กำเนิดใหม่ทายาทเนตรจุติ - ตอนที่ 19 : วิชาลับฟื้นฟูร่างกาย
กําเนิดใหม่ทายาทเนตรจุติ : Reborn into Naruto…
Chapter 19 : วิชาลับฟื้นฟูร่างกาย
คุโรโตะ ไม่มีทางรู้เรื่องที่เกิดขึ้นใน สํานักงานโฮคาเงะ เขาเพิ่งทําภารกิจระดับ A เสร็จสิ้นและตอนนี้เขาก็กําลังเดินกลับ บ้านของเขา
พ่อแม่ของ คุโรโตะ เสียชีวิตในสงครามเมื่อนานมาแล้ว แต่ เนื่องจาก คุโรโตะ เป็นส่วนหนึ่งของตระกูลฮิวงะ ที่ร่ํารวย ดังนั้นเขาจึงได้รับการปกป้องจากตระกูลนี้ ทําให้วัยเด็กของเขาดีกว่าเด็กกําพร้าคนอื่น ๆ ในหมู่บ้าน
อย่างน้อยเขาก็เป็นเจ้าของบ้านเดี่ยวที่พ่อแม่ทิ้งไว้ให้
เมื่อเขากลับมาถึงบ้าน คุโรโตะ ก็สังเกตเห็นว่าบ้านสะอาดเอี่ยมอ่อง เห็นได้ชัดว่ามีคนช่วยเขาทําความสะอาดตอนที่เขาไปทําภารกิจ และคนเดียวที่จะทําให้เขาได้ก็คือ ฮิวงะ ยูอิ ที่เป็นคู่มั่นของเขา
การมั่นเกิดขึ้นตอนที่พ่อแม่ของ คุโรโตะ ยังมีชีวิตอยู่ ดังนั้นหลังจากที่พ่อแม่ของเขาจากไปครอบครัวของยูอิ ก็ดูแล เขาเป็นอย่างดีและปฏิบัติต่อเขาเหมือนเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน คุโรโตะ จึงรู้สึกขอบคุณพ่อแม่ของ ยูอิ เป็นอย่างมาก
หลังจากเข้าห้องไปแล้วปิดประตู คุโรโตะ ก็นําม้วนวิชาลับ การฟื้นฟูร่างกายที่เขาได้รับมาจาก โอโรจิมารุ ออกมาอ่าน
หลังจากค้นคว้าอย่างรอบคอบแล้วเขาก็สามารถเข้าใจหลัก การของวิชาลับนี้ได้
พูดง่าย ๆ ก็คือต้องใช้วิชาพิเศษอย่างยิ่งในการกระตุ้นเซลล์ในร่างกายด้วยจักระเพื่อเร่งการแบ่งตัวของ เซลล์เพื่อให้เกิดการรักษาบาดแผลและการฟื้นตัวของจักระอย่างรวดเร็ว
วิชานี้มีชื่อเรียกว่า วิชาลับการฟื้นฟูร่างกาย เพราะมันทําให้ ร่างกายเกิดใหม่โดยการเร่งการแบ่งเซลล์
แต่มันก็มีผลข้างเคียงอยู่
คุโรโตะ รู้ดีว่าจํานวนของการแบ่งเซลล์ของมนุษย์มี ขีดจํากัด หากอัตราการแบ่งเซลล์ถูกเร่งความเร็วมันก็จะเร่งการใช้อายุขัยด้วย กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือยิ่งใช้วิชานี้บ่อยเท่าไหร่ผู้ใช้ก็จะตายเร็วขึ้นเท่านั้น!
อย่างไรก็ตามหากใช้มันเฉพาะในสถานการณ์ที่จําเป็น มันจะเป็นวิชาที่มีประโยชน์อย่างมาก!
เมื่อนึกถึงผลข้างเคียงของวิชานี้และนึกถึง วิชาป้ายชีพอมตะ ที่ โอโรจิมารุ จะพัฒนาได้ในอนาคต หัวใจของ คุโรโตะ ก็เต็มไปด้วยความชื่นชม
“โอโรจิมารุ ครอบครอง วิชาย้ายชีพอมตะ ดังนั้นเขาจึงย้ายร่างได้บ่อย ๆ ด้วยวิธีนี้เขาถึงเอาชนะผลข้างเคียงของวิชานี้ได้อย่างสมบูรณ์ ไม่แปลกใจเลยที่ตอนหลัง โอโรจิมารุ เป็นเหมือนแมลงสาบที่แทบจะไม่สามารถฆ่าได้ แม้แต่ อิทาจิ ก็ทําได้แค่ผนึกเขาไว้เท่านั้น!”
วิชาลับฟื้นฟูร่างกาย ไม่เพียงแต่สามารถฟื้นฟูอาการบาดเจ็บได้อย่างรวดเร็วเท่านั้น แต่เนื่องจากมันช่วยผลิตเซลล์ใหม่ ร่างกายจึงได้รับแหล่งจักระใหม่อย่างต่อเนื่อง ดังนั้น เมื่อใช้วิชาลับนี้ผู้ใช้จะไม่ต้องกลัวการบาดเจ็บใด ๆ และผู้ใช้ก็จะมีจักระมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
สําหรับคนอื่น นี่เท่ากับการฆ่าตัวตาย
แต่สําหรับ โอโรจิมารุ ที่กําลังจะพัฒนาวิชาฝ้ายชีพอมตะ ซึ่งหากร่างหนึ่งเสียหายก็สามารถแทนที่ด้วยอีกร่างได้ นี่ไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ คุโรโตะ ก็รู้สึกชื่นชมอาจารย์ของเขาจริง ๆ
แม้ว่าตอนนี้ คุโรโตะ จะยังไม่สามารถใช้ วิชาลับฟื้นฟูร่างกาย ได้อย่างอิสระ แต่ก็ใช่ว่าเขาจะฝึก วิชาป้ายชีพอมตะ ไม่ ได้ ดังนั้นเขาจึงเก็บความคิดนี้เอาไว้และเริ่มตั้งใจศึกษา วิชาลับฟื้นฟูร่างกาย นี้ต่อไป
คุโรโตะ ไม่รู้ว่ามันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายที่เกิดจาก เนตรจุติ หรือการเพิ่มขึ้นของจักระในร่างกายหรือไม่ แต่มันก็ทําให้เขาเรียนรู้วิชาใหม่ได้เร็วกว่าเดิมมาก นอกจากนี้วิชาลับนี้ก็เกี่ยวข้องกับจุดจักระและเขาคุ้นเคยกับมันเป็นอย่างดี ดังนั้นไม่นานเขาก็เข้าใจทิศทางและวิธีการไหลของจักระของวิชาลับนี้และขั้นตอนในการสร้างผนึก
หลังจากเชี่ยวชาญวิชานี้แล้ว คุโรโตะ ก็ไม่รีรอและทําลายม้วนคัมภีร์ที่บันทึกวิชาลับในทันที เขาระมัดระวังที่จะไม่ทิ้งหลักฐานใด ๆ ที่จะสาวมาถึงตัวเขาได้
หลังจากเรียนรู้วิชาเสร็จแล้ว คุโรโตะ ก็กลับมานึกถึงปัญหาที่พบในภารกิจก่อนหน้านี้
แม้ว่า จุติเหนี่ยวสวรรค์ และ จุติพิชิตฟ้า จะเป็นวิชา ที่ทรงพลังและมีประโยชน์มาก และ หุ่นเชิดคาเสะคาเงะรุ่น3 ก็แข็งแกร่งมากเช่นกัน แต่เขาก็สามารถเปิดเผยวิชาเหล่านี้ได้ เขาไม่สามารถใช้วิชาแบบนี้เมื่ออยู่ต่อหน้า นินจาโคโนฮะได้
วิธีการต่อสู้ของ คุโรโตะ นั้นเรียบง่ายมากและความแข็งแกร่งของเขาก็สะท้อนให้เห็นอย่างเต็มที่ในภารกิจนี้
ดังนั้น คุโรโตะ จึงต้องการกลยุทธ์และวิชาทั้งโจมตีและป้องกันที่เขาจะสามารถใช้ได้อย่างเปิดเผย
เมื่อนึกถึงตัวเขา ในฐานะ ฮิวงะ หากเขาต้องการให้การป้องกันและการโจมตีของเขาแข็งแกร่งขึ้น การฝึกมวยอ่อนต่อไปก็ดูเหมือนจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสําหรับเขาในขณะ นี้อย่างไม่ต้องสงสัย
“ได้เวลาฝึกมวยอ่อนอีกครั้ง!”
หลักการของ มวยอ่อนเคลื่อนสวรรค์ นั้นไม่ซับซ้อน ก่อนหน้านี้มันถูกจํากัดด้วยปริมาณจักระที่ไม่เพียงพอ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถฝึกฝนต่อได้สําเร็จ ตอนนี้ปริมาณจักระของ คุโรโตะ เกินกว่า เนจิ ไปมากแล้ว และในเมื่อ เนจิ สามารถเรียนรู้มันได้ด้วยตัวเอง จึงไม่มีเหตุผลใดที่ผู้ที่ครอบครอง เนตรจุติ จะทํา ไม่ได้!
วันรุ่งขึ้น คุโรโตะ ก็เข้าไปในปาเล็ก ๆ ที่ห่างไกลจากสนามฝึกซ้อมของ ตระกูลฮิวงะ
หลังจากยืนยันว่าไม่มีใครอยู่ในบริเวณโดยรอบ เขาก็ไม่เสียเวลาและเริ่มฝึกทันที
มี 2 วิธีในการควบคุมจักระให้หมุนรอบตัวเอง วิธีหนึ่งคือการควบคุมจักระของตัวเองให้เชี่ยวชาญและอีกวิธีหนึ่งคือการมีจักระที่เพียงพอและสามารถควบคุมจักระได้อย่างเสถียร
สําหรับ คุโรโตะ เขาสามารถใช้ได้ทั้ง 2 วิธี ดังนั้นหลังจากพยายามเพียงไม่กี่ครั้ง เขาก็สามารถใช้มวยอ่อนเคลื่อนสวรรค์ได้ในระดับหนึ่ง
สิ่งนี้เป็นการพิสูจน์เพิ่มเติมว่าการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ ที่เกิดขึ้นโดย เนตรจุติ ของ คุโรโตะ ไม่เพียงแต่สะท้อนให้เห็น การเพิ่มขึ้นของปริมาณจักระของเขาเท่านั้น แต่ยังสะท้อนให้เห็นในเรื่องการควบคุมจักระ ความเข้าใจความสมดุลของประสาทสัมผัสและการตรวจจับอีกด้วย
…………..เฮ่อ…….
หลังจากถอนหายใจด้วยความโล่งอก คุโรโตะ ก็เช็ดเหงื่อออกจากใบหน้าด้วยผ้าขนหนูที่เตรียมไว้
แม้ว่าเขายังต้องพัฒนามันขึ้นอีกมาก แต่มันก็ไม่มีปัญหาในการใช้ในการต่อสู้จริง
หลังจากเชี่ยวชาญ วิชาลับฟื้นฟูร่างกาย และ มวยอ่อนเคลื่อนสวรรค์ แล้ว คุโรโตะ ก็รู้สึกอารมณ์ดี ดังนั้นเขาจึงหยุดพักในตอนเที่ยงและมาที่ศูนย์ภารกิจอีกครั้ง
เช่นเดียวกับครั้งที่แล้ว ที่ศูนย์ภารกิจยังคงเงียบเหงาอยู่ และนินจาส่วนใหญ่ที่เข้ามาก็รีบกลับออกไปอย่างรวดเร็ว
เนื่องจากมีประวัติการทําภารกิจระดับ A และมีภารกิจ มากเกินไป คุโรโตะ จึงได้รับการยกเว้นและได้รับอนุญาตให้ทําภารกิจระดับ A
โดยทั่วไปภารกิจระดับ A จะได้รับมอบหมายจากนักการเมืองของแคว้นต่าง ๆ หรือกองกําลังขนาดใหญ่ ถ้าภายใต้สถานการณ์ปกติ นินจาระดับสูงเท่านั้นที่จะรับภารกิจเหล่านี้ไปทําได้
และเมื่อร่างกายของ คุโรโตะ ค่อย ๆ ปรับตัวเข้ากับ เนตรจุติ ได้มากขึ้น ความแข็งแกร่งของเขาก็เพิ่มขึ้นทุกวัน และตอนนี้เขาก็เชี่ยวชาญ วิชาลับฟื้นฟูร่างกาย และ มวยอ่อนเคลื่อนสวรรค์ แล้ว ทําให้ความแข็งแกร่งของเขา ในตอนนี้อยู่ในระดับ โจนินพิเศษ ดังนั้นจึงไม่มีปัญหาที่เขาจะรับภารกิจระดับ A ไปทําได้
หลังจากพลิกดูรายชื่อภารกิจระดับ A แล้ว คุโรโตะ ก็เม้มริมฝีปาก
ในรายชื่อภารกิจระดับ A มีอยู่ไม่กี่ภารกิจเท่านั้นที่อนุญาตให้ทําคนเดียวได้ และภารกิจเหล่านั้นเกือบทั้งหมดก็เป็นภารกิจที่ยากอย่างเช่น ภารกิจลอบสังหาร ซึ่งต้องใช้ โจนิน หรือ โจนินขั้นสูง ทําเท่านั้น
ในตอนนี้ คุโรโตะ รู้แล้วว่าการไม่มีเพื่อนร่วมทีมเป็นปัญหาที่ใหญ่มาก
ในขณะที่เขาเริ่มปวดหัวว่าจะหาใครมาร่วมทีม ร่างสีเขียวร่างหนึ่งก็รีบวิ่งเข้ามาในศูนย์ภารกิจ…