กำเนิดใหม่ทายาทเนตรจุติ - ตอนที่ 14
เมื่อสิ่งที่เรียกว่า “ความทะเยอทะยาน แผดเผาในใจของ เขา ความคิดของคุโรโตะก็ฉับไวขึ้น
ไม่ว่าจะเป็น เขี้ยวสีขาว หรือ 3 นินจาในตํานานแห่งโคโน ฮะ พวกเขาต่างก็เสียชีวิต , ถอนตัวหรือหลบหนีไปหมดแล้วตอนนี้ก็เหลือเพียงแค่จิไรยะคนเดียวเท่านั้นที่ไม่ทะเยอทะยานอยากจะได้ตําแหน่งโฮคาเงะ
ในบรรดานินจาที่มีพลังระดับคาเงามีเพียงแค่โฮคาเงะรุ่น4 และ พลังสถิตร่าง 9 หางคนที่ 2 เท่านั้นที่มีพลังต่อสู้ในระดับคาเงะ อย่างแท้จริงคนอื่นๆในรุ่นเดียวกันอย่างฮิวงะฮิอาชิ , อุจิฮะ ฟูกาคุ และผู้นําตระกูลคนอื่นๆแม้ว่าพวกเขาจะไม่แย่ในแง่ของความแข็งแกร่งแต่ในแง่ประสิทธิภาพการต่อสู้ก็ยังไม่สามารถจัดให้เป็นระดับคาเงะได้
นี่เป็นเพียงการอธิบายให้เห็นถึงความสูญเสียอย่างต่อเนื่องที่โคโนฮะต้องเจอในตอนนี้แต่สําหรับคุโรโตะแล้ว นี่ถือว่า เป็นโอกาสทองของชีวิต
เพราะสําหรับเขาแล้วคู่แข่งที่แท้จริงมีเพียงคาคาชิ,ไก,อาสึมะ ชิซุย,อิทาจิและนินจาคนอื่นๆในรุ่นเดียวกัน
และทั้งชิซุยและอิทาจิที่เป็นรุ่นน้องของเขาเพราะนินจาที่ทรงพลังทั้ง 2 นี้เป็นอุจิฮะและความตึงเครียดระหว่างตระกูลอุจิฮะ กับ หมู่บ้านในตอนนี้ทําให้หมู่บ้านจับตาดูพวกเขาอย่างระมัดระวังดังนั้นพวกเขาจึงถูกกีดกันจากการแข่งขันทุกอย่าง
“ในอนาคตจะเป็นเวทีของฉัน!”
คุโรโตะมั่นใจในเรื่องนี้มากและนี่ไม่ใช่แค่ความมั่นใจในตัวเองเท่านั้นแต่ยังมีความหวังในอนาคตด้วย!
ตอนนี้คุโรโตะมีปัญหาเพียง2ประการเท่านั้นที่ทําให้เขาไม่สามารถรับตําแหน่งโฮคาเงะได้
ปัญหาแรกคือเนตรจุติของเขาแม้ว่าโดยปกติแล้วสมาชิกตระกูลอิวงะจะไม่ใช้เนตรสีขาวเมื่ออยู่ในหมู่บ้านแต่ถ้ามีคนใช้เนตรวงแหวนต่อหน้าเขาเนตรจุติของเขาก็จะถูกเปิดเผยทันทีท้ายที่สุดแล้วก็มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนระหว่าง เนตรจุติและเนตรสีขาว
ปัญหาที่ 2 คือตัวตนของเขาที่เคยเป็นลูกน้องของโอโรจิมา
คุโรโตะ ไม่รู้จะแก้ปัญหาแรกยังไงเพราะเขาไม่สามารถปิดการทํางานของเนตรจุติได้ดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุดที่เขาทําได้ก็คือหลีกเลี่ยง ตระกูลฮิวงะไปชั่วคราว
สําหรับปัญหาที่ 2 เมื่อพิจารณาถึงปัญหาการขาดแคลนกําลังคนของหมู่บ้านในตอนนี้และตอนนี้ความสนใจของผู้นําหมู่บ้านก็พุ่งตรงไปที่ตระกูลอุจิฮะดังนั้นคุโรโตะจึงคิดว่ามันคงไม่ยากเกินไปถ้าเขาจะทําความดีความชอบจนสามารถลบภาพนั้นออกไปได้
แต่แล้วใบหน้าของคุโรโตะก็จมดิ่งอีกครั้งเพราะจูนินที่ได้รับการเลื่อนขั้นเพราะสงครามนั้นไม่เป็นที่ยอมรับและใครๆก็สามารถเป็นได้ถ้าเขาดวงดีพอที่จะรอดชีวิตได้จากสงคราม
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับคุโรโตะในช่วง 2 – 3 เดือนที่ผ่าน มา ทําให้ คุโรโตะ ได้รับความทุกข์ทรมานอย่างมาก ความรู้สึกที่ทําอะไรไม่ถูก ความไม่พอใจและความโกรธที่กลายเป็นเป้าหมายในการกวาดล้างและความคับแค้นใจที่เขาไม่สามาร ถทําอะไรได้ ทั้งหมดนี้ทําให้คุโรโตะเข้าใจความจริงของโลกใบนี้ได้
หากคุณไม่ต้องการเหยียบย่ําคุณก็ต้องปีนขึ้นไปอยู่บนจุดสูงสุดให้ได้
“ฉันต้องเปลี่ยนสถานะตัวเองใน โคโนฮะ สถานะของฉันต้องเปลี่ยนไปจากที่เคยเป็นมา!”เมื่อคุโรโตะคิดแบบนี้เขาก็นึกถึงโฮคาเงะรุ่น4ขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว
ใช่แล้วโฮคาเงะรุ่น 4 เป็นตัวแทนที่ดีที่สุดของเรื่องราวของ นินจาจากตระกูลชาวบ้านที่กลายมาเป็นนินจาที่ทุกคนให้ความเคารพอย่างสูง
ถ้าให้สรุปลักษณะของโฮคาเงะรุ่น 4 จิตใจของคุโรโตะก็จะนึกถึงคําว่า“ทรงพลัง,แสงสว่างและสูงส่งในทันที
เรื่องราวทั้งหมดของเขาเริ่มต้นขึ้นใน มหาสงครามโลกนิน จาครั้งที่ 3
ในความเป็นจริง คงไม่ผิดที่จะบอกว่า มหาสงครามโลกนิน จาครั้งที่3เป็นศึกที่ทําให้นามิคาเสะ มินาโตะได้รับตําแหน่งโฮคาเงะรุ่น 4 ของโคโนฮะแม้ว่าเขาจะเป็นเพียงแค่นินจาจากตระกูลชาวบ้านก็ตาม
อย่างไรก็ตามเรื่องราวของโฮคาเงะรุ่น 4 ก็ได้จบลงแล้วและคุโรโตะยังคงต้องพัฒนาตัวเองต่อไปให้สูงกว่าโฮคาเงะรุ่น4ถ้าหากเขาต้องการมีชื่อเสียงที่ยิ่งใหญ่
เขาต้องปรากฏตัวต่อหน้าทุกคนด้วยท่าทางที่แข็งแกร่งอ ย่างหาที่เปรียบไม่ได้เพื่อให้ทุกคนเข้าใจถึงพลังของเขาและเมื่อถึงเวลาพิจารณาหาผู้สืบทอดตําแหน่งโฮคาเงะคนต่อไปเขาก็จะกลายเป็นตัวเลือกแรก ๆ ในใจของประชาชน
แน่นอนว่าการเปลี่ยนภาพลักษณ์จําเป็นต้องทําทีละขั้นตอนและไม่ควรรีบร้อนไม่อย่างนั้นจะทําให้หมู่บ้านเกิดความสงสัยในตัวเขาขึ้นมา
หลังจากตัดสินใจแล้วคุโรโตะก็ไม่รอช้าและเคลื่อนไหวทันที
ในยามสงบ วิธีที่เร็วที่สุดในการแสดงความสามารถของคุณคือการทําภารกิจและการมีประวัติทําภารกิจที่ดีก็เป็นพื้นฐานสําคัญในการเลื่อนตําแหน่งเช่นกัน
หลังจากตัดสินใจแล้ว คุโรโตะ ก็มาที่ศูนย์ภารกิจทันที
เมื่อเทียบกับวันปกติแล้วศูนย์ภารกิจ ในวันนี้ดูจะเงียบเหงาไปเล็กน้อย
เมื่อเดินเข้ามาที่หน้าโต๊ะ คุโรโตะ ก็พูดกับเจ้าหน้าที่มอบภารกิจว่า “ผมเป็น จูนิน ชื่อ ฮิวงะ คุโรโตะครับ ผมอยากทราบว่ามีภารกิจระดับ B อะไรบ้างที่ผมสามารถทําได้!”
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบตัวตนของคุโรโตะและส่งรายชื่อภารกิจให้เขา “นี่เป็นภารกิจระดับ B ทั้งหมด ถ้านายเลือก 2 – 3 หน้าแรกจะดีมาก เพราะว่าภารกิจเหล่านั้นนายจ้างต้อง การให้เสร็จเร็วที่สุด”
คุโรโตะ รู้อยู่แล้วว่าตอนนี้หมู่บ้านขาดแคลนกําลังคนอย่างมากและภารกิจก็ล้นมือเขาจึงไม่ได้พูดอะไรมากและรีบตรวจสอบรายชื่อภารกิจทันที
การแบ่งประเภทงานของหมู่บ้านนั้นเข้มงวดมาก โจนิน สา มารถเลือกทําภารกิจได้ถึงระดับ S , จูนิน สามารถเลือกทํา ภารกิจได้เฉพาะระดับ D ถึง B และนินจาระดับล่างเลือกทํา ภารกิจได้เฉพาะภารกิจระดับ D ถึง C เท่านั้น
คําอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับภารกิจแต่ละระดับก็คือ
ภารกิจระดับ S จะเป็นภารกิจที่ได้รับมาจากกองกําลังบาง กลุ่ม ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นภารกิจลอบสังหารบุคคลสําคัญหรือขโมยข้อมูลที่เป็นความลับเป็นต้น
ภารกิจระดับ A ส่วนใหญ่ได้รับมอบหมายจากกองกําลัง บางกลุ่มเช่นกันโดยส่วนใหญ่จะเป็นภารกิจปกป้องบุคคลสําคัญหรือต่อสู้กับนินจาถอนตัว
ภารกิจระดับ B ถึงระดับ D จะได้รับมอบหมายจากบุคคลซึ่ง ภารกิจระดับ B และ C จะต้องเผชิญกับการต่อสู้แต่ภารกิจระดับ D จะไม่พบกันการต่อสู้
เนื่องจาก คุโรโตะ เป็น จูนิน และเขาก็มีความแข็งแกร่งใน ระดับ โจนินพิเศษโดยไม่ต้องใช้ หุ่นคาเสะคาเงะรุ่น3 ดังนั้นการเลือกทําภารกิจระดับ B จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด
หลังจากอ่านรายชื่อภารกิจอยู่ครู่หนึ่ง คุโรโตะ ก็ขมวดคิ้ว
ภารกิจทั้งหมดไม่มีอะไรในแง่ของความยาก แต่ภารกิจส่วน ใหญ่มีข้อกําหนดเรื่องจํานวนคนทําภารกิจนั้นก็คืออย่างน้อยที่สุดต้องเป็นทีมนินจา 2 คนถึงจะรับภารกิจได้
ในเวลานี้ร่างเล็ก ๆ ร่างหนึ่งก็เดินเข้ามายืนอยู่ที่โต๊ะรับ ภารกิจด้านข้างของคุโรโตะ
คุโรโตะ เหลือบมองจากด้านข้างจากนั้นเขาก็ผงะ
หนูน้อยคนนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน เขาคืออัจฉริยะแห่งตระกูลอุจิ ฮะ , อุจิฮะ อิทาจิ!
แม้ว่าเขาจะอายุเพียง 6 หรือ 7 ขวบ แต่ อิทาจิ ก็แสดงค วามเป็นผู้ใหญ่เกินวัยไปแล้วในตอนนี้เด็กชายตัวเล็กดูเป็นผู้ ใหญ่มากกว่าผู้ใหญ่หลายคนเพราะกระบวนการคิดของเขาและตอนนี้เขาก็กําลังพลิกดูรายชื่อภารกิจอย่างเงียบ ๆ
หลังจากนั้นไม่นาน อิทาจิ ก็ส่งรายการภารกิจคืนให้กับเจ้า หน้าที่และถามอย่างเด็ก ๆ ว่า “ขอโทษนะครับ ไม่มีภารกิจระดับ C ที่สามารถทําคนเดียวได้บ้างเหรอครับ?”
เจ้าหน้าที่ดูเหมือนจะเคยชินกับมารับภารกิจของ ตระกูลอุ จิฮะ เขาไม่แปลกใจที่เด็กอายุ 6 หรือ 7 ขวบขอรับภารกิจระดับ C เพียงลําพัง เขาส่ายหัวตามปกติแล้วตอบว่า “ไม่มี หรอกเธอก็รู้นิถ้าเธออยากทําภารกิจระดับ C เธอก็ต้องหาน นจาที่เธอรู้จักแล้วตั้งเป็นทีม”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ อิทาจิ ก็รู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยและพึมพํา ว่า “ดูเหมือนว่าฉันคงทําได้แค่รอให้ ชิซุย กลับมาที่หมู่บ้านสิ นะ”
คุโรโตะ ยิ้ม “เฮ้ เจ้าหนู เธอยังเรียนไม่จบไม่ใช่เหรอ?”
อิทาจิ ตอบอย่างสุภาพ “อาคารเรียนหลังเก่าพังหมดครับ ต้องสร้างใหม่โรงเรียนเลยให้นักเรียนหยุด 4 เดือนครับ”
คุโรโตะ ไม่คิดว่าโรงเรียนนินจาก็ถูกทําลายเพราะการอาละ วาดของ 9 หางด้วยจากนั้นเขาก็พูดว่า “ได้วันหยุดก็หยุด อยู่บ้านสิ ไปทําภารกิจคนเดียวมันอันตรายนะ”
อิทาจิ ตอบด้วยสีหน้าจริงจัง “ตอนนี้หมู่บ้านมีกําลังคนไม่ เพียงพอ แถมตอนนี้ภารกิจก็ค้างอยู่เยอะมากถ้าทิ้งไว้นาน ๆ หมู่บ้านต้องเสียชื่อเสียงแน่ครับ”
คุโรโตะ สะดุ้ง เขาไม่รู้จะพูดอะไรไปชั่วขณะ
หลังจากมองดู คุโรโตะ แล้ว อิทาจิ ก็ถามว่า “ขอโทษนะ ครับ พี่เป็น จูนิน รีเปล่าครับ?”
คุโรโตะ พยักหน้า
อิทาจิ ยิ้มด้วยความดีใจ “พี่มีทีมหรือยังครับ? ผมชื่อ อุจิฮะ อิทาจิ ถึงผมจะยังเรียนไม่จบแต่ผมก็มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะสอบจบแล้วนะครับ”
คุโรโตะ ส่ายหัวและพูดว่า “ฉันอยากทําภารกิจระดับ B เธอไม่เหมาะหรอก”
ในขณะนี้หมู่บ้านกําลังสงสัยใน ตระกูลอุจิฮะ และปัญห าส่วนตัวของคุโรโตะก็ยังไม่ถูกกําจัดออกไปทั้งหมด ดังนั้น เขาจึงไม่ต้องการมีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลอุจิฮะ
อิทาจิ พูดอย่างรวดเร็ว “ผมตรวจสอบภารกิจระดับ B แล้ว ครับ ไม่มีภารกิจไหนที่คน ๆ เดียวจะทําได้ ดังนั้นพี่จําเป็นต้อง มีทีมนะ พี่ชาย”
คุโรโตะ ครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งและเขาก็คิดว่า ในอนาคตเขา อาจจะต้องจัดการกับตระกูลอุจิฮะ ที่ทรงพลัง ดังนั้นเขาจึงคิดว่าถ้าเขาเข้าใจวิธีการต่อสู้ของตระกูลอุจิฮะไว้บ้างก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย
นอกจากนี้ อิทาจิ ก็เป็นหนึ่งในอัจฉริยะที่น่าจับตามองของ ตระกูลอุจิฮะ และการสร้างความสัมพันธ์กับเขาอาจมีประโยชน์ในอนาคตก็ได้
หลังจากคํานวณความคิดทั้งหมดนี้แล้ว คุโรโตะ ก็พูดด้วยร อยยิ้มว่า “ก็ได้ แต่ทุกอย่างต้องอยู่ภายใต้คําสั่งของฉันและเธอก็ห้ามทําอะไรโดยไม่ได้รับอนุญาต
อิทาจิ รีบโค้งคํานับคุโรโตะ “วางใจได้เลยครับพี่ชาย”