การเดินทางของผมกับจอม(มาร)ปราชญ์ผู้อยากเที่ยวรอบโลก - ตอนที่ 11 สิ่งที่ถูกมองข้าม
นักผจญภัย เป็นชื่อเรียกกลุ่มคนที่พร้อมจะต่อสู้ ทำเรื่องเสี่ยงอันตราย เพื่อเงิน หรืออาจจะเพื่อชื่อเสียง ในสมัยก่อนคนเหล่านี้ก็ไม่ได้มีสถานะต่างจากทหารรับจ้างนัก จนกระทั่งเหล่าขุนนาง และผู้ปกครองในหลายหัวเมืองสำคัญ เริ่มมองว่าพวกเขา เป็นหนึ่งในวิธีการจัดการกับปัญหาที่ระบบทหารปกติอาจจะรับมือได้ยาก เช่น มอนสเตอร์ตามเขตห่างไกลจากเส้นทางถนน ขุนนางเหล่านั้นจึงเริ่มออกจดหมา ยให้สิทธิ์ต่างๆ กับนักผจญภัยที่ตนไว้ใจ และพอมีนักผจญภัยมากขึ้น ก็เริ่มมีการรวมกลุ่ม และจัดระเบียบภายในกันเองด้วยการจัดตั้งกิลด์ เพื่อบริหารและกระจายงานต่างๆ
กิลด์นักผจญภัย เป็นอีกหนึ่งในจุดที่คึกคักที่สุดของเมืองใหญ่ เนื่องจากมันเป็นสถานที่ซึ่งมีผู้คนจากหลากหลายสถานะทางสังคม ที่มารวมตัวกัน ไม่ว่าจะเป็นนักผจญภัยที่ทำงานในท้องถิ่น หรือเป็นนักผจญภัยที่เดินทางไปยังเมืองต่างๆ ในอาณาจักร นอกจากนี้แล้วนักผจญภัยก็อาจจะมาจากทุกชนชั้นของสังคม ไม่ว่าจะเป็นชาวบ้าน อดีตทหาร ผู้ฝึกตน หรือแม้กระทั่งเหล่าพ่อค้า และขุนนางบางคน ก็ผันตัวมาเป็นนักผจญภัยกันอยู่บ้าง แม้จะมีอยู่น้อยคนก็ตาม
ลีโอกับอาร์วินเดินตรงไปยังอาคารไม้หลังใหญ่ ที่มีตราสัญลักษณ์นักผจญภัยติดไว้ด้านหน้า ประตูที่นี่เปิดโล่งต้อนรับทั้งนักผจญภัย และลูกค้าของพวกเขา ที่เดินเข้าออกตลอดเวลา
“ถ้าเป็นเรื่องมอนสเตอร์ในระแวกนี้ ที่นี่น่าจะหาข้อมูลได้ง่ายที่สุด” ลีโอพูดเบาๆ กับอาร์วิน ก่อนจะก้าวเข้าไปในอาคาร
ภายในกิลด์เต็มไปด้วยเสียงพูดคุยของนักผจญภัย ที่แลกเปลี่ยนประสบการณ์และเตรียมตัวสำหรับภารกิจถัดไป ที่หลังเคาน์เตอร์กลางโถงที่วุ่นวาย พนักงานของกิลด์กำลังจัดแจงเอกสาร จดหมายเดินทาง และสิ่งจำเป็นที่ใช้ในการรับมอบภารกิจให้กับผู้ที่สนใจ
“ผมชื่อลีโอฟริก วาเลมอนต์ เป็นนักผจญภัยที่ลงทะเบียนไว้” ลีโอตรงไปยังพนักงานที่หลังเคาน์เตอร์ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความหวัง “พวกเราต้องการข้อมูลเกี่ยวกับมังกรในแถบเมืองนี้น่ะ พอจะมีบ้างไหม?”
“มังกรหรือ?” พนักงานเงยหน้าขึ้นมองเพียงแวบเดียว ก่อนจะเปิดสมุดบันทึกที่อยู่ตรงหน้า “ตอนนี้ไม่มีภารกิจหรือค่าหัวใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับมังกรเลย… อย่าว่าแต่รอบๆ เมืองนี้เลย แม้แต่ในอาณาจักร ยังไม่มีข้อมูลความเคลื่อนไหวของพวกมังกร ตั้งแต่สงครามกับจอมมารจบลง” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเฉยๆ ก่อนจะหันกลับไปสนใจงานตรงหน้า
ลีโอนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง “ไม่มีเลยเหรอ?”
พนักงานยักไหล่ “ฉันคิดว่าถ้ามีมังกรโผล่มา เราคงได้ยินข่าวกันไปทั่วแล้วล่ะ ใช่ว่าพวกมันจะแฝงตัวได้ในชุมชนได้ที่ไหนกัน”
ลีโอถอนหายใจ “ก็จริงนะครับ…”
ขณะที่ลีโอเริ่มรู้สึกท้อแท้ อาร์วินกลับทำหน้าสบายๆ ราวกับเรื่องนี้ ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เขายิ้มพลางหันไปมองรอบๆ กิลด์ที่เต็มไปด้วยนักผจญภัย
“พวกนักผจญภัยที่นี่ มีใครเคยต่อสู้กับมังกรจริงๆ บ้างหรือเปล่า?” อาร์วินถามราวกับไม่ต้องการคำตอบ ซึ่งทำให้พนักงานเงยหน้า มองเขาด้วยความสงสัยแวบหนึ่ง แต่ไม่ได้ตอบกลับมา
นักผจญภัยคนหนึ่งที่นั่งอยู่ใกล้ๆ ฟังพวกเขาและหัวเราะเบาๆ “ถ้ามีใครในนี้เคยสู้กับมังกร อย่าว่าแต่ชนะเลย แค่รอดมาได้ ก็ดังระเบิดแล้วล่ะ”
“การต่อสู้กับมังกร เป็นเกียรติยศสูงสุดที่นักผจญภัยคนหนึ่งจะทำได้” นักผจญภัยคนนั้นพูดต่อ “จะสูงกว่านั้น ก็คงเหลือแต่เป็นคนสังหารจอมมารล่ะมั้ง แต่ได้ข่าวว่าอันนั้นมีคนแซงคิวไปแล้วล่ะนะ”
เสียงหัวเราะจากคนที่ฟังอยู่รอบๆ ดังขึ้น แต่ลีโอกลับเสียวสันหลังวาบ แน่นอนว่าไม่มีใครในนี้นอกจากเขา ที่รู้ว่าอาร์วินเป็นจอมมาร แต่เขาก็ยังอดกังวลไม่ได้ทุกครั้ง ที่มีคนพูดถึงชื่อนั้นอยู่ดี
“บางทีทั้งจอมมารและมังกรอาจแอบซ่อนอยู่แถวนี้ก็ได้นะ” อาร์วินยิ้มตอบ ทำให้เสียงหัวเราะดังขึ้นมาอีกระลอกหนึ่ง
ลีโอไม่พูดอะไรต่อ แต่ความรู้สึกหงุดหงิดเริ่มก่อตัวในใจ เขาหวังว่าที่นี่จะเป็นที่แรกที่พวกเขาได้รับเบาะแสบ้าง ไม่มากก็น้อย แต่กลับไม่มีข้อมูลอะไรเลย ก่อนที่เขากำลังจะเดินออกไป ลีโอก็หันกลับไปหาพนักงานของกิลด์อีกครั้ง
“ถ้ามีข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมังกร ฝากช่วยติดตามด้วยนะครับ” ลีโอฝากย้ำเอาไว้ เขาหวังว่าอย่างน้อย เบาะแสอาจจะปรากฏขึ้นมาในอนาคตก็ได้
ทั้งคู่เดินออกจากกิลด์พร้อมกับเสียงพูดคุยคึกคักของนักผจญภัยดังอยู่เบื้องหลัง ลีโอก้มหน้าด้วยความคิดมากมายที่วิ่งวนอยู่ในหัว ขณะที่อาร์วินยังคงดูสบายๆ เหมือนเคย
“ท่านควรจริงจังกับเรื่องนี้หน่อยนะ” ลีโอพูดขึ้นพลางเหลือบมองอาร์วิน “เราต้องหาข้อมูลเกี่ยวกับมังกรให้ได้ ก่อนจะสายเกินไป ถ้ามังกรวนเวียนอยู่ในแถบนี้จริง วันที่จะมีใครสักคนกลายเป็นเหยื่อของมัน ก็ยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ”
“ข้าว่าพวกเราก็ยังทำทุกอย่างตามแผนอยู่ไม่ใช่หรือ?” อาร์วินหัวเราะเบาๆ “เจ้าคงไม่คิดว่าจะหาข้อมูลทั้งหมดที่ต้องการเจอ ตั้งแต่การแวะถามที่แรกหรอกนะ”
“ก็ใช่ แต่ถึงขนาดไม่ได้อะไรเลยแบบนี้ ข้าก็อดกังวลไม่ได้ ว่าเราจะคว้าน้ำเหลว” ลีโอถอนหายใจ
“ไม่ใช่เลย เราได้ข้อมูลมาแล้วต่างหาก” อาร์วินกล่าวขึ้นมา ลีโอขมวดคิ้วสงสัย “เราไปกันต่อเถอะ”
ลีโอยังคงเดินต่อไปโดยไม่พูดอะไร เขารู้ว่าอาร์วินมักจะพูดเล่นๆ เสมอ แต่ในสถานการณ์นี้ เขารู้สึกกดดันเกินกว่าจะรับมุขตลกของอาร์วินได้
หลังจากเดินออกจากกิลด์ ทั้งคู่มุ่งหน้าไปยังตลาดใหญ่ของเมืองลูเมนฟอร์ด ตลาดนี้เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นจุดศูนย์รวมของพ่อค้าจากหลายเมืองและหมู่บ้านรอบๆ ที่มาค้าขายกันเป็นประจำ แม้ว่าสถานการณ์ตอนนี้จะไม่สู้ดีนัก เรื่องการค้าขาย และการเดินทาง แต่ในช่วงสายๆ แบบนี้ เสียงจอแจของผู้คนที่เรียกร้องลูกค้า และกลิ่นอาหารที่ลอยมาตามลม ก็ทำให้บรรยากาศที่นี่ยังดูคึกคักอยู่
ลีโอและอาร์วินเดินผ่านแผงขายของที่เต็มไปด้วยสินค้าต่างๆ ตั้งแต่อาหาร ไปจนถึงอุปกรณ์เครื่องใช้พื้นฐาน
“บางทีพวกพ่อค้า อาจเคยได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับมังกรก็ได้นะ” ลีโอพูดขึ้นด้วยความหวังเล็กน้อย
พวกเขาหยุดคุยกับพ่อค้าหลายคน ถามถึงการเคลื่อนไหวในพื้นที่ และหมู่บ้านใกล้เคียง แต่คำตอบที่พวกเขาได้รับกลับเป็นเพียงเรื่องราว ของการโจมตีขบวนสินค้าที่เพิ่มขึ้น และปัญหาการขนส่งสินค้า แน่นอนว่าเป็นเรื่องที่ทั้งคู่คิดว่า คงจะเกี่ยวพันกับพวกโจรและก๊อบลินทั้งสิ้น
“มังกรหรือ? ไม่เคยได้ยินเรื่องอะไรเกี่ยวกับมังกรเลยนะ” พ่อค้าคนหนึ่งตอบด้วยความสับสน “แต่ถ้าพวกก๊อบลินล่ะก็ มีข่าวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เลยล่ะ ทั้งทางหมู่บ้านเล็กๆ และแถวชายแดนระหว่างอาณาจักตอนนี้ ดูเหมือนว่าพวกมันจะแตกทัพออกมาจากกองทัพของจอมมารที่แพ้ไปน่ะ”
ลีโอถอนหายใจอีกครั้ง “เช่นนั้นก็ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณ”
“เนื้อและชีสพวกนี้ ท่านไปได้ มาจากไหน” อาร์วินโพล่งถามขึ้นมา “ข้าเห็นร้านอื่นๆ ก็มีเยอะเหมือนกัน แต่รอบๆ ตัวเมืองข้ากลับไม่เห็น ว่าจะมีปศุสัตว์มากสักเท่าไหร่”
“ของที่ขายอยู่นี่รึ? พวกนี้ของดีในแถบหมู่บ้านทางตะวันออกเฉียงเหนือนี่เลย ถ้าเดินทางไปเองก็เกือบสี่ห้าวันได้” พ่อค้าตอบอย่างภูมิใจ “แถบนั้นเป็นทุ่งและเนิน เหมาะกับการเลี้ยงสัตว์ เจ้าอื่นๆ อาจจะมาจากทางนั้นเหมือนกัน แต่ข้ารับรองเลยว่า ของร้านข้าคัดมาพิเศษอย่างดี”
“จริงรึ? งั้นข้าขอไส้กรอกย่าง แล้วก็ชีสสักหยิบมือหนึ่งที่ท่านขายหน่อย” อาร์วินยิ้มให้พ่อค้า แล้วชี้มาทางลีโอ “ให้พ่อหนุ่มคนนี้เป็นคนจ่ายนะ”
พ่อค้าหัวเราะเบาๆ แล้วจัดแจงอาหารทานเล่นให้กับอาร์วิน ลีโอแหล่ตาไปที่เขา แต่อาร์วินก็เอาแต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ กับไส้กรอกย่างที่ได้มา ก่อนที่ลีโอจะยื่นเหรียญเงินสามเหรียญให้กับพ่อค้า
หลังจากเดินออกมาจากร้านค้าตรงนั้น ลีโอกลับมามีท่าทีเคร่งเครียดอีกครั้ง พวกเขายังคงเดินต่อไปถามพ่อค้าคนอื่นๆ แต่ทุกคนก็ให้ข้อมูลเพียงข่าวลือ เกี่ยวกับก๊อบลินและโจรเท่านั้น ลีโอเริ่มรู้สึกว่า การหาข้อมูลในตลาดนี้อาจไม่ช่วยอะไรนัก
เมื่อไม่ได้ข้อมูลอะไรมากจากพ่อค้า ลีโอและอาร์วินตัดสินใจเดินไปยังย่านชุมชน ที่อยู่ไม่ไกลจากตลาด เป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยบ้านเรือนเรียงราย ชาวบ้านทั้งหลาย กำลังทำกิจวัตรประจำวันของพวกเขา และมีเด็กๆ วิ่งเล่นไปตามตรอกซอกซอย
“ลองถามชาวบ้านดูไหมล่ะ” อาร์วินเสนอ “เผื่อจะมีใครสักคน ที่เคยเห็นอะไรแปลกๆ เกี่ยวกับมังกรบ้าง”
“ชาวเมืองพวกนี้ น่าจะอาศัยอยู่ภายในเขตกำแพงเมืองเป็นหลัก ไม่น่าจะรู้อะไรมากเกี่ยวกับด้านนอกนะ” ลีโอทำหน้าแหยกับคำแนะนำของอาร์วิน “พวกเขาไม่น่าจะรู้อะไรเกี่ยวกับมังกร”
“แต่ก็ไม่เสียหายไม่ใช่รึ?” อาร์วินยิ้ม ก่อนจะตรงเข้าไปหาแม่บ้านกลุ่มหนึ่ง ที่พูดคุยกันอยู่
พวกเขาเดินเข้าไปพูดคุยกับชาวบ้านหลายคน แต่กลับไม่ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เลย คนส่วนใหญ่ไม่ได้ยินข่าวเกี่ยวกับมังกรในช่วงนี้ ความเป็นจริงก็คือ ทั้งชีวิตของพวกเขาไม่น่าจะมีใครเคยเห็นมังกรตัวเป็นๆ หรือแม้แต่เศษซากชิ้นส่วนของมันด้วยซ้ำ
“พวกเจ้าล้อเล่นหรือเปล่า? ถ้ามันมีมังกรโผล่มาจริงๆ คงไม่มีใครอยู่ได้อย่างสงบสุขหรอกนะ” ชายแก่คนหนึ่งกล่าว “จะมีก็แต่ข่าวของปีศาจ ที่พวกอัศวินกำลังตามล่าอยู่นั่นล่ะ เจ้าเคยได้ยินไหม? เห็นว่าเจอในป่าทางใต้ ออกจากเมืองไปนี่เอง”
“แต่ถ้ามีอัศวินมาแล้วก็คงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วล่ะนะ” ชายชราหัวเราะ ก่อนจะหันไปทำงานต่อ
ลีโอดูจะไม่พอใจกับข้อมูลที่ได้มา เขาบ่นขึ้นระหว่างทางกลับไปยังโรงแรม “ดูเหมือนว่าวันนี้เราจะคว้าน้ำเหลวแล้วล่ะ”
เขาหันไปมองอาร์วินที่ยังคงเดินอยู่ข้างๆ ด้วยท่าทางไม่รู้ร้อนรู้หนาว ไม่แสดงอาการเครียดใดๆ ออกมา
“ทำไมถึงคิดว่าคว้าน้ำเหลวล่ะ?” อาร์วินเอ่ยถามอย่างสงสัย ความจริงเขาก็คงอยากทราบความคิดของลีโอด้วยส่วนหนึ่ง
“หมายความว่ายังไง? ดูยังไงเราก็ล้มเหลวชัดๆ” ลีโอขมวดคิ้วด้วยความสับสน “ตั้งแต่เช้ามา เรายังไม่ได้ข้อมูลอะไรที่บ่งชี้ ว่ามีมังกรอยู่ที่ไหนเลย อย่าว่าแต่รอบๆ เมืองนี้เลย ทั้งอาณาจักรยังไม่มีด้วยซ้ำ”
“แต่เราก็ได้ข้อมูลมาตั้งหลายอย่างนี่” อาร์วินยิ้ม
“ข้อมูลพวกนั้น ไม่ได้เกี่ยวกับมังกรสักหน่อย” ลีโอดูจะหงุดหงิด กับความกำกวงของอาร์วิน “ก็มีแค่ข้อมูลที่เรารู้อยู่แล้ว พวกโจร ก๊อบลิน แล้วก็ขบวนสินค้าที่ถูกโจมตีถี่ขึ้น”
“ผิดแล้ว ลีโอเอ๋ย” อาร์วินกล่าวขึ้นมา “เราควรตั้งคำถามว่า… ทำไมมันถึงไม่มีข่าว เกี่ยวกับมังกรเลยต่างหาก”
“กิลด์นักผจญภัยไม่มีข่าว หรือการว่าจ้างเกี่ยวกับมังกรเลย และดูเหมือนพวกชาวเมืองทั่วๆ ไป ก็ไม่รู้เรื่องมังกรเช่นกัน” อาร์วินอธิบายต่อไป “มีคำอธิบายไม่มากนักสำหรับเรื่องนี้ เราตัดเรื่องมังกรไม่มีอยู่จริงทิ้งได้เลย”
“ใช่ เพราะว่าท่านบาลินน์ก็ยืนยันแล้ว ว่ามังกรต้องอยู่ในระยะการเดินทาง ไม่เกินสัปดาห์หนึ่งรอบๆ เมืองนี้แน่ๆ ถ้าอาวุธของพวกก๊อบลิน ยังมีไฟมังกรหลงเหลืออยู่ได้” ลีโอครุ่นคิดตาม
“ใช่แล้ว ถ้าตัดสิ่งที่เรารู้ เอามาทับซ้อนกับการยืนยันใหม่ล่ะก็ มีความเป็นไปได้สองอย่าง” อาร์วินกล่าวขึ้นมา “มังกรตัวนี้ อาจจะกำลังจงใจ ซ่อนตัวอยู่ ไม่ออกมาให้ใครเห็น หรือไม่มันก็เพิ่งเข้ามาในเขตนี้ ได้ไม่นานพอให้มีข่าวลือเกี่ยวกับมัน”
ลีโอเริ่มฉุกคิด เขามองหน้าอาร์วินที่ตอนนี้มีท่าทางผ่อนคลายเหมือนเคย “แต่ถ้าจงใจจะซ่อนตัว พวกก๊อบลินที่ออกมา มันก็จะไม่ดึงความสนใจไปหน่อยหรือ?”
“งั้นก็เหลือแค่ความเป็นไปได้ ที่มันเพิ่งเข้ามาในพื้นที่นี้ โดยที่ยังไม่มีใครรู้” อาร์วินสรุป “สุดท้ายทั้งมังกร และพวกก๊อบลินก็ต้องกินอาหาร และมันก็ต้องใช้อาวุธ และอุปกรณ์ต่างๆ ในการปล้นหรือล่าอาหารเหล่านั้น”
“ท่านบาลินน์ก็พูดถึงเรื่องนั้นเหมือนกัน” ลีโอนึกขึ้นได้ขึ้นมาเรื่องหนึ่ง “ในหมู่อาวุธที่เราชิงกลับมาได้ มีโลหะที่ถูกหลอมใช้ซ้ำขึ้นมาจากอาวุธเดิมอยู่”
อาร์วินยิ้มกว้างกว่าเดิม ก่อนจะหยิบไส้กรอกย่างที่เขาซื้อมาขึ้นมาให้ลีโอดู “แต่ว่าพ่อค้าขายเนื้อที่ตลาด บอกว่าเนื้อของเขา มาจากหมู่บ้านทางตะวันออกเฉียงเหนือของที่นี่ และร้านค้าอื่นๆ ก็น่าจะมาจากที่เดียวกัน”
“ทางตะวันออกเฉียงเหนือ มีทุ่งราบมากมาย ผู้คนเลี้ยงปศุสัตว์ แต่กลับยังมีสินค้าขายได้มากมายในราคาปกติ” ลีโอพึมพำ พยายามนึกตามคำบอกใบ้ของอาร์วิน
“และก็ไม่มีข่าวคราว ทั้งของก๊อบลิน และสัตว์ร้ายอื่นๆ ในแถบนั้นด้วย” อาร์วินให้เหตุผลต่อ “ทั้งๆ ที่หากต้องการอาหาร จากการปล้นชิงมนุษย์ เป้าหมายที่ดีและความเสี่ยงน้อยที่สุด ยังไงก็หนีไม่พ้นปศุสัตว์ต่างๆ”
ลีโอหรี่ตา เขายังไม่เข้าใจทั้งหมด แต่เริ่มคิดตามคำพูดของอาร์วิน “ถ้างั้นเราก็จะสามารถกำจัดวง และทิศทางการเคลื่อนไหวของพวกก๊อบลินได้ เราก็จะรู้ว่ามังกรน่าจะอยู่ทางไหนกันแน่”
อาร์วินพยักหน้าอย่างสนุกสนาน “ใช่แล้วล่ะ และคนที่จะรู้เรื่องราว ของความเคลื่อนไหวทางการทหารในตอนนี้ คนที่กำลังจับตามองการโจมตีแปลกๆ ที่เกิดขึ้นในบริเวณรอบๆ อยู่ นั่นก็คือ…”
ลีโอทำหน้าตาตื่นตกใจ กับคำตอบที่ได้ในหัวของตนเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองอาร์วิน ที่ยิ้มแฉ่งจนปากแทบฉีกอยู่ข้างๆ เขา
“พร้อมจะไปก่อกวนท่านอัศวินหญิงแล้วหรือยัง?” อดีตจอมมารพูดขึ้นมา พร้อมหัวเราะอย่างมีพิรุธ ลีโอได้แต่เหนื่อยใจกับท่าทีของเพื่อนร่วมทาง