศัยอยู่ในตอนนี้"
โม่เซ่าเหยียนหันมองไปยังเซี่ยอันหราน: "ทำไมคุณถึงไม่อยากไป?"
ล้อเล่นหรือเปล่า? ใครจะไปชอบสถานที่ที่ตนเองถูกรังแกครั้งแรก ยิ่งไปกว่านั้นสถานที่นั้นก็ทั้งมืดมิดและเงียบสงัดขนาดนั้น เพียงแค่เซี่ยอันหรานคิด ก็รู้สึกว่าตัวสั่น
แต่โม่เซ่าเหยียนจะไม่ให้ความสนใจในความคิดต่างของเธอได้ยังไง กลัวว่ายิ่งเธอลังเลมากเท่าไหร่เธอก็ยิ่งกลัวมากขึ้นเท่านั้น เซี่ยอันหรานก็ไม่ได้พูดอะไรมาก ทำได้เพียงกัดริมฝีปาก หลังจากนั้นก็พูดด้วยเสียงเบาๆว่า: "เปล่า ไม่ได้ไม่อยากไป"
โม่เซ่าเหยียนก็หันไปมองเซี่ยอันหราน แล้วพูดกับคนขับรถที่อยู่ตรงหน้าว่า: "กลับรถ ไปคฤหาสน์ของเธอ"
เซี่ยอันหรานคาดไม่ถึงว่าโม่เซ่าเหยียนจะกังวลเกี่ยวกับความรู้สึกของเธอ เธอหันหน้าไปมองโม่เซ่าเหยียนอย่าประหลาดใจเล็กน้อย โม่เซ่าเหยียนกวาดสายตามองเซี่ยอันหราน แล้วค่อยๆหันหน้าออก
รถขับมาถึงคฤหาสน์อย่างรวดเร็ว คนขับรถส่งเซี่ยอันหรานเข้าไปในคฤหาสน์แล้วก็จากไป เซี่ยอันหรานเห็นคนขับรถจากไป ก็รู้ว่าตนเองกำลังจะเผชิญหน้ากับอะไร เธอใช้กำลังหลับตาลงเล็กน้อย ปิดประตูคฤหาสน์ พูดด้วยเสียงสั่นเครือ: "ฉันไปอาบน้ำก่อน……"
เธอเตรียมพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับโม่เซ่าเหยียน
พอพูดจบ โม่เซ่าเหยียนก็โอบกอดเซี่ยอันหราน คนกดลงบนร่างของเซี่ยอันหราน เซี่ยอัรหรานจะระงับโม่เซ่าเหยียนได้ยังไง? ลมลงบนพื้น พูดอย่างตื่นตระหนกว่า: "ตรง ตรงนี้ไม่ได้นะ!"
แต่ถึงแม้เซี่ยอันหรานจะถูกโม่เซ่าเหยียนควบคุมไว้ แต่โม่เซ่าเหยียนก็ไม่ได้เคลื่อนไหวใดๆ เขาเพียงแค่หลับตาแล้วโอบกอดเธอไว้แน่น หายใจอย่างเชื่องช้า คล้ายกับ……คล้ายกับว่าหลับไปแล้ว?
เซี่ยอันหรานอยากให้โม่เซ่าเหยียนหลับอยู่แบยนี้อย่างมาก ก็จะรอดพ้นจากหายนะครั้งนี้ แต่เธอถูกโม่เซ่าเหยียนระงับไว้อย่างแน่นจนหายใจไม่ออกจริงๆ จึงอดไม่ได้ที่จะเงื้อมือผลักโม่เซ่าเหยียน: "คุณ ถ้าคุณง่วงนอน ก็หลับไปเถอะ คุณจะมาที่นี่ทำไมกัน?"
โม่เซ่าเหยียนกระซิบข้างหูเซี่ยอันหราน: "ให้ฉันกอดคุณนะ"
เสียงของโม่เซ่าเหยียนทุ้มและไพเราะ ได้ยินเสียงที่หายใจติดขัดของเซี่ยอันหราน เซี่ยอันหรานมองขึ้นไป เห็นโม่เซ่าเหยียนที่ใกล้อย่างมาก โม่เซ่าเหยียนหลับตา หน้าตาของเขาสุขกายสบายใจ ใบหน้าหล่อเหลาไม่เหมือนคนธรรมดา อาจเป็นเพราะความหน้าตาดีแบบนี้ของเขา ถึงต่อให้เขาใช้อำนาจคุกคามเธอ ขู่บังคับเธอ ทำร้ายเธอ เธอก็ยังเกิดความรู้สึกพอใจกับคนอย่างคาดไม่ถึง
ถ้าคนไม่ได้มีฐานะที่สูงส่ง มันจะเป็นการดีมากที่ชายหญิงเกิดมาเพื่อรักกัน แบบนี้ต่อให้รู้ว่าต้องเผชิญกับความอัปยศมากมาย เธอก็กล้าที่จะยื่นมือไปโอบกอดผู้ชายที่เย็นชาราวกับน้ำแข็งคนนี้ แต่คนอย่างเธอ คนที่มีฐานะสูงส่ง เมื่อได้รับความอัปยศอดสู การหลบเลี่ยงความเจ็บปวดภายในใจก็ยิ่งทำให้ร่างกายได้รับบาดเจ็บ!
เซี่ยอันหรานทำได้เพียงข่มตาให้หลับลง หันหน้าออกไป พยายามออกจากตรงนี้ที่ทำให้เธออับอาย และอยู่ให้ไกลผู้ชายที่ดึงดูดเธอสักเล็กน้อย
"เป็นอะไร?" ทันทีโม่เซ่าเหยียนก็ปล่อยมือที่โอบกอดเซี่ยอันหรานไว้แน่น
"อะไร?" เซี่ยอันหรานเบิกตาโต มองโม่เซ่าเหยียนที่ลุกขึ้นนั่ง
โม่เซ่าเหยียนขมวดคิ้วแน่น จ้องมองเธอโดยตรง การแสดงออกของเขาคือจริงจังอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน เขายื่นมือไปยังเซี่ยอันหรานอย่างช้าๆ
เซี่ยอันหรานเห็นการแสดงออกที่ไม่ดีของโม่เซ่าเหยียน ก็ตกใจจนรีบถอยหลังไปเล็กน้อย: "คุณ คุณจะทำอะไร?"
แต่โม่เซ่าเหยียนยังคงยื่นมือออกไป กระทั่งนิ้วมือที่เรียวยาวของเขามาเช็ดที่หางตาของเซี่ยอันหราน: "ร้องไห้ทำไม?"
เธอร้องไห้?
เซี่ยอันหรานรีบเช็ดดวงตา สัมผัสถึงความชื้นเล็กน้อยจริงๆ เซี่ยอันหรานรีบเบือนหน้าหนี เธอรู้สึกขายหน้าจริงๆ เธอมีชีวิตมาสองชาติ เซี่ยอันหรานคาดไม่ถึงว่าเธอจะเสียน้ำตาให้กับผู้ชายที่ทำเธอเหมือนเป็นของเล่น อีกทั้งยังเสียน้ำตาต่อหน้าผู้ชายคนนี้!