การกลับมาของฮีโร่ - ตอนที่ 3
ตอนที่ 3
มหาวิทยาลัยดงฮาเป็นมหาวิทยาลัย 1 ใน 3 ของเกาหลีที่ดีที่สุด
ซูฮยอน เคยเรียนที่นี่ ก่อนที่เขาจะพลันตัวไปเป็นฮีโร่
“อะไรนะ ไม่มีงั้นเหรอ”
“จะให้ฉันบอกเธอสักกี่ครั้ง เธอถึงจะพอใจห๊า” อาจารย์ชายผู้ช่วยสอน ตอบกลับอย่างหงุดหงิด
ซูฮยอนรู้จักอาจารย์คนนี้ เพราะซูฮยอนเคยเรียนกับเขา
ตัวฉันน่าจะอยู่ที่นี่ แต่ว่า..ทำไมหล่ะ….
“รหัสนักศึกษา 201413109 คิมซองอิน ไม่ใช่นักศึกษาของมหาวิทยาลัยเรา เธอมาผิดที่แล้วหรือป่าว ถ้ายังไม่มั่นใจค่อยมาพรุ่งนี้ใหม่แล้วกัน” เมื่อลองดูอารมณ์ที่แสดงออกมาของอาจารย์ผู้ช่วยสอนแล้ว แกคงอารมณ์เสียสุดๆ ที่เสียเวลากับเรื่องไม่เป็นเรื่องนานเกินไป
ซูฮยอนช่วยไม่ได้นอกจากต้องทำใจออกจากห้องคณะไป
เมื่อคลาสเรียนจบลง นักศึกษาจากคณะต่างๆก็เริ่มทยอยออกมาจากห้องเรียน
เมื่อซูฮยอนเห็นภาพนั้น มันทำให้เขานึกถึงอดีตที่ผ่านมา ที่เขาเคยใช้ชีวิตอยู่ที่นี้
ถึงแม้ว่าเขาจะจำใบหน้าและชื่อของตัวเองได้ แต่เมื่อลองถามนักศึกษาคนอื่นเรื่องของ คิมซองอิน ปรากฏว่าไม่มีใครที่รู้จักคิมซองอินเลยสักคน
ไม่..ฉันไม่เชื่อ..
เมื่อคิดได้ดังนั้น ซูฮยอน รีบหยิบมือถือขึ้นมา แล้วเข้าไปที่เบราว์เซอร์แล้วพิมพ์ชื่อเว็บไซต์ธนาคาร เขาใส่ชื่อเก่าของตัวเอง และหมายเลขประจำประชาชน
แต่ผลที่ออกมา : ขออภัยค่ะ ชื่อและหมายไม่มีข้อมูลในระบบ
ไม่ว่าเขาจะออกเข้าใหม่สักกี่ครั้งผลลัพธ์ที่ออกมาก็ยังเหมือนเดิม หมายเลขประจำตัวเขาไม่มีทางจำผิดแน่ แต่ทำไมมันถึงใช้ไม่ได้หล่ะ…
คิมซองอินไม่ได้อยู่ที่มหาลัยดงฮา แม้แต่เลขประจำตัวก็หายไป เกิดอะไรขึ้นกัน
มันยากทำใจยอมรับ ซูฮยอนทำหัวสมองให้โล่งและออกจากมหาลัยไป
เขามุ่งหน้าตรงไปที่บ้านหลังเก่าของเขา ที่เขาเคยอาศัยอยู่ในอดีต
ซูฮอยนตัดสินใจกดกริ่งหน้าบ้านหลังเก่าของเขาที่ตั้งอยู่หมู่บ้านของจังหวัด อันยัง
ปิ๊งป่อง เสียงกริ่มดังขึ้น
รอบๆตัวของซูฮยอนเงียบมาก เงียบจนมันได้ยินเสียงหัวใจของเขาที่เต้นเร็วผิดปกติ
รอไม่นานประตูก็ค่อยๆเปิดออก “คุณเป็นใครคะ”
คนที่เปิดประตูไม่ใช่ใครอื่น เธอคือแม่ของเขา แม่ของ คิมซองอิน
ปกติแล้วแม่ของเขามักจะไม่อยู่บ้าน นานๆครั้งเท่านั้นที่เธอจะกลับ เธออยู่บ้านแค่ 2-3 วันเท่านั้น จากนั้นจึงออกไปทำงานอีกหลายเดือน ซูฮยอนไม่รู้ว่าควรดีใจไหมที่เธอเห็นอยู่บ้าน
เมื่อเห็นว่าเด็กหนุ่มตรงหน้ายังคงนิ่งเงียบ เธอจึงกล่าวอีกครั้ง “คุณเป็นใครคะ”
“ผม..”ซูฮยอนทำหน้าตาให้ดูยิ้มแย้มแจ่มใส่แล้วถามออกไปอีกครั้ง “มีคนชื่อคิมซองอินอาศัยอยู่ที่นี้ไหมครับ”
“คิมซองอิน ไม่มีนะ ฉันอาศัยอยู่คนเดียว เธอมาผิดหลังแล้วแหละ” ถึงแม้คำตอบของเธอจะเหมือนอย่างที่เขาคิดไว้
แต่เขาก็อดเสียใจนิดๆไม่ได้ ซูยฮอนมีความหวังเล็กๆว่าเธอจะจำเขาได้
“หืม..”ในสุดความจริงที่เขากลัวมาตลอดก็เกิดขึ้น แต่ไม่นานเขายอมรับมันได้
เพราะมันคือเหตุผลที่เขาคิดไว้อยู่แล้ว เมื่อตอนที่เขานอนรักษาอยู่ที่โรงพยาบาล
ความจริง ในเมื่อตัวตนของเขาอยู่ที่นี่ ตัวตนของ คิมซองอิน ก็ไม่มีควรมีอยู่ มันเป็นกฏง่ายๆของโลกใบนี้ ยกเว้นพวกคุณจะเป็นพี่น้องฝาแฝดกัน
ผู้หญิงตรงหน้าไม่ใช่แม่ของเขาอีกต่อไป เมื่อคิดได้แบบนั้นมันทำให้เข้ารู้สึกอึดอัดขึ้นมา
เธอไม่มีความปั่นป่วนหรือสับสนบนให้หน้าแม้แต่น้อย มันคงเป็นความรู้สึกของเขาฝ่ายเดียวมากกว่า ถ้าเป็นแบบนี้…
เขาเลือกที่จะออกห่างจากเธอดีกว่า
ซูฮยอน ก้มศีรษะลงแล้วกล่าวขอโทษ “ขอโทษนะครับ ดูเหมือนว่าผมจะมาบ้านผิด ขอโทษที่รบกวนครับ”
ฉันคือ คิมซองอิน หรือ ซูฮอยน กันแน่ ความคิดแบบนี้ตีกันไปมา ภายในหัวของเขา
ไม่สิ ตอนนี้ฉันคือ ซูฮยอน ไม่ใช่ คิมซองอิน
เมื่อเขาคิดได้แบบนั้นแล้ว เขาก็พยายามท่องจำชื่อของซูฮยอน เพื่อไม่ให้เขาสับสน ทว่าเมื่อความคิดของเขากำลังสะเปะสะปะ เสียงของ ชินซูย็อง ก็ดังขึ้นในใจของเขา
“แม่จะไม่ถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูก แต่ขอให้ลูกจำไว้ว่าแม่รักลูกเสมอ แม่ไม่อยากให้ลูกจากบ้านไปไหนไกลๆ”
ทำไมเธอถึงพูดแบบนั้นกัน ดูเหมือนว่าเขาจะเขาใจมันแล้ว เธอกลัวว่าเขาจะจากเธอไป แล้วไม่กลับมาหาเธออีกเลย
ซูฮยอน ยกมือทั้ง 2 ข้างขึ้นมาแล้วตบไปที่ใบหน้าอย่างจัง เพื่อเรียกสติกลับคืนมา
เขาจะไม่คิดถึงอดีตที่ผ่านมาอีกต่อไป ไม่มีใครจำเขาได้ เพราะฉะนั้นเขาก็ไม่มีอะไรให้เสียใจแล้ว
ไม่ มันยังมีเจ้ายักษ์ ฟาฟเนียร์
มันเป็นเรื่องที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ปี 2018 ต้องมีสักวันที่ เจ้าฟาฟเนียร์ปรากฏตัวขึ้น
เมื่อถึงเวลานั้นโลกคงถึงเวลาล่มสลาย โลกใบนี้ไม่มี คิมซองอิน ดูจากทรงแล้วโลกใบนี้คงจะล้มสลายเร็วกว่าในอดีตแน่ๆ
หมายความว่าฉันต้องทำอะไรสักอย่างสินะ เพื่อช่วยโลกใบนี้ และเพื่อมวลมนุษย์ทุกคน
ระหว่างทางกลับบ้าน ซูฮยอน สังเกตรอบๆตัวเขาไปด้วย ถนนที่คนเดินกันพลุกพล่าน ท้องฟ้าสีคราม บรรยากาศที่คึกคัก มันทำให้ ซูฮยอน รู้สึกตื่นตาตื่นใจ
เขาอยากจดจำช่วงแบบเวลานี้เอาไว้ เมื่อซูฮยอนได้กลับมามีชีวิตครั้ง เขาจะทุ่มความสามารถทั้งหมด เพื่อปกป้องโลกใบนี้เอาไว้ให้ได้
แต่ทว่า ซูฮยอนเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าสีครามแล้วพึมพำ “ก่อนที่จะถึงเวลานั้น หนทางมันยังยาวไกล”
* * *
ซูฮยอน ขึ้นรถบัสและมุ่งหน้ากลับบ้าน มันไม่ยากเย็นอะไรสำหรับซูฮยอนที่หาบ้านของตัวเอง เพราะเขาได้จดที่อยู่ของเขาเอาไว้แล้ว ตอนที่เขานอนพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาล
เมื่อมาถึงบ้านตัวเอง เขาสังเกตเห็นว่า บ้านของเขามันเป็นเหมือนกับ ห้องเช่า+ห้องใต้ดิน มาฟิวชั่นกันซะมากกว่า
เมื่อซูฮอยนทำใจได้แล้ว เขาก็ไขกุญแจเอาไปให้ห้องทันที สิ่งแรกที่ปรากฏในสายตาของซูฮยอนคือ ห้องนั่งเล่นเล็กๆ กับ ห้องนอน
ดูเหมือนว่าสถานะทางครอบครัวของ ซูฮยอน จะไม่ค่อยดีเพราะห้องของเข้ามันเป็นห้องใต้ถุนตึก
คุณแม่ของซูฮยอนยังไม่กลับมา มันเป็นช่วงเวลาเย็นที่พนักงานบริษัทต่างๆเริ่มเลิกงานกลับบ้านกันแล้ว แต่แม่ของเขาก็ยังไม่กลับ เธอมักจะเป็นแบบนี้มาเสมอ
ดูท่าทางวันนี้พวกเราคงได้กินอาหารเย็นกันดึกแน่ๆ
มันยังมีเวลาอยู่ ซูฮยอนตัดสินใจเดินเข้าไปให้ห้องนอนของทั้ง 2 ที่มีขนาด 10 ตารางเมตร แค่เตียงนอนมันก็กินที่ไปครึ่งห้องแล้ว
ถึงแม้ว่าเขาพึ่งจะเคยมาเหยียบห้องนี้เป็นครั้งแรก แต่เขาก็ไม่รู้สึกตะขิดตะขวงอะไรเลย หนำซ้ำร่างกายของเขายังรู้สึกผ่อนคลายจนเคลิบเคลิ้ม
ความรู้สึกของมันไม่เหมือนกับตอนที่นอนโรงพยาบาลเลยสักนิด
ดูเหมือนร่างของเขาจะจดจำบรรยากาศของห้องแห่งนี้ได้
เขายอมรับว่า เขาได้รับผลการทบจากความรู้สึกของ ชินซูย็อง ที่มีให้เขา ทั้งความอบอุ่น ความใส่ใจ และผูกพัน มันทำให้เขาสบายใจ ซึ่งในชีวิตก่อนของเขา มันไม่เคยมีความรู้สึกแบบนั้นเลย
ตุบ
ซูฮยอนยกมือขึ้นตบหน้าตัวเองเพื่อเรียกสติ
เมื่อเดือนที่ผ่านฉันมีชีวิตในร่างกายของซูฮยอน ในนามของซองอิน ฉันขอสาบานว่า ฉันจะมีชีวิตอยู่ต่อไปจนกว่าจะหมดลมหายใจ นอกจากนี้จะไม่มีชื่อ ‘ผู้ตื่นขึ้น’ นามว่า คิมซองอิน อีกต่อไป
เอาล่ะได้เวลาแล้ว..ซูฮยอนเริ่มบ่นพึมพำอะไรบางอย่าง
เมื่อตอนที่เขายังเป็น ซองอิน เขาก็ใช้วิธีนี้เหมือนกัน
ในที่สุดเวทย์ที่เขาบ่นพึมพำก็แสดงผล บรรยากาศรอบตัวของซูฮยอนเริ่มแปลกๆไปสายลมอ่อนๆเริ่มหมุนรอบตัวของซูฮยอน
หวืด!
มือของ ซูฮยอน ยื่นออกไปข้างหน้าเหมือนกำลังจะเปิดประตูอะไรบางอย่าง
ไม่นานอากาศข้างหน้าของ ซูฮยอน ก็ถูกฉีกกระชากออกจากกัน ซึ่งมันเป็นรูปร่างคล้ายประตูบานหนึ่ง
มันมีแค่ซูฮยอนเท่านั้นที่มองเห็น
เอาล่ะ
ซูฮยอนค่อยๆเดินไปที่ประตูอย่างช้าๆ เมื่อเขาก้าวมาด้านในประตู ทัศนวิสัยของเขาก็เปลี่ยนไป
* * *
[ยินดีต้อนรับสู่ หอคอยแห่งการทดสอบ]
[คิมซูฮยอน คุณจะเริ่มทดสอบเลยหรือไม่]
เริ่มแล้วสินะ
หอคอยแห่งการทดสอบ สถานที่ เหล่าผู้ทดสอบขนานนาม มันว่า ก้นบึ้งสู่ขุนนรก
ผู้ที่ผ่านชั้นแรกไปได้ พวกเขาจะกลายเป็น ‘ผู้ตื่นขึ้น’ แน่นอนมันเป็นเพียงแค่ขั้นตอนแรกเท่านั้น
ยิ่งปีนป่ายขึ้นไปยังชั้นสูงๆ มากเท่าไหร่ ความสามารถของ ‘ผู้ตื่นขึ้น’ จะพัฒนาจนสามารถปลดปล่อยพลังเวทย์ได้ ซึ่งมันเปรียบเสมือนเกมเก็บเลเวลทั่วไปที่ทุกคนชอบเล่น
แล้วจะหาหนทางเข้าสู่ หอคอยแห่งการทดสอบยังไงล่ะ
คำตอบคือไม่รู้ บางคนเกิดมาก็สามารถเข้าสู่ หอคอยแห่งการทดสอบได้เลย
แต่สำหรับซูฮยอน ในตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่ในอดีต
เขาค้นพบวิธีเข้าหอคอยแห่งการทดสอบโดยบังเอิญ ซึ่งตอนนี้บนหอคอยคนยังไม่ค่อยเยอะ
แต่ไม่ต้องห่วงในอนาคตมันจะหนาแน่นไปด้วยผู้คนมากมาย ที่หลั่งไหลเข้ามา เพื่อทดสอบความสามารถอีกเยอะ
เหตุผลที่ซูฮยอนเขาหอคอยเอาตอนนี้ เพราะเขาต้องรอให้ร่างกายตัวเองกลับมาแข็งแรงอีกครั้ง
เมื่อตอนที่ซูฮยอนนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาล เขาต้องนอนเป็นผักเป็นปลาขยับร่างกายไม่ได้เลยเป็นเวลาหนึ่งเดือน
เพื่อรอให้กระดูกที่แตกหักของเขาสมานเข้าด้วยกัน
ตอนนี้เขาพร้อมแล้วสำหรับการเดินทางครั้งใหม่
“พร้อมแล้ว”
[คิมซูฮยอน การทดสอบเริ่มได้]
[โปรดเลือกระดับความยากของคุณ]
[ระดับ 1-10]
[ยิ่งระดับสูงมากเท่าไหร่ของรางวัลก็ยิ่งมากขึ้น ถ้าคุณสามารถทำการเคลียร์มันได้อย่างสมบูรณ์ของรางวัลก็จะเพิ่มขึ้นอีก]
คำอธิบายหลายคำปรากฏออกมาตรงหน้าของ ซูฮยอน
การทดสอบแบ่งระดับความยากง่ายออกเป็น 10 ระดับ
ระดับที่ 1 คือง่ายสุด ระดับที่ 10 คือยากสุด
ถ้าเป็นคุณ คุณจะเลือกอะไร ระหว่าง เลือกระดับที่ 1 แล้วเคลียร์มันอย่างสมบูรณ์เพื่อรับรางวัลเพียงเล็กน้อย หรือจะเลือกระดับที่สูงขึ้นเพื่อรับรางวัลที่มากขึ้นกันละ
สำหรับเขาแล้ว…
“ระดับ 10” ซูฮยอนกล่าว
[คุณเลือกระดับ 10]
ชีวิตที่แล้วของ ซูฮยอนเขาเลือกระดับที่ 8 ซึ่งมันยาก แต่มันก็คุ้มกับค่าเหนื่อย
การทดสอบมันไม่ได้ง่าย..แต่เพื่อความแข็งแกร่ง..เขาจำเป็นต้องลองดู
หอคอยแห่งการทดสอบมันมีหลายสิ่งที่หลายคนมองข้าม คือ การเคลียร์ชั้นนั้นๆอย่าสมบูรณ์
แม้ว่าคุณจะปีนป่ายขึ้นไปชั้นสูงๆมากสักเท่าไหร่ มันก็ไม่ได้หมายว่าคุณแข็งแกร่งกว่าคนที่อยู่ชั้นต่ำกว่า
มันเกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นหลายครั้ง คือ คนที่อยู่ต่ำกว่าแต่มีความแข็งแกร่งมากกว่า คนที่อยู่ชั้นสูงกว่าถึง 2 เท่า
เหตุผลที่เป็นแบบนั้น เป็นเพราะเมื่อคุณเคลียร์ชั้นได้อย่างสมบูรณ์ คุณจะได้รางที่มากกว่าปกติ ซึ่งมันถึงทำให้ช่องว่างระหว่างความแข็งแกร่ง ไม่ทิ้งห่างกันไปไกลนัก
ความเสี่ยงสูง ผลตอบแทนก็สูงตาม ซูฮยอนคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเขาเลือกความยากระดับ 10 แล้วเคลียร์มันได้ล่ะ ไม่ใช่ว่าจะกลายเป็นพระเจ้าเลยหรือ
ชีวิตที่แล้วเขาต้องมานั่งเสียใจที่ไม่เลือกระดับที่ 10
เมือมีโอกาศครั้งที่ 2 เขาจึงเลือกมันโดยไม่ลังเล
[ระดับ 10 ของการทดสอบชั้นแรกกำลังเริ่มขึ้น]